บทที่ 203 ต่อไปไม่กล้าอีกแล้ว
ตอนนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีพนักงานบริกรทั้งหมดสามคน
ได้ฟังเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนี้แล้ว สีหน้าของลี่จุนถิงก็เปลี่ยนไปอย่างมืดมน
เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับหนึ่งในสามคนนี้อย่างแน่นอน ลี่จุนถิงรีบบอกเรื่องนี้กับซู่จี้งยี้
“โอเคครับ ผมจะไปหาตัวสามคนนั้นมาให้ได้” หลังจากที่ได้ข้อมูลจากทางลี่จุนถิงแล้ว ซู่จี้งยี้ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที
หลังจากนั้น หลันเยว่เฉินก็ได้เดินเข้าในห้องผู้ป่วย
“จุนถิง เด็กคนนั้นตอนนี้ก็ตื่นแล้วเหมือนกัน เมื่อกี้ก็ได้ตรวจไปอีกรอบแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว” หลันเยว่เฉินกล่าว
“ถวนจื่อตื่นแล้ว?” ได้ยินชื่อของถวนจื่อ เห็นได้ชัดว่าเจียงหยุนเอ๋อนั้นตื่นเต้นมาก รีบลุกขึ้นนั่งทันที สุดท้ายเป็นเพราะใจร้อนเกินไป จึงทำให้รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเล็กน้อย
เห็นแบบนี้แล้ว ลี่จุนถิงขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยจะเห็นด้วย น้ำเสียงแฝงไปด้วยการต่อว่า ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงถวนจื่อ แต่ก็ไม่ควรทรมานร่างกายตัวเองมากนัก
“ฉัน………ฉันรู้แล้ว……….” แม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองไม่ควรที่จะทำแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเจียงหยุนเอ๋อก็น้อยใจนิดหน่อย
แม้ว่าลี่จุนถิงจะแสดงออกมาอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่สามารถที่ทนเห็นท่าทางเจียงหยุนเอ๋อที่น้อยใจได้ ทำได้เพียงถอนหายใจ แล้วกล่าว: “ผมก็ไม่ได้โทษคุณ เพียงแต่เตือนคุณเท่านั้น”
“อืม………. ค่ะ ฉันจะระวังตัว………..” เพราะรู้ว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบ น้ำเสียงของเจียงหยุนเอ๋อนั้นอ่อนลงมาก แต่ก็เท่ากับได้รับปากแล้ว “แล้ว……..ตอนนี้ฉันไปหาถวนจื่อได้หรือยัง?”
น้ำเสียงของเจียงหยุนเอ๋อแฝงไว้ด้วยความร้อนใจ หลังจากที่ปลอดภัยแล้ว เธอยังไม่ได้เห็นถวนจื่อเลย ตอนนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นห่วง
“ได้อยู่แล้ว” ลี่จุนถิงขณะที่พูด ก็ได้อุ้มเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมาจากเตียงผู้ป่วย
เจียงหยุนเอ๋ออุทานอย่างเบาๆ มองหลันเยว่เฉินที่ยืนอยู่ไกลๆอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าค่อยๆเริ่มแดงขึ้นทีละนิด: “คุณทำอะไรเนี่ย……..รีบปล่อยฉันลงเลย………..ฉันสามารถเดินเองได้”
ลี่จุนถิงทำเหมือนไม่ได้ยินที่เจียงหยุนเอ๋อพูด ก็อุ้มเธอไปห้องผู้ป่วยของถวนจื่อโดยตรง
ในห้องผู้ป่วย ลี่จุนถิงได้เรียกคนใช้ของที่บ้านมาดูแลถวนจื่อแล้ว เมื่อเห็นลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อเดินเข้ามา ถวนจื่อตะโกนขึ้นอย่างมีความสุข: “หม่ามี้! แด๊ดดี้!”
“ถวนจื่อ!” เจียงหยุนเอ๋อได้ให้ลี่จุนถิงวางตัวเองลง รีบวิ่งไปที่ข้างเตียงผู้ป่วย มองดูถวนจื่ออย่างละเอียดถี่ถ้วน ลูกไม่เป็นไรใช่มั้ย
ถวนจื่อส่ายหัว แล้วกล่าว: “หม่ามี๊ ผมไม่เป็นไรแล้วครับ”
เมื่อเห็นถวนจื่อ จู่ๆเจียงหยุนเอ๋อก็มีความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ เหมือนขี้มูกก็จะโป่งด้วย
เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อขอบตาแดงๆ ถวนจื่อรีบพูดขึ้นมา: “หม่ามี๊ ถวนจื่อไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ แม่ห้ามร้องไห้ขี้มูกโป่งนะ”
มองดูทั้งสองคนปลอบโยนกันไปมาสักพัก ลี่จุนถิงก็นึกถึงเรื่องที่เป็นการเป็นงานขึ้นมา นั่งลงที่ข้างเตียงของถวนจื่อ แล้วถาม: “ถวนจื่อ แด็ดดี้ถามหนูหน่อย ตอนนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครเป็นคนพาตัวลูกไป?”
ถวนจื่อเอียงหัวขบคิดไปสักพัก จากนั้นก็พูดอย่างลำบากใจ: “เดิมทีผม……ผมรอหม่ามี๊อยู่ที่ตรงนั้น จู่ๆก็มีพนักงานบริกรคนหนึ่งเข้ามาบอกกับผมว่าหม่ามี๊ตกลงไปในสระว่ายน้ำ…….ผม……ผมก็เลยตามเขาไป จากนั้นก็……..”
พูดจบ ถวนจื่อแสดงท่าทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ก้มหน้าไม่กล้าออกเสียง ในใจโทษตัวเองตลอด เป็นเพราะตัวเองวิ่งไปเรื่อย จึงทำให้เรื่องราวมันกลายเป็นแบบนี้
“หม่ามี๊ แด๊ดดี้ ขอโทษด้วยครับ………” ถวนจื่อพูดด้วยเสียงที่เบา
เห็นท่าทางเขาที่แบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อยื่นมือไปลูบที่หัวของเขาอย่างทะนุถนอม แล้วกล่าว: “ถวนจื่อ เรื่องนี้โทษหนูไม่ได้ ที่หนูทำไปก็เพราะเป็นห่วงแม่ ไม่ใช่เหรอ?
“แต่ว่า………หม่ามี๊เป็นเพราะตามหาตัวผม จึงทำให้แผนการของคนร้ายสำเร็จ……..” ถวนจื่อทำปากจู๋ แล้วกล่าว
หลังจากฟังถวนจื่อเล่าที่มาที่ไปแล้ว สีหน้าของลี่จุนถิงนั้นยิ่งแย่กว่าเดิม
ดูแล้วเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับบริกรคนนั้นอย่างแน่นอน!
“ไม่เป็นไรแล้ว ถวนจื่อ เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว” ลี่จุนถิงแม้ว่าในใจกำลังขบคิดอย่างหนัก แต่ก็ไม่ลืมที่จะปลอบใจถวนจื่อ
เขาไม่อยากเห็นท่าทางที่โทษตัวเองของถวนจื่อ อย่างไรเสีย…….เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
หลังจากที่ปลอบโยนเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อแล้ว ความรู้สึกกลัวที่อยู่ในใจของลี่จุนถิงในที่สุดก็ได้หมดสลายไปแล้ว
ในเวลานี้ ซู่จี้งยี้ก็ได้มาถึงห้องผู้ป่วย เดินเข้ามาก็มาคุยกับลี่จุนถิง: “คุณชายลี่ พนักงานบริกรคนหนึ่งได้หนีไปแล้ว”
หลังจากที่เห็นรูปถ่ายแล้ว เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อมั่นใจอย่างมาก ก็คือบริกรคนนี้เป็นคนที่หลอกพวกเขา
ได้ยินแบบนี้แล้ว สีหน้าของลี่จุนถิงมืดมนลงทันที ในเมื่อกล้าทำร้ายคนของเขา ยังอยากที่จะหนีไปง่ายๆแบบนี้อีกเหรอ? ไม่มีทางเด็ดขาด!
“ใช้ความสัมพันธ์ที่มีทั้งหมด ต้องตามตัวคนคนนี้มาให้ได้!”
ลี่จุนถิงอยู่เป็นเพื่อนเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อเป็นเวลาที่ค่อนข้างจะนาน รอกระทั่งกลางดึกทั้งสองคนได้หลับไปแล้ว เขาจึงได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจ
ในสถานีตำรวจ ผู้ชายคนนั้นที่ล่วงเกินเจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตคนไหน ตอนนี้เพิ่งจะมารู้ฐานะที่แท้จริงของลี่จุนถิง ทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว จึงได้เล่าแผนการที่ถูกวางเอาไว้ออกมาทั้งหมด สำหรับคนที่บงการอยู่ข้างหลังนั้น……..เขากลับไม่สามารถที่จะพูดมันออกมาได้……..
“อันนี้…….ผมก็ไม่รู้เลยจริงๆ………”
“เป็นไปได้ยังไงที่นายจะไม่รู้?” ลี่จุนถิงตะคอก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เชื่อคำพูดของชายคนนี้ทั้งหมด
ผู้ชายคนนี้หดตัวลง บ่นพึมพำอยู่ในใจอย่างไม่หยุด หากรู้ว่าคนที่ตัวเองล่วงเกินนั้นเป็นลี่จุนถิง เขาไม่มีทางที่จะยอมตกลงทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน?
“คุณชายลี่ ผมไม่รู้จริงๆ……….ไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร……..รู้เพียงแต่ว่าเธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย และก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร………”
ได้ยินแบบนี้ ลี่จุนถิงนั้นโกรธมาก เรียกคนมาตีมือของชายคนนี้ให้หักไปเลย ถือว่าเป็นการสั่งสอนเล็กๆน้อยๆ
“มือที่สกปรกของแก ในเมื่อกล้าที่จะแตะต้องคนของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยมันไว้ นี่ก็คือ สิ่งที่แกต้องชดใช้”
ทิ้งคำพูดประโยคนี้เอาไว้ ลี่จุนถิงก็ออกไปจากนี้
เมื่อได้ยินว่าลี่จุนถิงไปแล้ว ชายคนนี้ตกตะลึงอย่างจังๆ เขารู้ว่า ในเมื่อลี่จุนถิงพูดแบบนี้ มันก็ไม่ใช่แค่การข่มขู่อย่างแน่นอน
แต่ว่า……..เขาต้องสูญเสียมือของตัวเองไปแบบนี้เหรอ?
“คุณชายลี่ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ! ผมผิดไปแล้วจริง! ผมผิดไปแล้วจริงๆ! ต่อไปนี้ผมไม่กล้าอีกแล้ว!” ผู้ชายคนนี้ร้องขอวิงวอนตามหลังของลี่จุนถิง แต่สุดท้ายลี่จุนถิงก็ไม่ได้หันหน้ากลับมา
จากนั้น ในคุกก็แผ่กระจายไปด้วยเสียงร้องเจ็บปวดที่โหยหวน