ท่านต้วน

ตอนนี้เวลามันก็ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว หลังจากที่ตระกูลซือถูส่งสารท้าประลองในนามท่านต้วนมาให้แม่นางเฟิ่ง แห่งนิกายอัคคีล่องลอย

ตลอดเวลาเกือบครึ่งเดือนที่ผ่านมา ข่าวการประลองดังกล่าวก็แพร่ไปทั่วทั้งนิกายอัคคีล่องลอย และเพียงพริบตาผู้คนกว่าครึ่งของประเทศฝูเฟิงก็ได้รับทราบเรื่องนี้ไปด้วย! มันจึงกลายเป็นประเด็นอันร้อนแรงที่ผู้คนพากันกล่าวถึงไม่หยุด!

ผู้คนมากมายล้วนอยากมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้

เช่นนั้นแล้วเหล่าผู้ทรงอิทธิพลจำนวนมากที่เป็นยอดฝีมือของแต่ละขุมพลังล้วนส่งจดหมายเยี่ยมเยียนมายังนิกายอัคคีล่องลอย เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้!

หนึ่งในผู้ที่จะลงประลองนั้นก็คือ แม่นางเฟิ่ง แห่งนิกายอัคคีล่องลอย ตอนนี้ตราบใดที่จังเป็นคนของประเทศฝูเฟิง แทบไม่มีใครไม่รู้จักนาง!

แม่นางเฟิ่งนั้นผงาดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว นางยังสามารถชิงอันดับที่ 23 ในรายนามนภามาครองได้สำเร็จ! สุดท้ายจึงกลับกลายเป็นยอดฝีมือที่มีชือเสียงเลื่องลือ!

หากจะกล่าวว่าตอนแรกๆที่แม่นางเฟิ่งเปิดตัวยังไม่โด่งดังเท่าไหร่ล่ะก็…หลังจากที่นางฝึกปรืออยู่อีกครึ่งปีแล้วออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง เรียกว่าผู้คนในประเทศฝูเฟิงก็ได้ยินเสียงคำร่ำลือจากนางกันทั่ว กระทั่งในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน ก็นับว่ามีชื่อเสียงไม่น้อย!

นั่นเพราะนางใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ในการใต่ขึ้นมาจากอันดับท้ายๆในรายนามนภาจนมาถึงอันดับที่ 23

ตอนนี้นางก็อยู่ในอันดับที่ 23 ในรายนามนภามาถึงครึ่งปีแล้ว

จากความก้าวหน้าของนางในอดีต ทำให้ตอนนี้ผู้คนต่างมั่นใจกันถ้วนหน้า ว่าพลังฝีมือของนางสมควรติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของรายนามนภา!

แน่นอนว่าหากนางอยากจะขึ้นไปอยู่ใน 10 อันดับแรกของรายนามนภา แม่นางเฟิ่งผู้นี้ก็จำต้องออกเดินทางไปนอกประเทศเพื่อไปส่งสารท้าทาย…

เพราะในประเทศฝูเฟิง ไม่มี 10 อันดับแรกในรายนามนภาอยู่เลย..

ส่วนอีกด้านที่เป็นคู่ประลองของแม่นางเฟิ่ง ท่านต้วน นั้น…พึ่งปรากฏตัวขึ้นในตระกูลซือถูเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว! ไม่มีใครในประเทศฝูเฟิงรู้จักนามนี้เลยสักคน!

และในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ผู้ที่อยากรู้ความเป็นมาของ ‘ท่านต้วน’ ก็ได้พยายามสืบเรื่องราวทั้งหมด!

พบว่า ท่านต้วน ผู้นี้ พึ่งปรากฏตัวในตระกูลซือถูเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และทันทีที่ปรากฏตัวออกมา ก็สามารถรักษาโรคประหลาดของคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูให้หายขาดได้อย่างอัศจรรย์!

ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านั้น ทุกคนล้วนคิดว่าคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูนั้นต้องตายแน่แล้ว!

เพราะสุดท้าย ไม่ว่าจะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 4 ดาว ปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถระดับ 4 ดาว ก็ไม่อาจหาสาเหตุโรคร้ายได้ ยังกล่าวกันว่าคุณชายใหญ่สมควรถูกคำสาปไม่ก็คุณไสยอันใดสักอย่าง!

กระทั่งปรมาจารย์แพทย์ของราชวงศ์ ผู้เป็นหมอหลวงก็ได้กล่าวตัดสินชะตาของคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูไว้แล้ว ว่าจักอยู่ได้ไม่เกินสิ้นเดือน…ทำให้ทั้งหมดคิดว่าคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูไร้ความหวังอันใดแล้ว

ทว่าทันใดนั้นเอง อยู่ๆท่านต้วนผู้นี้ก็ปรากฏตัวออกมาก่อนเส้นตายสิ้นเดือนที่ว่าแค่เพียงอาทิตย์เดียว!

และทันทีที่ท่านต้วนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมา ก็สามารถฉุดดึงคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูที่ก้าวขาข้างหนึ่งผ่านประตูนรกไปแล้วให้กลับมาได้สำเร็จ! อีกทั้งในเพียงเวลาแค่เดือนครึ่ง คุณชายใหญ่ตระกูลซือถูก็กลับมาแข็งแรงหายดีดังเดิม!!

อีกทั้งทั้งหมดยังสืบทราบมาว่า การเดินทางมาประลองกับแม่นางเฟิ่งของท่านต้วนผู้นี้ คุณชายใหญ่ตระกูลซือถูยังเป็นผู้นำพามาด้วยตัวเอง!

จังหวะนี้ทุกผู้คนอดไม่ได้ที่จะตกใจ

ท่านต้วน ผู้นี้ที่แท้เป็นผู้ใดมาจากไหนกันแน่..ถึงกับสามารถรักษาโรคประหลาดที่กระทั่งปรมาจารย์ระดับ 4 ดาวทั้งหลายยังต้องจนปัญญาได้สำเร็จ! นับว่าอัศจรรย์นัก!!

ผู้ที่สืบทราบถึงจุดนี้ก็ยิ่งพยายามหาข้อมูลลงลึกกันใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าท่านต้วนผู้นี้เป็นใครมาจากไหน และมีชื่อแซ่ว่าอะไร รู้กันแค่คนของตระกูลซือถูล้วนเรียกหาว่า ปรมาจารย์ต้วน ทั้งสิ้น…

เช่นนั้นแล้วท่านต้วนคนนี้ เสมือนอยู่ๆก็ผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าในประเทศฝูเฟิง ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ความเป็นมาเลย

ตอนนี้ในสายตาของผู้คนในประเทศฝูเฟิง ปรมาจารย์ต้วน หรือท่านต้วนที่เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถู คล้ายจะมีม่านหมอกแห่งความลับปกคลุม

อันที่จริงแล้ว ผู้คนมากมายจากขุมพลังต่างๆ ที่ส่งสารว่าจะมาเยี่ยมเยียนนิกายอัคคีล่องลอยคราวนี้ นอกจากจะมาชมดูการประลองชิงอันดับในรายนามนภาแล้ว พวกมันยังอยากมาแลเห็น ท่านต้วน ที่ว่ากับตา ว่าเป็นผู้ใดกันแน่!

ในบรรดาขุมพลังทั้งหมด ผู้ที่เงียบนิ่งไม่เคลื่อนไหว ล้วนเป็นคู่แข่งไม่ก็ศัตรูของตระกูลซือถูทั้งสิ้น

พวกมันเขม่นกับตระกูลซือถูมานานปี ย่อมรู้ไส้รู้พุงของตระกูลซือถูดีกว่าใคร การปรากฏตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันของท่านต้วนย่อมทำให้พวกมันรู้สึกกดดัน!

ความกดดันที่ว่าไม่ได้มาจากพลังฝีมือของท่านต้วน

การที่อีกฝ่ายส่งสารท้าประลองชิงอันดับในรายนามนภา ก็บ่งบอกให้รู้ว่า…ท่านต้วนผู้นี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์หรือผู้ฝึกเต๋าก็ยังเป็นเพียงตัวตนในขอบเขตสู่เซียน! ซึ่งพลังฝีมือเท่านี้ไม่ใช่อะไรที่คุกคามพวกมันได้เลย

แรงกดดันที่ทำให้พวกมันรู้สึกหนักอึ้งนั้น มาจากความลึกลับที่ปกคลุมห้อมล้อมปรมาจารย์ต้วนผู้นี้

เพราะสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายกลับสามารถรักษาโรคประหลาดของคุณชายใหญ่ตระกูลซือถู ที่แม้แต่เหล่าปรมาจารย์ระดับ 4 ดาวทั้งหลาย กระทั่งหมอหลวงก็จนปัญญาได้สำเร็จ! นี่ไม่ใช่อะไรที่ตัวตนในขอบเขตสู่เซียนทั่วไปจะกระทำได้

ยังผลให้ ท่านต้วน ที่แสนลึกลับไร้ที่มาที่ไปผู้นี้ มีชื่อเสียงขึ้นมาในประเทศฝูเฟิงไม่น้อย ถึงแม้จะยังไม่ทันได้ประลองกับแม่นางเฟิ่งแห่งนิกายอัคคีล่องลอยก็ตาม!

แน่นอนว่าชื่อเสียงทั้งหลาย ส่วนใหญ่แล้วมาจากความสามารถในการรักษาคุณชายใหญ่ตระกูลซือถู

โรคประหลาดนี้ของคุณชายใหญ่ตระกูลซือถู เป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมากในประเทศฝูเฟิง หลายคนรอนแรมเดินทางมาไกลเพื่อหวังรักษาคุณชายใหญ่เพื่อของรางวัล แต่กลับไร้ผู้ใดที่สามารถรักษาได้สักคน!

ประเด็นดังกล่าว ตัวต้วนหลิงเทียนเองก็พึ่งมาทราบจากซือถูหังในขณะเดินทางนี่เอง

“ท่านปรมาจารย์ต้วน ตอนนี้ชื่อเสียงของท่านได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศฝูเฟิงแล้ว…ตอนนี้ต่อให้ท่านปราชัยต่อแม่นางเฟิ่ง นามของท่านก็จะพัดผ่านไปทั่วประเทศฝูเฟิงดั่งพายุ ถึงตอนนั้นหากศิษย์พี่และสหายของท่านอยู่ในประเทศฝูเฟิงจริงๆ ย่อมรู้ว่าท่านอยู่ในตระกูลซือถูเราและมาหาท่านด้วยตัวเองเป็นแน่!”

ซือถูหังกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม

“อะไร นี่คุณชายใหญ่ไม่มั่นใจในตัวข้าเลยหรือ?”

ได้ยินวาจานี้ของซือถูหัง ต้วนหลิงเทียนก็แสร้งทำเป็นน้อยใจขึ้นมา

ซือถูหังที่ได้ยินคำนี้ หน้าเจื่อนไปทันใด เร่งกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขื่นขม “ข้ามิได้หมายความเช่นนั้นท่านปรมาจารย์ต้วน…ข้าเพียงกล่าวถึงความเป็นไปได้ประการหนึ่งเท่านั้น”

ถึงแม้มันจะเชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนไม่น้อย แต่เรื่องประลองกับแม่นางเฟิ่งยิ่งมาก็ยิ่งไม่มั่นใจ แน่นอนว่ามันย่อมไม่กล้ากล่าวเรื่องนี้ออกมาด้วยกลัวต้วนหลิงเทียนจะผิดหวัง

อย่างไรก็ตามมันประเมินความคิดอ่านต้วนหลิงเทียนต่ำไป

ทันทีที่มันกล่าวถึงเรื่องนี้ออกมา ต้วนหลิงเทียนไหนเลยจะไม่ล่วงรู้ความคิดมันได้ อย่างไรเสียเขาไม่ได้ถือสาอะไรแม้แต่น้อย

เพราะต้วนหลิงเทียนรู้ดี ว่าเรื่องราวบางอย่างต่อให้เขามีลิ้นทองคำก็ยากจะทำให้ผู้คนเชื่อถือ

วิธีเดียวที่จะทำให้ผู้คนเชื่อจริงๆ มีแต่เขาต้องแสดงออกด้วยการกระทำเท่านั้น!

ดังนั้นหลังได้รู้ถึงความไม่มั่นใจจากซือถูหัง ต้วนหลิงเทียนก็เพียงกล่าวหยอกไปอย่างสนุกๆ แต่ไม่คิดจะแก้ไขอะไร เพียงเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องไปแทน “คุณชายใหญ่หัง ตอนนี้ก็เหลืออีกแค่เดือนเดียวก่อนที่ซือถูจั๋วนั่นจะออกจากห้องสำนึกตน แล้วต่อไปท่านจะทำอย่างไรต่อ ในเมื่อมันลงมือกับท่านถึงขนาดนี้?”

กล่าวถึงท้ายประโยคต้วนหลิงเทียนก็หยีตามองซือถูหัง

หลังได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงเรื่องซือถูจั๋ว สีหน้าซือถูหังก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังทันใด ในแววตายังเผยความเด็ดเดี่ยวออกมา

ซือถูจั๋วนั้น เป็นคนที่เกือบฆ่ามันตาย!

ด้วยเหตุผลบางประการทำให้มันกับบิดาไม่อาจเป็นศัตรูกับฝ่ายของซือถูหมิงได้อย่างโจ่งแจ้ง ทำให้จำต้องปล่อยวางเรื่องของอาคมมารนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในใจมันไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไปง่ายๆ

สุดท้ายแล้วมันก็เกือบตาย!

หากมันตกตายไป มันย่อมรู้ดีว่าในอนาคตฝ่ายซือถูหมิงต้องเข้าครอบงำตระกูลซือถูได้อย่างเบ็ดเสร็จแน่…

และหากพวกซือถูหมิงได้เป็นผู้นำจริงๆล่ะก็ ด้วยนิสัยอำมหิต…ไม่พ้นคนของฝ่ายมันต้องถูกฆ่าตายหมดสิ้น!

“ปรมาจารย์ต้วน แม้ก่อนหน้าข้าจะไม่คิดว่าซือถูจั๋วมันจะกล้าลงมือถึงขนาดนี้…แต่ในเมื่อข้ารู้แล้วว่ามันกล้าทำขนาดนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันมีโอกาสใดๆอีกเด็ดขาด!”

หลังสูดลมหายใจเข้าเพื่อสงบอารมณ์ครู่หนึ่ง ซือถูหังค่อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ราวกับจะผุดซึมขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง

“ท่านแค่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็พอ”

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ เขาเองก็นับว่าถูกชะตากับซือถูหังไม่น้อย

สำหรับซือถูหังแล้ว เขาไม่รู้สึกว่าอีกฝ่ายเลวร้ายอะไรเลย

“หากมีอะไรให้ข้าช่วย ท่านก็บอกมาแล้วกัน”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอีกครั้ง

“ขอบคุณท่านปรมาจารย์ต้วน”

เมื่อได้ยินวาจาคิดช่วยเหลือนี้ของต้วนหลิงเทียน สองตาซือถูหังทอประกายวาบวัวขึ้นมาทันที เร่งประสานมือขอบคุณอย่างเป็นทางการ

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะยังมีอายุน้อยกว่ามันราวๆปีสองปี แต่ในใจของมัน…ฐานะต้วนหลิงเทียนนับว่าอยู่สูงนัก มันไม่กล้าตีตัวเสมอปฏิบัติกับต้วนหลิงเทียนเหมือนดั่งสหาย

“ด้วยความเร็วในการเดินทางของพวกเรา สมควรถึงนิกายอัคคีล่องลอยบ่ายนี้ใช่หรือไม่?”

เมื่อเห็นตะวันร้อนที่ลอยเด่นกลางหาว ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยสงสัย

“สมควรถึงประมาณยามบ่าย”

ซือถูหังพยักหน้า “หลังจากที่พวกเราไปถึงนิกายอัคคีล่องลอยพวกเราจะพักกันคืนหนึ่ง…วันพรุ่งนี้พวกเราจักเดินชมนิกายอัคคีล่องลอยในฐานะแขก ส่วนการประลองระหว่างท่านกับแม่นางเฟิ่งเป็นวันมะรืน!”

“เอาตามนั้นล่ะ”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าแม้ซือถูหังจะแก่กว่าเขาไม่มาก แต่ต้วนหลิงเทียนก็เทียบกับอีกฝ่ายในด้านการจัดการเรื่องราวจิปาถะพวกนี้ไม่ได้

มีคำกล่าวที่ว่า แต่ละคนมีด้านเก่งไม่เหมือนกัน เขาไม่ค่อยถนัดการจัดการเรื่องราวยิบย่อยอะไรเท่าไหร่

การเดินทางออกจากเมืองหลวงฝูเฟิงครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนยังสัมผัสได้แต่แรกว่าไม่ได้มีแค่ เขา ซือถูหัง และซือถูโฮ่วเท่านั้น…

มีอีก 5 คนที่ลอบติดตามมาอย่างลับๆ!

หากไม่ใช่เพราะประสบการณ์ในการสะกดรอยและย้อนรอยในชีวิตที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนอาจจะไม่พบตัวทั้ง 5

เพราะทั้ง 5 ที่ลอบติดตามมานั้น เป็นดั่งอสรพิษในเงามืด สามารถซ่อนเร้นและปรากฏออกมาสังหารได้อย่างน่ากลัว

‘เป็นครึ่งก้าวเซียนทั้ง 5 คนเลย…แถมท่าทางยังฝึกฝนวิชาเร้นกายกันมาอย่างดี น่ากลัวว่านอกจากข้าจะมีคนที่พลังฝึกปรือต่ำกว่าเซียนแค่ไม่กี่คนที่สามารถพบตัวพวกมันได้’

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเปิดใช้ เนตรเทวะ เขาย่อมแลเห็นกลิ่นอายพลังของผู้ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนในมุมอับสายตาได้ไม่ยาก

ต่อให้พวกมันจะซ่อนตัวดีเลิศถึงเพียงใด หากด่านพลังไม่เหนือกว่าต้วนหลิงเทียนมากจริงๆ ย่อมไม่มีวันเล็ดรอดเนตรเทวะของต้วนหลิงเทียนได้เลย