244 ถูกเปิดโปง

หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำ กลุ่มเรากลับมาสู่ห้องของเราและนั่งเป็นวงกลมบนเบาะที่วางอยู่บนพื้นสำหรับการประชุมสำคัญ เนื่อจากคำขอของเรา เราทั้งหมดถูกกำหนดให้อยู่ห้องเดี่ยวกว้างขวาง เราให้พวกเขาวางเบาะนอนและมีแผนจะนอนระหว่างอยู่ชิดใกล้กันคืนนี้ อืม แต่ผม ผู้ชายคนเดียวเท่านั้นของกลุ่ม ถูกกำหนดให้นอนในมุมเหงาของห้อง

“ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดนั่นเกี่ยวกับอะไรอยู่ดีล่ะ?”

“ฉันเองก็ไม่รู้เลย เหมือนที่ฉันบอกเธอทุกอย่าง ฉันแค่เคยถูกสอนพื้นฐานเวทมนตร์สุดๆ ตัดสินจากอะไรที่พวกเขาพูดก่อนหน้า มันดูเหมือนเธอมีศักยภาพที่จะเชี่ยวขาญเวทมนตร์ที่ระดับค่อนข้างสูง ฮิโระ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าถึงระดับไหนนะ”

“เธอรู้เกี่ยวกับมันรึเปล่า เมย์ซัง?”

“อย่างน่าเสียดายค่ะ ไม่ มีหลายแง่มุมมากในเทคโนโลยีวิญญาณที่เราเอไอเข้าใจล้มเหลวแม้แต่ตอนนี้ ดังนั้นการค้นความของเราเกี่ยวกับประเด็นไม่ได้เดินหน้ามาสักพักแล้ว”

เมย์อธิบายอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนของเธอ

เธอมีสีหน้านิ่งบนหน้าเธอ แต่ผมมั่นใจว่าเธอกำลังทำหน้าเข้มตอนนี้

“เราพี่น้องนั้นเกิดและโตเป็นคนจักรวรรดิด้วยแท้ๆเลยนะ ดังนั้นอย่ามามองเราบอส”

“เรารู้ว่าเอลฟ์ใช้เวทมนตร์ แต่ก็รู้เท่านั้น ดูเหมือนมีจักรวรรดิอวกาศที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีวิญญาณนะ แต่มันอยู่ค่อนข้างไกล”

“ใช่ มันเป็นจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์นั่นหรืออะไรก็ช่างคือชื่อของมัน พี่ไม่ได้คุ้นเคยกับมันขนาดนั้นด้วย”

“เข้าใจแล้ว โอ้ อืม”

“เธอจะไม่สนเกี่ยวกับมันอีกแล้ว แบบนั้นเลยเหรอ?”

“ไม่สำคัญว่าเธอจะคิดยังไง เรื่องนี้มันแค่บอกว่าปัญหา ฉันไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับต้นกำเนิดดั้งเดิมของฉันและอะไรเทือกนั้น ดังนั้น ฉันแค่จะเมินมัน มันไม่เหมือนว่าฉันมีปัญหาเกี่ยวกับบางอย่างแบบนั้นตอนนี้อยู่ดี”

มันเป็นเรื่องอื่นถ้าพลังแปลกๆข้างในตัวผมทำให้ผมป่วยหรือควบคุมไม่ได้และทำร้ายคนรอบข้างผม แต่ไม่มีสัญญาณของนั่นเท่าที่ผ่านมา ผลลึกลับที่ผมรู้คือผมสามารถเข้าใจคำพูด และสามารถเขียนได้ทุกภาษาที่ผมเจอเท่าที่ผ่านมาโดยไม่จำเป็นต้องมีการแปลภาษาแบบปลูกฝังเข้าตัว และสามารถเปลี่ยนการรับรู้สิ่งต่างๆได้ได้โดยการกลั้นหายใจเพื่อที่อะไรๆรอบผมจะปรากฏว่าเคลื่อนไหวอย่างช้าสุดขีด

มันเสี่ยงเกินไปที่จะดำดิ่งไปสู่บางอย่างที่คนหนึ่งไม่เข้าใจมันเต็มๆ มันไม่เหมือนว่าผมพยายามมากมายเพื่อจะได้รู้เกี่ยวกับความสามารถแปลกๆของผม และผมไม่อยากเพิ่มพลังตัวเองขึ้นด้วยเหมือนกัน ผมยอมรับ ผมสนใจนิดหน่อยเมื่อเอลม่าสาถิตเวทมนตร์ให้ดูเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ผมไม่อยากไปตีรังแตนมากกว่านี้

“มันค่อนข้างแปลก จริงๆแล้วเธอกลัวหรือบางอย่างเหรอ?”

หลังจากพูดอย่างนั้น เอลม่าหันมามองผม

“ฉันกลัว ฉันไม่แน่ใจว่าฉันถูกส่งมามิตินี้ได้ยังไงตั้งแต่แรก ตอนนี้มันค่อนข้างรู้สึกเหมือนอะไรๆมันใหญ่ไปกว่าที่ฉันต่อรองเยอะ ไม่คิดเหรอ? แน่นอน ฉันจะรู้สึกไม่สบายใจ”

“หืมม…… พูดถึงแล้ว บอสหมายถึงอะไรที่ว่าบอสถูกส่งมาที่มิตินี้ล่ะ บอส? นั่นอะไรกัน?”

“““อ๊ะ…”””

ผม, เอลม่า, และมีมิร้องออกมาในเวลาเดียวกัน พอมาคิดดูแล้ว ผมไม่เคยบอกพี่น้องช่างเกี่ยวกับต้นกำเนิดของผม หือ ตอนนี้ที่ผมถูกสังเกตโดยคนเอลฟ์ระดับสูง ผมเดาว่าไม่มีประโยช์ในการเก็บไว้จากพี่น้องอีกแล้ว

“โอเค ไม่มีความหมายในการซ่อนอะไรสักอย่างแล้วตอนนี้อยู่ดี ฉันจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับทุกอย่าง”

และดังนั้น ผมบอกพวกเธอเกี่ยวกับที่ผมมามิตินี้ได้อย่างไรแบบรายละเอียดเต็ม ไม่ว่ากรณีไหน ผมเพิ่งเจอตัวเองหลงอยู่ที่นี่กระทันหัน ดังนั้นไม่มีอะไรให้พูดมากมาย เหมือนผมพูดก่อนหน้า ผมไม่รู้ว่าผมถูกส่งมาที่นี่ได้อย่างไรด้วยซ้ำ และความทรงจำผมก่อนตื่นขึ้นมาในมิตินี้ยังค่อนข้างขุ่นมัว ผมค่อนข้างจำได้ว่าสัปหงกอยู่บนคอมที่ยังเปิดเอสโอแอล และคลานไปที่เตียงเพื่อนอน แต่นอกจากนั้น ผมตันอย่างสมบูรณ์ แต่นั่นแค่อาจเป็นความเข้าใจผิดบนฝั่งของผม และมีโอกาสที่ความทรงจำเหล่านั้นจริงๆแล้วถูกปลูกฝังเข้ามาในผมโดย เอ่อ บางคนหรือบางอย่าง

“และดังนั้น นั่นทำไมฉันซ่อนความเป็นไปได้ว่าฉันอาจไม่ใช่คนจากความเป็นจริงของเธอทั้งสอง อย่างน้อย ฉันไม่ได้พูดจากอะไรที่ฉันจำได้”

“ว้าฮ้าา…… ถ้าอย่างนั้น มันเป็นนั่น ดังนั้นในหัว บอสน่ะ บอส มันเหมือนอยู่ดีๆถูกผลักมาข้างในเกมโฮโลหรือบางอย่าง”

“หรือโลกคล้ายกับเกมที่ฉันเล่น อย่างน้อย เท่าที่ฉันจำได้ เผ่าต่างถิ่นเหมือนเอลฟ์และดวอร์ฟไม่ได้มีอยู่ในเอสโอแอล เกมที่ฉันเล่น อย่างเป็นธรรมชาติ สเปซดเวิร์กไม่ได้ปรากฏในมันด้วย นั่นก็เหมือนกันกับเอไอล้ำหน้าด้วยเหมือนกัน พวกมันมีบางอย่างที่เหมือนกันระหว่างพวกมัน แต่ยิ่งฉันใช้เวลาในมิตินี้มากเท่าไหร่ ฉันก็เจอสิ่งต่างๆที่ไม่ตรงกับโลกเกมเอสโอแอลมากเท่านั้น”

“มันเป็นเรื่องลึกลับมาก…… มันเหมือนกับพี่เป็นตัวเอกของนิยายโฮโลเลย พี่ใหญ่”

“อ่ะร้า แต่ฉันว่าฮิโระเล่นบทตัวเอกโฮโลนั้นแล้วแม้ว่าไม่มีมุมต่างโลกปนอยู่ข้างใน”

“เขาไต่ขึ้นสู่ระดับทองคำขาวด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อจริง หลังจากทั้งหมด เขาสามารถได้รางวัลดาวทองด้วยเหมือนกัน”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุกคนจ้องเน้นมาที่ผม ไม่มีอะไรจะออกมาไม่สำคัญว่าพวกเธอจ้องฉันหนักแค่ไหนหรอก รู้ไหม

“มันจริงที่ฉันตอนนี้เป็นคนระดับทองคำขาวและผู้รับดาวทอง แต่ในท้ายที่สุด ฉันก็แค่ทหารรับจ้างผู้ค่อนข้างมั่นใจในทักษะของฉัน ยังไงนั่นก็ที่ฉันรู้สึก”

“ไม่มีทหารรับจ้างคนไหนผู้ได้ทั้งระดับทองคำขาวและรับดาวทองด้วยหรอก รู้มั้ย มากกว่านั้น เธอก็เป็นบางคนผู้ที่ทักษะถูกรับรู้อย่างเป็นทางการโดยจักรพรรดิหลังจากผลงานของเธอในการแข่งขันที่เธอแม้แต่ดวลวิชาดาบเอาชนะขุนนาง”

“นั่นใช่แล้ว ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่”

“ช่าย”

“แน่นอนค่ะ”

“อ๊าาา ฉันไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง นั่นทำไมฉันกำลังพูดว่าฉันไม่ต้องการเรื่องมีปัญหาเหมือนฉายาผู้กล้าหรือพลังลึกลับที่ฉันไม่เข้าในไงให้ตายเถอะแน่นอนฉันไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับอะไรใดๆในนั่น แค่ฉันกำลังไปที่ไหนกับการเดินเรื่องอย่างนี้อยู่ดีเล่า? อย่าบอกฉันนะว่าฉันมีชะตาเพื่อเป็นผู้กล้าผู้หน้าที่ต้องช่วยจักรวาลจากความชั่วร้ายหรือบางอย่างแบบนั้น”

แน่นอนผมไม่ต้องการนั่นสักส่วน ผมแค่อยากจีบกับทุกคนต่อไป, ดื่มโคล่า, และใช้ชีวิตผ่อนคลายและไร้กังวล ความตื่นเต้นนิดๆนานๆครั้งนั้นมากกว่าพอแล้วสำหรับผม เมื่อผมได้จับโคล่า ผมจะใช้ชีวิตในอุดมคติ เพราะทั้งหมดเหตุผลหลักที่ผมอยากใช้ชีวิตบนดาวเคราะห์เพราะมันเป็นที่เดียวเท่านั้นที่มีความสุขกับโคล่าได้ตามสบาย ถ้าผมดื่มโคล่าได้ในสภาพแวดล้อมอยู่อาศัยปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นไม่มีเหตุผลสำหรับผมที่จะต้องมุ่งเน้นกับบ้านเดี่ยวบนดาวเคราะห์อยู่อาศัย

“แต่ไม่ใช่มันจะเป็นไปได้สำหรับพี่ที่จะเดาอนาคตโดยใช้ความรู้จากเกมเหรอ?”

วิสเกอร์ถามด้วยดวงตาเป็นประกาย เธอน่าจะถามเกี่ยวกับที่ผมสามารถเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จะเป็นภัยต่อจักรวาลหรือบางอย่างแบบนั้น และนั่นทำไมดวงตาเธอส่องประกายด้วยความคาดหวัง

“มันไม่เหมือนว่าฉันทำไม่ได้ แต่ไม่มีอะไรประกันว่าอิเวนต์ที่เกิดขึ้นที่ฉันรู้จริงๆแล้วจะเกิดขึ้นที่นี่”

“เอ๋! ทำได้เหรอ!?”

“จริงๆอ่ะ!?”

“แน่ใจนะ บอส!?”

เอลม่า, มีมิ, และทีน่าทั้งหมดขึ้นเสียงในความตกใจ

อืม ใช่ แต่ผมแค่ได้รับประสบการณ์อิเว้นต์ที่ผมรู้ผ่านอิเวนต์ในเกม และเราค่อนข้างแก้ปัญหาทุกอย่างก่อนภัยพิบัติจะเลวร้ายลงกลับไปในเกม

“อย่างแรก มีสิ่งมีชีวิตผลึก ฉันสามารถรู้ล่วงหน้าในการเจอกันครั้งแรก, อิเวนต์ต่อสู้ป้องกัน, อิเวนต์สืบสวน, และอิเวนต์กวาดล้างภายในเกม”

“พอมาคิดมันดู มันเป็นครั้งแรกของฉันที่เห็นผลึกแม่ในปฏิบัติการทหารสุดท้ายที่เราเข้าร่วม”

“จริงๆแล้วฉันเล็ดข้อมูลเกี่ยวกับมันให้น.อว.ตรีเซเรน่า มันยอดเยี่ยมที่เราสามารถกำจัดมันได้เร็ว”

“บอสพูดบางอย่างอุกอาจทันทีเลยนะบอส…… มีอะไรอื่นอีกมั้ย?”

“มีอิเวนต์ที่เราเจอกับสัตว์ประหลาดอวกาศที่หิวโหยสุดๆ มันเป็นสัตว์ประหลาดฝูงใหญ่ที่ใหญ่เท่ายานอวกาศขนาดเล็กทั่วไป พวกมันแต่ละตัวอ่อนแออย่างบัดซบ แต่มันมีพวกมันเยอะมากๆ พวกมันจะเกาะบนโคโลนีโดยตรงเมื่อพวกมันมีโอกาสและจะทำการกลืนกินมันและทุกอย่างบนมัน”

“““อุว้าาาา……”””

“พูดถึงแล้ว ซากของโคโลนีที่เหลือในท้ายที่สุดจะทำหน้าที่เป็นรังของมันที่ทำให้มันเป็นไปได้ว่าแพร่พันธุ์อย่างเร็ว”

ใช่ แน่นอนว่านั้นเป็นอิเวนต์สุดแสบ โคโลนีจะนวนมากสุดท้ายกลายเป็นถูกระบาด ดังนั้นเราต้องลบมันสู่ฝุ่นอวกาศโดยไม่ทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง

“พ-พี่ผ่านนั่นมาได้ยังไง?”

“เหมือนกับสิ่งมีชีวิตผลึกทุกอย่าง มีตัวใหญ่ในหมู่พวกมันที่ควบคุมฝูงใหญ่ที่เหลือ เธอเทียบตัวเล็กเหมือนพวกมันเข้าถึง เครื่องปลายทางตัวใหญ่ได้ ดังนั้นตราบใดที่เราจัดการตัวใหญ่ ในท้ายที่สุดตัวเล็กจะทำลายตัวเอง แต่จนกว่าเราเจอรายละเอียดเล็กๆนั้น เรามีเวลาที่แย่มากๆในการขับไล่พวกมัน ในท้ายที่สุด เราจัดการกับพวกมันโดยส่งยานประเภทใหญ่พร้อมพลังการยิงเหลือเฟือลงไปตรงกลางฝูงโดยใช้หน่วยขับครส.เพื่อปะทะประเภทใหญ่และขยี้พวกมันด้วยการยิงเน้น”

“และอิเวนต์นั้นเป็นไปได้ว่าจะเกิดที่นี่ด้วย……?”

“ไม่รู้ มันเป็นไปได้ว่าอิเวนต์แบบนั้นเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่งในจักรวาลที่กว้างใหญ่ในที่ซึ่งเราไม่รู้และได้แก้ไขไปแล้ว ดังนั้นฉันบอกอย่างแน่ใจไม่ได้จริงๆ ถ้าในท้ายที่สุดเราเจอความจำเป็นต้องใช้ความรู้นั้นที่ฉันมีในหัว เราน่าจะเผชิญหน้ากับพวกมันด้วยเหมือนกัน เมื่อพิจารณาโชคของเรา มันจะไม่ดีที่จะหมกมุ่นอยู่กับบางอย่างแบบนั้นมากไปกว่านี้”

“นั่นจริง ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาสลดใจกับบางอย่างที่ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นมาแค่ลืมเกี่ยวกับมันเถอะ”

“น-นั่นถูกแล้ว”

“มีอะไรอื่นให้เราอีกมั้ย บอส? หนูสนใจจริงๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอะไรแบบนั้น”

“อ๊ะ หนูก็สงสัยเกี่ยวกับนั้นด้วยเหมือนกัน”

“อึน ฉันสงสัยว่าความรู้ฉันในเอสโอแอลทำหน้าที่เป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับพวกเธอได้ไหม”

ผมพูดตอบให้พี่น้องช่าง และบอกพวกเธอพี่น้องช่างเกี่ยวกับยานและความรู้เกี่ยวกับชิ้นส่วนทั้งหมด ก่อนผมจะรู้ มันดึกมากๆแล้ว ผมเดาว่ามันได้เวลาเรียกมันว่าจบวันและไปนอน

เราจะไปดูทิวทัศน์หลากหลายบนดาวเคราะห์ทีต้าหลังจากทั้งหมด อยู่ดึกๆนั้นไม่ดี

“เอออ๋?”

“ฉันจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับอะไรนั่นทีหลัง เข้าใจไหม……”

“สัญญานะ?”

เห็นได้ชัดว่า เรื่องราวของผมก้องกังวาลอยู่ในหัวของพี่น้องช่างและทำให้เธอหลับยาก พวกเธอเน้นเสมอว่าพวกเธอเป็นผู้ใหญ่โตเต็มตัว ดังนั้นทำเหมือนผู้ใหญ่แล้วไปนอนอย่างเชื่อฟัง ได้โปรด……

พูดถึงแล้ว ผมสมควรจะนอนในมุมของห้องแต่สุดทายอยู่กลางเหล่าคุณนายอยู่ดี

โดยเฉพาะ ผมถูกขนาบระหว่างพี่น้องช่าง

เอาน่าพวกเธอ ฉันจะไม่วิ่งหนีดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องขนาบฉันระหว่างพวกเธอสองคนหรอก

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu