ตอนที่ 255 เหยียบเรือสองแคม

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 255 เหยียบเรือสองแคม

“เจ้าบอกเรื่องใดแก่พระราชบุตรเขย”

น้ำเสียงของเซียวเฉิงเหวินอ่อนโยนเหมือนคุยเรื่องทั่วไป

แต่องค์หญิงติ้งเถากลัวมาก ทันใดนั้นนางก็ไม่กล้าพูด

นางกลัวว่าหากพูดออกมา นางจะตายอย่างแน่นอน

เหมือนเถาชีที่ตายอย่างไร้เสียง

ตัวของนางสั่นเทา ท่าทางอ่อนแอ

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเย้ยหยันออกมา เขาเดินไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าของนาง

เขายื่นมือบีบคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้น

“เจ้ารักหลิวเป่าผิงเสียจริง เวลานี้ยังไม่ลืมคิดแทนเขา เจ้าลองทายดู หากเขารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เขาจะทำอย่างไร”

องค์หญิงติ้งเถาจับแขนเสื้อของเซียวเฉิงเหวินเอาไว้ ร้องไห้อ้อนวอน “เสด็จพี่สอง ข้าผิดไปแล้ว ข้ายอมรับโทษ ข้าขอร้องท่านอย่าไปหาเขา เขาไม่ผิด เขาไม่ได้ทำสิ่งใด”

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม พลันหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ซับน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน

“ดูเจ้าร้องไห้จนใบหน้าเปื้อนไปหมดแล้ว ยังมีความสง่าขององค์หญิงที่ใดกัน มา เจ้าบอกข้าก่อน เจ้าพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดเรื่องใดกับหลิวเป่าผิงบ้าง พูดให้ละเอียด คำถามเดิมข้าไม่อยากถามเป็นครั้งที่สี่ ดังนั้น เจ้าต้องคว้าโอกาสเอาไว้”

องค์หญิงติ้งเถาร้องไห้โฮจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ใบหน้าเปรอะเปื้อน สภาพน่าอนาถ ภายในใจทุกข์ทรมาน ยากเกินจะอธิบาย

เซียวเฉิงเหวินไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

องค์หญิงติ้งเถารู้ว่าวันนี้ตนเองจบสิ้นแล้ว

สุดท้าย นางจำเป็นต้องพูดความจริงออกมา “ข้าบอกเขาเรื่องการตายของเถาชี รวมทั้งการคาดเดาของข้า”

เซียวเฉิงเหวินเม้มปากยิ้ม แต่สายตากลับเย็นชาอย่างมาก

เขาไม่พอใจอย่างมากจริงๆ

เวลานี้ เขาแทบจะระเบิด

เขาบีบแก้มขององค์หญิงติ้งเถา บีบจนแก้มของนางเปลี่ยนรูป

“เจ้าไม่มีสมอง หรือปากไม่มีหูรูด สิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด เจ้าเติบโตในราชวงศ์ รู้หลักการนี้ตั้งแต่เด็ก เหตุใดจึงตั้งใจทำผิด”

องค์หญิงติ้งเถาอ้าปาก ไม่พูดสิ่งใด

เซียวเฉิงเหวินยิ้มเสียดสี “ในใจของเจ้า ข้ากับเสด็จแม่เป็นศัตรูของเจ้า เชื่อถือไม่ได้ แต่กับคนนอกอย่างหลิวเป่าผิง เจ้ากลับควักหัวใจให้เขา เจ้ารู้หรือไม่ว่าภายในใจเขาคิดสิ่งใดอยู่ คำพูดที่เขาพูดกับเจ้ามีความจริงเท็จมากน้อยเพียงใด เจ้าแยกออกหรือไม่ เพื่อชายเพียงผู้เดียว เจ้าสามารถทรยศได้แม้แต่คนที่มีสายเลือดเดียวกัน เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก”

องค์หญิงติ้งเถาไม่รู้เอาความกล้ามาจากที่ใด นางโต้แย้งเสียงดัง “ท่านมีสายเลือดเดียวกับข้าก็จริง แต่ท่านไม่เคยเป็นห่วงข้า ท่านมีแต่จะข่มขู่ข้า รังแกข้า หรืออาจจะฆ่าข้าในสักวัน ท่านปฏิบัติต่อข้าเหมือนศัตรู เหตุใดข้าจึงต้องเชื่อใจท่าน

พระราชบุตรเขยดูแย่ในสายตาท่านเพียงใด แต่เขาจริงใจกับข้า เขาเป็นห่วงข้า ดูแลข้า…อยู่กับเขา ข้าสัมผัสได้ถึงความสุขและความพึงพอใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้พวกท่านไม่เคยให้ข้า แต่เขาให้ข้าอย่างเต็มที่”

ฮ่าๆๆ …

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเสียงดัง

เขาผิดหวัง โกรธเคือง เสียดายอย่างมาก

การมีน้องสาวที่โง่เขลาเป็นประสบการณ์อย่างไร

เขาอยากฆ่าคน!

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสี “คำพูดอ่อนหวานไม่กี่คำก็ทำให้เจ้าสูญเสียการตัดสินใจพื้นฐานไป แม้แต่คนในครอบครัวก็กล้าทรยศ ยังโทษว่าพวกข้าใจแคบต่อเจ้า ติ้งเถาเอ๋ยติ้งเถา หากข้ากับเสด็จแม่ใจแคบกับเจ้าจริง เจ้าคิดว่าเจ้าจะอยู่รอดถึงวันนี้หรือ

ตั้งแต่เล็กจนโต เจ้าก่อเรื่องมากมายเพียงใด เจ้าจำได้หรือไม่ ทุกครั้งที่เจ้าก่อเรื่อง ผู้ใดจัดการให้เจ้า ผู้ใดปกป้องเจ้าต่อหน้าเสด็จพ่อ ผู้ใดช่วยเหลือเจ้า เจ้าลืมไปหมดแล้วใช่หรือไม่

เจ้าจำได้เพียงหลิวเป่าผิงดีต่อเจ้า แต่จำไม่ได้ว่าคนในครอบครัวดีต่อเจ้า จำไม่ได้ว่าทุกคนเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด เจ้าช่างเป็นคนเนรคุณอย่างแท้จริง มีชีวิตอยู่อย่างไร้หัวใจ ก่อนหน้านี้เสด็จแม่ยังทรงตักเตือนไม่ให้ข้าทำให้เจ้าหวาดกลัว แต่ดูจากเวลานี้แล้ว ที่ผ่านมาคงใจดีกับเจ้ามากเกินไปจนทำให้เจ้าไม่รู้ดีชั่ว”

“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่ฟัง ท่านกำลังหลอกข้า ท่านต้องหลอกข้าอย่างแน่นอน”

องค์หญิงติ้งเถาปิดหูของตนเอง ทั้งตัวสั่นเทา สีหน้าซีดเผือด

คำตำหนิของเสด็จพี่สองเซียวเฉิงเหวิน หากมันเป็นความจริง นางไม่กลายเป็นตัวตลกหรือ

นางไม่เชื่อ นางไม่มีวันเชื่อ

นางส่ายหน้าระรัว ไม่อยากฟังสิ่งใดทั้งสิ้น

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเสียงเย็น “ปีสองปีนี้จวนองค์หญิงเปลี่ยนคนไปมากน้อยเท่าใด เจ้ารู้หรือไม่ สาวรับใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายเจ้าเปลี่ยนไปกี่คน เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าไม่เคยคิดหรือ จวนองค์หญิงที่เคยมั่นคง ภายในหนึ่งปีก็เปลี่ยนเพียงไม่กี่คน หลังจากหลิวเป่าผิงเข้าไปอยู่แล้วจึงมีการเปลี่ยนคนเป็นประจำ คนที่ถูกเปลี่ยนไปอยู่ที่ใด เจ้าเคยถามหรือไม่”

องค์หญิงติ้งเถาอ้าปาก ไม่เปล่งเสียงออกมา

นางสับสนเล็กน้อย

เซียวเฉิงเหวินเผยสีหน้าเย้ยหยัน “ติ้งเถาเอ๋ยติ้งเถา เมื่อใดเจ้าจึงจะหัดใช้สมองคิดปัญหา เจ้าใช้แต่ความรู้สึก ตั้งแต่เล็กจนโต ความรู้สึกของเจ้าไม่เคยถูกสักครั้ง เจ้าไม่รู้เรื่องนี้เลยหรือ

เจ้าใช้เพียงความรู้สึกในการเชื่อใจหลิวเป่าผิง แม้แต่แม่นมที่ปรนนิบัติเจ้าเกือบยี่สิบปี เจ้าก็เปลี่ยนเพราะเชื่อคำพูดของเขา มโนธรรมของเจ้าอยู่ที่ใด ความรักและความเชื่อใจตลอดยี่สิบปียังไม่อาจเทียบสามีเพียงไม่กี่เดือนของเจ้า เจ้าช่างเหลวไหลเสียจริง

ไม่มีผู้ใดควบคุมเจ้า เจ้าก็ไร้ความเกรงกลัว ทำตามอำเภอใจ อย่างไรก็เป็นคนของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะทำอย่างไร ข้าไม่สนใจ แต่เจ้าไม่ควรนำความลับของพวกเราไปบอกแก่หลิวเป่าผิง อีกทั้งข้ายังเคยเตือนเจ้า เจ้าบอกมาว่าข้าควรลงโทษเจ้าอย่างไร”

“ข้าๆๆ พี่สอง พระราชบุตรเขยเป็นคนดี ท่านจะใส่ร้ายเขาไม่ได้! เขาจริงใจต่อข้า เขาไม่ได้ร้ายเหมือนที่ท่านพูด”

ถึงเวลานี้แล้ว องค์หญิงติ้งเถายังมีแต่พระราชบุตรเขยทั้งใจ ไม่คำนึงถึงตัวเองแม้แต่น้อย

นางจมปลักลงไปแล้วจริงๆ

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเย้ยหยัน “หลิวเป่าผิงเป็นคนอย่างไร ข้ารู้ดีกว่าเจ้า เจ้าลองเดาดู เมื่อเขารู้เรื่องของเถาชีแล้ว เขาจะทำอย่างไร”

“เขาไม่มีทางพูดออกไป เขาจะรักษาความลับอย่างแน่นอน”

เหลวไหล!

เซียวเฉิงเหวินโกรธจนหัวเราะออกมา

เวลานี้ ประตูตำหนักถูกเปิดออก

เฟ่ยกงกงเดินเข้ามาจากด้านนอก

เขากวาดตามององค์หญิงติ้งเถา จากนั้นเดินมาข้างกายขององค์ชายสองเซียวเฉิงเหวิน กระซิบข้างหู “องค์ชาย พระราชบุตรเขยหลิวมา รออยู่นอกประตูตำหนักเว่ยยาง”

เซียวเฉิงเหวินเลิกคิ้วยิ้ม “บอกเขาว่าข้าไม่ว่าง ไม่พบเขา”

เฟ่ยกงกงลังเล พลางพูดต่อ “เขาบอกหากองค์ชายไม่ทรงพบเขา เขาจะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

สีหน้าของเซียวเฉิงเหวินดำทะมึน “เขาบังอาจนัก! กล้าข่มขู่ข้า ให้คนจับตาดูติ้งเถาเอาไว้ ข้าจะไปพบเขา”

พูดจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อจากไป

องค์หญิงติ้งเถาทำหน้าฉงน

บทสนทนาระหว่างเสด็จพี่สองและเฟ่ยกงกง นางฟังไม่เข้าใจแม้แต่ประโยคเดียว

ผู้ใดมา

เสด็จพี่จะทรงไปพบผู้ใด

บรรยากาศระหว่างเซียวเฉิงเหวินกับหลิวเป่าผิงไม่ดีนัก

เซียวเฉิงเหวินพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเกลียดการถูกข่มขู่ที่สุด! พระราชบุตรเขยพูดจาระวังหน่อย”

หลิวเป่าผิงสีหน้าเรียบเฉย “ขอบพระทัยองค์ชายสองที่ทรงตักเตือน คราวหน้าข้าจะระมัดระวัง องค์หญิงติ้งเถาก็ทรงอยู่ในตำหนักเว่ยยางใช่หรือไม่ สู้เชิญนางออกมาเสียเถิด จวนองค์หญิงขาดนางไม่ได้”

เซียวเฉิงเหวินยิ้มอย่างมีนัย “ไม่คิดว่าเจ้าจะออกหน้าแทนติ้งเถา หาได้ยากนัก!”

หลิวเป่าผิงกะพริบตา “ข้ากับองค์หญิงติ้งเถาเป็นสามีภรรยากัน นางมีความลำบาก ข้าย่อมต้องช่วยเหลือนาง”

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้าหรือ” เซียวเฉิงเหวินยิ้มเสียดสี

ใช้คำพูดหลอกลวงผู้คนมาหลอกลวงเขา ไร้เหตุผลเอาเสียจริง

หลิวเป่าผิงไม่กังวลแม้แต่น้อย เขามีความกล้าหาญอย่างมาก

“ในเมื่อองค์ชายสองทรงอยากฟังความจริง ข้าก็จะพูดความจริง ข้าเป็นพระราชบุตรเขย แต่ก่อนอื่นข้าต้องมีภรรยาเป็นองค์หญิง หากองค์หญิงติ้งเถาสิ้นพระชนม์ ข้าจะยังเป็นพระราชบุตรเขยได้หรือ เพื่อฐานะของพระราชบุตรเขย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องปกป้ององค์หญิงติ้งเถา”

“เจ้าคิดว่าข้าจะเสียสติจนฆ่าติ้งเถา?”

“องค์ชายทรงเข้าพระทัยผิดแล้ว ข้าแค่ป้องกันเอาไว้”

ป้องกันอันใดกัน

เซียวเฉิงเหวินยกถ้วยชาขึ้นเป่าหนึ่งที จากนั้นจิบหนึ่งคำ

ชาเป็นชาที่ดี เพียงแต่อารมณ์ในเวลานี้ไม่เหมาะกับการลิ้มรสชา

เขาถามอย่างตรงไปตรงมา “เจ้าคิดจะทำอันใด”

“องค์ชายกำลังทรงถามเรื่องเกี่ยวกับการตายของเถาชี ข้าจะใช้ประโยชน์อย่างไร ใช่หรือไม่”

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะ ไม่ตอบโต้

หลิวเป่าผิงหัวเราะ “คงต้องดูความจริงใจขององค์ชายแล้ว”

เซียวเฉิงเหวินค้อนเขาหนึ่งที “ไม่กลัวข้ากำจัดเจ้าหรือ”

“กลัว! ดังนั้นข้าจึงมาตำหนักเว่ยยางรับองค์หญิงติ้งเถากลับจวนเพื่อแสดงความจริงใจ เพียงแค่เงื่อนไขขององค์ชายดีเพียงพอ ความร่วมมือระหว่างท่านกับข้า แต่ก่อนเป็นอย่างไรยังคงเป็นเช่นนั้น”

“การแอบพบหน้าของเจ้ากับเซียวอี้มีเจตนาไม่ประสงค์ดี บัญชีนี้ข้าก็คงคิดกับเจ้าได้ใช่หรือไม่ ด้านหนึ่งเจ้าร่วมมือกับข้า อีกด้านหนึ่งก็มีการติดต่อกับเซียวอี้ เจ้ากำลังเหยียบเรือสองแคม ระวังเรือจะล่ม!”

หลิวเป่าผิงเก้อ

เขายิ้มเก้อ พลันกระแอมไอเสียงเบา “ไม่มีเรื่องใดปิดบังองค์ชายสองได้เลยเสียจริง ข้ากับเซียวอี้รู้จักกันเมื่อหลายปีก่อน ข้าพบหน้ากับเขาเป็นเพียงการพบหน้าของสหายเก่า ไม่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือใดๆ”

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะออกมา

บนหน้าราวกับเขียนว่า เจ้าคิดว่าข้าโง่ยอมให้เจ้าหลอกหรือ

หลิวเป่าผิงบีบจมูก ยิ่งเก้อเข้าไปใหญ่

องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินเจรจาด้วยไม่ง่ายเลย

“องค์ชายทรงมีเงื่อนไขอย่างไร จึงจะยอมปล่อยองค์หญิงติ้งเถา”

“เจ้าวางใจ ติ้งเถาเป็นน้องสาวของข้า ข้าไม่มีทางทำอันใดนาง อย่างมากก็แค่สั่งสอนให้นางจดจำ ระยะนี้ให้นางสำนึกผิดอยู่ในวังหลวง เมื่อนางสำนึกได้แล้ว ข้าย่อมจะให้คนส่งนางกลับจวนองค์หญิง”

“องค์ชายไม่ทรงยอมประนีประนอม?”

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเย้ยหยัน “หลิวเป่าผิง ต่อหน้าเจ้าข้าไม่ต้องโกหก วันนี้เจ้าเข้าวังหลวงมา เจ้าลองถามใจตัวเองดู เจ้ามาเพื่อติ้งเถาจริงหรือ เจ้ามาเพื่อแสดงบทบาทของสามีต่างหาก”

“ข้ายอมแสดงบทบาทก็เพราะข้าให้ความสำคัญกับคู่ครองของตนเองเพียงพอ หากข้าไม่ให้ความสำคัญ ข้าย่อมไม่ต้องแสดง”

หลิวเป่าผิงพูดอย่างเปิดเผย

เขาช่าง ‘รักใคร่ฉันสามีภรรยา’ เสียจริง

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะเสียเย็น “เดินทางปลอดภัย! ควบคุมปากของเจ้าให้ดี มิฉะนั้นเรื่องก่อนหน้านี้ถือเป็นโมฆะ เมื่อถึงเวลา เจ้ากับเซียวอี้ ข้าจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”

หลิวเป่าผิงลุกขึ้น ยกมือขอทูลลา

หลังจากเดินไปหลายก้าว เขาก็หันหน้ากลับมา “ขอบพระทัยองค์ชายที่ทรงยอมถอนสายสืบในจวนองค์หญิงออกไปทั้งหมด ข้าสงสัยยิ่งนัก องค์ชายมีกำลังคนมากน้อยเพียงใด เงินมาจากที่ใด เสบียงปีละสองพันหาบของเยียนอวิ๋นเกอคงไม่พอกินใช่หรือไม่!”

เซียวเฉิงเหวินยิ้มอย่างมีนัย “กองกำลังลับของเจ้าหลิวเป่าผิงหลบซ่อนตัวอยู่นอกเมืองหลวงสามร้อยลี้ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะส่งคนไปสยบค่ายของเจ้าในวันหนึ่ง”

หลิวเป่าผิงผงะด้วยความตะลึง “ได้! องค์ชายทรงถือหมากเหนือกว่า ข้าสู้ไม่ได้ ขอตัว!”

โธ่เอ๊ย คนแซ่เซียวล้วนเป็นคนโหด!

——————-