บทที่ 205 เกลียดจนอยากจะตาย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 205 เกลียดจนอยากจะตาย

ตั้งแต่บริกรหญิงเข้ามา ดูท่าทางที่ลนลานและกลัวของเธอ ลี่จุนถิงก็รู้ว่าต้องมีคนบงการเธออย่างแน่นอน

“หากเธอไม่พูด เรามีวิธีที่จะทำให้เธอยอมพูดตั้งมากมาย” ซู่จี้งยี้กล่าวอย่างข่มขู่

บริกรหญิงเห็นว่าตัวเองนั้นไม่สามารถที่จะหลอกพวกเขาได้ จึงได้เอาสองมือมากุมไว้ที่หัว แล้วกล่าวอย่างตัวสั่น: “ฉันพูดแล้ว ฉันพูดแล้ว” น้ำมือที่โหดร้ายของลี่จุนถิงตอนที่พวกเธอทำงานก็เคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว

ต่อให้เป็นคนหนุ่มสาวที่มีพลังเมื่อถูกเขาสอบสวน สุดท้ายก็ทำได้เพียงร้องของความเมตตา

อีกอย่างลี่จีถองก็ได้คิดหาทางออกให้กับตัวเองเอาไว้แล้ว ตัวเองไม่พูดคือตายพูดแล้วอาจจะมีโอกาสรอด

“คือ คือคุณเจียงค่ะ” ตอนที่บริกรหญิงพูดนั้นก็ได้หันไปมองเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วขึ้นมาทันที: “คุณเจียงคนไหน?”

“ก็คือ คุณเจียงหนิงเอ๋อ” บริกรหญิงสังเกตสีหน้าท่าทางของลี่จุนถิงก่อน เห็นเขาไม่ได้มีอารมณ์มากนัก จึงได้วางใจ

“เขาบงการเธอยังไง? ทำไมต้องหาเธอด้วย?” ลี่จุนถิงถามต่อเนื่อง

บริกรหญิงได้จำสิ่งที่ลี่จีถองบอกตัวเองไว้ในใจแล้ว ก็ได้เล่าออกมาอย่างธรรมชาติ: “ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณเจียงถึงได้หาฉัน จากนั้นก็บอกว่าจะมีคนมาล่อคุณชายน้อยออกไป จากนั้นฉันแค่ออกมาเมื่อตอนที่คุณเจียงหยุนเอ๋อตามหาคน แล้วชี้ทางให้เธอไปในเส้นทางที่คุณเจียงบอกฉันเอาไว้ก่อนแล้ว เพื่อให้คุณเจียงหยุนเอ๋อตัดสินใจผิดพลาด”

คิ้วของเจียงหยุนเอ๋อยิ่งอยู่ยิ่งเข้าหากัน เรื่องราวมันเหมือนกับที่พนักงานหญิงเล่า แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อยังคงรู้สึกว่ามันต้องมีตรงไหนที่ผิดปกติ

“เขาให้เธอทำเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว?” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยปากถาม

บริกรหญิงพยักหน้า: “อืมๆ เธอบอกว่าเรื่องสำเร็จแล้วเธอก็จะโอนเงินให้ฉัน”

เจียงหยุนเอ๋อนิ่งเงียบไป

ลี่จุนถิงหรี่ตามองบริกรหญิงคนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายแบบนี้

ตอนที่เกิดเรื่องนั้น คนแรกที่ลี่จุนถิงคิดถึงก็คือลี่จีถอง แต่ว่าบริกรหญิงบอกว่าเป็นเจียงหนิงเอ๋อ

หรือว่าความจริงมันจะเป็นแบบนี้?

ลี่จุนถิงรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบต่อไป มองไปที่ซู่จี้งยี้แล้วสั่งการ จี้งยี้ นายให้คนมาพาตัวเธอออกไปก่อน ขังไว้ก่อน เรื่องราวยังไม่กระจ่างแจ้งอย่าให้เธอหนีไปได้เด็ดขาด

ซู่จี้งยี้รีบเรียกคนเข้ามาคนหนึ่ง นำตัวบริกรหญิงคนนี้ออกไป

“คุณชายลี่ ฉันถูกคนบงการจริงๆ เรื่องนี้……..ฉันก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้!” บริกรหญิงก่อนที่จะถูกพาตัวไปยังได้พูดไปหนึ่งประโยค

ลี่จุนถิงไม่มีทางที่จะเชื่อคำพูดของบริกรหญิงคนนี้ รอให้คนอื่นๆออกไปกันแล้ว ลี่จุนถิงจึงได้พูดขึ้น: “จี้งยี้ นายไปตรวจสอบ บัญชีของเจียงหนิงเอ๋อหน่อย ดูสิว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรมั้ย”

“ครับ” ซู่จี้งยี้รับคำ

ต่อให้ลี่จุนถิงไม่พูด ซู่จี้งยี้ก็จะไปตรวจสอบเหมือนกัน

ซู่จี้งยี้ออกจากห้องแล้ว ก็ไปตรวจเรื่องครั้งนี้

และลี่จุนถิงก็พาเจียงหยุนเอ๋อไปยังห้องอีกห้องหนึ่ง

“หยุนเอ๋อ คุณมีความเห็นว่ายังไง?” ลี่จุนถิงพยุงเจียงหยุนเอ๋อนั่งลงอย่างระมัดระวัง

ตั้งแต่กลับมาเจียงหยุนเอ๋อก็เงียบไปเลย: “จุนถิง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เรื่องนี้ดูแล้วก็เหมือนกับที่บริกรหญิงคนนั้นพูด อีกอย่างหลักฐานหลายอย่างก็ชี้เป้าไปที่เจียงหนิงเอ๋อ แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้อย่างที่เราเห็น”

ลี่จุนถิงนั่งลงข้างกายเจียงหยุนเอ๋อ: “เดิมทีผมสงสัยคุณป้า แต่ว่าตอนนี้เรื่องนี้ทำให้ผมต้องมาคิดทบทวนอย่างละเอียดอีกครั้ง”

ไม่ใช่ว่าลี่จุนถิงจะไม่มีน้ำใจ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ลี่จีถองทำเรื่องที่มากมายไว้กับเจียงหยุนเอ๋อ อีกอย่างก่อนหน้านี้ก็ครั้งหนึ่งที่ลี่จีถองให้คนไปรังแกเจียงหยุนเอ๋อ

ดังนั้นเมื่อเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง ทำให้ลี่จุนถิงตอบสนองโดยปริยาย

“จุนถิง แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันใช่ฝีมือของคุณป้าหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ว่าฉันรู้สึกว่าไม่ใช่ฝีมือของเจียงหนิงเอ๋อแล้วก็ไปสงสัยคุณป้าแต่เรื่องนี้มีข้อสงสัยเยอะเกินไป ประเด็นสำคัญคือการตรวจสอบเรื่องนี้มันราบรื่นเกินไป”

เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วแน่น

ส่วนใหญ่เมื่อเรื่องราวเรื่องหนึ่งราบรื่นเกินไป มีความเป็นไปได้มากที่จะมีคนจัดการอยู่เบื้องหลัง

“ผมรู้” ลี่จุนถิงกอดไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ “แต่ครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของใคร ผมไม่มีทางที่จะให้มันมีความสุขได้”

เจียงหยุนเอ๋อที่ซบอยู่ตรงไหล่ของลี่จุนถิง: “จุนถิง ฉันก็ไม่อยากให้คุณปล่อยคนที่บงการเรื่องครั้งนี้ไปเหมือนกัน มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ ฉันกลัวมากจริงๆ คุณรู้ใช่มั้ย? หากตอนนั้นคุณมาไม่ทัน ไม่แน่ฉันอาจจะกระโดดลงไปจากตรงนั้นแล้ว ฉันยอมตาย โดยที่จะไม่ยอมให้คนที่น่าขยะแขยงคนนั้นสมหวังเด็ดขาด”

ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อพูดนั้นพยายามกลั้นกลืนความขมขื่นลงไป รู้สึกว่ารอบดวงตาได้ร้อนขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

“ลี่จุนถิงได้กอดเธอในอ้อมอกแน่นแนบกว่าเดิม ต่อให้เธอด่างพร้อยแล้วจะทำไม? เธอเป็นผู้หญิงของผมลี่จุนถิง ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ก็ยังคงเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่มีทางที่จะรังเกียจคุณ”

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว: “ไม่ จุนถิง ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเป็นแบบนั้นเด็ดขาด”

เรื่องที่ตัวเองมีลูกมาก่อน เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกผิดต่อลี่จุนถิงแล้ว หากตัวเองโดนขืนใจไปจริงๆ เธอคงเกลียดตัวเองจนอยากจะตาย

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ผมรู้แล้ว ลี่จุนถิงไม่อยากฟังเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนี้ จึงได้หยุดการสนทนาเรื่องนี้เอาไว้ เอาล่ะ ตอนนี้คุณก็อยากไปเครียดกับเรื่องแบบนี้อีกเลย เยว่เฉินบอกว่าคุณยังมีภาวะแท้งอยู่ คุณพักผ่อนดีๆละกันนะ?”

“งั้นคุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน” เจียงหยุนเอ๋อดึงชายเสื้อของลี่จุนถิง

เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าหากลี่จุนถิงไม่อยู่ข้างกายเธอ เธอรู้สึกว่านอนไม่ค่อยจะหลับ กลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกครั้ง

ลี่จุนถิงพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู หากไม่ใช่เรื่องราวเหล่านั้น เจียงหยุนเอ๋อคงไม่มีความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยแบบนี้

ลี่จุนถิงคิดไว้แล้วว่าครั้งนี้ต้องจัดการคนพวกนั้นให้ตายทั้งเป็น

ลี่จุนถิงกอดเจียงหยุนเอ๋อนอนลง ช่วยเธอดึงผ้าห่มมาตัว เหมือนแม่คนหนึ่งกำลังกล่อมลูกนอน ตบที่หลังของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ

ได้กลิ่นตัวของลี่จุนถิง ซบอยู่ที่อ้อมอกของเขา ไม่นานเจียงหยุนเอ๋อก็หลับไป

ลี่จุนถิงรอจนกระทั่งเจียงหยุนเอ๋อหลับสนิทไปแล้ว จึงได้ลุกจากเตียงอย่างระมัดระวัง

ตามการทำงานที่ว่องไวของซู่จี้งยี้ เวลานี้น่าจะกำลังมารายงานความคืบหน้าแล้ว

เมื่อลงจากเตียง ซู่จี้งยี้ก็โทรศัพท์เข้ามาทันที

ลี่จุนถิงนั้นเพื่อไม่เป็นการรบกวนการพักผ่อนของเจียงหยุนเอ๋อ ก็เลยเดินไปคุยที่ห้องด้านข้าง แต่ยังคงกำชับให้คนเฝ้าเจียงหยุนเอ๋ออยู่ในห้องนอน

“เป็นยังไงมั่ง?”

“คุณชายลี่ ผมตรวจสอบแล้ว พบว่าบัญชีของเจียงหนิงเอ๋อ ช่วงบ่ายมีเงินออกไปหนึ่งแสนกว่าหยวนจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเงินหนึ่งแสนนี้ไปไหน” ซู่จี้งยี้นำสลิปที่ตัวเองปริ๊นออกมายื่นให้กับลี่จุนถิง

ลี่จุนถิงรับสลิปมาตรวจดู: “แบบนี้แล้ว ดูเหมือนสิ่งที่บริกรหญิงพูดจะเป็นความจริง?”

ซู่จี้งยี้พยักหน้า: “น่าจะใช่ครับ”