ตอนที่ 243 หลีกเลี่ยง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

องค์​ชาย​ใหญ่​ฟัง​แล้ว​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ดี​ ​ได้​แต่​ก้มหน้า​ลงมา​กัด​ซาลาเปา​ม้วน​ของ​เขา​เงียบๆ​ ​ต่อไป

เฉินลั​่ว​เอง​ก็​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​ ​รู้สึก​ว่า​ตำหนัก​องค์​ชาย​ใหญ่​ทำอาหาร​เช้า​ได้​ไม่เลว​นัก​ ​หม่าน​โถ​วท​อด​นั่น​ทอด​ได้​กรอบ​นัก​ ​จึง​กินตาม​ไป​อีก​ครึ่ง​ลูก​ ​จากนั้น​เรียก​บ่าว​รับใช้​เข้ามา​ปรนนิบัติ​เขา​ล้างมือ​และ​บ้วนปาก

องค์​ชาย​ใหญ่​มอง​แล้ว​ถอนหายใจ

เฉินลั​่ว​ไม่​บีบคั้น​เขา​ ​กล่าวว่า​ ​“​อย่างไร​เสีย​ข้า​ก็​ใช้ชีวิต​พอแล้ว​ ​ข้า​ไม่สน​ว่า​เจ้า​คิด​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​พบ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​หาก​เขา​ไม่​อยาก​เป็น​รัชทายาท​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่า​เสด็จ​ลุง​จะ​ทำ​อย่างไร​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ยัง​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​อีก​หลาย​เสียง​ด้วย

การกระทำ​ของ​เขา​ไม่​เหมือน​ทำตาม​แผนการ​แต่​เหมือน​คน​ดื้อรั้น​มากกว่า

ความกังวล​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​พลัน​มลาย​หาย​ไป​พร้อมกับ​เสียง​ ป๊อก​ ที่​ดัง​ขึ้น​ใน​หัว​ ​ยัง​มีความรู้สึก​ร่วมกับ​เฉินลั​่ว​เพราะ​มี​ศัตรู​คนเดียว​กัน​อีกด้วย

จริง​ด้วย​!​ ​เหตุใด​เขา​ต้อง​เป็น​หุ่น​ที่​ถูก​ชัก​ด้วย​ ​ฮ่องเต้​จับ​เขา​ไป​วาง​ตำแหน่ง​ไหน​ ​เขา​ก็​ต้อง​นั่ง​ตำแหน่ง​นั้น

เขา​ถูกตา​มล​่า​สังหาร​ ​ถูก​ปรักปรำ​ ​ถูก​ไล่ออก​จาก​งาน​ ​ปาก​พูดว่า​เป็น​องค์​ชาย​ใหญ่​ก็​จริง​ ​ทว่า​ชีวิต​ย่ำแย่​กว่า​ลูก​อนุ​ของ​คน​ทั่วไป​เสียอีก

ยัง​มี​อะไร​ที่​ย่ำแย่​ไป​กว่านี​้​อีก​หรือ

เขา​นึกถึง​บุตรชายคนโต​ที่​อายุ​เจ็ด​ขวบ​แล้วแต่​เพราะ​หา​อาจารย์​ที่​เหมาะสม​ไม่ได้​ ​ก็​เลย​จำต้อง​ร่ำเรียน​กับ​ผู้ช่วย​ของ​ตน​ขึ้น​มา​แล้ว​หัวใจ​พลัน​ร้อนรุ่ม​เหมือน​ไฟ​กำลัง​แผดเผา

ทว่า​เฉินลั​่​วก​ลับ​สาด​น้ำมัน​ลง​ไป​ในเวลานี้​อีก​ ​กล่าว​อย่าง​เยียบ​เย็น​ว่า​ ​“​เจ้า​ต้องการ​ไป​ศาล​บรรพชน​หรือไม่​ ​หาก​เจ้า​ไม่สน​ใจ​ ​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ไป​ยุ​องค์​ชาย​เจ็ด​แทน​แล้ว​”

ศาล​บรรพชน​ดูแล​เรื่องสำคัญ​ของ​ราชวงศ์​อย่าง​งานแต่ง​ ​งานศพ​และ​การ​แต่งตั้ง​ยศ​ต่างๆ​ ​เทียบเท่า​กับ​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ของ​ราชวงศ์​ ​แต่​ผู้นำ​ของ​ศาล​บรรพชน​อย่าง​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ทั้ง​ไม่มี​ทายาท​ชาย​ ​ครอบครัว​ของ​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ต่าง​เป็นกังวล​ว่า​หลัง​สิ้น​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​แล้ว​จะ​ถูก​ถอด​ยศ​ ​ใบหน้า​ทุกคน​ต่าง​เจือ​ความหดหู่​เอาไว้​หลาย​ส่วน​ ​ภาวนา​ให้​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​อีก​สัก​สอง​สาม​ปี

ถ้าหาก​มี​องค์​ชาย​ยอม​ไป​อยู่​ศาล​บรรพชน​ ​และ​ดูแล​จัดการ​ได้ดี​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ถึงขั้น​ได้รับ​การ​อุปการะ​ไป​อยู่​ตำหนัก​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ก็​เป็นได้

องค์​ชาย​ใหญ่​ตา​เป็นประกาย

เมื่อก่อน​ทุกคน​ต่าง​จับจ้อง​แต่​ตำแหน่ง​รัชทายาท​ ​ไม่มีใคร​ยอม​คิดถึง​ทิศทาง​อื่น​ ​เจ้า​ไม่​สู้​ก็​ถอย​ไป​ก่อน​ ​ไม่เช่นนั้น​จะ​มี​อนาคต​ดี​ๆ​ ​อะไร​ได้

เขา​อด​โพล่ง​ออกมา​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เหตุใด​ก่อนหน้านี้​เจ้า​ถึง​ไม่​บอกอ​งค​์​ชาย​สี่​”

องค์​ชาย​สี่​สนิทสนม​กับ​เฉินลั​่ว​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​และ​เพราะเหตุนี้​เขา​ถึง​พูดจา​มีน​้ำ​หนัก​ต่อหน้า​องค์​ชาย​รอง

เฉินลั​่ว​เบ้​ปาก​เล็กน้อย​ ​มอง​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​หยัน​โดย​ไม่​กล่าว​อะไร

องค์​ชาย​ใหญ่​หน้าร้อน​ผ่าว

หาก​องค์​ชาย​สี่​ไม่​ประจบ​เฉินลั​่ว​ ​เขา​จะ​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​องค์​ชาย​รอง​ได้​อย่างไร

เขา​อด​พึมพำ​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เขา​ออกจาก​เมืองหลวง​เมื่อใด​”

องค์​ชาย​สี่​เสกสม​รส​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ ​ได้รับแต่งตั้ง​เป็นก​๋​วง​หย่วน​โหว​ ​ที่ดิน​ศักดินา​อยู่​ที่​สู่​จง

ดินแดน​ภูเขา​สูง​แม่น้ำ​ยาว​ ​หลังจาก​ไป​แล้ว​เกรง​ว่า​ตลอดชีวิต​ที่​เหลือ​คง​ไม่​ค่อย​ได้​กลับมา​แล้ว

เฉินลั​่​วก​ล่า​วอ​ย่าง​ไม่​เกรงใจ​แม้แต่น้อย​ว่า​ ​“​คนที​่​ออก​ไป​แล้ว​ย่อม​มี​วิถี​ของ​คนที​่​ออก​ไป​แล้ว​ ​ต่อให้​ศาล​บรรพชน​ไม่ดี​อย่างไร​ ​แต่​ก็​อยู่​จิง​เฉิง​ ​เจ้า​ไม่เห็น​มัน​อยู่​ใน​สายตา​ ​แต่​ผู้อื่น​ขอ​ยัง​ขอมา​ไม่ได้​”

องค์​ชาย​ใหญ่​อด​ลังเลใจ​เล็กน้อย​ไม่ได้​ ​กล่าวว่า​ ​“​กลัว​แต่ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ไม่ยอมรับ​ปาก​”

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ประชดประชัน​ว่า​ ​“​เรื่อง​ที่​ผู้อื่น​ขอร้อง​เขา​ ​เขา​เคย​รับปาก​อย่าง​ขาวสะอาด​และ​รวดเร็ว​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​ ​หาก​อยาก​ให้​เขา​รับปาก​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​ต้อง​รอ​!​”

องค์​ชาย​ใหญ่​ดูกระ​ดาก​อาย​เล็กน้อย​ ​ปล่อย​ให้​ข้า​รับใช้​เช็ดมือ​ให้​เขา​ ​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​ตะวันตก​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​กับ​เฉินลั​่ว

หาก​เขา​เป็น​คน​เด็ดขาด​ผู้​หนึ่ง​ ​ก็​คง​ไม่​เป็น​องค์​ชาย​ใหญ่​มานาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้

เฉินลั​่ว​ไม่ได้​คาดหวัง​อะไร​กับ​เขา​นัก​ ​ก็​แค่​คิด​ว่า​ขอ​เพียง​ฮ่องเต้​ไม่​เป็นสุข​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ดวง​นี้​ก็​คล้าย​จะ​มีความสุข​ขึ้น​มา​หลาย​ส่วน

ส่วน​เรื่อง​ใคร​จะ​ไป​อยู่​ศาล​บรรพชน​ ​ใคร​จะ​เป็น​ผู้นำ​ตระกูล​นั้น​ ​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​เขา​ด้วย

มิใช่​บรรพบุรุษ​ของ​เขา​เสียหน่อย

แต่​เรื่อง​นี้​ทำให้​องค์​ชาย​ใหญ่​สนใจ​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ไม่รู้​ว่า​ใคร​เสนอ​ความคิด​ให้​เขา​ ​เขา​ให้​ผู้ช่วย​คนสนิท​ไป​พบ​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ ​ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​ ​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ก็​ขอลา​ออก​ ​ยัง​บอก​ด้วยว่า​สุขภาพ​ของ​ตน​ไม่ดี​แล้ว​ ​อยาก​ใช้เวลา​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​นี้​มีความสุข​อยู่​กับ​ครอบครัว​ ​ให้​ฮ่องเต้​ยก​องค์​ชาย​ใหญ่​ให้​เขา​ ​มาสื​บท​อด​ตำแหน่ง​หนิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ต่อ​ ​ยัง​โน้มน้าว​ฮ่องเต้​ใน​ที่ประชุม​ของ​ราชสำนัก​อีกด้วย​ว่า​ ​“​เช่นนี้​เจ้า​ก็​ไม่ต้อง​ลำบากใจ​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ฝ่ามือ​หรือ​หลัง​มือ​ก็​ล้วนแล้วแต่​เป็น​เลือดเนื้อ​ ​พวกเรา​ล้วน​เข้าใจ​ได้​ ​หาก​ถาม​ว่า​ข้า​ชอบ​องค์​ชาย​ใหญ่​หรือเปล่า​ ​ก็​ไม่​ถึงขนาด​นั้น​ ​หลัก​ๆ​ ​แล้ว​ข้า​เห็น​ว่า​หลานชาย​คนโต​ของ​พวกเขา​ไม่เลว​นัก​ ​สุขภาพ​แข็งแรง​ ​ร่างกาย​ทนทาน​ ​สำหรับ​ข้า​แล้ว​สิ่ง​นี้​ถือว่า​ดีมาก​”

กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ทำนอง​ว่า​ข้า​ทน​ไม่ได้​ที่​เจ้า​ต้อง​ลำบากใจ​ ​ก็​เลย​ช่วย​แก้ปัญหา​เรื่อง​องค์​ชาย​ใหญ่​ให้​เจ้า​ ​ทำให้​ฮ่องเต้​พิโรธ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​จน​เป็นลม​ล้ม​ลง​ไป

เฉินลั​่ว​ถือโอกาส​นี้​ลอบ​ส่งสัญญาณ​บอกอ​งค​์​ชาย​เจ็ด​ว่า​ ​“​เรื่อง​ที่​มี​ความมั่นใจ​ถึง​กระทำ​ได้​ ​หาก​ไม่มี​ความมั่นใจ​ ​อย่า​ขยับเขยื้อน​เป็น​ดีที​่​สุด​ ​หรือไม่ก็​ให้​ผู้อื่น​ทำให้​เจ้า​ ​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​เรื่อง​ที่ว่า​อนาคต​ทำให้​ผู้อื่น​ขุ่นเคือง​ใจ​แล้ว​อยาก​อธิบาย​แต่​ก็​หา​ข้ออ้าง​ไม่ได้​”​

หาก​จนถึง​ตอนนี้​แล้ว​องค์​ชาย​เจ็ด​ยัง​ดู​ไม่​ออก​ว่า​พระ​บิดา​วางแผนการ​เพื่อ​เขา​อย่างไรบ้าง​ ​เขา​ก็​คง​เป็น​คนโง่​ผู้​หนึ่ง​ ​และ​ฮ่องเต้​คง​ไม่มีทาง​แต่งตั้ง​เขา​เป็น​รัชทายาท​ ​แต่​กว่า​เขา​จะ​รู้​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว

ถ้าหาก​รู้​เร็ว​กว่านี​้​สัก​สอง​สาม​ปี​ ​หรือไม่​สุขภาพ​ของ​ฮ่องเต้​ยังดี​กว่านี​้​สักหน่อย​ ​อยู่​ช่วย​สนับสนุน​เขา​ได้​อีก​สัก​สอง​สาม​ปี​ ​ให้​เขา​ค่อยๆ​ ​จัดวาง​ตำแหน่ง​ใน​ราชสำนัก​ ​ก็​คง​ไม่​ถึงขั้น​ถูกกระทำ​เหมือน​อย่างที่​เป็นอยู่​ตอนนี้​ ​กล่าวคือ​ ​เหล่า​ขุนนาง​หาก​ไม่​เลือก​ข้าง​ ​ก็​ไปร​่ว​มมื​อกับ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​โดย​ไม่ทราบ​สาเหตุ​ว่า​เหตุใด​ถึง​ยอม​ทำ​เช่นนั้น​ ​ใน​ราชสำนัก​หยิบ​เอาเรื่อง​ ​‘​รากฐาน​ของ​แผ่นดิน​’​ ​ขึ้น​มา​พูด​ ​เรียกร้อง​อย่างหนัก​แน่น​ให้​ฮ่องเต้​หาก​มีโอ​รส​จาก​ชายา​เอก​ก็​แต่งตั้ง​โอรส​จาก​ชายา​เอก​ ​หาก​ไม่มี​โอรส​จาก​ชายา​เอก​ให้​แต่งตั้ง​โอรส​องค์​โต

ช่วงนี้​พวกเขา​สร้าง​ความวุ่นวาย​จน​ฮ่องเต้​ปวดเศียรเวียนเกล้า​ไป​หมด​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​สาดโคลน​ใส่​ฮองเฮา​ ​เพื่อ​หาเรื่อง​เปลี่ยนตัว​ฮองเฮา​ทำให้​องค์​ชาย​เจ็ด​กลายเป็น​โอรส​จาก​ชายา​เอก​อย่าง​ชอบธรรม​เลย

ตอนที่​เฉินลั​่ว​มาหา​เขา​เพื่อ​พูด​เรื่อง​นี้​นั้น​ ​เขา​นิ่งเงียบ​ไป​เนิ่นนาน​ ​ไม่รู้​ว่า​สุดท้าย​ตัวเอง​ควร​เดินหน้า​หนึ่ง​ก้าว​หรือ​ควร​ถอย​หนึ่ง​ก้าว​ดี

ตาม​หลัก​แล้ว​ ​เขา​ควร​เดินหน้า​หนึ่ง​ก้าว

เสด็จ​พ่อ​ทำ​เพื่อ​เขา​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​หาก​เขา​ถอย​ ​สิ่ง​ที่​ฮ่องเต้​ทำ​มาทั​้ง​หมด​จะ​ยัง​มีความหมาย​อะไร

แต่​ถ้า​เขา​เดินหน้า​หนึ่ง​ก้าว​ ​หาก​สุดท้าย​แล้ว​ตำแหน่ง​รัชทายาท​ตกเป็นของ​องค์​ชาย​รอง​ ​เขา​จะ​ยัง​มี​อนาคต​อะไร​เหลืออยู่​อีก

ด้าน​องค์​ชาย​เจ็ด​กระวนกระวาย​ไม่รู้​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​ทว่า​องค์​ชาย​รอง​กลับ​ได้รับ​รายงาน​ลับ​ ​ได้​รู้​ว่า​เหตุใด​เฉินลั​่ว​ถึง​ไป​เยี่ยม​องค์​ชาย​เจ็ด

เขา​ซาบซึ้งใจ​ใน​ตัว​เฉินลั​่ว​ยิ่งนัก​ ​รู้สึก​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​คน​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​กลับ​ชิด​ใกล้​กันที่​สุด

ต่อให้​เฉินลั​่​วจะ​เอาแต่ใจ​อย่างไร​ ​แต่​ใน​ยาม​คับขัน​ ​ยังคง​ยืน​อยู่​ฝั่ง​เดียว​กับ​เขา​ ​ยังคง​ยินดี​วิ่งเต้น​เพื่อ​เขา

เขา​รู้สึก​ชิด​ใกล้​กับ​เฉินลั​่ว​ยิ่งกว่า​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​เสียอีก​ ​หลัก​ๆ​ ​เป็น​เพราะ​เขา​สัมผัส​ได้​รางๆ​ ​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​แล้ว​ว่า​ฮ่องเต้​หา​ได้​โปรดปราน​ตน​อย่างที่​แสดงออก​มา​ ​แม้น​กล่าวว่า​บิดา​เข้มงวด​กำเนิด​บุตร​กตัญญู​ ​แต่​ฮ่องเต้​ไม่​เพียง​เข้มงวดกวดขัน​เขา​เท่านั้น​ ​ยัง​รุนแรง​มาก​อีกด้วย​ ​ซึ่ง​คล้าย​กับ​ที่​เจิ​้​นกั​๋​วกง​เฉิน​อวี​๋​ปฏิบัติ​กับ​เฉินลั​่ว

เวลา​ที่​เขา​กับ​เฉินลั​่​วนั​่ง​ฟัง​อาจารย์​สอนหนังสือ​อยู่​ข้างๆ​ ​กัน​นั้น​ ​บางครั้ง​เขา​รู้สึก​ว่า​เขา​กับ​เฉินลั​่ว​ต่างหาก​ที่​เป็น​เหมือน​พี่น้อง​กัน​จริงๆ​ ​ต่าง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​คล้าย​กัน​ ​มีประสบการณ์​ใกล้เคียง​กัน​ ​ไม่มี​อะไร​เหลือเชื่อ​ไป​กว่า​พวกเขา​แล้ว

คนนอก​มอง​พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​ดู​สูงส่ง​มาก​เพียงใด​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​พวกเขา​ล้วน​เป็น​คนที​่​ไม่ได้​รับ​ความรัก​จาก​บิดา

เขา​ไม่​ติดต่อ​ไปหา​เฉินลั​่ว​ ​และ​ไม่ได้​คุย​กับ​เฉินลั​่ว​สัก​ประโยค​ด้วย

เขา​คิด​ว่า​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​น่าจะ​เหมือน​เขา​ ​เห็น​เขา​เป็น​ดั่ง​พี่น้อง​แท้ๆ​ ​ถึง​จะ​ถูก

เมื่อก่อน​ฮ่องเต้​ก็​แค่​ไม่​อยาก​ให้​ตระกูลปั​๋ว​มาควบ​คุม​เขา​ ​ยืน​อยู่​บน​บ่า​ของ​เขา​เพลิดเพลิน​กับ​เกียรติ​และ​ลาภ​ยศอย่าง​ผู้​สูงส่ง​ ​ด้วยเหตุนี้​ก็​เลย​ไม่​อยาก​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​รอง​เป็น​รัชทายาท​ ​ภายหลัง​เขา​ค้นพบ​ว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​ฉลาด​มีไหวพริบ​กว่า​องค์​ชาย​รอง​ ​เข้าใจ​ผู้อื่น​มากกว่า​ ​แล้วก็​เข้าใจ​การกระทำ​ของ​เขา​มากกว่า​ ​จึง​รู้สึก​ว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​ต่างหาก​คือ​ตัวเลือก​รัชทายาท​ใน​อุดมคติ​ของ​เขา

ความคิด​ดังกล่าว​สิ้นหวัง​ยิ่งกว่า​สิ้นหวัง

จนถึง​บัดนี้​ ​แม้น​เขา​ยัง​รู้สึก​เช่น​เดิม​ว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​เหมาะสม​เป็น​รัชทายาท​มากกว่า​ ​แต่​เสียง​เรียกร้อง​ใน​ราชสำนัก​กับ​การ​คว่ำบาตร​ของ​เหล่า​ขุนนาง​กลับ​ทำให้​เขา​สิ้นหวัง​และ​ไร้​ทางเลือก

เขา​จึง​ยิ่ง​รู้สึก​รังเกียจ​มากขึ้น

เมื่อก่อน​ตระกูลปั​๋​วอ​ยาก​ให้​ใคร​เป็น​ฮ่องเต้​ก็​ให้​ผู้​นั้น​เป็น​ฮ่องเต้​ ​บัดนี้​ยัง​คิด​จะ​ควบคุม​การ​แต่งตั้ง​รัชทายาท​ของ​เขา​อีก

เขา​จึง​ยิ่ง​ไม่พอใจ​ใน​ตัว​องค์​ชาย​รอง​มากขึ้น

ฮ่องเต้​ประกาศ​ราชโองการ​ ​ต้องการ​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​รอง​เป็น​เล่อ​ซาน​โหว​ ​ตั้งใจ​ส่ง​เขา​ไป​อยู่​สู่​จง​ด้วย​อีก​คน

ตอนที่​เฉินลั​่ว​ได้ข่าว​เขา​กำลังจะ​ผลัด​อาภรณ์​เพื่อ​พักผ่อน​ ​เขา​เห็น​ว่า​อากาศ​ร้อน​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​ ​นึกได้​ว่า​เขา​มีบ​้าน​ตากอากาศ​สำหรับ​หลบ​ร้อน​อยู่​ที่​ภูเขา​ตะวันตก​หนึ่ง​หลัง​ ​จึง​นัด​คน​ตระกูล​หวัง​ไป​อยู่​ที่นั่น​ระยะ​หนึ่ง

ช่วงนี้​หวัง​เฉิน​กำลัง​วุ่น​เรื่อง​ส่ง​เสบียง​ให้​กองทัพ​ของ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​อยู่​ ​ไม่​อาจ​ออกจาก​เมืองหลวง​ได้​ ​จิน​ซื่อ​อยาก​ไป​ ​แต่​ก็​ไม่​วางใจ​ที่​ต้อง​ทิ้ง​สามี​ไว้​คนเดียว

หวัง​เฉิน​เห็นใจ​จิน​ซื่อ​ที่มา​ถึง​จิง​เฉิง​แล้ว​ไม่ได้​หยุดพัก​เลย​สักวัน​ ​หาก​ไม่​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ของ​ผู้อื่น​ ​ก็​ต้อง​จัดงาน​เลี้ยงรับรอง​ผู้อื่น​ ​จึง​หว่านล้อม​ให้​นาง​พา​หวัง​ซีกั​บบุ​ตร​ชาย​อีก​สอง​คน​ไป​อยู่​บ้านพักตากอากาศ​ที่​ภูเขา​ตะวันตก​ ​จะ​ได้​ให้​บุตรชาย​ทั้งสอง​ได้​เตรียมใจ​ด้วย​ ​เมื่อถึง​เดือน​เก้า​ ​ตั้งใจ​จะ​ให้​พวกเขา​ไป​เรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​ประจำ​ตระกูล​ของ​อวี​๋​จง​อี้

เฉินลั​่ว​เป็น​คน​ช่วย​ติดต่อ​เรื่อง​นี้​ให้

โชคดี​ที่​ตระกูล​หวัง​ต้องการ​ปกปิด​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวกเขา​กับ​เซี​่​ยสือ​ ​ประกอบกับ​ที่​สำนัก​ศึกษา​ประจำ​ตระกูล​ของ​อวี​๋​จง​อี้​มีมา​อย่าง​ยาวนาน​ ​อาจารย์ใหญ่​ของ​สำนัก​ศึกษา​คือ​อา​ของ​เขา​ท่าน​หนึ่ง​ที่​สอบผ่านจ​วี่​เห​ริน​แล้ว​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ก็​สอนสั่ง​นักเรียน​ดีมี​คุณภาพ​ออกมา​ไม่น้อย​ ​หวัง​เฉิน​จึง​ตอบรับ​อย่าง​ยินดี

เฉินลั​่ว​คิด​ว่า​เร็ว​ๆ​ ​นี้​อาจ​ต้อง​เข้า​วัง​อีก​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่​อาจ​ไป​ส่ง​หวัง​ซีที​่​บ้านพักตากอากาศ​แล้ว

เขา​รีบ​เขียนจดหมาย​ไป​ให้​หวัง​ซี​หนึ่ง​ฉบับ​ ​ให้​หวัง​ซีกับ​จิน​ซื่อ​ล่วงหน้า​ไป​ก่อน​ ​แล้ว​เขา​จะ​ตาม​ไป​เยี่ยม​พวก​นาง​ทีหลัง

ยัง​ให้​เฉิน​อวี​้​ที่​ไป​ส่งจดหมาย​กำชับ​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​ให้​พี่ใหญ่​ร่วมทาง​ไป​กับ​พวก​เจ้า​ด้วย​เป็น​ดีที​่​สุด​ ​เพราะ​เมื่อ​พระราช​โองการ​ประกาศ​ลงมา​แล้ว​ ​หาก​ใน​เมืองหลวง​เกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​ ​อยาก​หนี​ไป​ก็​คง​ไม่​ง่าย​แล้ว​”

ตระกูลปั​๋​ววาง​แผน​มา​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ ​จะ​ปล่อย​ให้​องค์​ชาย​รอง​ออกจาก​เมืองหลวง​ได้​อย่างไร​!

หวัง​ซี​เอง​ก็​ไม่​อาจ​รั้ง​อยู่​ต่อ​ได้​เช่นกัน

นาง​กลัว​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​กับ​พวก​นาง​แล้ว​จะ​ทำให้​เฉินลั​่ว​ต้อง​ลำบาก​มาดู​แล​พวก​นาง​ด้วย​ ​นาง​ให้​หวัง​สี่​นำ​จดหมาย​ไป​ส่ง​ให้​หวัง​เฉิน​ ​ให้​หวังห​มัว​มัว​ช่วย​จิน​ซื่อ​เก็บ​ข้าวของ​ใหม่​อีกครั้ง​ ​พก​ของมีค่า​ทั้งหมด​ติดตัว​ ​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ถาม​เฉิน​อวี​้​ว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​เล่า​”

เฉิน​อวี​้​เห็น​นาง​กับ​เฉินลั​่​วอ​ยู่​ด้วยกัน​มาตั​้ง​แต่ต้น​ ​ให้เกียรติ​หวัง​ซีป​ระ​หนึ่ง​เป็น​นาย​หญิง​ของ​ตัวเอง​ ​เป็นธรรมดา​ที่จะ​ยกย่อง​นาง​เพิ่มขึ้น​ ​ประสานมือ​กล่าวว่า​ ​“​ถึง​เวลา​จ่าง​กง​จู่​น่าจะ​เข้า​วัง​ ​ที่นั่น​ปลอดภัย​ที่สุด​แล้ว​ขอรับ​”

ไม่ว่า​ฮ่องเต้​กับ​ฮองเฮา​จะ​มี​ความขัดแย้ง​กัน​อย่างไร​ ​ก็​ไม่​อาจ​ตบ​ตี​กับ​จ่าง​กง​จู่​ก่อน​ได้​ ​แต่​ถ้า​จ่าง​กง​จู่​อยู่​นอก​วัง​ ​นั่น​ก็​พูด​ยาก​แล้ว

หวัง​ซี​รีบ​พยักหน้า​ ​ให้​ไป๋​จื่อ​ตกรางวัล​ให้​เฉิน​อวี​้​ ​รอ​เฉิน​อวี​้​กลับ​ไป​แล้ว​ ​ก็​รีบ​ให้​คน​ไป​เชิญ​ฉัง​เคอ​ที่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ถาม​นาง​ว่า​อยาก​ไป​อยู่​บ้านพัก​อากาศ​ที่​ภูเขา​ตะวันตก​สัก​ระยะ​หนึ่ง​หรือไม่

นาง​ไม่ได้​รอคำ​ตอบ​จาก​ฉัง​เคอ​ ​พอ​หวัง​เฉิน​เร่ง​กลับมา​ถึง​แล้ว​พวกเขา​ก็​ขึ้นรถ​ม้ามุ​่ง​หน้า​ออก​นอกเมือง​ ​เมื่อ​ออกจาก​เมือง​แล้ว​ถึง​รอ​อยู่​ที่​ร้าน​น้ำชา​ข้าง​ที่พัก​ม้า​ครู่หนึ่ง​ ​กระทั่ง​หลง​จู๊​ใหญ่​มาส​มทบ​แล้วก็​เดินทาง​ไป​บ้านพักตากอากาศ​ที่​ภูเขา​ตะวันตก​พร้อมกัน

บ้านพักตากอากาศ​ที่​ภูเขา​ตะวันตก​ใหญ่โต​มาก​ ​เป็นบ้า​นข​นาด​สาม​แถว​ห้า​ทางเข้า​พร้อมด้วย​สวนดอกไม้​ขนาดใหญ่​หนึ่ง​แห่ง​ ​สร้าง​อยู่​กลาง​หุบเขา​ ​ต้นไม้​หนาแน่น​อุดมสมบูรณ์​ ​ให้​ร่มเงา​ร่มรื่น

พ่อบ้าน​ของ​ที่นี่​บอก​พวกเขา​ว่า​ ​“​ด้าน​ซ้าย​เป็นบ้าน​ตากอากาศ​ของ​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​ ​ด้าน​ขวา​เป็น​ของ​เว​่​ยกั​๋​วกง​ ​ตอนนี้​ทั้งสอง​ครอบครัว​ยัง​ไม่มีใคร​มา​หลบ​ร้อน​ที่นี่​ ​หาก​คุณชาย​ทั้งสอง​ท่าน​อยาก​ไป​เล่น​อะไร​ก็​เล่น​ได้​เต็มที่​”

ราวกับว่า​หวัง​เจิ​้​นกับ​หวัง​ถิง​เป็น​เด็ก​อายุ​เจ็ด​แปด​ขวบ​ ​ที่​ยัง​ปีน​ต้นไม้​ไป​จับ​นก​ ​ลง​น้ำ​ไป​จับ​ปลา​อยู่​ก็​ไม่​ปาน

หวัง​ซี​ถู​จมูก​ ​ไล่​พ่อบ้าน​ของ​ที่นี่​ออก​ไป​ ​ต่าง​แยกย้าย​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

ผ่าน​ไป​สอง​ถึง​สาม​วัน​ฉัง​เคอ​ถึง​เดินทาง​มาถึง​ ​เวิน​เจิง​เป็น​คน​มาส​่ง​นาง​ ​เขา​มา​พบ​หวัง​ซี​อย่าง​รีบเร่ง​ครั้งหนึ่ง​ ​ทำความเคารพ​หวัง​ซีพ​ลาง​กล่าวว่า​ ​“​ขอบคุณ​น้องสาว​สกุล​หวัง​มาก​ ​คง​ต้อง​รบกวน​เจ้า​ช่วยดูแล​อา​เคอ​แล้ว​ ​รอ​ให้​ใน​เมือง​สงบ​ลง​แล้ว​ข้า​ค่อย​มารั​บนาง​”

แม้น​เป็น​พี่เขย​ ​ก็​ไม่​อาจ​สนิทสนม​มากเกินไป

หวัง​ซีทำ​ความเคารพ​ตอบ​ ​ให้​หวัง​สี่​ไป​ส่ง​เวิน​เจิง​ที่​ประตู​ ​ส่วน​นาง​ดึง​มือ​ฉัง​เคอ​พาก​ลับ​ไป​ที่​เรือน​พัก​ของ​ตัวเอง

………………………………………………………………..