ตอนที่ 518 นักศึกษาสาวต่างรุมล้อม

แปล Tarhai

ฉิงเฟิงได้พิสูจน์ตัวเองแล้วต่อหน้านักศึกษาและเหล่าศาสตราจารย์ และเพียงพอที่จะได้รับการยอมรับในฐานะศาสตราจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยแห่งนี้โดยไร้ข้อครหา

“ฉิงเฟิง เอ่อ.. ไม่สิ ศาสตราจารย์หลี่ ต่อไปนี้คุณก็เข้ามาเลคเชอร์เฉพาะวันจันทร์ คุณสามารถจัดตารางคาบเรียนเองได้” จางเหมียวชุนยิ้มและกล่าวกับฉิงเฟิง

ศาสตราจารย์พิเศษแตกต่างจากอาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัย อาจารย์ประจำจะต้องมีการบรรยายประจำวันสำหรับนักศึกษา อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์พิเศษเพียงแค่เข้ามาสอนสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น

แต่แน่นอนว่าศาสตราจารย์พิเศษสามารถเปิดการบรรยายเพิ่มเติมได้หากมีเวลา

ฉิงเฟิงพยักหน้าตามที่เขาเข้าใจ ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากชั้นเรียน นักศึกษาหลายคนต่างก็เรียกร้องเรียนขอให้เขาเปิดการบรรยายเพิ่มเติม

ฉิงเฟิงไม่ต้องการที่จะปฏิเสธนักศึกษาที่กระตือรือร้นเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงขยายเวลาเปิดบรรยายต่อไปอีกคาบหนึ่ง

ฉิงเฟิงไม่เพียงแค่สอนโดยการบรรยายแบบดั้งเดิม แต่เขาก็ยินดีให้นักศึกษาทุกคนตั้งคำถามที่แตกต่างกันไป และเขาจะตอบคำถามเหล่านี้ทีละคน

นักศึกษาหลายคนต่างก็หลงใหลและยังคงตั้งคำถามต่างๆ คำถามบางข้อเป็นคำถามที่ซับซ้อนเข้าใจได้ยาก แต่ฉิงเฟิงก็สามารถตอบได้อย่างง่ายดาย นักศึกษาทุกคนต่างก็ประหลาดใจกับความรู้ความสามารถของเขา และเปลี่ยนมุมมองที่พวกเขามีต่อฉิงเฟิงไปอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดก็ถึงเวลาหมดคาบด้วยการปฏิสัมพันธ์ในการเรียนการสอนที่เป็นกันเองระหว่างฉิงเฟิงกับเหล่านักศึกษา นักศึกษาหลายคนยังคงเรียกร้องขอให้เพิ่มคาบเรียนไปอีก เพราะพวกเขาทั้งหมดต่างก็คิดว่านี่เป็นคาบเรียนที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยเรียนมา

หลังจากหมดคาบเรียนฉิงเฟิงเดินไปหาลู่เสี่ยวม่าน เขายิ้มให้เธอและกล่าวว่า “เสี่ยวม่าน วันนี้เป็นอย่างไงบ้าง ?”

ลู่เสี่ยวม่านส่ายหัวและกล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า “ไม่ดีเลย คุณไม่แม้แต่จะมาหาฉัน”

ฉิงเฟิงแตะจมูกด้วยความรู้สึกอาย “เสี่ยวม่าน ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก แต่ต่อไปนี้ฉันจะเจอเธอทุกสัปดาห์ เพราะฉันจะเริ่มสอนที่นี่แล้ว”

ใบหน้าของลู่เสี่ยวม่านเต็มไปด้วยความยินดีและมีความสุขเมื่อได้ยินว่าฉิงเฟิงจะมาสอนที่นี่ทุกสัปดาห์ เธอไม่เรียกร้องอะไรอีกขอแค่ได้พบเขาบ่อยๆ

ฉิงเฟิงกำลังจะออกจากมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ถูกลู่เสี่ยวม่านตื๊อให้อยู่เป็นเพื่อน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเดินเล่นรอบๆมหาวิทยาลัยเป็นเพื่อนเธอ

บอกตามตรง ฉิงเฟิงไม่เคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมาก่อนและปรารถนาเสมอที่จะได้ใช้ชีวิตที่เงียบสงบเช่นนี้ เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ต่างก็เป็นเรื่องแปลกใหม่ และแตกต่างไปจากชีวิตในปัจจุบันของเขาอย่างสิ้นเชิง

