ตอนที่ 243 อาหารค่ำต้อนรับและปัญหาจากต้นเหตุอันคาดไม่ถึง

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ

243 อาหารค่ำต้อนรับและปัญหาจากต้นเหตุอันคาดไม่ถึง

“มันเป็นยังไง?”

“ได้มะ?”

“พวกเธอดูน่ารักมาก”

ผมชื่นชมมีมิและคนอื่นๆอย่างไม่สงวนตัว ผู้ตอนนี้กำลังใส่เสื้อผ้าเอลฟ์ดั้งเดิม และมอบการปรบมืออย่างอบอุ่นชุดหนึ่ง

มีมิกำลังใส่กระโปรงที่ไปถึงแค่เลยหัวเข่าพร้อมเสื้อยาวหลวมไปทั่วทั้งตัวเธอ…… อา ผมคิดว่าผมจำได้ว่าเคยเห็นเสื้อผ้าเช่นนี้ที่ไหนมาก่อน โอ้ ใช่ ไมใช่ว่าอินเดียมีชุดแบบดั้งเดิมคล้ายกันหรือ?

สีของผ้าอันปกปิดร่างกายเธอค่อนข้างสดใสมากและดูเหมือนนุ่มเมื่อจับ ผมคิดว่าพวกมันถูกทอโดยผลิตภัณฑ์ไหมโดยหนอนไหมต่างถิ่นนั่นที่ใหญ่เท่าสุนัขขนาดกลาง

ทีน่าและวิสเกอร์กำลังใส่ชุดวันพีชที่ดูเหมือนทำจากหนัง พวกมันมีแนวไปทางคนอินเดียนแดง พวกมันเป็นชุดเรียบง่ายที่ใช้สีน้ำตาลและน้ำตาลเข้มเป็นหลักแต่หลีกเลี่ยงการดูเรียบเกินไปผ่านการใช้ลูกปัดทำจากหินสีฟ้าหรือสีขาวอย่างมากเป็นจุดเด่น

“……อะไร?”

“ไม่มีอะไร แค่คิดว่ามันเข้ากับเธอที่สุดเลย”

เอลม่ากำลังใส่ชุดคล้ายกับกี่เพ้าสีแดง

มันเป็นชุดแบบเดียวกันกับอะไรที่ลิเลียมใส่อยู่

ชุดเหมาะกับเอลม่าผอมๆมากๆ ต้นขาเนียนที่แง้มออกมาจากร่องบนชุดเธอก็พราวตาแน่นอนด้วย

“ใช่ ชุดนั้นเหมาะกับเธอมากๆ อึน มหัศจรรย์สุดยอด”

“ขอบคุณ พูดถึงแล้ว เสื้อผ้าที่สีและสไตล์แบบนี้ใส่แค่คนเหล่านั้นผู้แต่งงานแล้วเท่านั้น”

“จริงอ่ะ? พวกเธอใส่ร่องสูงแบบนั้นแม้ว่าพวกเธอแต่งงานแล้วเหรอ?”

“มันดูเหมือนพวกผู้ชายเอลฟ์ส่วนใหญ่ค่อนข้างสนใจเมื่อมันเป็นอะไรแบบนั้น แต่ฉันไม่คุ้นเคยเกี่ยวกับเรื่องนั้น”

“เข้าใจแล้ว”

ถ้าอย่างนั้นพวกเธอใส่ชุดที่มีร่องสูงเพื่อกระตุ้นสัญชาตญาณสัตว์อันซ่อนอยู่ลึกเข้าไปในคู่ผู้ชายของพวกเธอหรือบางอย่างแบบนั้นหรือ?

จริงจังหรือ? พวก เอลฟ์มิตินี้นี่แปลกจริงๆหือ

“แต่ให้ตายสิ เธอใหญ่มากๆ มีมิ”

“อ๊าน! เดี๋ยวทีน่าซัง!”

