ตอนพลบค่ำ เฉินฮวนฮวนกลับมาถึงบ้านตระกูลเฟิง
สองวันที่ผ่านมานี้ เกิดหลายสิ่งหลายอย่างขึ้นมากมาย ชีวิตของเธอก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน
อาทิตย์หน้าวันจันทร์ เธอก็จะเข้าร่วมฝึกอบรมอย่างเป็นทางการแล้ว
เธอหยุดทำงานที่ร้านชานมชั่วคราว เกาเหวินจ้างเด็กสาวชั้นปีหนึ่งมาทำงานพาร์ทไทม์แทนเธอแล้ว และเธอต้องจดจ่อกับการเตรียมตัวเข้ารับคัดเลือกในการฝึกอบรมครั้งนี้ด้วย
ด้วยเหตุนี้ เกาเหวินจึงโอนเงินโบนัสหนึ่งแสนหยวนให้เธอเป็นพิเศษ และบอกให้เธอใช้ซื้อเสื้อผ้าบ้าง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก…”
ในเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้ง จากนั้นเสียงของแม่บ้านหลี่ก็ดังขึ้น “นายหญิง ลงมาทานอาหารเย็นเถอะค่ะ”
“ค่ะ แม่บ้านหลี่” เฉินฮวนฮวนรีบเดินไปเปิดประตู แล้วลงไปชั้นล่างพร้อมกับแม่บ้านหลี่
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร เฟิงเหลยถิงก็นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะก่อนแล้ว ด้านข้างของเขาเป็นเฉินน่าน่า เฉินฮวนฮวนนั่งลงบนที่นั่งข้างๆ เฉินน่าน่า
“นายท่าน สวัสดีคอนค่ำค่ะ” เฉินฮวนฮวนกล่าวทักทายเฟิงเหลยถิง จากนั้นก็โบกมือกล่าว “สวัสดี” ทักทายเฉินน่าน่า
เหตุผลหลักคือเธอไม่รู้ว่าจะเรียกเฉินน่าน่าอย่างไร เรียกชื่อเธอโดยตรงก็ฟังดูไม่ค่อยดี ถึงอย่างไรเฉินน่าน่าก็เป็นแฟนสาวของนายท่านตระกูลเฟิง ทว่าเฉินน่าน่าอายุยังน้อย เธอไม่สามารถเรียกว่า “คุณย่า” ได้ ดังนั้นเธอเพียงกล่าวทักทายโดยทั่วไปเท่านั้น
“นายท่าน?” เมื่อเฟิงเหลยถิงได้ยินเธอเรียกเช่นนี้ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที ใบหน้าเผยให้เห็นความไม่พอใจ
ทันใดนั้น เฉินฮวนฮวนเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา ฝ่ามือทั้งสองข้างเริ่มเหงื่อออก เธอมองไปที่เฟิงเหลยถิงด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเผยให้เห็นความงุนงงเล็กน้อย
เธอไม่น่าจะเรียกผิดนะ? ทำไมนายท่านตระกูลเฟิงดูเหมือนไม่ค่อยชอบใจ
“ฮวนฮวน ไม่ใช่ว่าควรพูดใหม่เหรอ ทำไมเธอยังเรียกฉันว่านายท่าน สงสัยว่าฉันยังแก่ไม่พอใช่ไหม” เฟิงเหลยถิงรัวคำถามใส่เธอเป็นชุด
เมื่อเฉินฮวนฮวนคิดถึงเรื่องเมื่อวานตอนเช้า เรื่องที่นายท่านตระกูลเฟิงให้เธอแก้คำพูด เธอรีบพยักหน้า และเอ่ยเรียกขึ้นว่า “คุณปู่”
“เอ๊ะ!” เฟิงเหลยถิงตอบรับเสียงดัง แล้วหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
เพียงแต่ว่า ดวงตาอันเฉียบแหลมคู่นั้น แอบกลอกตาไปมาอยู่หลายครั้ง
เมื่อเห็นท่าทางชอบอกชอบใจของนายท่านตระกูลเฟิง เฉินฮวนฮวนก็ยิ้มขึ้นมา เธอรู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโส
“ใช่สิ ฮวนฮวน พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เธอว่างไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันไหม” เฉินน่าน่าหันมา ริมฝีปากแดงแย้มยิ้มเผยให้เห็นฟันขาวเรียงตัวสวย ก่อนจะเอ่ยถามเฉินฮวนฮวนด้วยรอยยิ้ม
เฉินฮวนฮวนมองเฉินน่าน่า ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงภาพที่เฉินน่าน่ามาเห็นเธอกับเฟิงหานชวนอยู่ด้วยกันในห้อง
จู่ๆ ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมา เธอไม่คิดเลยด้วยซ้ำ รีบพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ฉันว่าง ฉันว่าง!”
ตอนนี้ นายท่านตระกูลเฟิงดีกับเธอมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เรื่องนั้น ดังนั้นเฉินน่าน่าคงจะไม่ได้พูดเรื่องนั้นออกไป
วันพรุ่งนี้ เมื่อเธอและเฉินน่าน่าไปช้อปปิ้ง เธอต้องการคุยกับเฉินน่าน่าตามลำพัง
“ว้าว งั้นก็เยี่ยมเลย พรุ่งนี้เราไปช้อปปิ้งด้วยกันนะ!” เฉินน่าน่ากล่าวอย่างดีใจ
“โอเค” เฉินฮวนฮวนเอ่ยตอบ
……
หลังอาหารเย็น เฉินน่าน่าและเฟิงเหลยถิงกลับไปที่ห้องก่อนแล้ว
เฉินฮวนฮวนช่วยแม่บ้านหลี่เก็บกวาดห้องครัว แล้วกลับมาที่ห้องของตัวเอง
นับตั้งแต่เธอมาอยู่บ้านตระกูลเฟิง เฟิงเฉินเหยี่ยนก็ไม่เคยกลับมา แม้ว่าตอนนี้นายท่านตระกูลเฟิงกลับมาแล้ว เฟิงเฉินเหยี่ยนก็ไม่เคยกลับมาอยู่ที่นี่เลย
ดังนั้น หลังจากนี้ไปห้องนี้ก็จะเป็นของเธอเพียงคนเดียว
เธอรู้ว่า ตัวเองยังอยู่ในตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิง อันที่จริงระหว่างเธอกับเฟิงเฉินเหยี่ยนไม่ได้สนิทสนมอะไรกันเลย
ความจริงเป็นเช่นนี้ก็ดี เธอก็สบายใจ ไม่อย่างนั้นเธอและเฟิงเฉินเหยี่ยนต่างก็ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน หากบังคับให้อยู่ด้วยกัน ก็คงจะอึดอัดไม่น้อย
ชีวิตแต่งงานที่ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ก็ไม่เลวเลยทีเดียว
เฉินฮวนฮวนหยิบชุดนอนจากตู้เสื้อผ้า และรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ในที่สุดวันนี้ตอนเย็นเธอก็ไม่ต้องทำงานพาร์ทไทม์ เธอสามารถนอนเร็วขึ้นได้แล้ว
ขณะอาบน้ำ เฉินฮวนฮวนลูบสร้อยทองที่อยู่บนคอของตัวเอง
ตอนรับประทานอาหารมื้อเย็น เฟิงหานชวนไม่ได้กลับมา แม่บ้านหลี่บอกว่าเขาประชุมล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท เดิมทีเธออยากจะขอบคุณเขาอีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะเฟิงหานชวน ตอนนี้เธอก็ไม่ได้สร้อยของของคุณแม่เธอ
วันนี้เธอมีความสุขมาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาดหวังไว้
……
กลางดึก
ในช่วงเวลากำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น เฉินฮวนฮวนสัมผัสได้ถึงฝ่ามือบนใบหน้าของเธอ
เธอลืมตาขึ้นมาทันที ทว่าภายในห้องมืดสนิท แม้แต่แสงจากภายนอกก็ถูกผ้าม่านหนาทึบปิดบังไว้
วินาทีต่อมา มือบางของเธอถูกมือใหญ่กอบกุมเอาไว้ ทันใดนั้น เธอรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่ฝ่ามือ
นี่เป็นมือของผู้ชาย
“อาเหยี่ยน? อาเหยี่ยนเหรอ” เฉินฮวนฮวนรีบถามขึ้น
ดึกขนาดนี้แล้ว ผู้ชายที่ปรากฏตัวในห้องนี้ นอกจากเฟิงเฉินเหยี่ยนแล้ว ต้องไม่มีคนอื่นอย่างแน่นอน
เฟิงหานชวนชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา เขาเอื้อมมือไปประคองใบหน้าของเฉินฮวนฮวน แล้วก้มลงประกบปิดริมฝีปากของเธอ
การจุมพิตอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้เฉินฮวนฮวนตกตะลึงอยู่บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี
เธอรู้ว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนใช้การเรื่องนั้นไม่ได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำกิจกรรมระหว่างสามีภรรยาได้ ทว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นความใกล้ชิดทั่วไป เฟิงเฉินเหยี่ยนสามารถทำได้
เช่น การจูบหรือการกอด
เมื่อนึกถึงชายหนุ่มหน้าตาหล่อและสดใสคนนั้นกำลังจูบตัวเอง เฉินฮวนฮวนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเธอเต้นตึกตักสั่นไหว
เดิมทีเธอคิดว่า หลังจากนี้ไปเธอจะยึดห้องนี้มาเป็นของตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนจะกลับมาคืนนี้
เฟิงหานชวนใช้สองมือประคองใบหน้าของเฉินฮวนฮวน แล้วบรรจงจูบเธออย่างละเมียดละไม จูบนั้นอ่อนโยนอย่างมาก ราวกับกำลังปฏิบัติต่อเธออย่างสมบัติอันล้ำค่า
เฉินฮวนฮวนกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความประหม่า แม้ว่าหัวใจของเธอยังคงต่อต้านอยู่บ้าง ทว่าเธอรู้ว่าตัวเองไม่สามารถผลักเฟิงเฉินเหยี่ยนออกไปได้
ถึงอย่างไร ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเฟิงเฉินเหยี่ยน ภรรยาอย่างถูกต้องของเขา
เมื่อรับรู้ถึงอาการประหม่าของหญิงสาว ภายในร่างกายของเขาราวกับมีเปลวไฟอันร้อนแรง ทว่าเขายับยั้งเอาไว้ได้
ในสายตาของเฉินฮวนฮวน ตอนนี้เขาคือเฟิงเฉินเหยี่ยน ไม่ใช่เฟิงหานชวน
เฟิงเฉินเหยี่ยน ในสายตาของเธอเป็นคนใช้การไม่ได้ ดังนั้น เขาไม่สามารถทำอะไรกับเฉินฮวนฮวน
อีกอย่าง เขาก็ไม่อยากใช้สถานะของหลานชายตัวเองมาทำอะไรกับเฉินฮวนฮวน
เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาพบเธอ แต่เขากลับอดคิดถึงเธอไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงแอบเข้ามา แต่เธอกลับคิดว่าเขาเป็นเฟิงเฉินเหยี่ยน
“อื้อ…” เฉินฮวนฮวนถูกจูบจนแทบหายใจไม่ออก
เมื่อเฟิงเฉินเหยี่ยนได้ยินเสียงของเธอ เขารีบปล่อยเธอเป็นอิสระ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ แล้วค่อยจูบลงบนหน้าผากของเธอ
การกระทำของเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน เฉินฮวนฮวนไม่เคยสัมผัสจูบที่แสนอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน หัวสมองของเธอพร่ามัวไปหมด ทว่าเธอกลับรู้สึกวางใจที่ได้รับการดูแล
“อาเหยี่ยน คุณ…ทำไมจู่ๆ คุณกลับมา” แก้มทั้งสองข้างของเฉินฮวนฮวนขึ้นสีแดงระเรื่อ ทว่าในความมืด เธอรู้ว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนมองไม่เห็น
ทว่า เธอก็ยังรู้สึกเขินอายมาก
เฟิงหานชวนฟังออกว่า น้ำเสียงของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยความเขินอายอย่างมาก เขามองใบหน้าของเธอได้ไม่ชัดเจนนัก ทว่าเขาจินตนาการถึงพวงแก้มที่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อของเธอได้
เขาเอื้อมมือไปลูบไล้แก้มของเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด แก้มของเธอร้อนผ่าวมาก
เฉินฮวนฮวนกำลังเขินอาย “เฟิงเฉินเหยี่ยน” ทำให้เฟิงหานชวนอารมณ์เสียอย่างมาก
เขาก้มหน้าลงมาอีกครั้ง แล้วกัดริมฝีปากของหญิงสาวอย่างแรง
“ฟู่…” เฉินฮวนฮวนสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเบาอย่างไม่พอใจ “อาเหยี่ยน คุณ…คุณอย่าทำแบบนี้!”
เฟิงเฉินเหยี่ยนเมื่อสักครู่ จู่ๆ เหมือนว่าเขาจะก้าวร้าวขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเหมือน…เหมือนกับเฟิงหานชวน