ตอนที่ 219 ผู้บุกเบิก (1)

ในฐานะบรรณาธิการซึ่งดูแลฉู่ขวงโดยตรง หยางเฟิงจึงใส่ใจความคิดเห็นของผู้อ่านต่อเรื่องคนขุดสุสานมากกว่าใคร

เมื่อสมควรแก่เวลา เขานั่งรอหน้าจอคอมพิวเตอร์ กดรีเฟรชความคิดเห็นใหม่ๆ ของผู้อ่าน

‘หนังสือเรื่องใหม่สนุกจริงๆ!’

‘อ่านแล้วไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำ…ผู้ชายอกสามศอกอย่างผม กลางวันแสกๆ ยังไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำ!’

‘คุยอย่างภาคภูมิใจเลยนะ?’

‘ฉู่ขวงจะทำให้ฉันช็อกตาย แล้วก็ฮุบสมบัติฉันใช่มั้ย’

‘ไม่เชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ แต่ในหนังสือใช้วัตถุนิยมมาอธิบายให้เรื่องนี้สมเหตุสมผล’

‘คอมเมนต์บนช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าวัตถุนิยมเกี่ยวอะไรกับดอกซากศพ’

‘…’

หยางเฟิงหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

ใช้วัตถุนิยมมาอธิบายนิยายขุดสุสานได้ทั้งหมดซะที่ไหนกันล่ะ

เรื่องแปลกประหลาดทั้งหลายที่เอ่ยถึงในหนังสือ อย่างพวกดอกซากศพ อันที่จริงก็ใช้เพื่อเพิ่มความลี้ลับชวนตื่นเต้นนี่แหละ

โชคดีที่นี่ไม่ใช่จุดที่นักอ่านตะขิดตะขวงใจ

ผู้อ่านส่วนมากรู้สึกว่าหนังสือเรื่องนี้ทั้งน่ากลัวและน่าตื่นเต้น

‘พล็อตเรื่องตื่นเต้นจนสมองฉันชาเลย ใจเต้นตุบๆๆๆ ไม่หาย ครั้งนี้เจ้าแก่ฉู่ขวงแก้แค้นที่ฉันด่าที่เขาเขียนให้ปี้เหยาตายใช่มั้ย แต่นิยายก็ดีจริงนั่นแหละ เจ้าแก่ฉู่ขวงฉลาดหลักแหลมเหมือนเดิม’

‘แม่เจ้าโว้ยนี่เป็นนิยายสยองขวัญของจริง กลัวก็กลัว แต่ก็อยากอ่าน วางไม่ลงเลยช่วยด้วย!’

‘จินตนาการล้ำเลิศ ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก คิดว่านิยายเรื่องนี้น่าจะจัดอยู่ในแนวผจญภัยนะ แต่จะไปใส่ไว้ในหมวดไหนก็ยังเฉพาะกลุ่มอยู่ดี โชคดีที่ฉู่ขวงทำให้แนวเฉพาะกลุ่มกลายเป็นกระแสหลักได้’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงเรียนจบสาขาอะไรมา ทำไมรู้สึกว่าเก่งไปหมดทุกอย่าง นิยายเรื่องนี้ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์กับฮวงจุ้ยด้วย’

‘ตอนนี้ฉู่ขวงใช้ตัวอักษรสร้างป้อมปราการโบราณขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ’

‘…’

คำวิจารณ์ในแง่บวก เป็นคำวิจารณ์ในแง่บวกทั้งนั้น!

บรรยากาศสยองขวัญทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่ชินนัก ประเภทของเรื่องคนขุดสุสานไม่เหมือนกับนิยายสองเรื่องก่อนหน้าของฉู่ขวงแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่แม้แต่สไตล์ก็ยังต่างกันราวฟ้ากับดิน

แต่ดูจากคุณภาพของผลงานแล้ว หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงยังคงสนุกเหมือนเดิม!

เพียงแต่น่ากลัวจนขนหัวลุกก็เท่านั้นเอง

ผู้อ่านจำนวนมากแสดงความเห็นว่าหนังสือเรื่องนี้ชวนอกสั่นขวัญหาย ขณะเดียวกันก็ยังชื่นชมว่าตื่นเต้นเร้าใจ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว พวกเขากลัวก็กลัว ขณะเดียวกันก็ยังข่มกลั้นความอยากรู้เนื้อเรื่องหลังจากนั้นไม่ไหว จนต้องอ่านต่อไปทั้งๆ ที่กลัว

ในความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่อารมณ์จะถูกกระตุ้นขณะอ่านนิยาย

ท่ามกลางความคิดเห็นหลากหลาย มีหลายความเห็นที่มาจากผู้อ่านชาวฉีโจว…

ผู้อ่านส่วนมากจากฉีโจว ได้อ่านผลงานของฉู่ขวงเป็นครั้งแรก

ทว่าครั้งแรกก็มักถูกลิขิตมาให้ยากจะลืมเลือน เรื่องคนขุดสุสานก็ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากตกหลุมพรางของฉู่ขวงเป็นที่เรียบร้อย

จากประสบการณ์ หยางเฟิงจึงมองออก

ว่าหนังสือเล่มนี้ ดังแน่นอน!

ในตอนนี้หยางเฟิงไม่กระวนกระวายใจอีกต่อไป เขาผ่อนลมหายใจยางด้วยความโล่งอก “สมแล้วที่เป็นฉู่ขวง…”

อันที่จริง

ไม่เพียงเว็บไซต์ทางการ

บรรณาธิการสำนักพิมพ์อื่นๆ ในแวดวงนิยาย ก็มีไม่น้อยที่ติดตามเรื่องคนขุดสุสาน

ทว่าพวกเขาต่างจากผู้อ่านจากมณฑลฉินและมณฑลฉี สิ่งที่บรรณาธิการเหล่านี้มุ่งความสนใจไปก็คือ

หมวดหมู่ใหม่!

หลังจากการแข่งขันกีฬาและเทพเซียนกำลังภายใน…

ฉู่ขวงถึงกับบุกเบิกหมวดหมู่นิยายอีกแล้วหรือ!

น่ากลัวเกินไปแล้วไหมเนี่ย

มีที่ไหนกัน เขียนหนังสือหนึ่งเรื่อง ก็บุกเบิกประเภทใหม่

รูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานของฉู่ขวงได้นำหน้าทุกคนไปแล้วหนึ่งยุคสมัย?

ถ้าหากมองจากมุมมองที่กว้างขึ้น เรื่องคนขุดสุสาน นับว่าเป็นหมวดลี้ลับ นับว่าหมวดสยองขวัญ นับว่าเป็นหมวดผจญภัย…

เป็นแนวไหนก็ได้ เพราะถึงอย่างไรทุกแนวต่างก็มีจุดที่เชื่อมโยงถึงกัน

แต่ถ้าหากแบ่งโดยละเอียดสักหน่อย เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาแล้ว นิยายเรื่องนี้ก็คือนิยายหมวดขุดสุสานที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน!

“นี่น่าจะจัดเป็นหมวดขุดสุสานไปเลยก็ได้นะ?”

“ฉันว่าใกล้แล้วแหละ”

การจัดแบ่งว่านิยายเป็นหมวดหมู่ไหน ก่อนอื่นจะต้องกลายเป็นกระแสซะก่อน

ทั่วทั้งตลาดนิยายทุกวันนี้ มีเพียงเรื่องคนขุดสุสานเพียงเรื่องเดียวที่เป็นธีมขุดสุสาน เพราะฉะนั้นนิยายธีมนี้จึงยังไม่สามารถใช้คำว่า ‘หมวดหมู่’ ได้เป็นการชั่วคราว

แต่มีบรรณาธิการคนไหนที่ไม่เจ้าเล่ห์บ้าง..

ใครๆ ก็มองออกว่าสารบบความคิดจากเรื่องคนขุดสุสาน ยังไม่ต้องพูดถึงคัดลอก อย่างน้อยก็สามารถเลียนแบบกันได้!

กลุ่มของตัวละครหลักเข้าไปสำรวจสุสาน จากนั้นฟันฝ่าอันตรายนานัปการ นักเขียนได้ถ่ายทอดความน่ากลัวและลึกลับของสุสานให้ปรากฏแก่สายตา

เหมาะกับอะไรน่ะเหรอ

แน่นอนว่าเหมาะกับการตามกระแสไงล่ะ!

มีบรรณาธิการที่ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว ย่อมเกิดแผนการในใจแล้วว่าจะให้นักเขียนในสังกัดที่เชี่ยวชาญการเขียนแนวผจญภัย สยองขวัญ หรือลึกลับ ตามกระแสเรื่องคนขุดสุสานไปด้วย

อันที่จริงไม่จำเป็นต้องให้บรรณาธิการเตือนด้วยซ้ำ

มีนักเขียนที่คอยจับตามองหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงมาตั้งแต่แรกแล้ว

เดินตามฉู่ขวงไป มีเนื้อให้กินแน่นอน!

ต่อให้กินเนื้อไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้กินน้ำแกง!

คนที่ตามกระแสสองครั้งแรกของฉู่ขวง ในตอนนี้ได้ลิ้มลองความหอมหวานของเนื้อไปแล้ว

ดังนั้นฉู่ขวงเปิดประเดิมประเภทใหม่อีกครั้ง หลายคนก็ล้วนอยากลองดูสักตั้งว่าตนจะตามกระแสครั้งนี้ได้หรือไม่

บรรณาธิการในวงการต่างก็เริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

“นิยายขนาดยาวสามเรื่อง แนวไหนเฉพาะกลุ่มก็เขียนแนวนั้น แถมแต่ละเล่มดันเขียนได้ยอดเยี่ยมมาก นักเขียนนิยายแบบนี้มันปีศาจชัดๆ!”

“คลังหนังสือซิลเวอร์บลูโชคดีจริงๆ ที่ผู้บุกเบิกอย่างฉู่ขวง”

“ของอย่างการขุดสุสานก็เขียนออกมาเป็นนิยายได้ ผมล่ะนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ในตลาดมีนักเขียนอย่างฉู่ขวง นับเป็นโชคดีของนักเขียนคนอื่นด้วย แต่ถ้าช่วงเวลาที่ปล่อยหนังสือชนกับฉู่ขวงเข้า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

“คุณพูดถึงไห่เซ่าเหยี่ยกับหมัวถงเหรอ พวกเขาดูท่าน่าจะกลายเป็นแบ็กดร็อปไปแล้วล่ะ”

“ประเด็นสำคัญคือเขาใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งด้วยนะ สุดยอดไปเลยจริงๆ! ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงคนอ่านเลย ต่อให้เป็นบ.ก.อย่างพวกเราเอง เจอเรื่องไหนเขียนด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่งก็ขมวดคิ้วปัดเรื่องนั้นตกไปแล้ว”

“ก็เลยมีฉู่ขวงแค่คนเดียวไง…”

“ฉู่ขวงเอาแต่ใจเหมือนที่ผ่านมา แต่ความเอาแต่ใจของเขาก็ดันเป็นร่างวัชระไงล่ะ”

“หนังสือเรื่องนี้ออกมาปุ๊บ เขาก็คว้าตำแหน่งมหาเทพปั๊บอย่างสบายใจเฉิบ”

“…”

มีคนไม่เข้าใจ

ยอดขายยังไม่ทันออกมา พวกคุณแน่ใจกันได้ยังไง

บรรณาธิการส่วนมากต่างเผยรอยยิ้มขมขื่น

ยังต้องรอยอดขายอีกหรือ

ไม่ต้องรอยอดขายหรอก

ใช้ประสบการณ์ก็พอ

เพราะตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ตามเว็บบอร์ดนิยายใหญ่ๆ บนอินเทอร์เน็ตก็เต็มไปด้วยกระทู้สนทนาเกี่ยวกับนิยายเรื่องคนขุดสุสาน

ทั้งมัวจินเซี่ยวเว่ย ทั้งเต้าโต่ว[1]

ถึงกับมีคนเขียนเสริมเกร็ดความรู้เฉพาะทาง เพื่อพิสูจน์ว่าการขุดสุสานที่ฉู่ขวงเขียนนั้นมีพื้นฐานจากเรื่องจริง หนำซ้ำยังมีความเป็นมืออาชีพมากเสียด้วย!

บรรยากาศการพูดคุยกันอย่างคึกคักเช่นนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่ายอดขายเรื่องคนขุดสุสานไม่มีทางน้อยไปได้เลย!

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนมองไม่ออก หรือยังไม่ปักใจเชื่อ

สุดท้ายแล้วจะต้องรอดูผลลัพธ์ทางการตลาดที่มีมูลค่าสูงขึ้นเพื่อพิสูจน์ความนิยมของเรื่องคนขุดสุสาน

บางทีอาจจะดี แต่ไม่มีคนอ่านก็ได้?

มีเพียงตัวเลขของยอดขายเท่านั้นที่จะพิสูจน์ความจริงได้

ถ้างั้นยอดขายเรื่องคนขุดสุสานเป็นอย่างไรแล้วล่ะ

เมื่อเทียบกับเรื่องเซียนกระบี่ลงเขาของหมัวถงซึ่งปล่อยออกมาในช่วงเวลาเดียวกันแล้วเป็นอย่างไร

เมื่อเทียบกับเรื่องมิติคู่ขนานของฉันเป็นสังคมบรรพกาลของไห่เซ่าเหยี่ยซึ่งปล่อยออกมาในช่วงเวลาเดียวกันแล้วเป็นอย่างไร

นี่เป็นความสงสัยซึ่งอัดแน่นอยู่ในอกของผู้คนในวงการ ก่อนที่เดือนมิถุนายนจะมาถึง

แน่นอนว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เรื่องคนขุดสุสานปล่อยออกมา ความสงสัยนี้ก็ไม่ควรค่าแก่การสงสัยอีกต่อไป

เพราะตั้งแต่สามวันแรก ยอดขายเรื่องคนขุดสุสานก็ทะยานขึ้นแซงหน้าหนังสือยอดนิยมอีกสองเล่มซึ่งปล่อยในช่วงเวลาเดียวกันไปแล้ว!

…………………………………………………

[1] เต้าโต่ว เป็นคำศัพท์จากเรื่องคนขุดสุสาน หมายถึงการขุดสุสาน ในที่นี้จะขอใช้คำว่า ‘ขุดสุสาน’ เพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจ