บทที่ 216 เพื่อพวกพ้องที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา เพื่อเธอ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

เวลานี้ ข่าวแพร่ไปทั่วเมืองหนิงเฉิงแล้ว

ตามรายงาน วันนี้ตอนเช้าวันกำหนดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของTimes Group สือมูเฉินที่เป็นCEOไม่มาเข้าร่วม กลับมีข่าวใหญ่หนึ่งหลุดออกมา

ก่อนหน้านี้ สือมูเฉินมีหุ้นมากกว่าสือมูชิงไม่น้อย ดังนั้นเลยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของTimes

แต่วันก่อนหุ้นของสือมูชิงเพิ่มขึ้น บวกกับบัญชีของสือมูเฉินปล่อยหุ้นออกมา5% เพราะฉะนั้นวันนี้สัดส่วนหุ้นของ

สือมูชิงมีมากกว่าสือมูเฉิน1.3% กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของTimes Group

ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องของเงินหรืออสังหาริมทรัพย์ พาดหัวข่าวต่างคาดเดาสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงหุ้นครั้งนี้ จะเปลี่ยนCEOของTimes Groupหรือไม่

และหลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการประกาศสงครามระหว่างพวกคนรวยที่ไร้เลือดอย่างเงียบๆหรือไม่ ?

แต่สือมูเฉินที่เป็นตัวหลัก กลับเงียบไม่ออกมาพูดแม้แต่นิดเดียว และพวกนักข่าวต่างมารอด้านนอกTimes Group ก็เห็นแค่สือมูชิง ไม่เจอสือมูเฉินแม้แต่เงา

และด้วยเพราะสือมูเฉินไม่เข้าประชุม เรื่องเลยรุนแรงขึ้น ถึงขนาดที่ผู้บริหารระดับสูงจำนวนไม่น้อยของTimes Group เริ่มวางแผนสร้างไมตรีกับสือมูชิง

หน้าประตูลานเล็กๆที่ทรุดโทรมในชานเมืองหนิงเฉิง รถตู้คันหนึ่งจอดอยู่ หลานเล่อซินถูกคนพาลงมา พูดเสียงแหลม “พวกแกเป็นใคร ? พาฉันมาที่นี่ทำไม?!”

“เล่อซิน!” หูซิ่วจูเรียกออกมาจากมุมหนึ่ง จ่ายเงินให้รถตู้อย่างไม่พอใจ

“แม่!” หลานเล่อซินไม่อยากเชื่อตาตัวเอง “มีพ่อแม่ที่ไหนลักพาลูกกัน?!”

“พวกเราไม่ใช้ไม้นี้ แกจะยอมไหม?” หูซิ่วจูพูดอย่างไม่พอใจ “ก่อนหน้านี้ให้แกมากับพวกฉัน แกไม่ฟัง ยังบอกจะไปอยู่กับทางสือมูเฉิน พวกฉันไม่ใช้วิธีการสักหน่อย ลูกในท้องแก ตอนนี้ยังไม่รู้จะมีชีวิตรอดอยู่ไหม!”

หลานเล่อซินรูม่านตาหดลง “หมายความว่าไง?”

“เล่อซิน ตอนนี้ภายในTimes Groupแตกคอกัน แกมองไม่ออกเหรอ?” หลานไห่ฮว๋าพูด“ก่อนหน้านี้พวกฉันให้แกกลับมาดูแลลูกในท้อง ก็เพราะกลัวหลานเสี่ยวถางหาวิธี ทำให้แกแท้งลูก แกไม่มีเครื่องรางของขลัง แกว่าสือมูเฉินจะมองแกไหม?”

หลานเล่อซินส่ายหน้า “เสี่ยวถางไม่เล่นงานลูกของฉันหรอก”

“เหอะๆ ใจคนยากแท้หยั่งถึง! เด็กในท้องแกเป็นของแฟนหนุ่มของเธอ แกรู้สึกว่าเธอจะให้เด็กที่เป็นภัยคุกคามตำแหน่งของเธอคลอดออกมา?” หูซิ่วจูพูด“แกก็อยู่ที่นี่ดูแลลูกในท้องดีๆ รอท้องโตแล้ว พวกเราค่อยหาโอกาส ออกไปอย่างสง่าผ่าเผย!”

หลานเล่อซินใจสั่น “แม่ ความหมายของแม่คือ…”

“Times Groupไม่ว่าใครกุมอำนาจ สือมูเฉินถือหุ้น40%ขึ้นไป ก็บ่งบอกถึงศักยภาพการบริหารของเขา!”หลานไห่ฮว๋าพูด “เพราะฉะนั้น แกจำเป็นต้องปกป้องลูกในท้อง ถึงจะมีโอกาสได้ทุกอย่างมา! อีกทั้งพวกเรายังหาโอกาสเวลาปรากฏตัวที่ดีที่สุด”

“พ่อแม่ พวกพ่อว่า เขาจะคำนึงถึงพวกเราแม่ลูกจริงเหรอ?” หลานเล่อซินพูดอย่างไม่มั่นใจ

“สือมูเฉินเป็นคนรักครอบครัว ขอแค่เป็นลูกเขา เขาจะไม่สนใจได้ยังไง?” หลานไห่ฮว๋ายิ้มอย่างเย้ยหยัน พูดจบ จู่ ๆ ก็พูดจริงจังอีกครั้ง “เล่อซิน แน่ใจว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา?”

หลานเล่อซิน พยักหน้า “เป็นเขาแน่นอน ไม่ผิดอย่างแน่นอน!”

“งั้นก็ดี!” หูซิ่วจูยิ้มออกมาด้วยความโลภ “เล่อซิน ช่วงเวลานี้ แกอยู่บ้านดูแลลูกในท้องดีๆ พวกฉันจะแย่งตำแหน่งข้างตัวสือมูเฉินเดิมที่ควรเป็นของแกกลับมาแทนแกให้ได้!”

และเวลานี้ ข้างเตียงผู้ป่วย หลานเสี่ยวถางมองไปทางคุณหมอ “คุณหมอ ทำไมมูเฉินยังไม่ฟื้นอีก?”

“ส่วนศีรษะของคุณสือถูกตีอย่างแรง มีเลือดคั่งในศีรษะ ต้องรับการผ่าตัด” คุณหมอว่า “แต่การผ่าตัดมีความเสี่ยง ทุกท่านพิจารณาให้ดีก่อน”

หลานเสี่ยวถางรับหนังสือเซ็นยินยอมที่คุณหมอยื่นมา แค่ดูไปหน้าเดียวก็ไม่กล้าอ่านต่อแล้ว

หลานเซี่ยวเฉิงที่อยู่ข้างๆดึงมันจากมือของเธอ คิ้วขมวดกันแน่นอย่างห้ามไม่ได้

“พี่สะใภ้ การผ่าตัดนี้แม้จะเสี่ยงมาก แต่จำเป็นต้องทำ” หยานชิงเจ๋อที่อยู่ด้านข้างพูดออกมา “ถ้าหากไม่ทำ ผลที่ตามมาอาจทำให้ไม่ฟื้นมาอีก แต่ว่า ถ้าหากทำแล้ว แม้ว่าจะก่อให้เกิดผลที่ตามมามากมาย แต่สามารถกลับเป็นปกติได้ถึง60%”

แม้รู้ว่าหยานชิงเจ๋อพูดถูก แต่หลานเสี่ยวถางมือที่จับหนังสือยินยอมสั่นอย่างรุนแรง เหมือนจะไม่สามารถเซ็นชื่อได้

“เสี่ยวถาง ไม่ต้องกลัว” หลานเซี่ยวเฉิงที่อยู่ด้านข้างตบบ่าของเธอเบาๆ “มูเฉินต้องฟื้นขึ้นมา ลูกเชื่อใจเขา เขาสามารถรับรู้ได้!”

มืออีกข้างของหลานเสี่ยวถางกำแน่น ราวกับเล็บจะฝั่งเข้าไปในฝ่ามือ สุดท้ายเธอก็พยักหน้า เซ็นชื่อตัวเองอย่างทุลักทุเล

“เรียบร้อย หมอเฉพาะทางที่ดีที่สุดของเราเตรียมพร้อมแล้ว เตรียมผ่าตัดทันที!” คุณหมอรับหนังสือเซ็นยินยอม ก้าวเท้ายาวไปเตรียมตัวที่ห้องผ่าตัด

“พี่สะใภ้ ผมมีคำพูดจะพูดกับพี่เฉิน” หยานชิงเจ๋อพูดกับหลานเสี่ยวถางด้วยน้ำตานองหน้า

“อืม” หลานเสี่ยวถางและหลานเซี่ยวเฉิงเดินจากห้องคนไข้ไปด้วยกัน

“พี่เฉิน นี่เป็นสงครามที่ยากที่สุดที่พวกเรารู้จักกันมา ผมกับพนักงานทั้งหมดของDRรอพี่ตื่นมาต่อสู้ด้วยกัน” หยานชิงเจ๋อกระซิบข้างหูสือมูเฉิน “ที่จริงยังมีอีกคนหนึ่ง รู้สึกเหมือนพวกเรา”

เขาพูดต่อ“เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นท่าทางแบบนั้นของผู้หญิงคนหนึ่ง พี่รู้ไหม? ผมนั่งบนเฮลิคอปเตอร์ ใช้กล้องส่องทางไกลก็เห็นเธอแล้ว เธอตัวมอมแมม พยุงพี่พิงบนตัวเธอ ป้อนลูกแพร์ผิวขรุขระที่ปกติพวกเราไม่ชายตาแลเข้าไปในปากพี่”

“พี่ไม่ตอบสนองเลย เธอกอดพี่ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง และตอนที่เห็นพวกเรา ก็ยิ้มเหมือนคนบ้า” หยานชิงเจ๋อถอนหายใจพูด “หลังจากพี่ถึงโรงพยาบาล พวกเราเห็นว่าชีวิตของพี่ถูกดูแลอย่างดี เพราะเธอยังป้อนปลาครึ่งตัวให้พี่ เธอว่า ผู้หญิงคนเดียวอย่างเธอ จับปลาจากแม่น้ำที่เย็นในฤดูใบไม้ร่วงได้ยังไง?”

หยานชิงเจ๋อพูดออกมาทีละคำ “เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ก็ต้องฟื้นขึ้นมา เพื่อความทุ่มเทหลายปีมานี้ของพี่ และเพื่อพวกพ้องที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ยังมีเพื่อเธอ!”

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นตัวตรง ไม่มองสือมูเฉินอีกเดินจากห้องผู้ป่วยไปเลย

———การอ่านที่ใหม่และฮิตที่สุด บัญชีสาธารณะที่ค้นหาในวีแชท [Cherry Reading] หายไปจากรถติดตาม———

พยาบาลเดินมาฆ่าเชื้อให้สือมูเฉิน และเข็นเขาเข้าห้องผ่าตัด

ด้านนอก หยานชิงเจ๋อเห็นหลานเสี่ยวถางท่าทางไม่ดี อดจะพูดออกมาไม่ได้ “พี่สะใภ้ พี่หลับสักตื่นดีไหม ให้คุณหมอให้น้ำเกลือพี่หน่อย?”

หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ฉันเพิ่งตรวจส่วนศีรษะแล้วไม่มีปัญหา สองวันมานี้ฉันแค่กินน้อยไปหน่อย ไม่เป็นไรมาก”

หยานชิงเจ๋อพยักหน้า “ตอนนี้ผมให้ซีหยู่กับสือจิ่นมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ ผมกับพวกDRยังมีเรื่องต้องจัดการ เกรงจะรอจนพี่เฉินฟื้นมาไม่ได้”

หลานเสี่ยวถางนึกถึงสายโทรเข้ามาก่อนหน้านี้ของเขา แล้วถามว่า “มีคนมุ่งร้ายกับมูเฉินใช่ไหม?”

หยานชิงเจ๋อมองทางเธอ หลังจากลังเลหลายวินาที ตัดสินใจเปิดปากพูด “พี่สะใภ้ พี่เข้าร่วมกับพวกเราเถอะ!”

“หา?” หลานเสี่ยวถางอึ้งเล็กน้อย

“พี่เฉินพูดตลอดว่าคุณมีพรสวรรค์มาก และเรื่องนี้เพราะพี่เฉินไม่ได้อนุญาต พวกเราก็แพ้แล้ว ต้องรีบกู้ขึ้นมา เพิ่มมาคนหนึ่งพลังก็เพิ่มขึ้นตาม” หยานชิงเจ๋อพูด “แต่ว่าอาจจะลำบากมากหน่อย”

“ถางถาง ลูกไว้ไหม?” หลานเซี่ยวเฉิงพูดอย่างเป็นห่วง

หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “พ่อ หนูไม่เป็นไร พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนู ตอนนี้หนูจะไปทำงาน พ่อกลับบ้านไปพักผ่อนนะ

อีกเดี๋ยวให้เพื่อนมูเฉินอยู่ก็พอ ทางพ่อยังมีเรื่องอีกมากมาย ทุกคนไม่ต้องเฝ้าอยู่ที่นี่”

หลานเซี่ยวเฉิงเห็นเธอยืนกราน ก็ทำได้แค่รับปาก หลังจากที่รอซูสือจิ่นมากถึงก็จากไป

หลานเสี่ยวถางกับหยานชิงเจ๋อกำชับกับซูสือจิ่นสองสามคำ ก็หาห้องเดี่ยวในโรงพยาบาลชั้นอื่น ประชุมทางไกลกับทางพวกDR

นี่เป็นครั้งแรกที่หลานเสี่ยวถางเข้าร่วมประชุมแบบนี้ เพราะเมื่อกี้ เธอได้ยินมาว่าตอนนี้หุ้นของTimes Groupเกิดปัญหา แต่กลับเพิ่งรู้ ปัญหาใหญ่ตอนนี้ที่เผชิญไม่ใช่เรื่องหุ้นของสือมูเฉิน

และก่อนหน้านี้สือมูเฉินสร้างฐานข้อมูลหนึ่ง กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกเจาะ

เดิมแค่ให้เขาเปิดระบบป้องกัน บางทีก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่พวกเขาอยู่ที่บนเกาะร้างมาสองวัน พลาดโอกาสทั้งหมดไป

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หลานเสี่ยวถางเข้าใจที่ไปที่มาแล้ว แต่โปรแกรมไวรัสแบบนี้เธอเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก ดังนั้นในเวลาสั้นๆ หาวิธีรับมือไม่ออกเลย

ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงแล้ว และการประชุมผู้บริหารระดับสูงของTimes Groupได้จบลง ตำแหน่งCEO ห่างสือมูชิงเป็นเวลาแค่คืนเดียว

ในโรงพยาบาลเขตทหาร คุณหมอดึงแมสออก ถอนหายใจยาวๆหนึ่งครั้ง

มือถือของหลานเสี่ยวถางดังขึ้น เธอเงยหน้าจากตัวเลขที่ซับซ้อน รับสาย“สวัสดีค่ะ”

“คุณหลาน การผ่าตัดของคุณสือจบลงแล้ว” คุณหมอพูด “การผ่าตัดประสบความสำเร็จมาก แต่ว่าเพราะยาชายังไม่หมดฤทธิ์ ตอนนี้เขายังไม่ตื่น ในขณะเดียวกันแม้ว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ เป็นไปได้ว่าเขาจะหมดสติไปหลายวันถึงจะฟื้น เพราะทั้งหมดนี่ต้องขึ้นกับสภาวะร่างกายของคนไข้”

หลานเสี่ยวถางเบาใจลงเกือบครึ่ง เธอเปิดปากพูด “ค่ะ ฉันจะไปห้องผู้ป่วยเดี๋ยวนี้!”

มาถึงห้องผู้ป่วย หลานเสี่ยวถางยังกอดคอมไว้

เธอเดินไปถึงข้างตัวสือมูเฉิน มองเขาครู่หนึ่งเงียบๆ แล้วสูดหายใจลึกๆ “มูเฉิน คุณวางใจพักผ่อนให้สบาย พวกเราสามารถกำจัดไวรัสออกจากฐานข้อมูลได้แน่นอน!”

ในห้องผู้ป่วยเงียบมากทั้งคืน ไร้แสงสว่าง แต่ในห้องชุดกลับมีสว่างทั้งคืน

เดิมหลานเสี่ยวถางอยู่บนเกาะก็พักผ่อนไม่เพียงพอ ตอนนี้ยังไม่ได้นอนทั้งคืน หัวหนักจนเหมือนกับกดคอแทบหัก

เธอกัดปลายปากกา ในหัวเอาแต่คิดปัญหาที่รบกวนเธออยู่ รู้สึกเหมือนชั่วพริบตาสามารถจับความทางได้เล็กน้อย แต่กลับคิดยังไงก็คิดไม่ออก

เธอใช้ความคิดจนกลัดกลุ้มใจ ลุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เดินไปด้านหน้าหน้าต่าง

เวลานี้ ขอบฟ้าแดงจากที่ไกลๆ มองพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า

และเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เมืองที่สีเทาก็ปกคลุมด้วยแสงสีทอง แสงสว่างสีท้องส่องเข้ามา ทำให้ตาพร่ามัวเล็กน้อย หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะยื่นมือมาบังแสงแดดไว้

ชั่วพริบตานั้น เส้นสีทองโผล่ตรงหน้าเธอ ความคิดหนึ่งเข้ามาในสมอง เธอหันหลังกลับทันที พูดเสียงดังกับหยานชิงเจ๋อที่อยู่ตรงหน้าจอ “ชิงเจ๋อ ฉันรู้ว่าจะแก้ไขยังไงแล้ว!”