เฉินกัง คร่ำครวญเล็กน้อยและพูดขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็ให้เธอเข้าไป!”
“ฮ่าฮ่า,พี่เฉิน ตัดสินใจได้ถูกแล้ว พรุ่งนี้ฝ่าบาทย่อมตอบแทนท่านอย่างแน่นอน!”ลิโป้ ยิ้มและหันไปมอง ชูฉี ก่อนที่จะพูดขึ้น”เข้าไป!”
ชูฉี ได้เดินเข้าไปข้างในด้วยท่าทางสิ้นหวัง
ทันทีที่ ชูฉี เข้าไป ลู่เฟิงก็สัมผัสได้ เขาได้ขมวดคิ้วและกล่าวถามอย่างแผ่วเบา”ใครให้เจ้าเข้ามา?”
ชูฉี ไม่ได้ตอบ แต่เดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเขาและเปลื้องผ้าต่อหน้าลู่เฟิง
ในไม่ช้าเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบก็เผยออกมา
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ของลู่เฟิงที่ทำให้เขารู้เลือดลมพลุ่งพล่านขนาดนี้
ท้ายที่สุดเขาก็ยังเป็นบุรุษเพศ เมื่อได้เห็นฉากนี้หากไม่มีปฏิกิริยานี่สิถึงจะแปลก
แม้ว่าในใจของเขาจะพลันคิดอย่างอื่นแต่ร่างกายส่วนร่างกลับตอบสนองโดยสัญชาตญาณ เขามองไปที่ ชูฉีและกล่าวถามอีกครั้ง”ใครให้เจ้าเข้ามา?”
“ลิโป้!”
ชูฉี ได้กระซิบบอกและเดินเข้ามาด้านหน้าของลู่เฟิง
“เจ้าออกไปเถอะ”ลู่เฟิงได้ตอบกลับ
“ไป?”
ชูฉี รู้สึกตกตะลึงและมองไปที่ ลู่เฟิงอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะเป็น สาวน้อย คนนึง แต่เธอก็ยังสามารถบอกปฏิกิริยาของอีกฝ่ายได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ ลู่เฟิง กลับคิดจะปล่อยตัวเองไป?
ที่เธอหารู้ไม่ในเวลานี้คือ ลู่เฟิง กำลังดุด่า ลิโป้ ในใจ ให้ตายเถอะ คิดจะส่งสาวสวยเข้ามาก็ควรต้องดูสถานการณ์หน่อยไม่ใช่หรือไง?
ชูฉี คนนี้ เขาคือนที่สั่งฆ่าพี่ชายและบิดาแท้ ๆ ของเธอไป จนถึงตอนนี้เธอไม่มีความภักดีให้กับตัวเอง และ ทำไมเจ้าถึงกล้าส่งเธอมาที่นี่?
ลู่เฟิง ด่า ลิโป้ ในใจ
เขาไม่รู้จะพูดยังไงดี นี่มันไม่ต่างจากการยื่นมีดให้ศัตรูฆ่าชัด ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้แม้เขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหากไม่ระวังและอีกฝ่ายเผลอทำร้ายเขาขึ้นมาล่ะ?
จะพูดก็พูดเถอะ ถ้าคิดจะส่งสตรีเข้ามา ทำไมไม่ส่ง หนิงหยุนเอ๋อร์ ที่ดูมีพิษภัยน้อยกว่ามา
ก่อนหน้านี้ บางที หนิงหยุนเอ๋อร์ อาจจะมีความคิดที่จะจัดการกับเขา แต่หลังจากถูก ชูจิน ขาย เธอก็คงไม่หลงเหลือความคิดเหล่านั้น
“ฝ่าบาท พระองค์ กลัวถูกหม่อมฉันลอบทำร้ายหรือไม่?”
จู่ ๆ ชูฉี ก็มองไปที่ ลู่เฟิงและพูดอย่างเหน็บแนม”พระองค์ ไม่กลัวแม้แต่นิกายดาบวิญญาณ แต่กลับกลายเป็นว่า พระองค์เกรงกลัวหม่อมฉันที่เป็นเพียงสตรีอ่อนแอตัวเล็ก ๆ คนนึงหรือไม่?”
“หืม?”
ลู่เฟิง มองไปที่ ชูฉี และหัวเราะเบา ๆ “เดิมข้าวางแผนจะไม่ทำอะไรกับเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าอยู่ในจุดนี้ถ้าข้าไม่ทำอะไรเลย ข้าก็คงไม่นับเป็นบุรุษแล้ว”
ด้วยเหตุนี้ ลู่เฟิง จึงลุกขึ้น และอุ้ม ชูฉี ไปที่เตียง ไม่ไกล
เขาได้กด ชูฉี ลงบนเตียง และ กระซิบด้วยท่าทีหื่นกระหาย”ไหนเจ้าลองพูดอีกทีสิ?”
“ข้า…”
“ข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะฆ่าข้า”ลู่เฟิง ยกยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะค้อมศีรษะลงไปแนบหูของเธอและกระซิบ”เจ้าคงคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องปิ่นปักผมที่นำติดตัวลงไปในน้ำด้วยใช่หรือไม่?”
“ท่าน…”
ก่อนที่ อีกฝ่ายจะพูดจบ ลู่เฟิง ก็ได้ดึงปิ่นปักผมของเธอออกมาจากนั้นก็ยกมันขึ้นและกล่าวยิ้มเบา ๆ “หรือเจ้าคิดว่าปิ่้นปักผมอันเดียวจะสามารถฆ่าข้าได้ ไม่สิ เจ้าคงไม่คิดเช่นนั้น เจ้าคงนำมันมาฆ่าตัวตายกระมัง?”
“หม่อมฉันยอมตายดีกว่าถูกทำให้แปดเปื้อน!”ชูฉี มองไปที่ ลู่เฟิง และตอบกลับ
“งั้นเหรอ?”
ลู่เฟิงหัวเราะเบา ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่กล้าฆ่าตัวตายหรอก ถ้าเจ้ากล้าทำจริง ๆ เจ้าคงทำไปนานแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าอยากจะทำข้าก็จะไม่ให้เจ้าทำอยู่ดี”
“ท่าน…ท่าน…”
“แม้ว่าเจ้าจะไม่หวงแหนชีวิตตัวเองก็ไม่เป็นอะไร แต่ทว่า ตอนนี้เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า ข้าคือคนที่กำหนดชะตาชีวิตของเจ้า!”
“ท่าน…”
ชูฉี ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลู่เฟิง ก็ได้ประกบปากของเธอเอาไว้แล้ว
สิ่งต่อไปคงไม่ยากที่จะอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น ชูฉี ได้มองไปที่ คาบเลือดบนเตียง ดวงตากลมเล็ก ๆ สองดวงดไคลอไปด้วยน้ำตาจนไม่อาจสงบจิตใจได้
เธอมองไปที่ ลู่เฟิง ที่กำลังนอนหลับบนเตียง ก่อนที่จะยกมือขึ้นและทำท่าจะบีบคอเขา
แต่เมื่อเธอวางมือได้ครึ่งหนึ่งเธอก็หยุดลง
ในใจของเธออยากจะฆ่าผู้ชายคนนี้ คนที่ทำให้เธอแปดเปื้อน
แต่เธอไม่เคยฆ่าใครมาก่อนและไม่รู้วิธีฆ่าคน
ชายคนนี้ ได้บีบบังคับเธอทำให้เธอแปดเปื้อน แน่นอนว่าในใจของเธอย่อมไม่สามารถยอมรับมันได้แต่สุดท้าย…
“เจ้ากล้ามีความคิดที่จะฆ่าสามีของตนเองเลยงั้นหรือ?”ลู่เฟิงลืมตาตื่นขึ้นมาและมองไปที่ ชูฉี ด้วยรอยยิ้ม
แน่นอนว่า สายตาของเขาจดจ้องมองไปที่เรือนร่างที่ผ่านการกระทำชำเราเมื่อคืน
มันเป็นค่ำคืนที่สุดแสนจะวิเศษมาก
ชูฉี ได้มองไปที่ ลู่เฟิง อย่างขุ่นเคือง เธอยื่นมือออกไปหยิบปิ่นปักผมที่วางข้าง ๆ เขาและคิดจะแทงคอตัวเองตาย
“ถ้าเจ้าตายไปแล้ว แม่ของเจ้าล่ะ?”ลู่เฟิงยิ้มออกมา
“ท่าน…ท่านบอกว่าหลังจากที่ข้าพาท่านไปที่คลังสมบัติลับของอาณาจักรซีหยางและท่านจะไม่ฆ่าท่านแม่ของข้า!”ชูฉี จ้องมองไปที่ ลู่เฟิงด้วยความโกรธ
“ใช่ข้าพูดแบบนั้น!”ลู่เฟิงพยักหน้าออกมา”แต่ข้าไม่เคยบอกว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงของข้า!”
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ ชูฉี และเชยคางของเธอขึ้น”เจ้าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ข้ามีอะไรด้วยในโลกใบนี้ เจ้าคิดว่าหลังจากทำเรื่องแบบนั้นไปแล้ว ข้าจะยินยอมให้เจ้าตายงั้นหรือ?”
“ท่วงท่าลีลาอันไร้เดียงสาของเจ้าเมื่อคืนนี้ทำให้ข้ารู้สึกชอบใจนัก”
ติ๊ง
ปิ่นปักผมในมือของ ชูฉี ได้ตกลงบนเตียง จากนั้นมันก็ร่วงลงสู่พื้นและถ้อยคำที่เด่นชัดก็ออกมาจากคมปากของชูฉี”ท่านมันปีศาจ!”
ลู่เฟิงรู้สึกโล่งใจที่ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดจะฆ่าตัวตายอีกต่อไป
อย่างที่ ลู่เฟิงบอก ชูฉี เป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตของเขาและเขาไม่ต้องการให้เธอฆ่าตัวตายจากไป
ถ้าพูดถึงว่าหากเธอฆ่าตัวตายในวันถัดไปมันก็คงจะเป็นเรื่องน่าหดหู่อย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของ ชูฉี ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”ปีศาจ เป็นถ้อยคำที่น่าสนใจ รู้หรือไม่ว่าข้ายังมีอีกหลาย ๆ ชื่อ จักรพรรดิผู้อ่อนแอ,ทรราช จักรพรรดิบ้าตัณหา มีผู้คนนับไม่ถ้วนตั้งชื่อเหล่านี้ให้กับข้า แต่ข้าหาได้สนใจ”
“เพราะในสายตาของพวกเขา ข้าจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาคิดทั้งนั้น”
เขายื่นมือไปเกี่ยวคางของ ชูฉี ขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะยิ้มที่มุมปาก”ตั้งแต่ที่เจ้าเสียตัวให้ข้าเมื่อคืนนี้ โอกาสที่เจ้าจะตายก็ได้หมดไปแล้ว เก็บปิ่นปักผมนั่นของเจ้าไว้เถอะ แต่ข้าบอกเลยว่าเจ้าคงไม่สามารถมีความคิดเหล่านั้นอีกแล้ว และ อีกอย่าง เจ้าบอกว่าข้าเป็นปีศาจ เจ้าเคยเห็นปีศาจหน้าตาหล่อเหลาและใจดีเหมือนกับข้าหรือไม่?”
“ท่าน…”
“สาวน้อย จากนี้ไปเจ้าจะกลายเป็นสาวใช้ของข้า ในอนาคต เจ้าอาจจะได้กลายเป็นนางสนม แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเจ้า”