บทที่ 204 ไม่ใช่ฉันจริงๆ
อีกฝั่งหนึ่ง ส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองกำลังอกสั่นขวานแขวนอยู่กับเรื่องนี้
เรื่องคืนนี้ถือว่าเล่นใหญ่เกินไป แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่พวกเธอวางเอาไว้ เจียงหยุนเอ๋อ…….ก็ยังไม่ได้รับความอัปยศอยู่ดี แต่กลับถูกลี่จุนถิงช่วยกลับไปได้
หากเจียงหยุนเอ๋อถูกกระทำไปแล้ว บางทีลี่จุนถิงอาจจะไม่โกรธขนาดนี้ก็ได้ แต่ว่า……….ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหมดเลย
ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่เธอรักษาความบริสุทธิ์จากชายคนนั้นไว้ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลี่จีถองยังคงแค้นมาก ผู้ชายคนนั้นช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ก็บอกให้เขาว่าทำให้มันเร็วๆหน่อย ผลเป็นไง? สุดท้ายยังทรมานตัวเองไปตั้งนาน
ลี่จุนถิงตามมาจนถึงที่แล้ว กลับยังจัดการเจียงหยุนเอ๋อไม่สำเร็จอีก ช่างไม่เอาไหนเสียจริง!
ในเมื่อตอนนี้เรื่องแดงขึ้นมาแล้ว ส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองก็อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา
ตามสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เกรงว่าลี่จุนถิงจะยิ่งทะนุถนอมเจียงหยุนเอ๋อมากกว่าเดิม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะทิ้งเธออีกเลย
ขอเพียงตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อร้องไห้ต่อหน้าลี่จุนถิงอย่างน่าสงสาร คาดว่าลี่จุนถิงไม่มีทางที่จะปล่อยพวกเธอที่บงการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นนอ
ตอนนี้พวกเธอหวังเพียงว่า ลี่จุนถิงจะสืบไม่ถึงตัวเอง
“หวั่นหวั่น เธอว่าตอนนี้ควรจะทำยังไงดี?” ลี่จีถองร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนเตา ทุกนาทีทุกวินาทีรู้สึกว่าช่างทรมานเหลือเกิน
ตอนนั้นเธอยังได้เดินไปตรงหน้าของลี่จุนถิงอย่างลำพองใจ ตอนนี้มาคิดดูแล้วรู้สึกเสียใจจริงๆ ถ้าหากเพราะเหตุนี้ทำให้ลี่จุนถิงสงสัยตัวเองขึ้นมา ไม่เท่ากับว่าพลาดไปเพียงนิดเดียวหรอกเหรอ?
ส้งหวั่นหวั่นใจเย็นมากกว่าลี่จีถอง หลังจากคิดใคร่ครวญไปสักพักก็รู้สึกขยะแขยงกับความไร้ความสามารถของลี่จีถอง
เมื่อมาถึงเวลาที่คับขันแบบนี้ ลี่จีถองนอกจะบ่นแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกเลย ช่างไร้ประโยชน์เสียจริงๆ
ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่ว่าส้งหวั่นหวั่นรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาผิดใจกับลี่จีถอง ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเธอก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว
“คุณป้าอย่าเพิ่งลน เรื่องนี้ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องหาแพะรับบาปคนหนึ่ง”
ลี่จีถองอึ้งไปก่อน จากนั้นก็ได้ถามขึ้นโดยสัญชาตญาณ: “เป็นบริกรผู้หญิงที่เราหามาก่อนหน้านั้นใช่หรือเปล่า?”
ส้งหวั่นหวั่นค่อยๆหรี่ตาลง แต่ว่าน้ำเสียงนั้นเย็นเฉียบมาก มันยังไม่พอ เพราะอยู่ดีๆ เธอทำไมต้องไปทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อด้วยละ? วิธีที่ดีที่สุดก็คือ………..โยนทุกอย่างไปให้กับเจียงหนิงเอ๋อ
ในที่สุดลี่จีถองก็เข้าใจแล้ว ดวงตาเปล่งประกาย ทำไมตัวเองถึงคิดไม่ถึงเลย แล้วก็ยกนิ้วโป้งให้กับส้งหวั่นหวั่น: ยังดีที่หวั่นหวั่นฉลาด”
ส้งหวั่นหวั่นยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดไม่จา
ตัวเองเพียงแค่พูดถึงจุดนี้ ในใจของลี่จีถองก็จะมีหนทางแล้ว ต้องทำตามอย่างแน่นอน
“ป้าไปตอนนี้ใช่มั้ย?” ลี่จีถองกลอกตาแล้วถาม
ส้งหวั่นหวั่นพยักหน้า
ลี่จีถองก็รีบเดินไปตรงหน้าของบริกรคนนั้น
“เธอ……….” ลี่จีถองยังไม่ได้เอ่ยปากพูด บริกรคนนี้ก็หวาดกลัวจนตัวสั่นแล้ว
ก่อนหน้าก็เป็นลี่จีถองกับส้งหวั่นหวั่นพวกเธอเป็นคนพูดเองว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร ไม่มีคนอื่นรู้อย่างแน่นอน อีกอย่างก็ได้ให้ค่าตอบแทนตัวเองแล้วด้วย บริกรจึงได้ตอบตกลง
แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าลี่จุนถิงกลับตรวจเรื่องนี้โดยละเอียด ตอนนี้หากตรวจสอบมาถึงตัวเอง ก็ต้องซวยอย่างแน่นอน
“คุณลี่ ฉัน ฉันไม่กล้า……….” บริกรหญิงส่ายหัวอย่างสุดชีวิต
“จุ๊ๆ” ลี่จีถองจู๋ปากแล้วมองเธอไปแวบหนึ่ง เธอกลัวอะไร ยังไงก็ยังมีฉันอยู่
บริกรหญิงเงยหน้ามองลี่จีถอง กล่าวอย่างหวาดกลัว: “แต่ว่า คุณชายลี่ได้เริ่มตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว”
ลี่จีถองเอามือข้างหนึ่งพาดที่ไหล่ของบริกรหญิง บริกรหญิงสั่นไปชั่วขณะ: “ดังนั้นตอนนี้ฉันกำลังจะมาบอกวิธีที่ดีวิธีหนึ่งให้กับเธอ”
บริกรคนนี้เงยหน้ามองลี่จีถองราวกับว่าเห็นความหวังครั้งสุดท้ายของชีวิต
“เรื่องราวทั้งหมดนี้เธอก็โยนมันไปให้กับเจียงหนิงเอ๋อ” ลี่จีถองยิ้มๆ
“แต่ว่า……..แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง” แม่ว่าตอนนี้บริกรหญิงจะทำเรื่องไม่ดีอยู่ แต่ว่าเธอนั้นยังรู้จักผิดถูกชั่วดี
ทั้งๆที่พวกลี่จีถองเป็นคนบงการ แต่ตอนนี้กลับจะโยนไปให้คนอื่น
“แล้วมันจะเป็นอะไรล่ะ? ตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ์ดีหรือยัง?” โทนเสียงการพูดของลี่จีถองนั้นสูงขึ้นมาทันที “ตอนนี้หากเสาถึงตัวเธอตัวเธอเองแหละที่ซวย ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้น้ำมือของคุณชายลี่เสียหน่อย เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะถูกฆ่ายังไงก็ยังไม่รู้เลย อีกอย่างเธอยังเกี่ยวข้องกับพวกเราสองคนอีกด้วย หากเธอกล้าแพร่งพรายเรื่องของเราแม้แต่นิดเดียว เธอน่าจะรู้บทสรุปของมันนะ”
บริกรหญิงสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ดวงตาของเขาหลบหนีด้วยความสับสน
ลี่จีถองเห็นว่าเธอกลัวจึงได้พูดต่อเนื่อง: “แน่นอนที่ให้เธอทำแบบนี้ก็ไม่ได้ให้เธอทำฟรีอย่างแน่นอน รอให้เรื่องมันสำเร็จลุล่วงไปแล้วเราจะให้เงินเธออีกก้อนหนึ่ง ไม่ใช้เธอฟรีๆหรอก”
ลี่จีถองขณะที่พูดก็ได้ตบที่บ่าของบริกรหญิง: “ฉันคงไม่จำเป็นต้องเน้นข้อดีข้อเสียของเรื่องนี้อีกแล้วมั้ง? เธอน่าจะรู้ดีว่าควรจะทำยังไง?
บริกรหญิงกัดฟัน ในใจต่อสู้กันไปมาครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้ากล่าว: “ฉันรู้แล้ว”
หากเราไม่ช่วยเหลือตัวเองเราก็จะถูกกำจัด บริกรหญิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ตัวเองสงบ
ลี่จีถองเห็นเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้วก็ปัดมือไปมา: “ไปก่อนเถอะ คิดถึงคนในครอบครัวเธอให้มาก”
บริกรหญิงพยักหน้าแล้วก็หันหลังวิ่งออกไป
แต่คิดไม่ถึง เมื่อเธอออกจากตึกนี้ หลังจากที่ลงจากลิฟต์ ก็พบเจอกับซู่จี้งยี้
บริกรหญิงเห็นซู่จี้งยี้เดินมาแต่ไกลๆ ก็คิดที่จะวิ่งหนีกลับไปทันที
ซู่จี้งยี้ไม่มีทางให้โอกาสแบบนี้กับเธอ ก็ได้ตะโกนออกไป: “หยุดเดี๋ยวนี้”
พูดจบก็พาคนวิ่งไปทางที่เธอวิ่งหนีไป
เดิมทีบริกรหญิงก็กระวนกระวายอยู่แล้ว บวกกับว่าเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายกลุ่มนี้ ไม่นานก็ถูกซู่จี้งยี้จับตัวได้
“ดูสิว่าเธอจะหนีไปทางไหน” ซู่จี้งยี้หัวเราะอย่างเย็นชา
ไม่คิดว่าออกมาก็เจอเลย ได้ตัวมาแบบไม่ต้องเสียแรงเลย
บริกรหญิงไม่พูดแม้แต่คำเดียว ก้มหน้าถูกคนซู่จี้งยี้พาตัวไป
ซู่จี้งยี้ได้พาเธอมาถึงห้องห้องหนึ่ง
ในห้องนี้เจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิงได้รออยู่นานแล้ว
ซู่จี้งยี้ได้ลากตัวของบริกรหญิงเข้ามาข้างใน บริกรหญิงยืนโซเซอยู่ตรงหน้าของลี่จุนถิง
“พูดมา มีคนบงการเธอให้ทำแบบนี้ใช่มั้ย?” ลี่จุนถิงไม่อยากจะพูดมากกับบริกรหญิงคนนี้ เพียงแค่อยากรู้ให้เร็วว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง
บริกรหญิงเงยหน้ามองลี่จุนถิงแวบหนึ่งก็รีบก้มหน้าลงไป สายตาที่เย็นเฉียบของลี่จุนถิงมันน่ากลัวเกินไป
แต่ว่าเพื่อตัวเองแล้ว บริกรหญิงก็ได้รวบรวมความกล้าแล้วปฏิเสธ: “คุณชายลี่ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉันจริงๆ”
“เธอไม่ต้องแก้ตัว เรารู้ว่าเป็นเธอ หลักฐานจากกล้องวงจรปิดก็มี เธอหนีไม่รอดหรอก” ซู่จี้งยี้พูดอย่างเข้มขรึม
บริกรหญิงส่ายหัวอย่างสุดชีวิต: “ไม่ใช่ฉันจริงๆ ไม่มีคนบงการฉัน”
ลี่จุนถิงหัวเราะอย่างเย็นชา: “ฮึ่ม เธอนึกว่าฉันโง่เหรอ? ดูท่าทางเธอก็ไม่มีความกล้านี้ หากไม่มีคนบงการเธอ เธอไม่มีทางที่จะทำแบบนี้อย่างแน่นอน”