ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 25

”ได้เลย” เจนสันเอ่ยพลางพนักหน้า

เด็กน้อยร็อบบี้เดินลงไปยังชั้นล่าง เมื่อโรสและเจย์ได้ยินเสียงฝีเท้าน้อย ๆ การโต้เถียงที่เกิดขึ้นพลันเงียบหายไปในทันควัน

เด็กน้อยเดินไปยืนหยุดท่ายกลางผู้ใหญ่ทั้งสอง เขามองไปที่ดวงตาคู่สวยที่แดงเรื่อของแม่ พร้อมหันกลับมามองชายที่ได้ชื่อว่าพ่อ ร่างเล็กจึงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศคลุกกรุ่นที่แผ่ออกมาจากผู้เป็นพ่อ

ร็อบบี้ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านายตัวร้ายที่คอยกลั่นแกล้งแม่ของเขาจะกลายเป็น คุณพ่อที่ตัวเขานั้นถวิลหาอยู่ทุกวันทุกคืน

แม้ว่าคุณพ่อจะดูน่าภูมิฐาน หล่อเหลาและร่ำรวย แต่คนที่เอาใจใส่เลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุดในโลกกลับกลายเป็นคุณแม่ เขาไม่มีวันยอมให้ใครมากลั่นแกล้งแม่ของเขาเป็นแน่ แม้กระทั่งพ่อก็ตาม

“เจนสัน ลูกมาทำอะไรข้างล่างนี่? รีบขึ้นไปด้านบนซะ คุณแนนซี่จะเป็นคนพาลูกไปโรงเรียน” เจย์ปรายตามองก่อนจะเอ่ยกับเจนสัน ก่อนจะขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเขาเห็นการต่อต้านเกิดขึ้นภายในแววตาของลูกชายตัวน้อย แค่แวบเดียวในแววตานั้น

ซึ่งนั้น คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ร็อบบี้น้อยเดินตรงไปยังผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง

เจย์ชะงักในทันที

เจนสันมักจะสามารถควบคุมอารมณ์ของตังเองเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เก็บความรู้สึกเหล่านั้นได้ ทว่าวันนี้ดูเหมือนว่าลูกของเขากำลังเก็บมันไว้ไม่ได้เสียแล้ว!

“คุณพ่อครับ ผมไม่อยากไปโรงเรียนกับคุณแนนซี่ ผมอยากไปกับเธอ” เจนสัน ชี้นิ้วเล็ก ๆ ไปยังโรสที่ยืนอยู่ตรงหน้า นั้นทำให้เจย์แทบจะลมจับ

ร่างสูงค่อย ๆ ลูบหัวของเด็กน้อยอย่างแผ่วเบา “เจนสัน คุณลอยล์จำเป็นต้องกลับบ้านไปทำธุระบางอย่าง เธอจำเป็นต้องกลับโดยเร็ว เพราะฉะนั้น เจนสัน บอกลาคุณโรสก่อนสิ”

เด็กน้อยหันกลับมามองแม่ของตน ในตาคู่สวยยังคงเต็มไปด้วยหยดน้ำ เมื่อวานคุณแม่บอกว่าเธอต้องทำงานนี้เท่านั้น แต่คุณพ่อกลับพยายามหาทางไล่คุณแม่ออกท่าเดียว

ร็อบบี้น้อยเดินไปยังร่างบางพลางยื่นมือเล็ก ๆ นั้นไปจับที่นิ้วเรียวของหญิงสาว เด็กน้อยเริ่มออดอ้อน “คุณโรสครับ อย่าไปเลยนะ ผมอยากไปโรงเรียนพร้อมคุณจริง ๆ ได้โปรด นะครับ?”

ร่างสูงของเจย์ได้แต่ยืนนิ่งเมื่อเห็นการกระทำของลูกชาย

นั้นคือครั้งแรกที่เจนสัน จะพูดจาด้วยน้ำเสียงและกริยาออดอ้อนน่าเอ็นดูเช่นนี้

หญิงสาวเช็ดน้ำตาของเธอ ‘เกิดอะไรขึ้นกันนะ? ทำไมร็อบบี้น้อยของเธอถึงมาอยู่ที่นี่แทนเจนสันได้ละ’

โรสย่อตัวลงไปนั่งก่อนจะประครองใบหน้าของ “เจนสัน” ไว้ก่อนเอ่ยคราร้องขอ “เจนสัน ถ้าฉันจะขอสายซักนิดและกลับเร็วหน่อยทุกวันได้ไหมจ๊ะ?”

เด็กน้อยรับรู้ได้ในทันทีว่าทำไมคุณแม่ของเขาต้องเอ่ยปากขอร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งนั้นเป็นเพราะเธอต้องพาเขาและเซ็ตตี้ไปส่งที่โรงเรียนก่อน ร็อบบี้เด็กดีพยักหน้าตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดให้มากความ “ได้สิครับ”

เมื่อได้ยินดังนั้นเจย์กลับโมโหจนร้อนรุ่ม ‘ผู้หญิงคนนี้กล้ามากที่ใช้ประโยชน์จากเด็กน้อยตาใสตรงหน้าเพื่อปัดความรับผิดชอบของตัวเอง’

“แต่ฉันไม่อนุญาต!” เจย์กล่าวอย่างโกรธเคือง

ร็อบบี้น้อยเบือนหน้าจ้องไปยังร่างสูง

ทันใดนั้นความคิดบางอย่างพลันเล่นเข้ามาในความคิด ร่างเล็กเดินไปยังบิดา เขาเริ่มบีบน้ำตาพลางมองไปยังคนเป็นพ่อด้วยความเจ็บปวดเสียใจ

“คุณพ่อครับ ทำไมไม่ยอมให้คุณโรสไปส่งผมล่ะครับ?”

เจย์ไม่รอช้ารีบอธิบายถึงความผิดพลาดของหญิงสาวทันที “เธอจัดสรรเวลาไม่เป็น และเธอมาทำงานสายทุกวัน—”

เด็กน้อยเริ่มเห็นจังหวะและโอกาสที่เขารอคอยแล้ว “คุณพ่อครับ คุณพ่อได้ถามเธอไหมครับว่าทำไมเธอมาสาย?”

‘ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแม่ต้องดูแลลูกของคุณพ่ออีกสองคน คุณแม่คงมาทำงานทันเวลาแน่!’ เด็กน้อยได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ

เมื่อคนต้องหน้าคือลูกชายแสนรัก เจย์จึงต้องลดความกรรโชกของตนลง ร่างสูงใช้สายตาเฉียบคมมองเขม็งไปยังร่างของหญิงสาวเบื้องหลัง พร้อมอดกลั้นก่อนจะเอ่ยถามออกไป “ได้ ถ้าอย่างนั้นก็บอกฉันมา ทำไมเธอถึงมาสาย?”

โรสรู้สึกกระดากอายเป็นอย่างมาก จะให้เธอบอกไปว่าอย่างไรดีล่ะ?

บอกเขาไปว่าที่เธอมาทำงานสายนั้นเป็นเพราะลูกสาวของเราป่วยงั้นเหรอ? และบอกเขาไปว่านอกจากเจนสันแล้วเธอยังต้องรับลูกคนอื่น ๆ ของเรากลับจากโรงเรียนอีกด้วยเหรอ?

เธอจะบอกเรื่องการมีอยู่ของเด็กน้อยร็อบบี้กับเซ็ตตี้ได้อย่างไร ถ้าเจย์รู้เข้าหมอนี้อาจจะพาตัวลูก ๆ ไปจากเธอก็ได้

“หืม” เจย์เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ดูเหมือนว่า ใครบางคนคงจะหาข้ออ้างไม่ได้สินะ”

“เจนสัน” พุ่งเข้าปกป้องหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “คุณพ่อครับ คุณโรสเธออาจจะมีปัญหาของเธอเองก็ได้นะ บางทีลูกของเธอออาจจะป่วย? หรือว่าเธออาจจะต้องไปรับไปส่งลูกของเธอก็ได้นะ?”