“อ๋าาา…เป็นการพักผ่อนที่ดีจริงๆ”

ผมพูดขณะเดินไปตามถนนในสถาบัน หลังจากที่ผมทำสิ่งที่เรียกว่า ‘เดท’ กับเฮร่าไป ผมไปกับเธอและพบกับบุคลากรสำคัญบางคนเพื่อระบุว่าผมเป็นหัวหน้าของคริสตจักรแห่งชีวิต พวกเขาทุกคนต้องการให้ผมไปที่โบสถ์หลักซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอาณาจักรเอลฟ์ แต่ผมก็ปฏิเสธพวกเขาไป

อย่างไรก็ตาม ผมจะไปเยี่ยมชมจักรวรรดิอีเลฟเว่นในอนาคต เนื่องจากเจ้าหญิงเอลฟ์เป็นเป้าหมายในการจีบและส่วนเนื้อเรื่องหลักสำหรับเธอเกิดขึ้นที่นั่น 

ในท้ายที่สุดผมก็บอกลาเฮร่าอย่างไม่เต็มใจ และไปที่บ้านของราล์ฟซึ่งผมได้ใช้เวลาดีๆ กับพวกเขาก่อนที่จะกลับมาที่สถาบัน

ขณะที่ผมกำลังเดินทางไปตามถนน ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว วันนี้ผมได้นัดกับเจ้าหญิงไว้แล้วและเดินผ่านถนนที่ยังคงพลุกพล่าน 

ผมมาถึงชมรมยิงธนูก่อนจะเข้าไปในห้องเพื่อพบกับคาร์มีเลียที่กำลังฝึกซ้อม ทันทีที่ผมเข้าไปในห้องก็มีรอยยิ้มบางๆ เล็กน้อยส่งมาจากใบหน้าที่เย็นชาของเธอ

“นายมาแล้วงั้นเหรอ? ฉันกำลังหิวอยู่พอดีเลย”

“ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคุณเห็นผมเป็นแค่เครื่องผลิตอาหารกันครับเนี่ย?”

“นายหมายความว่ายังไงงั้นเหรอ ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

พูดดังนั้นแล้วเธอจึงฮัมเพลงขณะที่ผมส่ายหัวและดึงคันธนูออกมาเพื่อเริ่มฝึกยิงธนูตอนกลางคืน

 

 

“แล้วนี่นายเคยเดินทางไปยังเมืองแห่งการต่อสู้แล้วงั้นเหรอ?”

คาร์มีเลียถามขณะที่เธอเคี้ยวเนื้ออยู่ที่โต๊ะ

ผมนั่งตรงข้ามเธอขณะที่กินส่วนแบ่งของตัวเอง

“ใช่ครับ ผมอยู่ที่นั่นระหว่างการเดินทาง มันเป็นสถานที่ๆ สนุก ผู้คนที่นั่นตรงไปตรงมากันมากเลยครับ”

“ชิ นายนี่โชคดีจังนะ”

คาร์มีเลียที่มีสีหน้าเย็นชาพูดในขณะที่น้ำเสียงของเธอเจือด้วยความอิจฉา 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ยิ้มเยาะอยู่ข้างใน ตอนนี้ผมได้รับความไว้ใจจากคาร์เมลและคาร์มีเลียในระดับหนึ่งแล้ว และตอนนี้ผมก็เริ่มทำตามแผนเล็กๆ น้อยๆ ได้แล้ว 

ผมดื่มน้ำผลไม้ก่อนจะพูดขึ้นมา

“คุณดูท่าทางอิจฉานะครับ?”

“นายแค่คิดไปเองหน่ะ”

“ค้าบๆ”

ผมยิ้มอย่างซุกซนขณะจิบน้ำผลไม้ในมือ ทำให้คาร์มีเลียรู้สึกรำคาญ 

สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวอย่างดุดันของมือเธอบนอาหาร ผมสามารถเห็นสิ่งบ่งชี้เล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกว่าอารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปได้ อันที่จริงผมสามารถทำสิ่งนี้กับผู้หญิงของตัวเองทุกคนหรือในอนาคตได้ แม้ว่าผมจะทำสำเร็จ ผมก็ยังต้องเสี่ยงอยู่เสมอ

“แล้วคุณคาร์มีเลียมีที่ๆ อยากไปผจญภัยไหมครับ?”

ผมถามเธอด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้เธอประหลาดใจพร้อมกับสีหน้าของเธอ

ที่ซับซ้อนขึ้น 

ผมเอนตัวลงบนเก้าอี้ก่อนจะพูดต่อ

“รุ่นพี่…ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตครับ แต่อย่าปล่อยให้โซ่ตรวนนั้นฉุดรั้งคุณไว้เลย ทำไมรุ่นพี่ไม่ลองออกไปเที่ยวข้างนอกดูซักครั้งหล่ะครับ? แค่ครั้งเดียวและเราจะได้รู้กัน”

คำพูดของผมค้างอยู่ในอากาศขณะที่ใบหน้าของคาร์มีเลียขมวดคิ้ว ดูเหมือนเธอจะคิดลึกถ้ามีใครพูดแบบนี้ 

ผมแน่ใจว่ามันจะทำให้คาร์มีเลียและคาร์เมลมีปฏิกิริยารุนแรงทั้งคู่ แต่ตอนนี้ผมได้ยึดตำแหน่งของตัวเองในฐานะรุ่นน้องของเธอแล้ว บวกกับผมรู้ว่าลึกๆ แล้วเธอเองก็อยากจะกำจัดปัญหานี้ของตัวเองเหมือนกัน

ความขัดแย้งของเธอเกิดจากบาดแผลในอดีตบางอย่างที่กระทบกระเทือนคาร์เมลอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าเธอจะไม่แสดงออกแต่คาร์มีเลียเองก็ห่วงใยคาร์เมลมากเช่นกัน 

ถึงกระนั้นคาร์มีเลียเองก็เกิดมาจากบาดแผลนี้ ถ้าให้พูดถึงเรื่องนี้กับคาร์เมลเธอก็จะปฏิเสธ ดังนั้นการพูดมันกับคาร์มีเลียจึงง่ายกว่าเพราะเธอสามารถโน้มน้าวใจคาร์เมลได้

ความเงียบยังคงเป็นเช่นนี้อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดประมาณ 5 นาทีต่อมา คาร์มีเลียก็มองตรงมาที่ดวงตาของผม คราวนี้มันเย็นชากว่าเดิมมาก

“บอกฉันมาออสติน ทำไมนายถึงต้องการช่วยเรา ช่วยไปแล้วนายจะได้อะไรกัน?”

คำถามนี้สำคัญมาก ภายในเกมเองก็มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเช่นกัน 

ในเกมนั้น เด็กชายจากหมู่บ้านให้คำตอบที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความเมตตาของเขา นั่นทำให้คาร์มีเลียเกือบทำให้คาร์เมลและคาร์มีเลียตกหลุมรักเขา 

และในเวลานี้เองที่ตัวผู้เล่นเข้าไปและพยายามทำให้มันยุ่งเหยิง แต่วิธีนั้นไม่ได้ผลสำหรับผม

แม้ว่าผมจะพูดบทสนทนานั้น ผมก็จะได้รับแต่การดูถูกเหยียดหยามจากคาร์เมลและคาร์มีเลีย เพราะพวกเธอทั้งคู่รู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่นิสัยดีและซื่อบื้อ ไม่ใช่เลย…ผมเป็นขุนนางที่มีชาติตระกูลสุดคนหนึ่งที่เคยทำอุบายและเอ่ยคำโกหกมาหลายอย่างแล้ว

“ทำไมคุณทำอย่างงั้นหล่ะครับ?”

ผมถามขณะที่ยิ้มอย่างไม่เกรงกลัวเลย ผมมองดวงตาสีเข้มของคาร์มีเลียด้วยความตั้งใจก่อนจะพูดกับเธอตรงๆ

“ง่ายๆ เพราะผมต้องการทำมันครับ สิ่งหนึ่งที่อาจารย์เสียใจอย่างสุดซึ้งคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ และผมต้องการแก้ไขมัน บวกกับผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณคือรุ่นพี่ของผม คุณคือครอบครัวของผม แล้วรุ่นพี่ต้องการเหตุผลเพื่อที่จะช่วยคนครอบครัวด้วยงั้นเหรอครับ?

เมื่อผมพูดจบ ผมก็ไม่ละสายตาจากคาร์มีเลียเลย 

บรรยากาศยังคงหนาวเย็น แต่ไม่นานเมื่อคาร์มีเลียหลับตาก่อนที่ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอจะเปิดมันพร้อมกับความเย็นชาในแววตาที่หายไป 

แววขี้เล่นและออร่าร่าเริงปกคลุมเธอแล้ว ผมรู้ทันทีว่ามีการเปลี่ยนแปลง

“รุ่นพี่คาร์เมล”

“ใช่จ้า ~ ”

เธอตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเสียงร่าเริงตามปกติกลับมา 

แม้ว่าผมจะรู้สึกได้ว่าเธอจ้องมองมาที่ผมนั้นอบอุ่นกว่าเดิมมาก

+300 ความชอบ

“ที่เธอพูดมาเมื่อกี้นี่เรื่องจริงงั้นเหรอจ๊ะ?”

“ผมพูดจริงครับ ผมอยากช่วยรุ่นพี่ แต่ผมจะทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อรุ่นพี่อนุญาตครับ”

คาร์เมลยังคงนิ่งเงียบขณะที่ดวงตาของเธอดูเหม่อลอย 

จากนั้นผมก็เห็นว่าร่างกายของเธอกำลังสั่น ผมรู้ว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับบาดแผลทางใจของตัวเองอยู่ 

ผมยืนขึ้นก่อนจะเดินไปจับมือเธอไว้แน่น โดยที่มืออีกข้างของผมลูบหลังเธออย่างนุ่มนวล

“รุ่นพี่…ผมอยู่ตรงนี่ครับ อย่าปล่อยให้มันกินคุณ ที่นี่ตอนนี้ไม่มีใครทำอันตรายรุ่นพี่ได้ทั้งนั้นครับ”

เสียงที่สงบของผมพร้อมกับคาถาพิเศษที่ผมซื้อมาจากระบบดูเหมือนจะช่วยได้เมื่อร่างกายของคาร์เมลหยุดสั่น สายตาของเธอกลับมาโฟกัสได้ในไม่ช้า 

คาร์เมลหันหน้ามาทางผมขณะที่เธอยิ้มอย่างอ่อนแรงมาให้ผม

“ขอโทษนะจ๊ะ ดูเหมือนว่าฉันจะแสดงด้านที่อ่อนแอของตัวเองให้รุ่นน้องเห็นซะแล้ว”

ผมส่ายหัวให้เธอ

“ไม่เป็นไรครับ ทุกคนต่างก็มีด้านที่อ่อนแอด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่ารุ่นพี่เต็มใจที่จะเหนือกว่าพวกมันรึเปล่าครับ บวกกับผมจะไม่มีวันดูถูกรุ่นพี่ของตัวเองหรอกครับจริงไหม?”

คำพูดสุดท้ายของผมเป็นการหยอกล้อทำให้คาร์เมลหัวเราะเบาๆ ตอนนี้เธอดูเป็นอิสระมากขึ้นแล้ว

“เธอพูดถูก ฉันไม่สามารถหมกมุ่นอยู่กับความกลัวตลอดไปได้”

“ถ้างั้น…?”

ผมถามเธอด้วยความคาดหวัง และเธอก็พยักหน้า

“ไปกันเถอะจ่ะ เราไปผจญภัยกันเถอะ”

“เยี่ยมเลยครับ”

‘ขั้นตอนที่ 1 เสร็จสมบูรณ์’

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต