ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 32

หญิงสาวได้แต่มองตามโรลว์-รอยซ์คันสวยขับผ่านไป ฝุ่นกระจายไปตามถนนเมื่อรถแล่นผ่าน พร้อมทั้งหยดน้ำตาที่เอ่อไหลรื่นออกมาจากนัยน์ตากลมสวยจนเต็มไปทั้งดวงหน้า

เจย์เข้าใจเธอผิดทั้งหมด ปิดกั้นเธอและเจนสันโดยไม่ให้เธอได้เจอเจนสันไปตลอดชีวิตคือการตัดความสัมพันธ์แม่ลูกที่โหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณี

เมื่อเด็กน้อยร็อบบี้เดินออกมาจากโรงเรียน เขาเห็นไหล่ของผู้เป็นแม่สั่นคลอนและน้ำตามากมายที่พรั่งพรูออกมา

เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาเธอทันที “คุณแม่ เกิดอะไรขึ้นครับ?”

เซ็ตตี้ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบรายงานคนเป็นพี่ทันควัน “ร็อบบี้ เมื่อกี้เจ้านายของคุณแม่มาที่นี่ เขาไล่คุณแม่ออก คุณแม่ตกงานแล้วแน่เลย”

ใบหน้าของเด็กชายแปรเปลี่ยนเป็นซีดจาง เพราะเขารู้ ว่าเจ้านายของคุณแม่คือคุณพ่อของเจนสัน

ถ้าโดนไล่ออก ก็แสดงว่าคุณแม่จะไม่มีโอกาสเจอเจนสันอีกต่อไปเหรอ?

ไม่แปลกใจเลย ทำไมคุณแม่ของเขาถึงร้องไห้หนักขนาดนี้

หญิงสาวเดินจูงมือลูกสองคนของเธอผ่านเมืองสเปลนดิดไปเรื่อย ๆ อย่างไร้ซึ่งวิญญาณ

ร็อบบี้น้อยมองไปดวงตาของคนเป็นแม่ที่แดงเรื่อก่ำเลือดจากการร้องไห้หนัก พลางคิดว่าภาพความฝันสวยงามเกี่ยวกับคุณพ่อที่เขาเคยคิดนั้นช่างเพ้อฝันเสียจริง

พ่อที่มีแต่ทำให้แม่ของเขาเสียน้ำตา เขาไม่ต้องการพ่อแบบนี้

หึ

ทว่าคืนนี้ ร็อบบี้น้อยได้รับสายจากเจนสันอย่างไม่คาดคิดว่าเจ้าตัวจะโทรมา

เจนสันไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน เด็กชายไม่รู้ว่าจะอธิบายบอกกล่าวความรู้สึกอย่างไร

ร็อบบี้จึงเป็นฝ่ายรุกถามเสียเอง “นายคิดถึงแม่ไหม?”

“อา-อืม” เจนสันพยักหน้าเอ่ยตอบ

แต่รอบบี้น้อยกลับตอบกลับไปอย่างบึ้งตึง “แต่ฉันไม่คิดถึงพ่อเลยซักนิด เพราะวันนี้พ่อกลั่นแกล้งแม่อีกแล้ว หึ” เด็กน้อยสบทก่อนวางสายไป

เจนสันได้แต่จ้องมองสมาร์ทวอชของตนด้วยสายตาว่างเปล่าราวกับพวกขี้แพ้

เมื่อเจย์เปิดประตูพลางก้าวเดินเข้าไปในห้องของเจนสัน เขาเห็นเด็กชายจ้องมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองอย่างเลื่อนลอย บนหน้าปัดยังคงขึ้นสีฟ้าบ่งบอกถึงการใช้งาน

สิ่งที่เห็นทำให้ร่างสูงตกใจไม่น้อย เจนสันไม่ใช้สมาร์ทวอชมานานเป็นชาติได้

“เจนสัน นั้นลูกกำลังจะโทรหาใคร?”

เจย์เดินเข้ามาใกล้ พร้อมจะลากเก้าอี้เข้ามานั่งลงตรงหน้าของเด็กชาย

เจนสันมองคนเป็นพ่อ ก่อนสิ่งต่าง ๆ ที่ร็อบบี้เล่าให้ฟังก่อนหน้าจะย้อนกลับเข้ามาในหัวของเขาพ่อรังแกแม่อีกแล้ว ความโกรธเคืองเริ่มปรากฏขึ้นในดวงตาคู่สวยที่ละน้อย

“มันไม่ใช่เรื่องที่พ่อต้องรู้” เจนสันกระชากนาฬิกาออกจากแขนด้วยความโกรธ แล้วปีนขึ้นเตียงนอนห่มผ้าปิดหน้าปิดตาราวกับไม่อยากคุย แสร้งหลับไปในครา

และนี่เป็นครั้งแรกที่เจนสันแสดงออกอย่างตัดพ้อรุนแรงกับพ่อของเขา ร่างสูงทั้งตกใจและงุนงงในเลาเดียวกัน

“เจนสัน ลูกโกรธเพราะพ่อกลับบ้านช้าใช่ไหม?” เจย์ถาม เขาพยายามดึงความอดทนทั้งหมด แทบจะร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ออกมาใช้ในการพูดคุยกับเจนสันครั้งนี้

เจนสันยังคงใช้ผ้าห่มปิดหน้าปิดตา ปฏิเสธที่จะคุยกับผู้เป็นพ่อ

ร่างสูงลูบศรีษะเด็กน้อยอย่างแผ่วเบา พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ในตอนนี้ “โอเค ถ้าพร้อมที่จะคุยกับพ่อตอนไหน ก็เดินไปหาพ่อนะ”

เจย์เดินกลับไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อนเรียนและเตรียมเอกสารต่าง ๆ สำหรับการทำงาน ทว่าประตูก็ค่อย ๆ เปิดออกมาโดยหนุ่มน้อยเจนสัน

เจย์เงยหน้าขึ้นพลางมองไปที่ลูกชาย ริมฝีปากยกยิ้มอย่างพอใจ

ในทางกลับกัน เจนสันกลับยื่นนิ่งเงียบอยู่แค่ตรงหน้าประตู ร่องรอยความไม่พอใจเล็กน้อยแสดงออกมาบนใบหน้าหล่อเหลานั่น เด็กน้อยยืนกำหมัดแน่นในขณะที่ท้าทายพ่อของเขา

เจย์ขมวดคิ้ว

“พรุ่งนี้ ผมต้องการให้โรสไปส่งผมที่โรงเรียน” เจนสันพยายามอย่างมากที่จะพูดความรู้สึกที่อยู่ในใจออกไป

เจย์ปรบมือ “ใช้ได้หนิ เริ่มมีการพัฒนาแล้ว ลูกเริ่มพูดได้เยอะขึ้นนะเจนสัน ”