หวัง​เฉิน​รู้สึก​ขมขื่น​จน​พูดไม่ออก​จริงๆ

เดิม​ตระกูล​หวัง​เป็น​ผู้ปกครอง​ท้องถิ่น​ของ​สู่​จง​ ​นี่​ก็​เป็น​เพราะ​สู่​จง​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​ขุนเขา​ ​มีสา​ยน​้ำ​เพียง​หนึ่ง​สาย​ที่​ไหล​ลง​ใต้​ ​เป็น​จุดยุทธศาสตร์​ทางทหาร​ที่​ป้องกัน​ง่าย​โจมตี​ยาก​ ​มี​ภูเขา​สูง​มากมาย​ ​นอกจาก​สู่​จง​แล้ว​ ​สถานที่​อื่นๆ​ ​ล้วน​ยากจน​ข้นแค้น​ ​คน​ทั่วไป​ล้วน​ไม่​อยาก​เข้าไป​อยู่

หาไม่​แล้วก็​คง​ไม่มี​คำกล่าว​ที่ว่า​ ​‘​ถนน​เดินทาง​ไป​สู่​จง​ยากเข็ญ​ยิ่งกว่า​ปีน​ขึ้น​สรวงสวรรค์​’

แต่​ถ้า​จู่ๆ​ ​ก็​มี​องค์​ชาย​มา​อยู่​สู่​จง​ถึง​สาม​พระองค์​ใน​คราว​เดียว​ ​สถานที่​ที่​แต่เดิม​อยู่​ไกลปืนเที่ยง​ร้าง​ผู้คน​ก็​จะ​กลายเป็น​สถานที่​ที่​ทุกคน​ต่าง​จับตามอง​ทันที​ ​ตระกูล​หวัง​จะ​กระทำการ​อย่าง​ลับ​ๆ​ ​และ​มั่งคั่ง​อย่าง​เงียบๆ​ ​ต่อไป​ได้​อย่างไร

เป็น​อย่างที่​หวัง​ซีก​ล่าว​มานั​่น​จริงๆ​ ​แทนที่​ถึง​เวลา​ถูก​ผู้มีอำนาจ​จับจ้อง​ต้องการ​แล่​เนื้อ​ดื่ม​โลหิต​ของ​พวกเขา​ ​มิสู​้​วางแผนการ​เสียแต่​เนิ่นๆ​ ​หาทาง​เริ่มต้น​ใหม่​ดีกว่า

แต่​ตระกูล​หวัง​ตั้งรกราก​ที่​สู่​จง​มา​แล้ว​กว่า​ร้อย​ปี​ ​จะ​ให้​ไป​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​รู้สึก​ไม่​ยินยอม

เขา​กล่าว​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​บางที​แต่งตั้ง​รัชทายาท​แล้ว​ ​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​ปี​ ​ทาง​ด้าน​โน้น​อาจ​ไม่​เหมือนเดิม​แล้วก็​เป็นได้​”

หวัง​ซี​ถอนหายใจ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ตอนที่​ควร​ตัด​ไม่​ตัด​ ​จะ​ยิ่ง​พบ​เจอ​ความยากลำบาก​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ชายแดน​มา​โจมตี​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ยัง​มี​ความคิด​อยาก​ถอนกำลัง​ ​นับประสา​อะไร​กับ​พวกเรา​ที่ทำการ​ค้า​กับ​อวิ​๋​นกุ​้​ยกัน​ตลอดทั้ง​ปี​ ​หาก​ถูก​กล่าวหา​ว่า​เป็น​ผู้​สอดแนม​คงยิ่ง​ยุ่งยาก​เป็นแน่​…

…​ข้า​คิด​ว่า​แทนที่จะ​รั้ง​อยู่​ที่​สู่​จง​ต่อไป​ ​มิสู​้​เก็บ​สู่​จง​ไว้​เป็น​ทาง​หลบหนี​เส้น​หนึ่ง​ดีกว่า​”

มิใช่​ว่า​หวัง​เฉิน​ไม่เคย​คิด​เช่นนี้​มาก​่อน

แต่​ตระกูล​หวัง​ถอย​ไป​อยู่​ที่ไหน​ถึง​จะ​ดีกว่า​เล่า​?

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไป​หมิ่น​เย​่ว​์​เป็น​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

หวัง​เฉิน​สนใจ

หวัง​ซียิ​้​มก​ล่า​วว​่า​ ​“​อย่างน้อย​อากาศ​ของ​ทาง​นั้น​ก็อบ​อุ่น​ ​ของกิน​ก็​มีมาก​มาย​ ​และ​ยัง​ติด​ทะเล​อีกด้วย​”

ราชวงศ์​ปัจจุบัน​ปิด​ประเทศ​มาร​้อ​ยก​ว่า​ปี​แล้ว

ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​เมื่อ​ไป​ถึง​จุดสูงสุด​แล้ว​ย่อม​ค่อยๆ​ ​เสื่อม​ลง

หวัง​เฉิน​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​หวัง​ซีดี

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ถึงอย่างไร​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบร้อน​ตอนนี้​ ​รอท่าน​ปู่​มาถึง​แล้ว​ค่อย​หารือ​กับ​ผู้อาวุโส​ก่อน​ก็​ยัง​ไม่​สาย​ ​พวกเรา​ยัง​เคย​สร้าง​หนี้บุญคุณ​ครั้ง​ใหญ่​กับ​วัด​หนาน​หวา​เอาไว้​ครั้งหนึ่ง​ด้วย​นี่​นา​!​”​

บางครั้ง​ ​ผูก​สัมพันธ์​กับ​พระ​ใน​วัด​เอาไว้​ก็​เป็นการ​สร้าง​โอกาส​ใหม่​ๆ​ ​ประเภท​หนึ่ง​เช่นกัน

หวัง​เฉิน​กล่าว​เย้า​นาง​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​หาก​รู้​เช่นนี้​แต่แรก​ ​คง​ไม่​ปล่อย​โฉนด​เขา​กู้​ซื่อ​หลุดมือ​ไป​แน่​”

“​โฉนด​เขา​ซื่อ​กู้​ถือเป็น​เรื่อง​รอง​”​ ​หวัง​ซียิ​้​มก​ล่าว​ ​“​ขอ​เพียง​ราชสำนัก​มีคำ​สั่ง​ ​ไม่ว่า​สถานที่​แบบ​ไหน​ก็​มีทั​้ง​นั้น​”

หวัง​เฉิน​พยักหน้า

หวัง​ซี​บอก​ให้​เฉิน​อวี​้​ไป​พักผ่อน​ก่อน​ ​“​ล้างหน้าล้างตา​ ​กิน​อะไร​สักหน่อย​และ​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​สัก​ตื่น​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​ทำงานต่อ​ ​ด้าน​คุณชาย​รอง​ ​ย่อม​ต้อง​มีเรื่อง​ให้​จัดการ​อีก​มาก​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​ผลัดเปลี่ยน​หมุนเวียน​กัน​ปรนนิบัติ​รับใช้​ถึง​จะ​ถูก​”

เฉิน​อวี​้​โขก​ศีรษะ​ให้​หวัง​ซี​ ​กล่าวว่า​ ​“​บ่าว​ไม่กล้า​ขอรับ​ ​คุณชาย​รอง​เป็นห่วง​ว่า​คุณหนู​จะ​คิด​ฟุ้งซ่าน​ ​จึง​ให้​ข้ามา​รายงาน​ให้​คุณหนู​ทราบ​เป็นการ​เฉพาะ​ ​ยัง​รอ​ให้​ข้า​กลับ​ไปรา​ยงา​นค​วาม​คืบหน้า​อยู่​ขอรับ​!​”​ ​ยัง​กล่าว​อีกว่า​ ​“​คาด​ว่า​ด้าน​คุณชาย​รอง​คง​ต้อง​วุ่น​กัน​อีก​เจ็ด​ถึง​แปด​วัน​ ​องค์​ชาย​รอง​มอบหมาย​ให้​คุณชาย​รอง​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ ​คุณชาย​รอง​ให้​คุณหนู​พัก​อยู่​ที่นี่​ก่อน​ ​รอทาง​จิง​เฉิง​ไม่มี​เรื่อง​อะไร​แล้ว​ ​เขา​ค่อย​มารั​บท​่า​นข​อรับ​”

ในเมื่อ​เขา​กล่าว​เช่นนี้​แล้ว​ ​หวัง​ซี​เอง​ก็​ไม่​รั้ง​เขา​เอาไว้​อีก​ ​ให้​คน​ยก​ข้าวต้ม​มา​ให้​เขา​ ​ตก​เงินราง​วัล​ให้​แล้วก็​ส่ง​เขา​ออก​ไป

แต่​ทันทีที่​เขา​ออกจาก​ประตู​ไป​ ​หวัง​เฉิน​ก็​ซ่อน​ความดีใจ​เอาไว้​ไม่ได้​อีก​ ​นัยน์ตา​ที่​มอง​หวัง​ซี​แดงก่ำ​ไป​หมด​ ​กล่าว​ติดๆ​ ​กัน​หลาย​ประโยค​ว่า​ ​“​มนุษย์​เรา​นี้​ต้อง​เชื่อ​ใน​โชคชะตา​ ​เจ้า​ดู​เจ้า​ ​ไม่มี​อะไร​ดีสั​กอย​่าง​ ​แต่งงาน​กับ​คน​ไป​ส่ง​ๆ​ ​แต่กลับ​ได้​แต่ง​กับ​ขุนนาง​ใน​หมู่​มังกร​ผู้​หนึ่ง​”

หวัง​ซี​หันไป​กลอกตา​มอง​บน​ใส่​พี่ชาย​ ​กล่าวว่า​ ​“​อะไร​ที่​เรียกว่า​แต่ง​กับ​คน​ไป​ส่ง​ๆ​ ​เจ้า​คะ​?​ ​งานแต่ง​ครั้งนี้​พวก​ท่าน​เป็น​คน​เห็นดีเห็นงาม​ด้วย​มิใช่​หรือ​ ​ที่แท้​พวก​ท่าน​ก็​อนุญาต​ไป​อย่าง​ส่ง​ๆ​ ​หรือ​เจ้า​คะ​”

บัดนี้​เรื่องใหญ่​คลี่คลาย​แล้ว​ ​ต่อให้​เฉินลั​่ว​ไม่มี​บรรดาศักดิ์​ของ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​แต่​หน้าที่​การงาน​ในอนาคต​ก็​คง​ไม่​ย่ำแย่​นัก​ ​ยาม​พูดจา​หวัง​เฉิน​เอง​ก็​ไม่ต้อง​วิตกกังวล​มาก​ขนาด​นั้น​อีกแล้ว​ ​พอ​เห็น​หวัง​ซีก​ล่า​ววา​จา​ไร้สาระ​หยอกเย้า​กับ​เขา​ ​เขา​เอง​ก็​พูด​กับ​นาง​อย่าง​สบาย​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นี่​มิใช่​เพราะ​เห็น​เจ้า​ชอบ​รูปลักษณ์​ของ​คุณชาย​รอง​ตระกูล​เฉิน​หรอก​หรือ​ ​ข้า​จะ​ไม่​อนุญาต​ได้​อย่างไร​ ​หาไม่​แล้ว​ ​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​ยุ่งเหยิง​ขนาด​นั้น​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​พวก​ข้า​ก็​ไม่มีทาง​ให้​เจ้า​แต่ง​เข้าไป​อย่างแน่นอน​!​ ​กล่าว​ไป​กล่าว​มา​ ​ที่​เจ้า​ได้​แต่ง​กับ​คู่ครอง​ที่​ดี​ ​ก็​เป็นความ​สามารถ​ของ​เจ้า​เอง​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​ฮ่า​เสียงดัง

ดึงดูด​ให้​จิน​ซื่อ​กับ​ฉัง​เคอ​ที่​รอ​อยู่​ด้านหลัง​อย่าง​ร้อนใจ​ออกมา​ร่วม​ด้วย

หลง​จู๊​ใหญ่​เล่าเรื่อง​ส่วน​ที่​เล่า​ได้​ให้​ทั้งสอง​คนฟัง​อย่าง​ลิงโลด​ยินดี​ ​ทั้งสอง​คน​ต่าง​พากัน​ดีใจ​ไป​ด้วย​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​ประนมมือ​ขึ้น​สวด​ ​‘​อมิตา​พุทธ​สูตร​’​ ​ดีใจ​ไป​กับ​หวัง​ซีด​้วย

จิน​ซื่อ​ถาม​หวัง​เฉิน​ว่า​ ​“​ต้อง​ไปดู​สักหน่อย​หรือไม่​ว่า​ร้านค้า​ตึกรามบ้านช่อง​ที่​ตลาด​มี​การเปลี่ยนแปลง​อะไร​หรือเปล่า​ ​พวกเรา​ฉวยโอกาส​นี้​ซื้อ​มา​เก็บ​ไว้​บ้าง​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

องค์​ชาย​รอง​ได้​เป็น​รัชทายาท​ ​ย่อม​มี​คน​ทะยาน​ขึ้น​มา​และ​มี​คน​ตกต่ำ​ลง​ไป

คนที​่​ล้ม​ลง​รู้สึก​ว่า​ตน​ควร​หนี​จาก​เคราะห์กรรม​ไป​ก่อน​ ​ย่อม​คิด​หาทาง​ขาย​ทรัพย์สิน​แลกเปลี่ยน​เป็น​เงินทอง​เพื่อ​เดินทางออก​จาก​จิง​เฉิง

นี่​นับเป็น​โอกาส​ทางการค้า​!

หวัง​เฉิน​รู้สึก​ว่า​เป็นไปได้​ ​สอง​สามีภรรยา​กระซิบกระซาบ​คุย​เรื่อง​นี้​กัน​ขึ้น​มา

เนื่องจาก​ฉัง​เคอ​กับ​จิน​ซื่อ​มาจาก​พื้นเพ​ครอบครัว​ที่​ไม่​เหมือนกัน​ ​เรื่อง​ที่​สนใจ​ก็​เลย​ไม่​เหมือนกัน​ด้วย​ ​นาง​ดึง​หวัง​ซี​ไป​คุย​กัน​ข้างๆ​ ​“​องค์​ชาย​รอง​ ​มิใช่​สิ​ ​องค์​รัชทายาท​ให้​เฉินลั​่ว​ไป​จัดการ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ ​จะ​มี​อะไร​ไม่เหมาะสม​หรือไม่​”

คนที​่​ดำรงตำแหน่ง​อยู่​ใน​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ก็​ไม่​ต่าง​จาก​กองพล​ทองคำ​และ​กองพล​ขนนก​ ​มี​ญาติ​หรือไม่ก็​บุตร​อนุ​ของ​ตระกูล​ชั้นสูง​อยู่​ใน​นั้น​จำนวนมาก​ ​ล้วน​เป็น​พวก​โหดเหี้ยม​ ​ชั่วร้าย​และ​ไร้เหตุผล​ประเภท​นั้น​ทั้งสิ้น​ ​นอกจากนี้​ก็​เหมือนกับ​ที่​ฮ่องเต้​ถาม​ใน​ท้องพระโรง​ตอนนั้น​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ถูก​เลี้ยง​อยู่​ใน​วัง​หลวง​ ​น้อย​ครั้ง​ที่จะ​ได้​ออกจาก​วัง​ ​ที่ผ่านมา​ไม่เคย​กำกับ​ดูแล​กองทัพ​มาก​่อน​ ​ไป​ผูก​สัมพันธ์​กับ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ได้​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ​ยัง​สั่งการ​พวกเขา​ไป​ ​‘​ช่วย​จักรพรรดิ​’​ ​ได้​อีก​ ​เรื่อง​นี้​ต้อง​มี​เงื่อนงำ​ซ่อน​อยู่​เป็นแน่

ตรวจสอบ​ออกมา​แล้ว​ไม่รู้​ว่า​จะ​โยง​ไป​ถึง​คน​มากมาย​เพียงใด

ถ้า​ฮ่องเต้​ไม่อยู่​แล้ว​ ​องค์​รัชทายาท​ขึ้น​ครองราชย์​ ​ยัง​พอ​หาย​กังวล​ได้​บ้าง​ ​สืบ​เจอ​ใคร​ก็​คือ​คน​นั้น

แต่​บัดนี้​ฮ่องเต้​ยังอยู่​ ​ยัง​มีเรื่อง​ลอบสังหาร​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​ยัง​คลุมเครือ​อยู่​ ​ปิด​คดี​ไป​อย่าง​ไม่ชัด​เจน​ ​เช่นนั้น​เฉินลั​่​วจะ​ตรวจสอบ​อย่างไร

หวัง​ซีก​ลับ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เฉินลั​่ว​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พวกเรา​ต่าง​ไม่​คุ้น​กับ​เรื่อง​ใน​แวดวง​ขุนนาง​ ​ต่อให้​กังวล​มาก​เพียงใด​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​ ​มิสู​้​เชื่อฟัง​คำของ​เขา​ ​พัก​อยู่​ใน​บ้าน​ให้​สบายใจ​รอ​เขา​มารั​บดี​กว่า​ ​พอ​เขา​ไม่ต้อง​มาดู​แล​เรื่องเล็ก​น้อย​อื่นๆ​ ​ก็​จะ​ได้​มี​แรง​ไป​จัดการ​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​ ​พวกเรา​รอ​เฉินลั​่ว​มา​แล้ว​ค่อย​ถาม​เขา​ว่า​เรื่องราว​เป็นมา​อย่างไร​ดีกว่า​!​”

ฉัง​เคอ​ถอนหายใจ​ ​แต่​ก็​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ว่านาง​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​มาก​ ​อย่างน้อย​ก็​มีสา​ยสัม​พันธ์​กับ​หวัง​ซี​อยู่​ ​ขอ​เพียง​เวิน​เจิง​ไม่​เข้าไป​พัวพัน​กับ​เรื่อง​ช่วงชิง​สิทธิ์​โอรส​จาก​ชายา​เอก​นี้​ ​แต่​แน่นอน​ ​ด้วย​ความ​ฉลาด​มีไหวพริบ​ของ​เวิน​เจิง​แล้ว​ ​เขา​ไม่น่า​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​แน่​ ​เช่นนั้น​ก็​นับได้ว่า​อนาคต​ของ​เวิน​เจิง​ปลอดภัย​แล้ว

เช่นนี้​ก็​ถือว่า​ดีมาก​แล้ว

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ต่าง​ผ่อนคลาย​ ​อยาก​กิน​ก็​กิน​ ​อยาก​พัก​ก็​พัก​ ​ระหว่าง​นั้น​ยัง​ย่าง​เนื้อ​แกะ​กินกัน​หนึ่ง​ครั้ง​ด้วย​ ​สุดท้าย​เฉินลั​่​วก​็​มารับ

เฉินลั​่​วที​่​อยู่​ใน​ชุด​ขุนนาง​สีแดง​สด​ปัก​ลาย​ราชสีห์​สีทอง​และ​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​นั่น​ช่างหล่อ​เหลา​จริงๆ​!

หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​เฉินลั​่ว​เหมาะกับ​สวม​เสื้อผ้า​สีสัน​ฉูดฉาด​มาก​เป็นพิเศษ

นาง​ลอบ​ชื่นชม​ความ​หล่อเหลา​ของ​เฉินลั​่​วอ​ยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ก้าว​ออก​ไป​ทำความเคารพ​เฉินลั​่​วที​่​กำลัง​สนทนา​กับ​หวัง​เฉิน​อยู่

สายตา​ของ​เฉินลั​่ว​มอง​มาที​่​หวัง​ซีทั​นที​ ​หลังจาก​ทักทาย​นาง​ตามมารยาท​แล้ว​ ​กล่าว​อย่างจริงจัง​ว่า​ ​“​ข้ามา​รับ​เจ้า​กลับ​เข้า​เมือง​”

แววตา​สุกใส​ระยิบระยับ​นั่น​ ​มัก​ทำให้​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​ดวงตา​ของ​เขา​มี​ความนัย​แฝง​อยู่​ ​ไม่​เหมือน​มารั​บนา​งก​ลับ​เข้า​เมือง​ ​คล้าย​กำลัง​บอกว่า​มารั​บนา​งก​ลับ​บ้าน​มากกว่า

