บทที่227 ยกคาน

หลังจากที่แนะนำของประมูลเสร็จ การประมูลก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

มีคนไม่น้อยที่ชอบเหมือนกับลี่จุนถิง เลยทำให้สู้ราคากันอย่างดุเดือด

“ทุกคนสามารถเห็นได้ ว่าชุดเครื่องประดับชุดนี้มันดูแพงเป็นอย่างมาก ดังนั้นราคาเริ่มต้นของพวกเราอยู่ที่สิบล้าน” พิธีกรยกชุดเครื่องประดับขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะพูดใส่ไมค์

เมื่อพูดออกไป มีคนไม่น้อยเลยที่คิดจะถอย ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ตรงนั้นต่างเป็นคนร่ำรวย แต่ว่าห้าล้านก็ไม่ได้เป็นเงินน้อยๆ เลย

ในสถานการณ์แบบนี้ มีคนอยู่ในงานเยอะมาก คิดว่าสุดท้ายแล้ว ชุดเครื่องประดับนี้จะต้องถูกประมูลไปในราคาแพงแน่เลย

ถึงแม้ว่าราคาสูงนี้มันจะทำให้คนอื่นๆ คิดถอยไปมาก แต่ว่าคนที่เงินหนาอีกมากก็เริ่มประมูล

“ฉันให้ยี่สิบล้าน!”

“ยี่สิบห้าล้าน!”

……

ระหว่างการประมูล ลี่จุนถิงเองก็ยกมือขึ้นประมูลเหมือนกัน พลางพูด: “แปดสิบล้าน”

เมื่อได้ยินการเสนอราคาของลี่จุนถิง ทั้งหมดก็เงียบไป

มีคนไม่น้อยเลยที่หันหัวมา อยากจะมองว่าคือใครกันแน่ที่เสนอราคามากขนาดนั้น

หลังจากที่ลี่จุนถิงเสนอราคามากขนาดนั้นออกไป ไม่มีใครสู้ราคาต่อเลย ราคานั้นมันสูงมาก คนส่วนมากเลยไม่มีใครอยากจะสู้ราคาต่อ

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ แววตาของลี่จุนถิงก็ส่องประกายขึ้นมา

ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าตอนที่เห็นเครื่องประดับชุดนี้ เขารู้สึกถึงความสวย เลยจ่ายเงินจำนวนมาก เพราะอยากจะได้มันมา

พิธีกรหวังว่าจะเห็นราคามันขึ้นไปสูงมากกว่านี้ แต่หลังจากที่ได้ยินราคาของลี่จุนถิง เลยพูดขึ้นอย่างยินดี: “ผู้ชายคนนี้ให้ราคาแปดสิบล้าน มีใครจะเสนอราคาอีกไหม?”

ในตอนนั้น เต็มไปด้วยความเงียบสงัด ไม่มีใครอยากจะเสนอราคาต่อ

ขณะที่เครื่องประดับนั้นกำลังจะตกอยู่ในมือของลี่จุนถิง ในงานก็มีเสียงของคนอื่นขึ้นมาอีก: “ฉันให้ร้อยล้าน”

ร้อยล้านเหลือ?

ไม่มีใครคาดคิดเลย ว่าจะมีคนสู้ราคาต่อ ราคานี้มันแทบจะทะลุเพดานของราคาในงานประมูลหลายปีที่ผ่านมาเลยล่ะ

ลี่จุนถิงแอบคิดว่าเสียงของคนคนนั้นมันคุ้นหู เลยหันไปมอง ก็เห็นชายที่สวมแว่นขลิบทอง ท่าทีสวยสง่างาม ในตอนนั้นเองเขายิ้มอย่างท้าทายให้ลี่จุนถิง

เมื่อเห็นแบบนั้น ลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น

เป็นเขา……

เจียงหยุนเอ๋อเห็นความท้าทายได้จากใบหน้าของเขา เลยดึงแขนเสื้อของลี่จุนถิงด้วยความสงสัย พลางถาม: “คุณรู้จักคนคนนั้นเหรอ?”

ลี่จุนถิงพยักหน้าเบาๆ แต่ว่าไม่ได้อธิบายอะไร

แต่ว่า คนในที่นั่นจำชายที่สู้ราคากับลี่จุนถิงได้

“เอ๋ ดุสิ คนนั้นไม่ใช่ตี้ลั่วเชินเหรอ?”

“นั่นสิ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอที่นี่……”

“คุณหมายถึงอะไร การประมูลครั้งนี้มีแต่คนรวยๆ มาเข้าร่วม……เมื่อครู่คุณเองก็เห็น……”

“นั่นสิ……”

คนพวกนี้แอบพูดกัน แต่เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้ตัวตนของเขาจากคนพวกนั้น

ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกหลานคนรวยในยุโรป ไม่เพียงแค่มีตัวตนสูงส่ง แต่ยังโดดเด่นมากอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นตำนานในแวดวงธุรกิจเลยล่ะ

ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือฝรั่งเศส ตี้ลั่วเชินมีชื่อเสียงมากกว่าลี่จุนถิงมาก เหมือนกับตอนที่ตี้ลั่วเชินไปที่ประเทศ S ก็แทบจะไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเขาเลย

แต่ว่า ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะสามารถรู้จักว่าลี่จุนถิงคือใคร แต่ว่าสายตาที่มองตี้ลั่วเชินนั้นกลับไม่เหมือนกันเลย

“นี่……ตี้ลั่วเชินมีความบาดหมางอะไรกับชายคนนั้นหรือเปล่า?”

“ฉันคิดว่าเป็นไปได้……คุณดูแววตาของเขาตอนนี้สิ เหมือนไม่อยากให้ชายคนนั้นได้เครื่องเพชรไปอย่างง่ายๆ เลย”

ทุกๆ คนต่างเดากันไปต่างๆ นานา แต่กลับไม่รู้ว่าลี่จุนถิงต้องมีเรื่องอะไรกับตี้ลั่วเชินแน่นอน

ในสถานการณ์แบบนั้น ทั้งสองคนถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ในแวดวงธุรกิจแน่นอน……

ในตอนนั้นเองลี่จุนถิงมองออก ว่าตี้ลั่วเชินอยากจะงัดคานกับตัวเอง คิ้วของเขาขมวดขึ้น ท่ามกลางการถามของพิธีกรก็ยังมีคนที่อยากจะสู้ราคายกป้ายขึ้น

“ร้อยสิบเอ็ดล้าน” ลี่จุนถิงพูดด้วยความยำเกรง

เพิ่งจะพูดจบไป ตี้ลั่วเชินก็พูดราคาต่อ: “ร้อยยี่สิบล้าน”

ถึงตอนนี้ ทุกๆ คนต่างมองออก ว่าตี้ลั่วเชินอยากจะสู้กับลี่จุนถิงแน่นอน เลยเริ่มมีความตื่นเต้นเกิดขึ้น เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป

“เห้อ คุณว่า ชายคนนั้นจะสู้ราคาต่อไหม?”

“น่าจะไม่แล้วล่ะ?นี่มันร้อยยี่สิบล้านแล้วนะ……ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะใช้เงินเหมือนเทน้ำเหมือนกับตี้ลั่วเชินนะ……”

“ก็ไม่แน่นะ……ถึงอย่างไรก็บาดหมางกับตี้ลั่วเชินได้ เท่ากับว่าไม่น่าจะเป็นคนตัวเล็กๆ เลยล่ะ……”

เมื่อเห็นว่าราคามันถูกดันไปถึงหนึ่งร้อยสี่สิบล้านแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มร้อนใจ

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าลี่จุนถิงจะพยายามประมูลมันมาเพราะอะไรถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้ แต่ว่าเธอมองออก ว่าตี้ลั่วเชินคงไม่มีทางให้ลี่จุนถิงได้เอาเครื่องประดับชุดนี้ไปได้อย่างง่ายดาย ราคานี้ ไม่แน่ว่าจะต้องสู้ราคาไปสูงขนาดไหน

“ลี่จุนถิง ไม่อย่างนั้น……ก็ช่างมันเถอะ” เจียงหยุนเอ๋อโน้มน้าว

ลี่จุนถิงกลับไม่อยากฟังคำโน้มน้าวของเจียงหยุนเอ๋อ เลยพูดออกมาว่า: “ไม่ได้ ฉันคิดว่าเครื่องประดับชุดนี้มันเหมาะกับการเป้นของขวัญแต่งงานของคุณ ถึงจะต้องจ่ายสองร้อยล้าน ฉันเองก็ต้องสู้ราคามันมาให้ได้”

เมื่อไดยินคำพูดของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็หยุดพูด

สองร้อนล้าน……มันไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย

เธออยากจะโน้มน้าวต่อ ลี่จุนถิงกลับไมอยากจะฟัง เจียงหยุนเอ๋อขยับปากเล็กน้อย แต่ก็ทำได้แค่เก็บคำพูดเอาไว้

มองราคาขึ้นไปถึงร้อยห้าสิบล้าน พิธีกรก็มองไปทางตี้ลั่วเชิน

ถึงอย่างไร ในที่นี่ก็มีแค่ตี้ลั่วเชินกับลี่จุนถิงที่สู้ราคากัน ไม่รู้ว่าทำไม……ครั้งนี้ตี้ลั่วเชินถึงไม่สู้ราคาต่อแล้ว

“ช่างมันเถอะ ฉันไม่สู้ราคาแล้ว ถือว่าให้เขาก็แล้วกัน” ตี้ลั่วเชินโบกมือเบาๆ ด้วยความคูล

“มีใครยังอยากจะสู้ราคาอีกไหม?” พิธีกรถาม

ทั้งหมดเงียบลง

หลังจากที่พิธีกรนับถอยหลัง ก็ถือว่าจบการประมูลแล้ว

ถึงแม้ว่าจะได้เครื่องประดับมาอยู่ในมือของตัวเองดั่งใจแล้ว แต่ว่าเมื่อถูกตี้ลั่วเชินก่อกวนแบบนี้ ในใจของลี่จุนถิงก็รู้สึกไม่สบายใจ