242 ร้านขายของฝาก
แม้ว่ามีเหตุการณ์ที่ใบมีดสำหรับล่าเงินภูติแตกหักแค่หลังจากผมถือไว้ในมือของผม ที่เหลือของการเที่ยวชมพิพิธภัณศิลปะของเรายังคงมีความสุขมาก หรือ ที่นั่นใหญ่มากจนจริงๆแล้วเราเห็นงานจัดแสดงเสร็จทั้งหมดไม่ได้ และเราตัดสินใจว่าเราจะมาใหม่ภายหลังระหว่างการเดินทาง
และดังนั้น เรามาถึงข้างหน้าร้านขายของฝากก่อนกลับไปที่โรงแรม แต่…
“จริงๆแล้วเธอมีรสนิยมสำหรับอะไรเหล่านี้ดีอยู่นี่ หือ”
“ฉันรอคอยมันเลยล่ะ”
“หนูค่อนข้างรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับนี่นะบอส แน่ใจเหรอ?”
“ม-มันไม่เป็นไรจริงๆเหรอ? พวกมันทั้งหมดดูแพงมากเลยนะ”
เอลม่ายิ้มอย่างไม่อาย, ริมฝีปากมีมิโค้งเปิดรอยยิ้มตะวัน, ทีน่าแกล้งทำเป็นสงวนตัวแต่ซ่อนความตื่นเต้นของเธอไม่ได้สักนิด, และวิสเกอร์ขยุกขยิกอย่างเขินอายระหว่างมองขึ้นมาที่ผมด้วยสายตาคาดหวัง
“……”
เมย์แข็งนิ่งไปและจ้องหวีเครื่องเขินที่ผมซื้อให้เธอเป็นของขวัญไม่หยุด ผมสงสัยว่าเธอมีความสุขเกี่ยวกับของขวัญไหม? เธอแค่ยืนนิ่งอย่างสมบูรณ์ขณะเธอจ้องหวีในมือของเธออย่างเงียบๆ
พูดถึงแล้ว หวีอันผมซื้อให้เธอนั้นเป็นหวีเครื่องเขินสีดำพร้อมลายดอกบัวสีทองอยู่บนมัน เมย์บริหารจัดการบัวดำ ดังนั้นผมคิดว่ามันเหมาะกับเธออย่างสมบูรณ์แบบ
“แต่จริงๆแล้วฉันไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับความรู้สึกเรื่องศิลปะนะ?”
“อ่ะร้า ฉันคิดว่าหวีที่เธอซื้อให้เมย์นั้นสมบูรณ์แบบ รู้มั้ย? แค่เลือกให้เราสักชิ้นเหมือนที่ทำให้เธอแหละ”
“เหมือนนั่นมันง่าย”
ในท้ายที่สุด ผมซื้อกล่องเครื่องประดับสำหรับเอลม่าและมีมิเพื่อที่พวกเธอจะเก็บอัญมณีที่ผมซื้อให้พวกเธอเพื่อเอามาใส่เข้ากับชุดราตรีเมื่อเราไปที่เมืองหลวงได้ ขณะสำหรับทีน่าและวิสเกอร์ ผมซื้อปิ่นปักผมและสร้อยแต่ละชุดให้แต่ละคน อันหนึ่งมีอัญมณีสีแดงและลูกปัดและอีกอันเป็นสีฟ้า พวกมันเหมาะกับพี่น้องอย่างสมบูรณ์แบบ
“ของฉันเป็นลายแดฟโฟดีลหือ”
“ของหนูคือดอกอะไรเหรอ ฮิโระซามะ?”
“พวกนั้นเป็นดอกทานตะวัน”
“บอสเทียบมันกับสีผมหือ”
“พวกมันสวยมาก…..”
ผมตอบคำถามมีมิเพราะเธอไม่ได้คุ้นเคยกับดอกไม้มากมายขนาดนั้นและดูการตอบสนองของทุกคนกับของขวัญของพวกเธอ มันดูเหมือนพวกเธอทั้งหมดค่อนข้างพอใจ แต่เมย์ยังแข็งนิ่งอยู่ เธอไม่เป็นอะไรจริงๆไหม?
“ฉันค่อนข้างเข้าใจว่าทำไมเธอเลือกลายดอกไม้นั้นให้มีมิ แต่ของฉันนี่เลือกด้วยเหตุผลอะไรล่ะ?”
เอลม่าถามคำถามขณะเธอเอากล่องเครื่องประดับเล็กเคลือบเงาพร้อมดอกดาฟโฟดีลสีขาวเขียนอยู่บนมัน
“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับ ‘ภาษาดอกไม้’ อะไรพวกนั้น ฉันแค่คิดว่าดอกไม้เหล่านี้เหมาะกับภาพลักษณ์ของเธออย่างสมบูรณ์แบบ เอลม่า พวกมันสวย ถูกมั้ย?”
“หืมม? ถ้าอย่างนั้นจริงๆแล้วนี่เป็นที่เธอมองฉันหือ ฮิโระ เข้าใจแล้ว”
นั่นค่อนข้างคลุมเครือ แต่เธอดูมีความสุขอยู่ดี ดังนั้นอะไรก็แล้วแต่! พูดถึงแล้ว เหตุผลที่ผมซื้ออันกับดอกทานตะวันสำหรับมีมิคือมันทำให้ผมนึกถึงพฤติกรรมสดใสและดั่งตะวัน มันไม่ได้หมายความถึงอะไรนอกเหนือจากนั้น
มันดูเหมือนพี่น้องช่างวิ่งไปหาลิเลียมทันทีและขอให้เธอช่วยใส่ปิ่นปักผมของพวกเธอ
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นจริงๆแล้วคนคนหนึ่งทำผมขึ้นไปได้ง่ายๆด้วยไม้อันนึงหือ”
“เราต้องทำให้มั่นใจว่าจำขั้นตอนได้ พี่สาว”
“มีวีดีโออธิบายการใช้เครื่องประดับพวกนี้ทีละขั้นตอนอยู่ ฉันส่งไฟล์ไปให้ท่านได้ถ้าท่านอยากได้”
มันดูเหมืออนพวกเธอกำลังสนุกอยู่ตรงนั้นด้วย อุมุ ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกด้านศิลปะของผมไม่ได้แย่เท่าที่ผมคิด หือ?
ไม่ว่าอย่างไร ทุกอย่างนั้นดีแล้วตราบใดที่พวกเธอมีความสุข
เราให้ของขวัญมีมิและเอลม่าถูกส่งไปสู่บัวดำและมุ่งหน้าสู่โรงแรม หวีที่ผมซื้อให้เมย์ก็มาพร้อมกล่องด้วย ดังนั้นมันดูเหมือนเธอเอามันกลับเข้าไปใส่กล่องและเก็บมันไว้ที่ไหนสักแห่งในเครื่องแบบแม่บ้านของเธอ ผมเดาว่ามันถูกใส่ในกระเป๋าลับหรือบางอย่างแบบนั้น
พูดถึงแล้ว ถ้าคนหนึ่งพูดเกี่ยวกับเสื้อผ้าแม่บ้านและกระเป๋าลับ ผมคิดว่าสัญชาตญาณผู้ชายนั้นมุ่งหน้าไปที่ส่วนหน้าอกทันที
“เอาเลยค่ะ นายท่าน”
เมย์สังเกตสายตาของผมและยกหน้าอกทรวดทรงสวยของเธอด้วยมือ แม้ว่าพวกมันไม่ใหญ่เท่าของมีมิ สิ่งมีค่ามีประโยชน์ก็ค่อนข้างมีการกินพื้นที่จำนวนหนึ่ง หรือ ขนาดพวกมันควรเป็นมาตรฐานสำหรับหน้าอกใหญ่กว่าทั่วไป
หน้าอกมีมิเพียงแค่ไม่ธรรมดามากๆ
“นั่นไม่ใช่รู้ป่ะ นั่นไม่ใช่เจตนาของฉัน”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
จับหน้าอกเมย์ในที่สาธารณะแค่เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่ว่าจะจินตนาการไปแบบไหน ดังนั้นแน่นอนผมจะไม่ทำมันที่นี่ ผมจะทำมันภายหลังแทน ในสถานที่ส่วนตัวและเหมาะสม ใช่
อืม นั่นไม่ใช่ความคิดที่แย่ แต่ผมคิดว่าผมจะลองหวีผมของเมย์ด้วยหวีที่ผมซื้อด้วยเหมือนกับ ผมของเมย์ยาวและสวย ดังนั้นผมคิดว่ามันควรสนุก
ไม่ว่าอย่างไร เรายังมีเวลาเล็กน้อยก่อนงานเลี้ยงเริ่มขึ้น ดังนั้นผมตัดสินใจจะอาบน้ำเร็วขึ้นและแค่ทำทุกอย่างให้เสร็จ มีมิและคนอื่นๆใช้เวลาสบายในห้องน้ำ ดังนั้นตอนนี้มีแค่ผมและเมย์เท่านั้นที่ผ่อนคลายอยู่ข้างในห้อง
พูดถึงแล้ว เมย์ไม่ได้อาบน้ำด้วยกันกับเรา เธอคือดรอยด์แม่บ้าน ดังนั้นพื้นฐานแล้วเธอไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ แน่นอน เราอาบน้ำด้วยกันบางครั้งหลังจากเสร็จกิจ แต่ปรกติแล้ว เธอแค่ทำความสะอาดร่างกายระหว่างช่วงเวลาบำรุงรักษาข้างในเครื่องบำรุงรักษาไร้สาย เสื้อผ้าเธอเลอะบ่อยเนื่องจากธรรมชาติของงานเธอ ดังนั้นเธอเปลี่ยนบ่อยครั้ง และเพราะผมชอบลูบผมสวยๆของเธอ เธอก็ไม่ได้อู้เมื่อเป็นเรื่องการดูแลเส้นผมด้วย
“พูดถึงแล้ว จริงๆแล้วเธอสืบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับเผ่าเอลฟ์ทั้งหลายเหรอ เมย์?”
“ค่ะ ฉันควรบอกท่านเกี่ยวกับการค้นเจอของดิฉันมั้ย?”
“เอาสิ แค่นิดหน่อย ไม่มีเรื่องอันตรายปนอยู่ข้างในมัน ถูกมั้ย?”
“อย่างน้อย ยังไม่มีในตอนนี้ เพื่อสรุปเผ่าเอลฟ์แบ่งออกได้สามฝ่าย”
ฝ่ายหนึ่งนำโดยเผ่าโรส มันคือฝ่ายที่มีเป้าหมายค้นหาออกไปและขยายสู่อวกาศ
โดยเฉพาะ พวกเขาอยากแพร่กระจายออกไปมากกว่านี้ภายในดินแดนจักรวรรดิกรากันละยกระดับความรู้เกี่ยวกับเอลฟ์ว่าเป็นเผ่าหลักภายในจักรวรรดิ ครอบครัวของเอลม่า ตระกูลวิลโรส และตระกูลสาขาอื่น เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายนี้
อีกฝ่ายนั้นนำโดยเผ่ากราโด พวกเขาเป็นฝ่ายอนุรักษนิยมอันร่ำลือผู้อุดมคติหลักคือให้เอลฟ์ใช้ชีวิตอยู่ต่อกับภูติและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์บนทีต้า พวกเขาให้ค่าความสัมพันธ์ของเผ่าพวกเขากับภูติและป่าอย่างมากมายและมีความสุขอย่างสมบูรณ์แบบที่พวกเขาจะทำตามประเพณีต่อไปโดยรักษาวัฒนธรรมคนพื้นที่ก่อนการมาถึงของจักรวรรดิกรากันบนทีต้า หรือ ระบบดาวรีฟิล
และฝ่ายสุดท้ายนำโดยเผ่ามินฟา
พื้นฐานแล้ว พวกเขามีมุมมองเป็นกลาง พวกเขารับรู้ว่าวัฒนธรรมและประเพณีของเอลฟ์ควรถูกเก็บรักษาและเคารพ แต่พวกเขาก็เชื่อด้วยว่าเอลฟ์ควรมีความสุขกับผลประโยชน์หลายๆอย่างที่ถูกนำออกมาโดยจักรวรรดิกรากันมากกว่านี้และใช้ของใหม่ๆหลายอย่างจากนอกระบบดาวแม่ร่วมกันเพื่อพัฒนาชีวิตของเอลฟ์
ความต่างระหว่างสามฝ่ายนั้นก็ชัดเจนเมื่อคนหนึ่งดูว่าพวกฝ่ายแต่ละฝ่ายเลือกอยู่ที่ไหน คนของฝ่ายโรสกลับมากลับไประหว่างทีต้าและอวกาศ และบ้านพวกเขาบนทีต้าถูกสร้างโดยใช้สไตล์ทันสมัยและวัสดุก่อสร้างและเทคโนโลยีล่าสุด พวกเขาก็ใช้เวทมนตร์ หรือ ศิลปะภูติ แต่พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากเทียบกับฝ่ายอื่น แน่นอนเอลม่าเป็นแบบนั้น
เธอค่อนข้างเหมือนเอลฟ์เมืองทันสมัยถ้าเธอใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมแฟนตาซีทั่วไป ผมว่า
ตรงกันข้าม ฝ่ายที่นำโดยเผ่ากราโดดูเหมือนดูเหมือนใช้ชีวิตอยู่ลึกเข้าไปภายในป่าโดยสร้างบ้านต้นไม้แบบเก่า พวกเขาเกือบไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเลยและพึ่งพาเวทมนตร์เพื่อใช้ชีวิตอยู่
พวกเขาเป็นเอลฟ์แบบอนุรักษนิยมหรือบางอย่างแบบนั้น
แล้วเกี่ยวกับคนเป็นกลางที่นำโดยเผ่ามินฟาหรือ? พื้นฐานแล้วพวกเขาเอาที่ดีที่สุดของทั้งสองโลก ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาวางเครื่องใช้ล่าสุดข้างในบ้านต้นไม้เอลฟ์สร้างแบบดั้งเดิมและใช้สิ่งประดิษฐ์และอุปกรณ์สำหรับการล่า พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในวิถีชีวิตอุดมคติ พวกเขาอยู่บนพื้นที่เป็นกลางเกี่ยวกับจุดยืนของเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน โดยมีคนของพวกเขาบางคนให้ความสำคัญมันมากมายระหว่างคนอื่นไม่ให้ความสำคัญมาก
“เข้าใจแล้ว ฉันจินตนาการว่าเผ่ากราโดแระเผ่าโรสไม่ได้ถูกกันดีมากไปหือ”
“นั่นถูกต้อง มันเพราะจุดยืนนั้นตรงข้ามกัน”
ใช่ แน่นอน จะเป็นอย่างนั้น อึน? แต่ถ้านั่นคืออะไรที่เกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้น……?
“ถ้าฉันจำไม่ผิด เหตุการณ์ที่เราเข้าไปติดอยู่ครั้งนี้เริ่มจากโจรสลัดโจมตีพิธีแต่งงานระหว่างเผ่ากราโดและเผ่ามินฟา ถูกไหม?”
“ใช่ นั่นถูกต้อง”
“ถ้าสถานการณ์คือนั่น ถ้าอย่างนั้นทฤษฎีที่เป็นไปได้จะเป็นเผ่าโรส อยากเลี่ยงการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ากราโดและมินฟา สุดท้ายจ้างโจรสลัดอวกาศเพื่อที่จะทำให้พิธีเละเทะ”
“ใช้ ทั้งเผ่ากราโดและเผ่ามินฟาสงสัยว่าเป็นอย่างนั้นอย่างมากด้วยเหมือนกัน เพราะทั้งหมดสมาชิกกองประจำการระบบดาวมาจากเผ่าโรส การทำข้อมูลเล็ดลอดไปให้โจรสลัด และเลี่ยงการโจมตีส้มเหลว มันดูเหมือนทั้งสองเผ่าสงสัยเผ่าโรสมากเพราะปัจจัยเหล่านั้น”
“โอ้กรรม…… ยังไงซะ มันไม่มีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรา ช่าย”
เราช่วยสมาชิกของเผ่ากราโดและมินฟา รวมถึงลูกๆของผู้นำเผ่าของพวกเขาด้วย และสามารถกวาดบั้นท้ายของเผ่าโรสในขั้นตอนการทำ ดังนั้นพวกเขาทั้งสามไม่ควรแค้นเรา
เรามีแผนออกจากระบบดาวทันทีอยู่ดี ดังนั้นมันเป็นไปได้ยากว่าเราจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความเละเทะมีปัญหาอื่น
เอ่อ แต่บางทีมีโอกาสที่จะเกิดถ้าเราไปและเยือนเผ่าโรสเพื่อเอลม่าไหม?
“อืม ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ให้มันเกิดขึ้น มาแค่ไหลไปตามน้ำเถอะ”
“นั่นดีที่สุด ถ้าต้องตัดสินใจ เราเลือกออกจากระบบดาวได้ในกรณีฉุกเฉิน”
“ถูก”
เพราะทั้งหมดเราเหล่าทหารรับจ้างใช้ชีวิตอย่างอิสระและไม่สงวนตัว ถ้าบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ เราทิ้งทุกอย่างและวิ่งหนีได้ ใช่แล้ว
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu