ตอนที่ 217 ความลำบากใจของเอ้อร์หนิว

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

แม้​ช่วงนี้​จะ​อยู่​ใน​ช่วง​กลาง​คิมหันตฤดู​ ​แต่​สายลม​ที่​พัดผ่าน​มาจาก​ทะเลสาบ​กลับ​เย็นยะเยือก​ ​ครั้น​ผู้คน​ได้​ฟัง​คำให้การ​จาก​ปาก​ซู​ชิง​เสวี​่ย​ ​พวกเขา​ก็​สัมผัส​ได้​ถึง​ความ​เย็นวาบ​ที่​แผ่ซ่าน​กัด​กิน​ก้นบึ้ง​หัวใจ

ซู​ชิง​เสวี​่ย​คับแค้นใจ​เป็น​ที่สุด

ใน​ตอนแรก​ ​ทุกอย่าง​ดำเนิน​ไป​ด้วย​ความราบรื่น​ ​เพราะ​ตอนที่​นาง​เข้าไป​ ​พี่​รอง​ของ​นาง​อยู่​เพียงลำพัง​ ​นาง​จึง​ไม่ต้อง​เสียแรง​โน้มน้าว​ ​พี่​รอง​ของ​นาง​ก็​ยอมตาม​ไป​ที่​ศาลา​เฉา​หยาง​อย่างว่า​ง่าย

ถัดมา​ครู่หนึ่ง​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​ท่าน​แม่​ใหญ่​ส่ง​ไป​ก็​พาตัว​เจียง​ซื่อ​มา​ ​นาง​พูด​เย้าแหย่​ไม่​กี่​ประโยค​ ​พี่​รอง​ของ​นาง​ก็ตาม​ติด​เจียง​ซื่อ​แจ​ ​เพียงแต่​นาง​นึกไม่ถึง​ว่า​ ​สาว​รับใช้​ของ​เจียง​ซื่อ​จะ​สามารถ​คว่ำ​พี่​รอง​ผู้​มี​ร่างกาย​บึกบึน​ของ​นาง​ลง​กับ​พื้น​ได้​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ตาม​คน​มาช​่วย​ ​เจียง​ซื่อ​กลับ​หนีรอด​ไป​เสียดื​้อ​ๆ​ ​สิ่ง​ที่นาง​นึกไม่ถึง​กว่านั​้​นคือ​ ​อี๋​เหนียง​จะ​ไป​ที่นั่น​ ​นาง​ไม่ทราบ​ว่านาง​ไป​พูด​อะไร​กับ​พี่​รอง​ ​พี่​รอง​ถึง​ได้​ปรี่​ออก​ไป​ที่​ริมทะเล​สาบ​ ​และ​ก้มหน้า​ลง​ไป​เช่นนั้น

ต่อมา​ ​นาง​เห็น​ว่า​อี๋​เหนียง​ออกแรง​ผลัก​พี่​รอง​จน​ตกน้ำ​ไป

เพียงแค่​ซู​ชิง​เสวี​่ย​หวนนึก​ถึง​เหตุการณ์​นั้น​ ​ชั่ว​อึดใจ​เดียว​ความกลัว​ก็​แล่น​ขึ้น​มา​จุก​อยู่​ที่​คอ​ของ​นาง​ ​นาง​ไม่​คิดมาก​่อ​นว​่า​อี๋​เหนียง​ที่​เสงี่ยม​เจียมตัว​ใน​ยาม​ปกติ​จะ​กล้า​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​ ​ใน​วินาที​นั้น​นาง​เอง​ก็​กลัว​แทบ​สิ้นลม​ไม่​ต่างกัน​ ​หาก​ท่าน​แม่​ใหญ่​ทราบ​ว่า​อี๋​เหนียง​เป็น​คน​ทำร้าย​พี่​รอง​คง​ไม่มีทาง​ปล่อย​นาง​ไป​ง่ายๆ​!

ถึง​นาง​อยาก​ลง​ไป​ช่วย​ ​แต่​นาง​ว่ายน้ำ​ไม่​เป็น​ ​หรือ​ต่อให้​นาง​ว่ายน้ำ​เป็น​ก็​คง​ไม่มีแรง​ฉุด​ร่าง​พี่​รอง​ขึ้น​มา​ได้​ ​ทว่า​ใน​จังหวะ​นั้น​อี๋​เหนียง​ยืน​ดู​เหตุการณ์​อยู่​ที่​ริมทะเล​สาบ​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ ​รอ​จน​ร่าง​ของ​พี่​รอง​เริ่ม​จม​ลง​ไป​ ​อี๋​เหนียง​ถึง​จะ​ยอม​เดิน​ออกมา​จาก​ตรงนั้น​ ​สิ่ง​เดียว​ที่นาง​ทำได้​คือ​หนี​ออกมา​จาก​ฝันร้าย​นั้น​ให้​เร็ว​ที่สุด​ ​แล้ว​แสร้งทำ​เป็น​ว่า​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น

หลังจาก​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ฟัง​คำให้การ​จาก​ซู​ชิง​เสวี​่ย​แล้วจึง​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​คุณหนู​ถึง​ไป​อยู่​กับ​คุณชาย​รอง​ที่​ศาลา​เฉา​หยาง​ได้​เล่า​”

ซู​ชิง​เสวี​่ย​เหลือบมอง​โหยว​ซื่อ​แวบ​หนึ่ง

โหยว​ซื่อ​ได้​ฟัง​ซู​ชิง​เสวี​่ย​เล่า​ว่า​อี๋​เหนียง​ฆ่า​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​อย่างไร​ ​ใบหน้า​แฉล้ม​ของ​นาง​ที่​บิดเบี้ยว​ผิดรูป​ไป​ใน​ตอนแรก​ ​บัดนี้​กลับ​พลัน​เปลี่ยนเป็น​นิ่ง​เรียบ​ดังเดิม​ ​โหยว​ซื่อ​พยักหน้า​ให้​ซู​ชิง​เสวี​่ย​เล็กน้อย​จน​คน​รอบข้าง​ไม่ทัน​ได้​สังเกต​ ​และ​ฝัง​ความ​จงเกลียดจงชัง​สอง​แม่​ลูกคู่​นี้​ไว้​ใน​ใจชั่ว​คราว

ถึงแม้นาง​ไม่​อยาก​ยอมรับ​ ​แต่​ก็​รู้แจ้ง​แก่​ใจ​ตัวเอง​เป็น​อย่างดี​ว่า​ ​ใน​วันนี้​คนที​่​จบชีวิต​เป็น​เพียง​ลูกชาย​คน​รอง​ที่​แสน​จะ​โง่เขลา​ ​ต่อให้​ปวดใจ​ก็​มิได้​ถึงขั้น​ทุกข์ระทม​ ​แต่​หาก​เปลี่ยนเป็น​บุตรชายคนโต​แล้ว​ไซร้​ ​เกรง​ว่านา​งคง​เสียสติ​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว

ซู​ชิง​เสวี​่​ยส​งบ​สติอารมณ์​พลาง​ตอบ​ ​“​บังเอิญ​เจอ​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​ ​พี่​รอง​บอกว่า​ไม่มีใคร​เล่น​เป็นเพื่อน​ถึง​ได้​ลาก​ข้า​ไป​เล่น​เตะ​ขนไก่​ด้วย​ ​แต่​ข้า​เกรง​ว่า​คน​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มา​จะ​มอง​ไม่ดี​ ​จึง​ได้​ชวน​พี่​รอง​ไป​เล่น​ใน​ศาลา​เฉา​หยาง​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​พี่​เจียง​ซื่อ​ก็​มา​ ​ครั้น​พี่​รอง​เห็น​นาง​ก็ดี​ใจ​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป​ ​ทีแรก​ข้า​ก็​คิด​ว่า​จะ​ตาม​ไป​ ​แต่​ยัง​มิทัน​ไร​ ​พี่​เจียง​ซื่อ​ก็​รีบ​ไป​เสียก่อน​ ​หลังจากนั้น​…​”​

ไม่ว่า​จะ​อย่างไร​ ​นาง​ก็​มิ​อาจ​ปริปาก​บอก​เรื่อง​ที่​ท่าน​แม่​ใหญ่​กำชับ​นาง​ให้​แพร่งพราย​ออก​ไป​ได้​ ​เพราะ​มิฉะนั้น​แล้ว​ ​หนทาง​เหลือ​รอด​ของ​นาง​คงมี​เพียง​ความตาย​เท่านั้น

แท้จริง​แล้ว​ซู​ชิง​เสวี​่ย​รู้อยู่แก่ใจ​ว่า​ ​การ​ที่มา​รดา​บังเกิด​เกล้า​ของ​นาง​เป็น​คน​ฆ่า​ลูกชาย​ของ​ท่าน​แม่​ใหญ่​ ​ต่อให้​ตอนนี้​นาง​ไม่​พูด​เรื่อง​นั้น​ออก​ไป​ ​ชีวิต​ใน​ภายภาคหน้า​ของ​นาง​ก็​มิ​อาจ​ราบรื่น​อยู่ดี​ ​แต่​นั่น​ก็​คงดี​กว่า​การ​ต้อง​จบชีวิต​ลง​เป็น​ไหน​ๆ​ ​ในขณะนั้น​ซู​ชิง​เสวี​่ย​ได้​แต่​รู้สึก​เสียใจ​กับ​สิ่ง​ที่​ทำ​ลง​ไป​ ​หาก​นาง​ไม่​บอก​เรื่อง​เจียง​ซื่อ​ให้ท่าน​แม่​ใหญ่​ทราบ​ ​เรื่อง​ทั้งหมด​ก็​คง​ไม่​เกิดขึ้น

ครั้น​คิดได้​เช่นนั้น​ ​นาง​จึง​หันไป​มอง​เจียง​ซื่อ​อย่าง​เสียมิ​ได้

เจียง​ซื่อ​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เจียง​จั้น​สังเกตเห็น​ว่า​สายตา​ของ​ซู​ชิง​เสวี​่ย​ที่​มอง​มาดู​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​แต่​ถึงกระนั้น​ใน​นัยน์ตา​ของ​นาง​ก็​มิได้​บ่งบอก​ความหมาย​ใด​ ​ติดหนี้​ย่อม​ต้อง​ใช้หนี้​ ​ในเมื่อ​ซู​ชิง​เสวี​่ย​หมาย​จะ​ทำร้าย​ ​ย่อม​ต้อง​ชดใช้​ใน​สิ่ง​ที่​ก่อ​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​มี​ผู้ใด​คอย​บงการ​อยู่​เบื้องหลัง​หรือไม่​ ​เจียง​ซื่อ​เบน​สายตา​เหลือบมอง​ไป​ที่​โหยว​ซื่อ​เล็กน้อย​ ​การ​ทำให้​ผู้อื่น​ต้อง​สูญเสีย​เลือดเนื้อเชื้อไข​ถือเป็น​กรรม​หนัก

เจียง​ซื่อ​ใคร่ครวญ​ ​ใน​ชาติที่แล้ว​สาเหตุ​ ​‘​ป่วย​ตาย​’​ ​ของ​ซู​ชิง​อี้​ก็​มิได้​จบ​ลง​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ ​เพราะ​หลังจากที่​ซู​ชิง​อี้​ ​‘​ป่วย​ตาย​’​ ​ไม่นาน​ ​นาง​ก็ได้​ยิน​ว่า​มารดา​บังเกิด​เกล้า​ของ​ซู​ชิง​เสวี​่ย​เสียชีวิต

ใน​ชาติที่แล้ว​ ​สำหรับ​สายตา​คนนอก​เรื่อง​ที่​ซู​ชิง​อี้​และ​มารดา​ของ​ซู​ชิง​เสวี​่ย​เสียชีวิต​ก็​ดู​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กัน​ ​แต่​ครั้น​มาถึง​ตอนนี้​ที่​ได้​ทราบ​ว่า​มารดา​ของ​ซู​ชิง​เสวี​่ย​เกลียดชัง​ซู​ชิง​อี้​อย่างไร​ ​ก็​เป็น​เครื่อง​ยืนยัน​ได้​ว่า​ ​เมื่อ​ชาติก่อน​จวน​อี๋​หนิง​โหว​พยายาม​ปกปิด​ความจริง​ทั้งหมด​เอาไว้​ ​เพราะ​หาก​ข่าว​เรื่อง​คุณชาย​แห่ง​จวน​โหว​ถูก​อนุภรรยา​ของ​บิดา​ฆ่า​ตาย​แพร่งพราย​ออก​ไป​จะ​ดู​ไม่ดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​จะ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ชื่อเสียง​ของ​จวน​อี๋​หนิง​โหว​อย่างมหาศาล​ ​ฉะนั้น​การให้เหตุผล​ว่า​ ​‘​ป่วย​ตาย​’​ ​จึง​เหมาะสม​ที่สุด

“​ซู​ซื่อ​จื่อ​ ​อยาก​ถาม​อะไร​เพิ่มเติม​หรือไม่​”​ ​เมื่อ​ได้​ข้อสรุป​ของ​คดี​นี้​แล้ว​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​จึง​หันไป​ถาม​นายท่าน​ซู

นายท่าน​ซู​ไม่​แม้แต่​จะ​หันไป​มอง​หญิงสาว​ ​เพียงแต่​โบกไม้โบกมือ​เท่านั้น

“​เอา​ตัว​ไป​!​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​ออกคำสั่ง​ ​และ​ผู้ตรวจการ​ชั้นผู้น้อย​ก็​เข้ามา​พาตัว​หญิงสาว​ไป​ทันที

“​เช่นนั้น​ข้า​ขอตัว​ลา​”​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​หันไป​คารวะ​ให้​นายท่าน​ซู​แล้ว​หันไป​มอง​เจียง​ซื่อ​พลาง​ครุ่นคิด​บางอย่าง​ ​เหตุการณ์​ใน​วันนี้​เขามอ​งอ​อก​ว่า​มี​คน​คอย​จ้อง​จะ​ระราน​เด็กสาว​ ​หวัง​เพียงแต่ว่า​เด็กสาว​จะ​ไหวตัว​ได้​ทัน​ ​จะ​ได้​มิต​้​อง​มาทน​ทุกข์ทรมาน​

เจียง​ซื่อ​ค้อมตัว​ให้​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เพื่อ​เป็นการ​กล่าว​ลา

เจิน​ซื่อ​เฉิง​ที่​เห็นท่า​ที่​อ่อนโยน​และ​สงบนิ่ง​ของ​นาง​ก็​รู้สึก​วางใจ​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​กังวล​เรื่อง​นี้​มากเกินไป​ ​เพราะ​เด็กสาว​ผู้​นี้​มี​ความสามารถ​ใน​การพลิก​แพลง​เรื่อง​ร้าย​ให้​กลายเป็น​ดี

เจิน​ซื่อ​เฉิง​เดิน​ไป​ได้​เพียง​สอง​ก้าว​ก็​หันกลับ​ไป​ถาม​ ​“​เสี่ยว​อวี​๋​ ​เหตุใด​ถึง​ยัง​ไม่​ไป​อีก​เล่า​”

อวี​้​จิ​่น​หัวเราะ​ ​“​บังเอิญ​เจอ​สหาย​เก่า​เลย​ว่า​จะ​ระลึก​ความหลัง​เสียหน่อย​ขอรับ​”

เหอะ​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ลูบ​เครา​ตนเอง

องค์​ชาย​ใคร่​จะ​ระลึก​ความหลัง​ ​ตัว​เขา​ก็​มิ​อาจ​ขวาง​ได้

เขา​ทำได้​เพียง​มอง​อวี​้​จิ​่น​เดิน​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​เจียง​ซื่อ​ ​มือ​ที่​กำลัง​ลูบ​เครา​เมื่อ​ครู่​หยุด​ลูบ​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ไม่ทราบ​ ​โชคดี​ที่​เรื่อง​ไม่​เป็นไปตาม​ที่​เขา​คิด​ ​อวี​้​จิ​่น​เดิน​ไป​ข้างๆ​ ​เจียง​ซื่อ​ ​พลาง​เอื้อมมือ​ไป​ตบ​บ่า​เจียง​จั้น​ ​“​น้อง​เจียง​เอ้อร​์​ ​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​”

เจียง​จั้น​ขยี้​จมูก​ ​“​บังเอิญ​จริง​ด้วย​ ​ไฉน​พี่​อวี​๋​ชี​ถึง​มา​อยู่​กับ​ใต้เท้า​เจิน​ได้​เล่า​”

อวี​้​จิ​่น​ชี้​ไป​ที่​ประตู​ใหญ่​พลาง​บอก​ ​“​เดิน​ไป​คุย​ไป​แล้วกัน​”

เพราะ​พฤติการณ์​เลวร้าย​ของ​โหยว​ซื่อ​ที่​มีต​่อ​เจียง​ซื่อ​ ​เจียง​จั้น​ก็​คร้าน​จะ​อยู่​ต่อ​เต็มทน​ ​เมื่อ​ได้ยิน​อวี​้​จิ​่น​เชิญชวน​จึง​รีบ​ตอบ​ตกลง​ทันที​ ​เขา​เดิน​ไป​บอก​เจียง​อัน​เฉิง​และ​จากไป​พร้อม​อวี​้​จิ​่น

เมื่อ​เจียง​ซื่อ​เห็น​ว่า​อวี​้​จิ​่​นมิ​ได้​เข้ามา​ข้องแวะ​กับ​นาง​ก็​พลัน​โล่งใจ

เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​ ​เมื่อ​ไม่ได้​อยู่​ด้วยกัน​นานๆ​ ​พฤติกรรม​ที่​เหนือ​การควบ​คุม​ทั้งหลาย​ก็​จะ​ค่อยๆ​ ​จาง​ไป​ ​แล้ว​วันหนึ่ง​ก็​คงจะ​เลือนหาย​ไป​เอง

อวี​้​จิ​่น​เดิน​ออก​ไป​เพียง​สิบ​จั้ง​ ​แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​หันกลับ​มา​ ​สายตา​คู่​งาม​โฉบ​ผ่าน​ใบหน้า​ของ​เจียง​ซื่อ​ไป​ประดุจ​แมลงปอ​แล้วไป​หยุด​อยู่​ที่​เอ้อร​์​หนิ​วที​่​นอน​หมอบ​อยู่​ที่​พื้น​ ​“​มานี​่​!​”

เอ้อร​์​หนิว​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ท้องฟ้า​ ​ลม​จาก​หาง​ที่​ส่าย​ไปมา​กระพือ​ให้​ฝุ่น​รอบ​ๆ​ ​ฟุ้ง​ขึ้น​ ​มัน​ยัง​ไม่​อยาก​ไป​ ​นาย​หญิง​ยัง​ไม่​ลูบ​หัว​มัน​เลย​นี่​หน่า

อวี​้​จิ​่น​ไม่​คิด​ว่า​เอ้อร​์​หนิ​วที​่​รู้เรื่อง​รู้​ราว​จะ​แสดง​พฤติกรรม​สุนัข​เอา​ป่านนี้​ ​ใบหน้า​ของ​ชายหนุ่ม​พลัน​เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​พลาง​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​มานี​่​”

เอ้อร​์​หนิว​ค่อยๆ​ ​เหยียด​ตัว​ขึ้น​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​ ​พลาง​หันไป​คราง​หงิง​กับ​เจียง​ซื่อ​อย่าง​น่าสงสาร

เจียง​อัน​เฉิง​รีบ​เข้าไป​ขวาง​ข้างหน้า​เจียง​ซื่อ​ ​แล้ว​หันไป​ตะโกนเรียก​อวี​้​จิ​่น​ ​“​หน่วย​ลาดตระเวน​รีบ​พาสุนั​ขตั​วนี​้​ไป​เสียที​ ​เดี๋ยว​คนอื่น​จะ​พลอย​ตกใจ​กัน​หมด​”

หน่วย​ลาดตระเวน​?

ใน​ชั่วพริบตา​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​องค์​ชาย​อวี​้​ชี​ก็​บิดเบี้ยว​ไป​ ​สายตา​จับจ้อง​ไป​ที่​เจียง​อัน​เฉิง

ครั้น​ได้ยิน​ว่าที่​พ่อตา​เรียก​ตนเอง​ว่า​ ​‘​หน่วย​ลาดตระเวน​’​ ​กลับ​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ทั้งหมด​ทั้งมวล​ก็​ต้องโทษ​เอ้อร​์​หนิ​วที​่​หาเรื่อง​!

อวี​้​จิ​่​นโย​นค​วาม​ผิด​ให้​เอ้อร​์​หนิ​วอ​ย่าง​ไม่​ลังเล​ ​เขา​ชูสัญ​ญาณ​มือ​ให้​เอ้อร​์​หนิว

เอ้อร​์​หนิว​ตาลุก​วาว

เจ้านาย​จะ​ให้​กระดูก​หนึ่ง​กะละมัง​เป็น​รางวัล​!

ทว่า​เจ้า​สุนัข​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​เจียง​ซื่อ​และ​เกิด​อาการ​ลังเล

สุดท้าย​แล้ว​จะ​เลือก​กระดูก​หรือ​นาย​หญิง​?

ช่างเถอะ​ ​กระดูก​มี​เยอะ​แล้ว​ ​แต่​นาย​หญิง​มีอยู่​คนเดียว

เอ้อร​์​หนิว​ยังคง​นั่ง​นิ่ง​ไม่ไหว​ติง

อวี​้​จิ​่​นอยาก​จะ​กลับ​เข้า​เตะ​เอ้อร​์​หนิว​สักที​ ​แต่​เพราะ​อยู่​ต่อหน้า​เจียง​ซื่อ​ถึง​ได้​อดทน​ไว้​ ​เขา​จึง​ทำได้​เพียง​ส่งสัญญาณ​มือ​ไป​ให้​เอ้อร​์​หนิว​เป็น​ครั้ง​ที่สอง

กระดูก​สาม​กะละมัง​!

เอ้อร​์​หนิ​วก​ระ​เด้ง​ตัว​รีบ​วิ่ง​ไป​และ​ไม่​หันกลับ​มาม​อง​เจียง​ซื่อ​อีก​เลย

เจียง​ซื่อ​ ​“​…​”