“พอมาคิดดูแล้ว เธอสองไม่ได้ขาดส่วนนั้นไปเลยสักนิด”

“เพราะทั้งหมดเราเป็นผู้หญิงโตแล้วอย่างถูกต้อง”

ปรกติแล้วพวกเธอใส่เสื้อเอี๊ยมทำงานดังนั้นมันไม่ชัดเจนในเวลาส่วนใหญ่ แต่จริงๆแล้วพี่น้องช่างมีขนาดหน้าอกที่ดีอยู่

จริงๆแล้ว บางครั้งทีน่าเดินไปรอบๆห้องพักทันทีหลังจากอาบน้ำในชุดน้อยชิ้น ดังนั้นผมสามารถมองหน้าอกเธอได้ชัดครั้งสองครั้งแล้ว

ผมมองบนเหล่าคุณนายผู้เล่นกันสนุกกับกันและกันจนกว่าเจ้าหน้าที่โรงแรมเอลฟ์มาเพื่อรับเรา มันดูเหมือนการเตรียมการอาคารค่ำต้อนรับเสร็จแล้ว และตัวแทนของเผ่าเอลฟ์ทั้งหลายก็มาถึงแล้วด้วย เราถูกจัดเตรียมให้ปรากฏในสถานที่จัดงานคนสุดท้าย

เอ๋? แล้วเกี่ยวกับเสื้อผ้าผมหรือ? ผมกำลังใส่ชุดธรรมดาของผม

ผมไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับเสื้อผ้าอะไรที่ผมใส่จริงๆ และอย่างน้อยเราก็ต้องมีบางคนผู้ดูเหมือนทหารรับจ้างที่ถูกต้องข้างในกลุ่ม ถูกไหม? และนอกจากนี้ เครื่องแต่งกายนี้อนุญาตให้ผมตอบสนองได้เร็วกว่าในกรณีที่บางอย่างเกิดขึ้น

พูดถึงแล้ว เมย์กำลังใส่เครื่องแบบแม่บ้านปรกติของเธอด้วยเหมือนกัน เมย์เป็นดรอยด์แม่บ้าน ดังนั้นพื้นฐานแล้วไม่ได้เปลี่ยนสู่อะไรสักอย่างนอกเหนือจากเครื่องแบบแม่บ้าน และนอกจากนี้ เธอซ่อนของลับๆล่อๆหลายอย่างภายใต้เครื่องแบบแม่บ้านนั้นของเธอ ใช่ เธอมีของเหมือนลูกแก้วและลูกดอกสำหรับปาทำจากเหล็กผสมความหนาแน่นสูงที่ปรกติใช้ในแผ่นเกราะยานอวกาศสำหรับยกตัวอย่าง

“ฮิโระ กัปตันทหารรับจ้างและมิตรสหายมาถึงแล้ว”

เมื่อเราไปถึงห้องโถงงานเลี้ยง ผู้จัดงานอาหารค่ำประกาศการมาถึงของเราทันที ในทันทีเรากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ พวกเขาส่วนใหญ่มีการตอบสนองไปในทางที่ดี แต่มีพวกเขาไม่กี่คนเปิดตาพวกเขากว้างในความตกใจ…… นั่นอะไรกัน? มีบางอย่างบนหน้าผมหรือ?

ไม่ว่ากรณีไหน คนเหล่านั้นผู้มีการตอบสนองเกินจริงเมื่อคนนั้นเห็นผมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งห้องโถง ดังนั้นผมทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับพวกเขาไม่ได้ระหว่างเวลานี้ ผมตามเจ้าหน้าที่โรงแรมเอลฟ์และถูกนำไปสู่ที่นั่งที่ดีที่สุด หรือพูดอีกอย่าง ที่นั่งผู้ทรงเกียรติ และนั่งให้สบายพร้อมกันกับลูกเรือที่เหลือของผม แต่เมย์ยืนหลังผมเหมือนเคยๆ

และจากนั้น ผู้จัดงานเริ่มแนะนำตัวเราและแขกที่เหลือ

ผมถูกแนะนำตัวก่อน ผู้จัดงานบอกพวกเขาว่าผมสามารถจับยานโจรสลัดที่กองประจำการระบบดาวจับและช่วยเหลือเอลฟ์ผู้ถูกจับภายในมันล้มเหลวอย่างน่าเสียดายได้อย่างไร พร้อมกับทิเนียลูกสาวผู้นำเผ่ากราโดและเน็กหัวหน้าเผ่ามินฟาในหมู่พวกเขา ผู้จัดงานเน้นอย่างสูงว่าผมสามารถแก้แค้นให้เอลฟ์ผู้สูญเสียชีวิตไประหว่างการโจมตีและความเสียหายอันถูกสร้างบนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โดยการฟันเหล่าโจรสลัด