หวัง​ซี​หน้าแดง​ ​รีบ​ก้าว​ไป​ขึ้นรถ​ม้า​อย่าง​ร้อนรน

เมื่อ​เข้า​เมือง​มา​แล้ว​ ​นาง​แอบ​เลิก​ผ้าม่าน​ขึ้น​มองออก​ไป​ด้านนอก

ใน​ตลาด​เนืองแน่น​ไป​ด้วย​รถม้า​และ​เกวียน​ ​ผู้คน​ขวักไขว่​ไปมา​ ​คึกคัก​กัน​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​กลับมา​อึกทึกครึกโครม​เหมือนก่อน​หน้า​นี้​โดย​สมบูรณ์​แล้ว​ ​ดู​ไม่​ออก​แม้แต่น้อย​ว่า​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​เคย​เกิด​การจลาจล​มาก​่อน

เช่น​ก็ดี​แล้ว​!

ประชาชน​มีที​่​พึ่ง​น้อย​เกินไป​ ​มีชีวิต​อย่างสงบ​สุข​ได้​ถือเป็น​ห้วงเวลา​แห่ง​ความรุ่งเรือง​แล้ว

นาง​กลับ​ถึง​ซอย​ลิ่ว​เถียว​ ​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​แล้ว​มายื​นม​อง​ดอก​อวี​้​จาน​ที่​กำลัง​ชู​ช่อ​ตูม​รอการ​เบ่งบาน​อยู่​เต็ม​ลานบ้าน​ ​รู้สึก​ราวกับ​อยู่​กัน​คนละ​โลก

มี​คน​โยน​หิน​ใส่​นาง

นาง​เงยหน้า​ขึ้น​เห็น​เฉินลั​่ว​พาด​ตัว​อยู่​บน​กำแพง

หวัง​ซี​อด​เม้มปาก​หัวเราะ​ไม่ได้

เฉินลั​่ว​ถาม​นาง​จาก​บน​กำแพง​ว่า​ ​“​กิน​อะไร​เป็น​ข้าวเย็น​”

หวัง​ซี​ถาม​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ไม่​ชวน​เจ้า​อยู่กิน​มื้อ​เย็น​ด้วย​หรือ​”

“​ชวน​แล้ว​!​”​ ​เขา​กระโดด​ลงมา​จาก​กำแพง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​บอกว่า​ข้า​ยัง​มีธุระ​ ​วันหน้า​ค่อย​ไป​เยี่ยม​ใหม่​”

“​แล้ว​เจ้า​ก็​วิ่ง​มาหา​ข้า​นี่​นะ​?​”​ ​หวัง​ซี​ถาม​เขา​ยิ้ม​ๆ

เขา​ใช้​แขน​เสื้อ​รอง​เอาไว้​ดึง​แขน​ของ​หวัง​ซี​เบา​ๆ​ ​เป็น​สัญญาณ​บอก​ให้​ไป​คุย​กันที่​ใต้​ซุ้ม​องุ่น

“​ข้า​ทำ​เพื่อ​เจ้า​มิใช่​หรือ​”​ ​เขา​กล่าว​ ​“​หรือ​เจ้า​ไม่มี​อะไร​อยาก​ถาม​เข้า​เลย​?​”

หวัง​ซี​ไม่เชื่อ​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​อยาก​มา​ขอกิ​นข​้า​วที​่​เรือน​ของ​ข้ามา​กก​ว่า​กระมัง​ ​เวลา​พี่ใหญ่​ข้า​รับรอง​เจ้า​ ​ไม่มี​ของ​ที่​เจ้า​ชอบ​กิน​หรือ​อย่างไร​”

เฉินลั​่​วทำ​หน้า​ขมขื่น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไม่​ถึงขนาด​นั้น​ ​แต่​อยู่​บ้าน​พวก​เจ้าข้า​เอง​ก็​ไม่​อาจ​สั่ง​กับข้าว​ตามใจชอบ​ได้​นี่​นา​!​ ​นอกจากนี้​พี่ใหญ่​คอแข็ง​เกินไป​ ​ข้ามา​เมื่อไร​ก็​เมา​กลับ​ไป​ทุกครั้ง​ ​ไม่ไหว​จริงๆ​ ​มากิ​นอะ​ไร​เล็กน้อย​กับ​เจ้าที่​นี่​ดีกว่า​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​ไม่​หยุด​ ​ให้​สาวใช้​ไป​ทำ​เครื่องเคียง​ที่​กิน​เป็นประจำ​มาส​อง​สาม​อย่าง​ ​ยัง​ถาม​เขา​ด้วยว่า​ ​“​เจ้า​มี​เวลา​หรือไม่​ ​หาก​เจ้า​มี​เวลา​ ​จะ​ตุ๋น​น้ำแกง​ให้​เจ้า​อีก​สัก​หนึ่ง​อย่าง​ ​วันนี้​เพิ่ง​กลับมา​ ​ใน​ครัว​เตรียม​ของ​ไว้​ไม่​เยอะ​มาก​ ​น้ำแกง​ไก่​นั้น​เพิ่ง​ตุ๋น​ไว้​เมื่อเช้า​ ​ไม่รู้​ว่า​ตุ๋น​เสร็จ​หรือยัง​”

น้ำแกง​ของ​ห้องครัว​นาง​ล้วน​ตุ๋น​ล่วงหน้า​เอาไว้​หนึ่ง​วัน​ ​ตุ๋น​จน​กระดูก​หลุด​ออกมา​ ​เหลือ​ไว้​เพียง​น้ำแกง​ไก่​หรือไม่ก็​เอา​ไป​ทำเป็น​น้ำแกง​ทำกับข้าว

เฉินลั​่​วนั​่ง​ลง​ใต้​ซุ้ม​องุ่น​ ​พรั่งพรู​ความทุกข์ยาก​ออกมา​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ให้​ข้า​ดื่ม​น้ำเปล่า​ของ​พวก​เจ้าข้า​ก็​รู้สึก​ว่า​ดีมาก​แล้ว​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ ​ข้า​เดินทาง​จาก​ค่าย​ไหว​โหรว​มาที​่​นี่​ไป​ๆ​ ​กลับ​ๆ​ ​ไม่​ต่ำกว่า​เจ็ด​แปด​เที่ยว​ ​ไม่ได้​ดื่ม​น้ำ​หรือ​กิน​อาหาร​ร้อน​ๆ​ ​ให้​สบายใจ​เลย​แม้แต่​มื้อ​เดียว​ ​ตอนนี้​หาก​เจ้า​ยก​หม่าน​โถว​มา​ให้​ข้า​หนึ่ง​จาน​คาด​ว่า​ข้า​คง​กิน​จน​หมด​ได้​”

นี่​ไม่​เกิน​จริง​เลย​สักนิด

น้ำเปล่า​ของ​หวัง​ซี​ใส่​ใบ​หม่อน​ลง​ไป​ต้ม​ด้วย​ ​ช่วย​บรรเทา​อาการ​ร้อนใน​ได้​ ​ส่วน​หม่าน​โถว​ใช้​นม​แพะ​ ​เนื้อ​จึง​เนียน​นุ่ม​กว่า​หม่าน​โถ​วทั​่ว​ไป​ ​ยัง​ให้​กลิ่น​นม​อ่อน​ๆ​ ​อีกด้วย​ ​เฉินลั​่ว​ชอบ​กิน​มาก

หวัง​ซีจึง​ให้​ห้องครัว​ทำ​น้ำแกง​ผัก​ตามฤดูกาล​มา​ให้​เฉินลั​่​วอี​กห​นึ่ง​ถ้วย​ ​ยัง​กำชับ​คนครัว​ด้วยว่า​ ​“​เติม​ราก​บัว​ที่​หลง​จู๊​ใหญ่​ส่ง​มา​ให้​เมื่อ​ครู่​ด้วย​”

เฉินลั​่ว​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​ฤดูกาล​นี้​มี​ราก​บัว​แล้ว​หรือ​”

“​ไม่​มาก​!​”​ ​หวัง​ซีนั​่ง​ลงมา​ตาม​เฉินลั​่ว​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​อ่อนมาก​ ​คั้น​น้ำ​แล้ว​เอา​ไป​ต้ม​ก็​อร่อย​มาก​ ​ซอย​เป็น​แว่น​บาง​ๆ​ ​ใส่​ลง​ไป​ใน​น้ำแกง​ก็​สดชื่น​มาก​เช่นกัน​”

เรื่อง​ของกิน​ ​เฉินลั​่​วล​้​วน​กินตา​มห​วัง​ซี

หวัง​ซีจึง​ถาม​เฉินลั​่ว​เรื่อง​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ ​“​เหตุใด​ถึง​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ต่อหน้าต่อตา​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ได้​ ​ดีร้าย​พวกเขา​ก็​เป็น​ทหาร​ยศ​ขั้น​สาม​บน​กระมัง​ ​เหตุใด​ยาม​โง่เขลา​ขึ้น​มาถึง​ได้​โง่​กว่า​เด็กสาว​ใน​ห้อง​หอ​อย่าง​ข้า​ไป​ได้​เล่า​”

เฉินลั​่ว​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​มอง​หวัง​ซีค​รั้ง​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​อย่า​ใช้​วาจา​หลอก​ถาม​ข้า​เลย​ ​ข้า​ไม่​คิด​จะ​ปิดบัง​เจ้า​อยู่​แล้ว​ ​นอกจาก​พวก​ที่​ได้​เป็น​หัวหน้า​เพราะ​อาศัย​เส้นสาย​เหล่านั้น​แล้ว​ ​มี​ใคร​โง่งม​ขนาด​นั้น​บ้าง​ ​แน่นอน​ว่า​เป็น​เพราะ​ก่อนหน้านี้​ข้า​กับ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ทำ​ข้อตกลง​ร่วมกัน​ ​หาก​ฮ่องเต้​ไป​ยึดทรัพย์​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ ​พวก​ข้า​จะ​ใส่ร้าย​องค์​ชาย​เจ็ด​บีบบังคับ​ให้​สละราชสมบัติ​!​ ​ไม่อย่างนั้น​คน​ของ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​จะ​สามัคคี​กัน​ขนาด​นั้น​ได้​อย่างไร​ ​หัวหน้า​ห้า​คน​ล้วน​มุ่งหน้า​เข้า​วัง​ไป​อย่าง​พร้อมเพรียง​!​…

…​และ​องค์​ชาย​รอง​เอง​ก็​คง​ไม่​มอบ​คน​ของ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้ามา​ให้​ข้า​จัดการ​หรอก​กระมัง​”

เหตุใด​ไม่​ใช้​คน​ของกอง​พล​ทองคำ​นะ​?

ความคิด​นี้​เพิ่ง​ผุด​ออกมา​จาก​หัว​ของ​หวัง​ซี​ ​ก็​ถูก​นาง​กด​ลง​ไป​อย่างรวดเร็ว

เฉินลั​่ว​ช่าง​ฉลาด​จริงๆ

ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​สั่ง​ให้​คน​ของ​หน่วย​รักษา​ความสงบ​ของ​เมืองหลวง​ทั้ง​ห้า​ใส่ร้าย​องค์​ชาย​เจ็ด​ได้​ ​ทว่า​เฉินลั​่​วทำ​ไม่ได้​ ​กล่าวคือ​ ​เมื่อใด​ก็ตามที​่​องค์​ชาย​รอง​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​ ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​คือ​ตระกูล​ลุง​ของ​เขา​ ​แต่​เฉินลั​่ว​เป็น​ขุนนาง​ของ​เขา​ ​หาก​เขา​จำ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​หนึ่ง​ ​แต่​ถ้า​จำได้​ขึ้น​มา​ ​ก็​คง​อด​ระแวง​ว่า​เฉินลั​่​วจะ​ใส่ร้าย​เขา​ไม่ได้​!

เฉินลั​่ว​มีนิ​สัย​ที่​ค่อนข้าง​ชอบ​บงการ​ออกคำสั่ง​ ​ก่อนหน้านี้​หวัง​ซี​เป็นห่วง​เขา​อยู่​บ้าง

บัดนี้​เขา​คิดถึง​ข้อนี​้​ได้​ ​นาง​ก็​ไม่มี​อะไร​ต้อง​ห่วง​เขา​แล้ว

…………………………………………………………………