บทที่ 108 งานใหม่

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

หลังจากออกมาจากห้องฝ่ายบุคคลแล้ว ณัฐณิชาก็รีบไปรายงานตัวที่ฝ่ายครีเอทีฟทันที ผู้จัดการฝ่ายครีเอทีฟเป็นผู้หญิงที่เอาจริงเอาจังกับงานมาก ดูแล้วก็อายุแค่สี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด ทุกคนต่างก็เรียกเธอว่าพี่ดาว

“วันนี้เธอทำงานวันแรก ไม่มีงานอะไรสำคัญหรอก เธอไปอ่านกฎของพนักงานก่อนนะ”

“อ้อ ค่ะๆ”

ณัฐณิชาเอากฎของพนักงานมาเปิดดูอย่างถ่อมตัว พอดีกับทางฝ่ายบุคคลที่เพิ่งส่งเรื่องที่ต้องระวังมา เธอหาตำแหน่งที่นั่งทำงานของตัวเอง ไปเอาคอมที่ฝ่ายการเงิน แล้วเริ่มเรียนทันที

แต่ว่า……ทำไมถึงมีตัวหนังสือเยอะแบบนี้นะ?

แต่ละข้ออย่างกับหนังสือสวรรค์แน่ะ

ณัฐณิชามือเท้าคางไว้ไม่ให้หลับ พยายามจำตัวหนังสือพวกนั้นในสมอง……ตอนเย็นก่อนเลิกงาน พี่ดาวบอกให้เธอโพสต์หนังสือพิมพ์รายวันของวันนี้ เขียนสิ่งที่ได้รับมาง่ายๆ ณัฐณิชาอึ้งไปทันที

เธอมองดูพนักงานคนอื่นๆที่กลับกันหมดแล้ว ตัวเองกลับยังเกาหัวพิมพ์งานอยู่ แค่รูปแบบหนังสือพิมพ์รายวัน เธอก็ใช้เวลาค้นหาในกูเกิลชั่วโมงกว่าแล้ว……

อย่าว่าแค่พิมพ์ตัวหนังสือสักตัวเลย

มองดูท้องฟ้าที่มืดลงเรื่อยๆ ณัฐณิชาก็ร้อนรนใจอย่างมาก แต่เธอไม่ค่อยรู้เรื่องคอมจริงๆ จึงต้องเคาะแป้นพิมพ์ทีละตัวอย่าง ตรวจสอบและเขียนใหม่อย่างสิ้นหวัง

เธอรู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้และรู้สึกน้อยใจ……ณัฐณิชาข่มอารมณ์ในใจไว้แล้วพยายามเขียนต่อไป

ตอนกลางคืน ณัฐณิชาพิมพ์ตัวหนังสือตัวสุดท้ายเสร็จ เธอก็ขยี้ตาและยืดเส้นยืดสาย

“ทำเสร็จแล้วเหรอ?”

ณัฐณิชาหันหน้ากลับไปเห็นธราเทพยืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะทั้งแผนกเปิดไฟไว้แค่ที่เดียว ดูแล้วเป็นแสงไฟสลัวๆไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ทำให้เห็นใบหน้าของธราเทพไม่ค่อยชัดเจน เธอก็ถามอย่างตกใจว่า “นายมาได้ยังไงกัน?”

“……บริษัทของฉัน แปลกมากเหรอที่ฉันอยู่นี่?”

“นั่นสิ”

ณัฐณิชาก็ถึงนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ได้ยินผู้ช่วยนรินทร์บอกว่า ที่จริงธราเทพเป็นคนที่ใช้ชีวิตไม่เป็น ในหัวมีแต่เรื่องงาน กินข้าวเที่ยวห้างซื้อของเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ต่างชอบกันหมด แต่ในสายตาเขาก็แค่ใช้ชีวิตเพื่อทำงานเท่านั้น

ณัฐณิชาเก็บเอกสารเสร็จแล้ว ก็ลุกขึ้นมาทันที “ฉันทำงานเสร็จแล้วล่ะ พวกเลิกงานกันเถอะ?”

“เลิกงานตั้งนานแล้ว” ธราเทพพูดอย่างไม่พอใจ เขากวาดตามองรอบด้านที่ไม่มีคนเหลืออยู่เลย ณัฐณิชายังเกาหัวแกรกๆอย่างเกรงใจ “ขอโทษด้วยนะ ฉันลืมดูเวลาน่ะ……”

ธราเทพ ‘หึ’ ในลำคออย่างเย็นชา

รู้ไหมว่าสิบนาทีของเขามีค่ามากแค่ไหน?

เธอกลับให้เขารอนานขนาดนี้……

แต่ตอนที่ณัฐณิชาเก็บของเสร็จแล้วเดินออกไป ก็อดไม่ได้ดีใจขึ้นมา “นายตั้งใจรอฉันเหรอ?” ไม่คิดว่าธราเทพจะตั้งใจรอตัวเองเลยนะ ทั้งที่เขาสามารถกลับก่อนได้ หรือให้ตัวเองกลับไปทำงานต่อที่บ้านก็ได้ แต่เขาไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลย แค่นั่งรอเธอทำงานจนเสร็จเงียบๆ

ณัฐณิชารู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก

ธราเทพเห็นท่าทางที่เธอเม้มปากแอบหัวเราะ ก็เลยตอบไปว่า “ไม่ใช่”

“ฮะ? งั้นนาย……”

“แค่ดูบรรยากาศน่ะ” ธราเทพมองเธอแวบเดียว แล้วรีบเดินต่อไปทันที

หื้ม?

ชมบรรยากาศตอนกลางคืนเนี้ยนะ? บ้าหรือเปล่า?

และถ้าจะดูบรรยากาศจริง ห้องประธานสวยกว่าไหม!

ณัฐณิชายิ้มกว้างมากกว่าเดิม เธอเหยียบส้นสูงเดินตามเขาไป ต่อมา……เธอก็คล้องแขนธราเทพไว้ เงยหน้าพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “นายเขินใช่ไหม? นายตั้งใจรอฉันจริงๆใช่ไหม? ไม่คิดว่าภายนอกนายดูเป็นคนเย็นชา แต่ภายในก็เป็นคนที่อบอุ่นเหมือนกันนะ”

“……”

ธราเทพอยากจะชักมือออกมาจากณัฐณิชา แต่เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอ เขาก็ลืมไปเลยว่าจะทำอะไร

หรือเป็นเพราะว่า……ตั้งแต่มีเธออยู่ข้างกาย ชีวิตของเขาก็มีสีสันขึ้นมามาก

“นี่ ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ถ้านายไม่พูด ฉันจะถือว่านายยอมรับนะ?”

พอมาถึงลานจอดรถ ทันใดนั้นณัฐณิชาก็รีบปล่อยแขนออกทันที เธอรีบเดินไปข้างหน้า ต่อมาก็กลับหลังหันมองหน้าธราเทพแล้วเดินถอยหลัง เธอโบกไม้โบกมือตัวเอง ดูมีเสน่ห์มากกว่าปกติ ทำให้ธราเทพมองจนเพลิน

“ณัฐณิชา!”

ธราเทพขี้เกียจเถียงกับเธอ จึงเดินไปที่รถก่อน และในตอนนี้เองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ไม่รู้ว่ารเณศมากจากไหน เขาวิ่งเข้ามาแล้วกอดณัฐณิชาไว้แน่น!

ชายหนุ่มกอดแน่นจนเธอเอาตัวออกมาไม่ได้ ณัฐณิชาได้กลิ่นของเหล้าโชยออกมา ต่อมาตัวเองก็ถูกกอดเอาไว้จนขยับตัวไม่ได้!

“รเณศ นายปล่อยฉันนะ!”

ณัฐณิชาใจเต้นตึกตัก ทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

รเณศกลับไม่ยอมปล่อยมือออกไป เขาดื่มเหล้าเยอะมาก เขารออยู่ด้านล่างตึกทั้งวัน เพื่อรอให้ณัฐณิชาปรากฏตัว! รเณศขยับจมูกเข้าไปใกล้ใบหน้าของณัฐณิชาอย่างใกล้ชิด แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ณัฐณิชา ฉันผิดไปแล้ว เธอกลับมาคบกับฉันได้ไหม? พวกเรากลับมาคบกันอีกครั้งได้ไหม? ความรักสามปีของพวกเรามันไม่มีค่าเลยเหรอ? ฉันกับภัทรินเป็นแค่ทางผ่านของกันเท่านั้น ฉันซื้อบ้านได้แล้ว ฉันอยากใช้ชีวิตกับเธอมากเลยนะ……”

“นายอยากอยู่กับฉันงั้นเหรอ?” ณัฐณิชาเหมือนได้ยินคำพูดที่น่าตลกที่สุดในโลกนี้ เธอรู้ว่าตัวเองเอาตัวออกมาไม่ได้ และตอนนี้ธราเทพก็เดินไปเอารถที่ลานจอดรถแล้ว น่าจะใช้เวลาอีกนาน เธอพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง “นายแต่งงานกับภัทรินแล้ว จะอยู่กับฉันได้ยังไงล่ะ?”

“ฉันหย่ากับภัทรินได้นะ!” รเณศรีบพูดสาบาน