หลังจากนั้น ผู้จัดงานเดินหน้าแนะนำตัวลูกเรือของผม

“คุณนายคนนี้ทำหน้าที่เป็นรองผู้บัญชาการของกัปตันฮิโระแล้วก็เป็นลูกหลานของตระกูลวิลโรส ตระกูลสาขารองของเผ่าวิลโรส”

ในกรณีของเอลม่า ความจริงที่เธอเป็นญาติกับเผ่าโรสถูกประกาศ

จากเอลม่า มันค่อนข้างน่าสงสัยว่าบางคนแบบเธอผู้หนีออกจากบ้านโดยที่ครอบครัวเธอไม่เห็นด้วยถูกพิจารณาเป็นเผ่าโรสได้ แต่เธอไม่รู้สึกอะไรที่ต้องแก้เขาให้ถูกต้อง ไม่ว่ากรณีไหน แน่นอนมันจริงที่เธอเป็นญาติกับพวกเขาทางสายเลือด

“ความชื่นชมและความซาบซึ้งแด่มารดาธรรมชาติและผู้มาเยือนจากที่ห่างไกล”

“““ความชื่นชมและซาบซึ้งจากมารดาธรรมชาติและผู้มาเยือนจากที่ห่างไกล!”””

หลังจากการแนะนำตัวของเรา ในที่สุดงานเลี้ยงอาหารค่ำก็เริ่มต้นขึ้นโดยการยกแก้วที่ไม่คุ้นเคยโดยคนระดับสูงของเอลฟ์ ผมคิดว่าคนนั้นเป็นผู้นำเผ่ากราโด ขณะสำหรับเมนูอาหารที่ถูกเสิร์ฟ…… ใช่ ไม่มีอะไรอแปลกๆเป็นพิเศษ แค่ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่เสิร์ฟเมนูแมลงก็เป็นแต้มบวกเยอะสำหรับผมแล้ว

“พวกมันอร่อย!”

“ฟุมุอาหารเอลฟ์มันเป็นบางอย่างจริงๆหือ”

“ใช่ แต่หนูจะชอบมันมากกว่าถ้าพวกมันใช้เครื่องเทศนิดหน่อย”

“ฉันคิดว่าพวกมันอร่อยดีอยู่แล้ว”

เหมือนที่วิสเกอร์พูด เมนูมันมีเครื่องเทศน้อยแต่รสชาติของดาชินั้นค่อนข้างแน่นไม่ว่าอย่างไร พวกมันคล้ายกับอาหารญี่ปุ่นในแง่นั้นนิดหน่อย? หืมม ไม่ใช่เสียตรงๆ ผมว่า แล้วก็ พวกเขาก็ค่อนข้างมีเมนูสตูว์จำนวนหนึ่งด้วย

“ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นเมนูหลักๆหือ หืมม?”

เมนูหลักนั้นเป็นบางอย่างคล้ายกับโมจิห่อด้วยใบไม้ดูคล้ายกับอาหารเหล่านั้นที่เป็นของคาชิคาวะ ภายนอกพวกมันดูเหมือนคาชิวะโมจิ แต่จริงๆแล้วคนหนึ่งกินใบไม้ได้ด้วยเหมือนกันหรือ? ผมมองไปรอบๆ และเห็นว่าพวกเขาไม่ได้กินใบไม้หลังจากทั้งหมด

“โฮ่ว นี่ค่อนข้างอร่อย”

เมนูคล้ายคาชิวะโมจิจริงๆแล้วเป็นก้อนแป้งข้าวใส่ไส้ด้วยเนื้อสับหมัก แป้งแด้งๆห่อรอบเครื่องเนื้อสับรสชาติหวานเค็ม มันค่อนข้างอร่อย

อีกเมนูมีรากผักและสตูว์อะไรที่ดูเหือนมันฝรั่ง, ซุปพร้อมเนื้อมากมายและวัตถุดิบอื่นๆ, เนื้อย่างพร้อมซอสรสผลไม้เป็นหลัก, เนื้อและผักทอดเสียบไม้, และอื่นๆ

“อืมไม่ใช่นี่มันค่อนข้างเป็นเหล้าบริสุทธิ์เหรอเนี่ย?”

“มันอร่อย”

ก่อนผมรู้ พี่น้องช่างสุดท้ายมีความสุขกับเหล้าที่เก็บอยู่ข้างในหม้อเครื่องปั้นดินเผา มันมีกลิ่นอายขององุ่น ดังนั้นมันน่าจะเป็นไวน์องุ่น แม้ว่าเธอดูเหมือนเด็กสาวน่ารัก ทีน่าดื่มเหมือนตาแก่มากระสบการณ์ วิสเกอร์คล้ายกับคุณหนูผู้สง่างามแม้ว่าเมื่อดื่มเหล้า พวกเธอคือฝาแฝด แต่ความต่างของการวางตัวนั้นคืออะไรกัน……? บางทีมันถูกเลี้ยงขึ้นมาโดยสภาพแวดล้อมที่พวกเธอโตขึ้นมาที่ต่างกัน

ใช่ เนื่องจากสถานการณ์หนึ่ง ทีน่าและวิสเกอร์ไม่ได้โตมาในบ้านเดียวกัน มันดูเหมือนมันมีเวลาเมื่อทีน่าอยู่กับพวกแก๊งเมื่อเธออยู่ในโคโลนีที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสาธารณะที่ไม่ดีด้วยซ้ำ แต่เธอทำตัวดีเมื่อเธอพบกันใหม่กับวิสเกอร์

หลังจากนั้น เธอไปทำงานด้วยกันกับวิสเกอร์ที่สเปซดเวิร์กจนกระทั่งในที่สุดพวกเธอก็มาเกี่ยวข้องกับเราเมื่อเราไประบบดาวแบรด ผมไม่ได้ถามพวกเธอเกี่ยวกับอดีตมากมายจริงๆ บางทีผมจะลองและเปิดประเด็นถ้าเรามีเวลาภายหลัง

เอลม่าดูเหมือนเธอตั้งใจพยายามไม่โดดเด่นเกินไป ผมถูกบรรยายสรุปโดบเมย์ไปแล้วเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าทั้งหลายที่นี่บนทีต้าก่อนหน้า ดังนั้นเอลม่าพยายามจะไม่เด่นมากเพื่อเลี่ยงการถูกโยงไปสู่การยื้อแย่งอำนาจระหว่างเผ่าที่นี่บนทีต้า อืม ไม่มีประโยชน์กับการบ่นตอนนี้ แต่ผมซาบซึ้งที่เธอพิจารณาถึงจริงๆ

และจากนั้น หลังจากเรากินอาหารเสร็จแล้วไม่มากก็น้อย เอลฟ์บางคนยืนขึ้นจากที่นั่งพวกเขาและเข้าหาเรา เหล่าเอลฟ์ทั้งหมดดูเหมือนหนุ่มหล่อๆอายุน้อยๆและผู้หญิงอายุน้อยผู้สวยงาม ดังนั้นเห็นพวกเขาเรียงกันอยู่หน้าผมแบบนี้มันค่อนข้างเป็นประสบการณ์น่าตกใจ มันน่าจะรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่านิดหน่อยสำหรับผมถ้าผู้นำเผ่าเป็นชายวัยกลางคนมีหนวดพูดน้อยๆ แต่พวกเขาดูเหมือนหนุ่มสสาวหล่อๆสวยๆแทน

“ได้โปรดขอให้เราได้ขอบคุณท่านอีกครั้งที่ช่วยลูกสาวของฉัน ฉันเป็นหัวหน้าเผ่ากราโดคนปัจจุบัน เซช”

เซชผู้นำเผ่ากราโดเป็นผู้ชายหล่อพร้อมผมน้ำตาลอ่อนสีคล้ายกับผมของทิเนีย เขามีแผลเป็นบนแก้มและดวงตาคม เขาหุ่นดีเมื่อเทียบกับเอลฟ์ชายทั่วไปแต่ยังค่อนข้างกล้ามโต เขาใส่เสื้อหนังคล้ายกับที่ทีน่าและวิสเกอร์กำลังใส่อยู่

“ฉันมิเรียม ผู้นำเผ่ามินฟาคนปัจจุบัน ฉันจะอยากขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิตเน็ก จริงๆ ขอบคุณมากๆ ฉันถูกบอกว่าเจ้าหนูคนนั้นอาจตายถ้าไม่มีการรักษาจากท่าน”

ผู้นำเผ่ามินฟาคือผู้หญิงสวยพร้อมผมบลอนด์เงางาม เธอกำลังใส่เสื้อผ้าคล้ายกับมีมิแทน อย่างไรก็ตามชุดเธอมีเครื่องประดับตกแต่งเยอะกว่าเมื่อเทียบกับของมีมิและดูค่อนข้างหรูหรา

มันดูเหมือนผู้นำเผ่าโรสไม่อยู่ อืม ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าหลักทั้งสามนั้นค่อนข้างบูดหลังจากทั้งหมด มันจะไม่ดีถ้าพวกเขาทั้งสามเข้ามาเพื่อแค่มาเถียงกันต่อหน้าผม แต่ผมเดาว่าพวกเขาพิจารณานั่นแล้ว

“แม้ว่ามันแค่โอกาส ผมยังคงดีใจที่เราสามารถช่วยผู้คนบนทีต้าได้ ขอบคุณพวกคุณสำหรับการจัดอาหารค่ำต้อนรับอันมหัศจรรย์เช่นนี้ให้เรา”

 “อุมุ…… พูดถึงแล้ว มีบาอย่างที่ฉันอยากจะถาม”   

 “ครับ?”   

ผมไม่รู้เลยว่าเขาอยากถามอะไร แต่ผมเอียงหัวของผมอย่างสงสัยสู่คุณเซช เขามีสีหน้าจริงจังอยู่บนใบหน้า ผมสงสัยว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวกับอะไร

 “แค่ท่านคืออะไรกัน? พลังอันเอ่อล้นจากท่านนั้นเทียบเท่าได้กับภูติระดับสูง…… ไม่ มันแม้แต่มากกว่ามาก ท่านดูเหมือนมนุษย์อย่างน้อยก็ในรูปลักษณ์ แต่ก็ยัง…”   

 “ครับ?”   

ผมเอียงหัวไปด้านข้างอีกครั้งและตอบซ้ำแบบก่อนหน้า เอ่อล้นไปด้วยพลัง? เทียบเท่าหรือมากกว่าภูติระดับสูงมาก แค่อะไรที่นายกำลังพูด พวก?

“คนแบบเรามีความเข้ากันกับภูติรู้สึกถึงพลังอันจำนวนมหาศาลมาจากตัวท่านได้ มันดั่งรีฟิลที่ส่องสว่างอย่างสดใดสวรรค์ได้ลงมายังโลก และมันรู้สึกดีมาก”

ผมไม่รู้เลยว่าคนนี้กำลังพูดเกี่ยวกับอะไรอย่างแน่นอน ดังนั้นผมหันไปหาเอลม่าเพื่อขอให้ช่วยเหลือ เอลม่าปิดปากและส่ายหัวของเธอ

 “ฉันบอกไม่ได้จริงๆเพราะฉันไม่มีความสามารถรู้สึกอะไรแบบนั้น เพราะทั้งหมดฉันเรียนแค่พื้นฐานสุดๆเท่านั้นเมื่อเป็นเรื่องเวทมนตร์”   

 “คุณหนูคนนี้คือเผ่าโรส ถูกต้องไหม? ถ้าเช่นนั้น อย่างนั้นมันช่วยไม่ได้ เผ่าโรสไม่ได้เก่งกับการสื่อสารกับภูติมาก มันค่อนข้างหายากสำหรับพวกเขาที่จะได้รับสายตาภูติ ดังนั้นมันไม่ต้องสงสัยว่าคุณหนูคนนี้ไม่สามารถสังเกตุพลังของท่าน”   

 “แต่ไม่มีใครบอกผมเลยเกี่ยวกับบางอย่างแบบนั้นก่อนเรามาที่นี่ ผมก็ทำการตรวจสุขภาพแบบทั่วถึงก่อนหน้าด้วย และไม่มีอะไรแบบนั้นแสดงขึ้นมา”   

 “เพราะทั้งหดจักรวรรดิกรากันนั้นชอบไปทางวัตถุนิยม การสื่อสารกับภูติและเวทมนตร์ หรืออะไรที่พวกเขาเรียกกันว่าเทคโนโลยีวิญญาณคือหนึ่งในจุดอ่อนของพวกเขา”   

มาเรียมผู้นำเผ่ามินฟาอธิบายขณะเธอมองผมด้วยสายตาตั้งใจหลงใหล เข้าใจแล้ว? มันจริงที่ว่าผมสามารถสัมผัสกับอะไรเหมือนเอไอล้ำหน้า, การควบคุมด้วยจักรกล, และเทคโนโลยีชีวภาพในจักรวรรดิ แต่ผมเกือบไม่มีโอกาสได้เจออะไรเกี่ยวกับเวทมนตร์เลยแม้ว่าในเมืองหลวงจักรวรรดิ ขุนนางจักรวรรดิค่อนข้างคล้ายกับเจไ* แต่พวกเขาไปถึงความสามารถนั้นผ่านการควบคุมด้วยเครื่องจักรและการปรับแต่งพันธุกรรมแทนที่จะเป็นพลังเวทมนตร์

 “อืม ถ้าอย่างนั้น นี่หมายถึงอะไรสำหรับผม ตรงๆ?”   

 “มันยากที่เราจะบอกด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่แรกแค่คุณมาจากไหนกัน? เราต้องรู้นั่นเป็นอย่างน้อยเพื่อที่จะทำให้เดาอย่างมีเหตุผลได้”   

 “ที่ซึ่งผมมาอย่างนั้นเหรอหือ ใช่ เกี่ยวกับนั่น……”   

แน่นอนมันจะก่อความวุ่นวายถ้าผมบอกพวกเขาว่าผมมาจากต่างโลกที่นี่หือ ผมไม่มีเจตนาทำอย่างนั้นอยู่ดี ไม่อย่างแน่นอน

 “จริงๆแล้วผมเป็นความจำเสื่อมเห็นไหม เมื่อผมมารู้สึกตัว ผมลอยเคว้งอยู่ในอวกาศนอกกับยานอวกาศโปรดของผม ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุหน่วยขับขั้นสูงสุดหรือบางอย่าง แต่ความทรงจำผมก่อนผมหลงอยู่ในอวกาศนั้นค่อนข้างคลุมเครือน่ะเห็นไหม– อ๊ะ ขอโทษถ้าผมฟังดูหยาบคายเมื่อกี้”   

 “ไม่ต้องกังวล ท่านเป็นผู้มีพระคุณของเราและแขกของเรา มันไม่เป็นอะไรตราบใดที่เราเคารพกันและกันขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจแล้ว…… อุบัติเหตุหน่วยขับขั้นสูงสุด ใช่ไหม”   

 “นั่นไม่ได้ให้เราไปคิดได้มาก อย่างไรก็ตาม ท่านไม่ได้ผ่านดินแดนอื่นจากการเดินทางในอวกาศของเราหรือ? บางทีท่านติดต่อกับโลกภูติผ่านนั่น?”   

 “ถ้าแค่ต้องทำทั้งหมดนั่น ถ้าอย่างนั้นโลกนี้จะเต็มไปด้วยคนเหมือนเขาแล้ว ยังไงก็ตาม ชัดเจนว่าไม่ใช่กรณีนั้น แต่เราลบความเป็นไปได้ว่ามันเกี่ยวข้องในบางรูปแบบไม่ได้ กุญแจคือความจำเสื่อม ถ้าเขาสามารถไปถึงโลกภูติผ่านอุบัติเหตุหน่วยขับขั้นสูงสุดได้ริงๆ บางทีเขาทำบางอย่างที่นั่น และเมื่อเรากลับมาสู่โลกกายภาพ ความทรงจำส่วนใหญ่ของเขา รวมถึงเวลาของเขาที่นั่น ต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลังในโลกภูติ”   

 “ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านกำลังพูดว่าเขาไปถึงโลกภูติ ร่างกายกายภาพเขาสลายไปและเขาถูกเปลี่ยนรูปสู่บางอย่างคล้ายกับภูติ และเมื่อเขากลับมา กายเนื้อเขาสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ยังมีคุณลักษณะของภูติอยู่หรือ?”   

 “อาจเป็นอย่างนั้น หรือมันเป็นเรื่องอื่นโดยสิ้นเชิงไปเลยก็ได้ ไม่ว่าแบบไหน สภาพปัจจุนั้นของเขายังไม่ปรกติอย่างมาก”   

อุว้า คนเหล่านี้กำลังเข้าการปรึกษากันจริงจังระหว่างแพล่มภาษาแฟนตาซีที่ผมแทบเข้าใจไม่ได้เลย

ไม่ว่าอย่างไร สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมแน่ใจคือผมสามารถเหนี่ยวไกเหตุการณ์มีปัญหาหลักอีกอย่างได้ เวรกรรม

บางทีเราควรแค่เปิดหลังลี้เมื่ออาหารค่ำนี้จบลง ใช่ มาทำนั่นเถอะ ผมรู้สึกไม่ดีมากๆมากๆเกี่ยวกับนี่

 “เราสามารถเติมเต็มท้องและมีความสุขกับการต้อนรับของเหล่าเอลฟ์ ดังนั้นมันจะเป็นอะไรมั้ยถ้าเราจะขอตัวแล้วตอนนี้”   

“นั่นจะทำไม่ได้ เรายังไม่ได้สามารถแสดงความซาบซึ้งของเราอย่างถูกต้อง”   

“ใช่ นั่นเพียงแค่จะทำไม่ได้ ท่านให้พลังของท่านเล็ดออกไปอย่างสูญเปล่าเช่นนั้นต่อไปไม่ได้ ฉันแน่ใจว่าแม้แค่ด้วยการฝึกเพียงแค่นิดเดียวจะเป็นประโยชน์กับท่านค่อนข้างม”   

ทั้งคุณเซชและคุณมิเรียมส่งเสียงความไม่เห็นด้วย

ใช่ ผมก็ว่าแบบนั้น นี่ทำไมเราควรลี้ก่อนหน้าบัดซบ!

หรือ เรื่องของผมมันควบคุมไม่ได้จริงจัง

ตั้งแต่การแข่งขันในเมืองหลวงจักรวรรดิ ความสามารถโดยรวมของผมได้เพิ่มขึ้นมากเทียบกับก่อนหน้า แต่ตอนนี้ผมจะฝึกใช้บางอย่างคล้ายกับพลังและเป็นเจไ*จริงๆหรือ!?

ผมเต็มอิ่มกับการสู้กันกับยานอวกาศอื่นด้วยกฤษณะของผมแล้ว ขอบคุณมากๆครับ มีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับการเสริมความแข็งแกร่งร่ายของผมเองโดยตรงผมจะบอกให้! การดำเนินเรื่องที่ผมจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งกฤษณะด้วยอุปกรณ์และการเพิ่มรุ่นสมรรถนะจะดีกว่า เยยยอะ

“นั่นน่าทึ่งไปเลย ฮิโระซามะ! ถ้าพี่ฝึก ไม่ใช่นั่นจะเหมือนพี่เปลี่ยนเป็นบางอย่างเหมือนผู้กล้าตัวจริงเหรอเนี่ย?”   

“เอ่อ ฉันไม่คิดว่าการดำเนินเรื่องแบบนั้นที่แค่เหมือนหนังสือการ์ตูนอเมริกาจะเกิดขึ้นจริงๆหรอกนะ ไม่ หรือบางทีจริงๆแล้วมันจะเกิด……?”   

พอมาคิดดูแล้วผมค่อนข้างเหมือนคนนั้นที่มีปืนพิเศษปลูกอยูในมือขวาซึ่งยิงพลังจิต1? แล้วก็มีคนนั้นผู้ขี่หุ่นยนต์เกราะสองขาผู้แค่ไม่ตาย2 ใช่ ผมอาจเปลี่ยนเป็นอะไรเหมือนพวกเขาทุกอย่างจริงๆ หรือ ถ้าอะไรๆดำเนินไปในทิศทางนี้ จริงๆแล้วผมจะถูกเปลี่ยนเป็นเจไ*เก๊ ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ?

มันเหมือนกัน ไม่ใช่หรือ?”

“ดูจากศักภาพที่สูงของท่าน นายท่าน มันอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะลองมัน”   

จริงๆแล้วเมย์ผลักดันผมให้ทำมันเสีย ซึ่งค่อนข้างหาอยาก มันไม่ปรกติสำหรับเมย์เพราะปรกติแล้วเธอไม่ออกความเห็นแบบนี้ยกเว้นว่าถูกถาม

“ตั้งแต่แรก มันแปลกมากๆแล้วที่เธอสามารถเจอกับฝ่ายวาดดาบในระยะเวลาแค่เดือนเดียว เป็นแบบนั้นโดยเฉพาะเพราะเธอไม่ได้เข้ารับการเสริ่มความแข็งแกร่งร่างกายเลย”   

“นั่นถูกต้องเลยนะบอส บอสมาไกลขนาดนี้แล้ว ดังนั้นทำไมไม่แค่ไปให้ตลอดทางไปเลยล่ะ?”   

วิสเกอร์ ผู้ที่กำลังยืนถัดจากทีน่าผู้หน้าแดงแล้วตอนนี้ พยักหน้าในความเห็นด้วย และดวงตาเธอส่องประกายด้วยเหตุผลบางอย่าง

พอมาคิดดูแล้ว เธอค่อนข้างชอบกับอะไรเหล่านั้นหือ เธอและมีมิปรึกษาอะไรแบบนั้นกันบางครั้งบางคราวด้วยเหมือนกัน

“โอ้ ไม่เป็นไร ฉันว่าฉันทำได้ถ้ามีเวลา”   

“นั่นจะเป็นการดีที่สุด ถ้าท่านติดต่อเรา เราจะเตรียมสภาพแวดล้อมอันดีที่สุดสำหรับท่าน”   

หัวหน้ามิเรียมพยักหน้าอย่างหนักหลังจากได้ยินคำตอบของผม

ผมเคยได้ยินว่าเผ่ากราโดเป็นเผ่าผู้ให้ความสำคัญกับเวทมนตร์มากกว่าเมื่อเทียบกับเผ่ามินฟา

แต่ทำไมคุณมิเรียม ผู้เป็นผู้นำเผ่ามินฟา ทำตัวกระตือรือร้นมากกว่าเมื่อเทียบกับเผ่ากราโดล่ะพวก? ไม่ บางทีการแต่งงานระหว่างลูกผู้นำแต่ละคนถูกเสนอว่าผ่านเพราะผู้นำเผ่ามินฟาเป็นแบบนี้

อืม ไม่ว่ากรณีไหน เราจะคุยเกี่ยวกับมันภายหลัง ครั้งหน้า เข้าใจไหม เพราะทั้งหมดเราจะยุ่งกับการดูทิวทัศน์และมองหาโคล่าพรุ่งนี้!

 

 

วายุ: คาชิวะโมจิ: ขนมญี่ปุ่นประกอบไปด้วยโมจิสีขาว (ก้อนแป้งข้าว) ล้อม อังโกะหวาน (ใส้ถั่วแดง) เติมเต็มพร้อมด้วยใบคาชิวะ (ต้นโอ๊กจักรพรรดิญี่ปุ่น) ห่อรอบมัน (Wikipedia)

[1] พูดถึงคอบบร้าตัวละครของมังงะ คอบบร้า และหนังการ์ตูนอนิเมชั่นคอบบร้า เห่าไฟสายฟ้า

[2] พูดถึง คิริโกะ คิววี่ ตัวเอกจากโวท่อม

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu