ความจริงเปิดเผย
“กู่มี่ ที่นี่คือเผ่าพันธุ์มังกร! มิใช่ตำหนักเมฆาครามของเจ้า!!”
ชายชราที่กล่าวเมื่อครู่ถึงกับหน้าแดงก่ำจากคำของกู่มี่ มันหันมองกู่มี่ตาขวาง กล่าวออกเสียงเข้ม
“ถอยกลับมา”
และในขณะที่กู่มี่คิดกล่าวอะไรออกมาอีกครั้ง เสียงตี้ชานพลันดังขึ้นเสียก่อน
แม้ชายชราเมื่อครู่จะเป็นมังกรเทยาดา 5 กรงเล็บเช่นกัน แต่มันก็ไม่กล้าจะข้ามหน้าข้ามตาตี้ชาน จึงถอยกลับมาแต่โดยดี
หากแต่มันยังคงมองกู่มี่ตาขวาง แววตายังเผยประกายเย็นเยียบ
“อะไร? อยากลองกับข้ารึ?”
เห็นประกายเย็นเยียบในแววตาชายชรา กู่มี่พลันหัวร่อออกมาค่อยกล่าว “มิใช่ว่าข้าดูแคลนอะไรเจ้า…ทว่าในเผ่าพันธุ์มังกรของเจ้า มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ทำให้ข้ายำเกรง แน่นอนว่าเจ้ามิได้เป็น 1 ในนั้น!”
ชายชราได้ยินคำนี้ของกู่มี่ยิ่งมาหน้าก็ยิ่งแดงก่ำไปด้วยโทสะ แต่มันก็พูดไม่ออก!
เพราะเรื่องนี้มันไม่อาจปฏิเสธได้
ถึงแม้มันจะถลึงตามองกู่มี่อย่างเอาเรื่อง แต่มันรู้ดีว่ามันไม่ใช่คู่มือของกู่มี่
ในเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่สยบกู่มี่ได้ และมีอีก 1 คนเท่านั้นที่สามารถยันกับกู่มี่ได้อย่างทัดเทียม…ส่วนที่เหลือรวมถึงมัน ไม่ใช่คู่มือกู่มี่เลย
เมื่อเห็นว่าชายชราเงียบปากสงบวาจาไปแล้ว กู่มี่พลันถอยร่นไปยืนหลังต้วนหรูเฟิงอย่างเรียบๆร้อยๆ
“ท่านจ้าวตำหนักต้วน มิทราบว่าตี้จิ่วไปทำอันใดให้ท่านขุ่นขึ้งใจกัน?”
ตี้ชานมองถามต้วนหลิงเทียนอย่างใจเย็น คล้ายอารมณ์ของมันไม่ได้ขุ่นมัวแม้แต่น้อยที่ต้วนหรูเฟิงเกือบฆ่าตี้จิ่วตาย
“ตี้ชาน…จะเป็นอย่างไรหากมีคนคิดฆ่าบุตรชายคนเดียวของเจ้า?”
ต้วนหรูเฟิงหัวเราะประชดออกมาเบาๆ
“หืม!?”
ได้ยินคำนี้ของต้วนหรูเฟิง ตี้ชานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะมันพึ่งมาจึงไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร
จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะหันมองไปยังตี้จิ่ว
“ลูกชายของจ้าวตำหนักต้วน…คือต้วนหลิงเทียน”
ตี้จิ่วรู้สึกโชคดีนักที่รอดตายมาได้ ตอนนี้ใบหน้ามันผ่อนคลายลงไม่น้อยเมื่อเห็นตี้ชานและเหล่าอาวุโสมารวมตัวกัน แต่อย่างไรเสียยามตอบคำถามตี้ชาน น้ำเสียงสีหน้ามันก็เผยความขื่นขมไม่น้อย
ถึงแม้ว่ามันไม่อาจสลายความแค้นที่มีต่อต้วนหลิงเทียนได้ แต่พอรู้ว่าบิดาของต้วนหลิงเทียนคือต้วนหรูเฟิงผู้เป็นถึงจ้าวตำหนักเมฆาคราม มันก็รู้ดีว่ามันไม่อาจตอแยตำหนักเมฆาครามได้! เพราะนั่นแทบไม่ต่างอะไรกับตั๊กแตนคิดหยุดรถม้า!!
“ต้วนหลิงเทียน?”
ได้ยินคำตอบของตี้จิ่ว ตี้ชานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วยู่ย่น
แน่นอนว่านามนี้ไม่ใช่นามแปลกหูสำหรับมันแต่อย่างไร เพราะนี่คือนามของคนที่ตี้จิ่วขอแรงมันให้ช่วยออกตามหา เพราะนั่นคือผู้ที่น่าจะเป็นฆาตกรฆ่าตี้ยง!
มันเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าชายหนุ่มจากทวีปมนุษย์ที่ฆ่าบุตรชายตี้จิ่ว จะเป็นบุตรชายของต้วนหรูเฟิงผู้เป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามไปได้!
ถึงแม้ต้วนหรูเฟิงจะเป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามที่มีอายุน้อยกว่ามันมาก แต่มันก็รู้ดีถึงความน่ากลัวของต้วนหรูเฟิง…จ้าวตำหนักเมฆาครามคนที่แล้วก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามันเลย ทว่ากลับต้องตายด้วยน้ำมือของต้วนหรูเฟิง!
และนั่นทำให้ต้วนหรูเฟิงสามารถใช้พลังอำนาจ ปกครองตำหนักเมฆาครามได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!
ถึงแม้มันจะยังไม่เคยปะทะกับต้วนหรูเฟิงสักครั้ง แต่มันรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่อาจเอาชนะต้วนหรูเฟิงได้!
“ตี้ชาน…วันนี้ตราบใดที่มันตาย ข้าจะจากไปโดยดี”
ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกเสียงเรียบ ในวาจาแฝงเร้นไว้ด้วยความเด็ดขาดไม่เหลือพื้นที่ให้ต่อรอง!
ได้ยินคำของต้วนหรูเฟิง เฉวียฉาน ชิงเหยียน และอาวุโสคนอื่นๆของเผ่าพันธุ์มังกรหน้าเปลี่ยนสีไปทันที สุดท้ายเป็นเฉวี่ยฉานที่ก้าวออกมาพร้อมถาม “จ้าวตำหนักต้วน ข้าสงสัยนักว่าตี้จิ่วไปทำอันใดให้ท่านมิพอใจนักหนา ถึงต้องคิดฆ่าฟันกันเช่นนี้?”
“เฉวี่ยฉาน ข้าจักเตือนเจ้าด้วยความหวังดี…อยู่ให้ห่างเรื่องนี้เสีย!”
เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงไม่สนใจจะตอบคำถามเฉวี่ยฉาน เป็นกู่มี่ที่กล่าวตอบเฉวี่ยฉานออกมาแทน “ตี้จิ่วของเผ่าพันธุ์มังกรเจ้า! แม้วันนี้มันต้องตายด้วยน้ำมือท่านจ้าวตำหนักของข้าก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเกือบสังหารท่านจ้าวตำหนักน้อย บุตรชายคนเดียวของท่านจ้าวตำหนัก?!”
“อะไรนะ!”
วาจานี้ของกู่มี่ไม่เพียงทำให้เฉวี่ยฉานตะลึง กระทั่งอาวุโสคนอื่นๆ ยกเว้นตี้จิ่วกับตี้ชานที่รู้แต่แรกยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
จังหวะนี้พวกมันหันขวับมาจับจ้องตี้จิ่วที่นอนหมดสภาพด้านหลังอย่างพร้อมเพรียง
“ตี้จิ่ว! เรื่องนี้จริง!?”
เฉวี่ยฉานกล่าวถามเสียงเข้ม
เมื่อเห็นว่าตี้จิ่วไม่ปฏิเสธเพียงก้มหน้าลงไป อาวุโสทั้งหลายถึงกับหน้าคล้ำดำลง! เห็นชัดว่ากำลังโมโหตี้จิ่วนักที่ชักนำเภทภัยมาสู่เผ่าพันธุ์มังกร!!
ถึงแม้พวกมันจะคิดว่าคราวนี้ตี้จิ่วนับเป็นคนบาป แต่จะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นเผ่าพันธุ์มังกร แน่นอนว่าด้วยฐานะอาวุโสของเผ่าพันธุ์ทั้งยังเป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ พวกมันย่อมให้ความสำคัญสูงสุดกับพวกพ้องและสายเลือด
“กู่มี่ เรื่องนี้ใช่มีอันใดเข้าใจผิดกันหรือไม่?”
เฉวี่ยฉานหันกลับมามองกู่มี่ ค่อยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เข้าใจผิด?”
กู่มี่ได้ฟังก็กล่าวเยาะเย้ยออกมาเสียงดัง “หากจะไถ่ถามว่าเข้าใจผิดหรือไม่ เกรงว่าเป็นพวกเจ้าเผ่าพันธุ์มังกรล้วนกำลังเข้าใจผิด! ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่นายน้อยของข้าลงมือสังหารบุตรชายของตี้จิ่วจริงหรือไม่ ต่อให้นายน้อยข้าทำจริง แต่นั่นก็ถือเป็นการคลี่คลายภัยพิบัติให้เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้าด้วยซ้ำ! หรือพวกเจ้าจะบอกข้าว่า…พวกเจ้าอยากให้มังกรมาร 5 กรงเล็บที่เต็มไปด้วยความคับแค้นเติบโต?”
มังกรมาร 5 กรงเล็บ!
ทันทีที่วาจานี้ของกู่มี่ลั่นดังออกมาจากปาก สีหน้าตี้จิ่วก็เปลี่ยนไปมหันต์ มันไม่คิดเลยว่าตี้จิ่วจะเปิดเผยความจริงออกมาแบบนี้!
มังกรมาร 5 กรงเล็บนั่นเป็นตัวตนต้องห้ามของเผ่าพันธุ์มังกร!
ตอนนั้นยามที่ตี้ยงบุตรชายของมันคลอดออกมา…ก็ได้รับโทษประหารทันที! เพราะตัวตนอย่างมังกรมาร 5 กรงเล็บ เป็นดั่งหายนะของเผ่าพันธุ์มังกร! ไม่อาจเลี้ยงไว้ได้!!
ถึงแม้ตี้จิ่วจะลอบใช้กลอุบายบางประการช่วยเหลือชีวิตตี้ยงมาได้ แต่มันก็ไม่กล้าให้ตี้ยงเติบโตในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า มันจึงลอบส่งตี้ยงไปยังเกาะป้านเยว่ใกล้ๆทวีปเมฆาล่อง!
และมีเพียงตัวมันเท่านั้นที่ล่วงรู้เรื่องนี้
ถึงแม้หลายคนในเผ่าพันธุ์มังกรจะสงสัยว่าตี้ยงอาจจะยังไม่ตาย เพราะมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บตัวที่ 9 กลับไม่ถือกำเนิดออกมาเสียที แต่พวกมันก็ไร้หลักฐานไร้ข้อพิสูจน์ด้วยไม่อาจหาตัวตี้ยงพบ!
ทว่ามาวันนี้กู่มี่กลับเปิดเผยความจริงดังกล่าวออกมา ทำให้ในใจมันบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น!
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชาน จับจ้องมองกู่มี่อย่างสงบ หากแต่ในแววตาเผยประกายเย็นเยียบไม่น้อย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้รู้สึกยินดีเลย ที่กู่มี่เปิดโปงเรื่องมังกรมาร 5 กรงเล็บออกมา
“อะไร? หรือที่แท้พวกเจ้าก็มิได้รู้เลยว่าบุตรชายของตี้จิ่วที่เรียกว่าตี้ยงอันเป็นมังกรมาร 5 กรงเล็บนั่น ยังมีชีวิตรอดอยู่มาหลายปี?”
อย่างไรก็ตามด้วยมีต้วนหรูเฟิงอยู่ กู่มี่ย่อมไม่หวาดกลัวตี้ชานแต่อย่างใด ยังคงกล่าวเย้ยเยาะออกมาด้วยน้ำเสียงขบขัน “เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้า กล่าวไปสมควรขอบคุณนายน้อยข้าด้วยซ้ำ! มังกรมาร 5 กรงเล็บนั่นมันรอดพ้นจากความตายไปได้หลายปีก่อนย่อมมีความแค้นต่อพวกเจ้าเต็มหัวใจ…แต่สุดท้ายมันก็ถูกนายน้อยของข้าฆ่าตาย! หาไม่แล้ววันใดที่มันเติบโตขึ้นมาล่ะก็… พวกเจ้าคงยังมิได้ลืมเลือนคำสอนของบรรพบุรุษพวกเจ้าใช่หรือไม่?”
คำสอนที่เป็นดั่งกฏที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดของบรรพพบุรุษเผ่าพันธุ์มังกรก็คือ…ต้องสังหารมังกรมาร 5 กรงเล็บตั้งแต่แรกเกิด เพื่อป้องกันหายนะในภายภาคหน้า!
“ตี้จิ่ว! ที่แท้ตอนนั้นบุตรชายเจ้ายังมิตายจริงๆ!!”
ใบหน้าสื่อชิงมืดคล้ำลงปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก
สีหน้าอาวุโสที่เหลือก็ไม่ค่อยจะสู้ดีเช่นกัน
“จึกๆๆ..ดูเหมือนพวกเจ้าจักหน้ามืดตามัวกันมานานปี มิรู้ความอันใดเลยจริงๆ”
กู่มี่ส่ายหัวไปมาพร้อมเดาะลิ้นค่อยกล่าว “เช่นนั้นข้าคิดว่าพวกเจ้าเองก็คงมิรู้เรื่องนี้ ว่าต้วนหลิงเทียนที่พวกเจ้าเผ่าพันธุ์มังกรค้นหากันให้ควั่กอย่างไร้เหตุผล ก็คือผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้า! นายน้อยตำหนักเมฆาครามของข้า!!”
วาจานี้ของกู่มี่ดังศรที่พุ่งไปปักกลางใจของอาวุโสเผ่าพันธุ์มังกรก็ไม่ปาน!
เมื่อเร็วๆนี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรได้ถูกส่งออกไปตามล่าหาตัวชายหนุ่มนามต้วนหลิงเทียนจริงๆ แต่พวกมันหลงคิดว่าเป็นผู้นำที่ต้องการตัว ไม่ใช่ตี้จิ่ว
ตอนนี้เองเฉวี่ยฉานและอาวุโสเผ่าพันธุ์มังกรที่เหลือพลันหันขวับไปมองตี้ชาน สายตาทั้งหลายเผยความสับสนไม่เข้าใจ และรอการยืนยันจากตี้ชาน
ตี้ชานพลันพยักหน้ารับเบาๆ
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วตี้ชานรู้ดีว่าไม่อาจปิดบังได้อีก
ทันใดนั้นใบหน้าเฉวียฉานและอาวุโสมังกรที่เหลือ ก็กลายเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ หันไปมองตี้จิ่วด้วยสายตาเอาเรื่อง เพราะมันเป็นตัวชักนำเภทภัยมาสู่เผ่ามังกรแล้วจริง!
การที่จ้าวตำหนักเมฆาครามบุกมาฆ่าตี้จิ่ว นับว่าไม่ได้ไร้เหตุผล!!
เรื่องนี้เผ่าพันธุ์มังกรล้วนจุกอยู่ในอก! ไร้คำจะกล่าวแล้วจริงๆ!!
ในขณะที่ต้วนหรูเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับ มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 7 ตัวของเผ่าพันธุ์มังกรนั้นเอง..
ทางด้านเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิง ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เริ่มออกเดินทางพร้อมซือถูหังคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซือถู และซือถูโฮ่วผู้อาวุโสสูงของตระกูลซือถู มุ่งหน้าไปยังนิกายอัคคีล่องลอย เพื่อท้าทายศิษย์ของนิกายอัคคีล่องลอยผู้ที่อยู่ในอันดับที่ 23 ของรายนามนภา แม่นางเฟิ่ง!