มีคนกล่าวว่า มหาวิทยาลัยเป็นดินแดนที่บริสุทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในสังคม แต่เมื่อคนเหล่านั้นจบการศึกษาและเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงในวัยทำงานแล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่ซับซ้อนและไหลไปตามกระแสสังคมวัยทำงาน

คาบเรียนต่อไปคือวิชาพละศึกษา ฉิงเฟิงกำลังจะออกไปจากมหาลัยเมื่อเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น แต่การแข่งขันชักเย่อระหว่างแผนกแพทย์แผนจีนและแผนกแพทย์ตะวันตกก็ดึงดูดความสนใจของเขา

แต่ละแผนกจะส่งคนออกมาสิบคนและจับเชือกไว้ในแต่ละด้าน เนื่องจากในแผนกแพทย์แผนจีนส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิงและรูปร่างผอมบางเมื่อเปรียบเทียบกับแผนกแพทย์ตะวันตกที่เต็มไปด้วยคนตัวสูงและแข็งแรง

แผนกแพทย์ตะวันตกชนะสองครั้งติดต่อกัน

มันเป็นการแข่งขันที่นับผลชนะ 3 ใน 5 เกม หากแผนกแพทย์ตะวันตกชนะอีกครั้งพวกเขาก็จะชนะทันที

ตั้งแต่ที่ลู่เสี่ยวม่านเป็นหัวหน้าชั้น แน่นอนว่าเธอต้องคิดถึงหน้าตาของชั้นเรียนเธอด้วย เธอถามฉิงเฟิงว่า “พี่ใหญ่หลี่คุณช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม?”

ฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินไปข้างหน้า เขาเป็นตัวแทนของแผนกแพทย์แผนจีนเพราะเขาเป็นศาสตราจารย์ในแผนกนี้

นักศึกษาในแผนกแพทย์ตะวันตกมีร่างกายที่สูงใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ พวกเขาไม่ได้เห็นฉิงเฟิงอยู่ในสายตา มันไม่มีอะไรแตกต่างถึงแม้จะมีคนเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง

แต่นักศึกษาสาวส่วนใหญ่เริ่มกรี๊ดกร๊าดเล็กน้อยเมื่อพวกเธอเห็นฉิงเฟิงมาอยู่ข้างแผนกแพทย์แผนจีน เพราะฉิงเฟิงมีหน้าตาที่หล่อเหลาและบุคลิกดี

“เริ่มได้ !” เมื่อผู้ตัดสินประกาศเริ่มเกม ทั้งสองทีมก็เริ่มดึงเชือก

ฉิงเฟิงจับเชือกด้วยมือขวาเพียงมือเดียวและกระชากเชือกอย่างแรง เชือกถูกลากเข้าหาฝั่งทีมแพทย์แผนจีนอย่างง่ายดาย

“รอบที่สาม แผนกแพทย์แผนจีนชนะ” ผู้ตัดสินประกาศเสียงดังในขณะที่ยังคงตกใจ

ความจริงแล้ว ทีมแพทย์จีนแพ้ไปสองครั้งติดต่อกันก่อนที่ฉิงเฟิงจะเข้าร่วมทีม แต่ตอนนี้พวกเขากลับเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลังจากที่ฉิงเฟิงร่วมทีม

“ศาสตราจารย์หลี่ ลุยเลยครับ/ค่ะ ! จัดการแพทย์ตะวันตกเลย !” นักศึกษาในแผนกแพทย์จีนต่างก็โห่ร้องส่งเสียงเชียร์ฉิงเฟิง เพราะพวกเขารู้จักฉิงเฟิงกันหมดแล้ว

นักศึกษาในทีมแพทย์ตะวันตกต่างก็ถูฝ่ามือไปมาด้วยการเตรียมพร้อม พวกเขาเตรียมพร้อมและตั้งใจอย่างมากที่จะเอาชนะในรอบนี้ เพราะพวกเขาแพ้ไปแล้วครั้งหนึ่งและรู้สึกราวกับถูกตราหน้าว่าเป็นพวกขี้แพ้

เมื่อเริ่มรอบที่สี่ ฉิงเฟิงก็ทำเช่นเดิมและช่วยให้ทีมชนะอย่างง่ายดายโดยการออกแรงเล็กน้อย

และในรอบที่ห้า ฉิงเฟิงก็ทำเหมือนเดิม ทีมของพวกเขาก็ชนะอีกครั้ง

ทีมแพทย์จีนได้รับชัยชนะสามครั้งติดต่อกันและพวกเขากลายเป็นผู้ชนะของการแข่งชักเย่อ

ทุกคนในแผนกแพทย์แผนจีนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับชัยชนะ ในขณะที่นักศึกษาของแผนกแพทย์ตะวันตกกลับไม่พอใจ

ในความเป็นจริงถึงแม้ว่านี่จะเป็นแค่การแข่งขันในวิชาพละ แต่ก็เป็นเหมือนการต่อสู้ระหว่างสองแผนกด้วยเช่นกัน

แผนกแพทย์แผนจีนถูกแยกออกจากแผนกแพทย์ตะวันตก ทั้งสองสาขานี้มีวิธีการวินิจฉัยโรคและการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดความขัดแย้งและการแข่งขันระหว่างวิชาแพทย์ทั้งสองสาขาอยู่เสมอ จนถึงจุดที่ว่าทั้งสองสาขาไม่มีใครยอมใคร

ในอดีต นักศึกษาจากแผนกแพทย์ตะวันตกมักจะเอาเปรียบแพทย์แผนจีนในวิชาพลศึกษาเสมอ เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ในแผนกนี้จะเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงได้แก้แค้นให้กับพวกเธอแล้ว

“ศาสตราจารย์หลี่ ทำไมคุณถึงแข็งแรงมากขนาดนี้ ?”

“ใช่ปะๆ ? พวกนักศึกษาแผนกแพทย์ตะวันตกต่างก็ตัวสูงใหญ่และดูแข็งแรง แต่จริงๆแล้วอ่อนแอเหมือนไก่ป่วย ดูสิ ศาสตราจารย์หลี่เอาชนะพวกเขาซะเงียบกริบ !”

“ศาสตราจารย์หลี่ คุณมีแฟนหรือยังคะ? คุณคิดยังไงกับชั้นคะ ?”

นักศึกษาสาวต่างก็เข้ามารุมล้อมฉิงเฟิง และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเป็นชีวิตส่วนตัวของฉิงเฟิง บางคนแม้แต่เสนอตัวขอเป็นแฟนของเขาและมองเขาด้วยแววตาหยาดเยิ้ม

มันจะเป็นการโกหกถ้าหากบอกว่าเขาไม่ได้ฟุ้งซ่านกับการที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่านักศึกษาแพทย์สาวสวยเหล่านี้ เขารู้สึกเร่าร้อนขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เขาก็นึกถึงสิ่งที่หลินเสวี่ยกำชับไว้ก่อนมาที่นี่ เธอบอกกับเขาว่าอย่าไปสนิทสนมกับเหล่าสาวๆมหาลัยนัก

“สุภาพสตรีทั้งหลาย ผมขอขอบคุณมากสำหรับความสนใจของพวกคุณ แต่ว่าผมมีภรรยาแล้วจึงไม่ต้องการแฟน” ฉิงเฟิงเล็กน้อยและปฏิเสธนักศึกษาสาวทุกคน

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักศึกษาสาวบางคนที่ยังไม่ยอมแพ้และยังคงยืนกรานเช่นเดิมถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะพูดปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วก็ตาม เธอกล่าวว่า

“ศาสตราจารย์หลี่คะ มีภรรยาแล้วก็ไม่เป็นไรคะ ฉันขอเป็นกิ๊กของคุณก็ได้”

หา ? เป็นกิ๊ก ?

ฉิงเฟิงแข็งค้างต่อความเปิดกว้างของนักศึกษาสาวสมัยนี้อยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่พวกเธอด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ยังรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย

นี่ฉันมันเสน่ห์แรงมากขนาดนี้เลยหรือ ? ขนาดบอกว่าแต่งงานแล้วก็ยังได้รับความสนใจจากนักศึกษาสาวเหล่านี้

“ขอโทษนะทุกคน ผมกำลังจะกลับบ้านแล้วภรรยาของผมยังคงรอผมอยู่”

ฉิงเฟิงบีบตัวเองออกจากฝูงชน