“อีกไม่กี่วันต่อจากนี้งั้นเหรอครับ?”

ผมถามเอเลนอร์ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนตักของตัวเองอย่างรักใคร่ ตอนนี้ผมอยู่บนหอคอยอีกครั้งโดยนั่งอยู่ในห้องหลักของเธอ ช่างเป็นสัปดาห์ที่วุ่นวายถ้าพูดสั้นๆ และแผนการของผมกับรอนก็ได้เริ่มขึ้น ดังนั้นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลยทำให้บรรยากาศในสถาบันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกำลังกดดันอยู่ในขณะนี้

ทุกคนวิตกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โชคดีที่ผมมีอเล็กซ์อยู่เคียงข้างเพื่อจัดการกับปัญหาส่วนใหญ่ การวางแผนและสไตล์ของเขานั้นโหดเหี้ยม ดังนั้นผมจึงวางใจกับเรื่องนี้ได้ 

สิ่งต่อไปที่ผมต้องจัดการคือสาวๆ กิจวัตรของผมที่มีกับโอลิเวียก็ยังคงเหมือนเดิม ตอนนี้ผมชนะใจเธอได้เพียงส่วนเล็กๆ ด้วยด้านที่อ่อนโยนของผม

แทนที่จะใช้ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว ผมเริ่ม ‘โจมตี’ เธอด้วยความรักของผม ผมเคยพาเธอไปเดทครั้งที่ 2 แล้วเพื่อผสานความรู้สึกที่เธอมีต่อผมให้มากขึ้น 

สิ่งต่อมาคือสการ์เล็ตที่ผมไปเดทครั้งที่ 3 ด้วย ซึ่งไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ผมแค่พาเธอไปยังสถานที่แรกที่เราพบกัน ทำให้เราหวนนึกถึงความทรงจำของเรา มันช่างหอมหวานและผ่อนคลาย

คนที่ผมพยายามอยู่ด้วยมากที่สุดคือคาร์เมล/คาร์มีเลีย ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มเปิดใจกับผมมากแล้ว การเล่นเป็น ‘รุ่นน้อง’ นั้นช่วยได้จริงๆ แม้ว่ามันจะยากกว่าที่จะก้าวหน้ามากกว่านี้เนื่องจากมีหมาผู้ซื่อสัตย์ 2 ตัวคอยโจมตีผมตลอดเวลาเมื่อมีโอกาสก็ตาม เวลาที่ผมได้อยู่ตามลำพังกับเธอคือตอนกลางคืนเท่านั้น

ส่วนเวลาอื่นนั้นเพื่อนสนิทของเธอทั้ง 2 จะคอยเกาะติดเธอเหมือนกาวเสมอ สิ่งที่แย่ที่สุดคือผมไม่สามารถทำให้พวกเขาจากไปได้ ผมรู้ว่าคาร์เมลคิดว่าพวกเขาเป็นครอบครัวสำหรับเธอ เพราะพวกเขาโตมาด้วยกันและการอยู่กับเธอ 2 สัปดาห์ไม่ได้ทำให้ผมสำคัญกับเธอมากไปกว่าพวกเขา เพราะงั้นผมต้องใช้เวลาค่อยๆ คลายความผูกพันที่มีอยู่

แล้วก็มีโซเนียที่ผมไปเยี่ยมทุกวัน ผมค่อยๆ กลายเป็นส่วนสำคัญของหัวใจเธอแล้ว ต้องขอบคุณที่ผมมีคลาร่าที่คอยกระซิบและชักใยเธอในแบบที่ผมปรารถนา เพราะอย่างนั้นผมจึงสบายดี 

ในส่วนของชิร่านั้น ยัยกระxรี่นั่นอยู่ในกำมือผมแล้ว

แม้ว่าผมจะไม่ได้ไปหาเธอทุกวัน แต่ผมก็ไปหาเธอเป็นระยะๆ เพื่อค่อยๆ ทำให้เธอกลายเป็นทาสของผม ซึ่งกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่ผมคิดไว้ ด้าน M ของเธอกระตือรือร้นกว่าที่ผมคิดไว้มาก บางทีผมอาจจะสามารถผลักดันแผนการบางอย่างที่คิดไว้แล้วก็ได้

“ใช่ ฉันจะแนะนำเธอให้โลกรู้จักในฐานะผู้สืบทอดของฉัน”

เอเลนอร์พูดด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอเคลื่อนตัวมาข้างหน้าและจูบที่ศีรษะของผม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อผม 

ผมแค่ยิ้มก่อนจะเริ่มลูบผมของเธออย่างช้าๆ โดยรู้ว่าเธอชอบเมื่อผมทำแบบนี้ และเช่นเดียวกับที่เธอละลายในอ้อมกอดของผมขณะที่เธอนั่งอยู่บนตักของผมอย่างมีความสุข

ใครจะไปคิดกันว่าเธอคือจักรพรรดินีผู้เขย่าโลก ตอนนี้เธอดูเหมือนคู่รักที่อ่อนโยนมากกว่านักธนูผู้ดุร้ายที่น่ากลัวซะอีก

“ก็คือภายในอาทิตย์นี้งั้นเหรอครับ?”

“ใช่ ฉันได้ติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทุกคนที่มีอำนาจจะอยู่ที่นั่น และในไม่ช้าคนทั้งโลกจะรู้เกี่ยวกับเธอ”

“ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้กันซะหน่อยหนิครับ”

“ฮิฮิฮิ….นั่นก็จริงของเธอ”

เอเลนอร์ตอบด้วยรอยยิ้ม 

ผมแค่กอดเธอในขณะที่ความคิดของตัวพรั่งพรูขึ้นมา หลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า และผมต้องการให้แน่ใจว่าตัวเองพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาถึง

“ผมจะไปผจญภัยกับคาร์เมลเร็วๆ นี้นะครับ”

ผมพูดทันที ทำให้เอเลนอร์สะดุ้งขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองตรงมาที่ผม 

ผมยิ้มให้เธออย่างมั่นใจขณะที่เอามือจับใบหน้าของเธอ

“ผมอยากช่วยรุ่นพี่ของผม อยากปลดภาระที่ค้างคาในใจและอยากให้เธอมีความสุขครับ”

คำพูดของผมน้อยแต่สื่อถึงความคิดและความรู้สึกทั้งหมดของผม 

เอเลนอร์เข้าใจมันขณะที่เธอส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอเอามือมาวางบนใบหน้าของผมด้วยความอ่อนโยนที่อยู่ในดวงตาของเธอ

“ฉันต้องทำอะไรเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับเธอดีนะ?”

“อาจจะเป็นช่วยโลกได้ในช่วงชีวิตสุดท้ายหล่ะมั้งครับ”

“หืมมม ค่อนข้างหลงตัวเองจังนะ”

“อืม นั่นมันชื่อกลางของผมเลยครับ”

คำตอบของผมทำให้เอเลนอร์หัวเราะเบาๆ ขณะที่เธอเคลื่อนหน้ามาจูบที่ริมฝีปากของผม ริมฝีปากที่อ่อนหวานของเธอกำลังสบกับผม คราวนี้ไม่มีความต้องการทางเพศ มีแต่ความรู้สึกบริสุทธิ์และความรัก เราแค่นั่งตรงนั้นในขณะที่ริมฝีปากของเธอละลายไปกับของผม ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ถอนจูบออกด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มพราวระยับ

“แน่นอน เธอสามารถช่วยคาร์เมลได้ แต่ระวังไว้ด้วยหล่ะ แผลใจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือ การก้าวผิดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้สิ่งต่างๆ พังทลายลงมาเลยก็ได้นะ”

“ผมรู้ครับ แค่เชื่อใจผมก็พอครับ”

ผมพูดขณะลูบไล้ใบหน้าของเธอด้วยความรัก

“เชื่อเสมอแหละ”

เธอตอบพร้อมกับโผกลับเข้าสู่อ้อมกอดของผม

 

 

“แล้วฝั่งเราเป็นยังไงบ้าง?”

ผมถามขณะที่นั่งอยู่ในที่ประชุมโดยที่บรรยากาศทั้งหมดเป็นไปอย่างเคร่งเครียด 

อเล็กซ์ลุกขึ้นยืนก่อนจะเริ่มพูด

“ในแนวทางปัจจุบันที่เรากำลังไปได้สวย หากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เรามีโอกาสสูงที่จะคว้าชัยชนะได้ แต่ว่า.…”

“แต่?”

ผมถามขึ้นมา ส่วนอเล็กซ์ก็พยักหน้า

“แต่เราเพิ่งได้รับรายงานว่ารอนกำลังติดต่อกับแองเจลิน่า พวกเขาอาจสร้างพันธมิตรบางอย่าง ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น สิ่งต่างๆ จะกลายเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเรา”

“เข้าใจแล้ว…”

ผมผงกศีรษะและรู้ดีว่าสิ่งนั้นอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายได้ แต่ผมไม่กลัวเลยสักนิด เนื่องจากมีวิธีแก้ไขเสมอ 

ผมหันไปหาคนที่เหลือก่อนจะพูดขึ้นมา

“ไม่ต้องไปกังวัลเรื่องนั้น แค่ทำในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ก็พอ ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทุกอย่างจะจบลงเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม คนที่เหลือก็ผงกศีรษะ ความเหนื่อยล้าถูกแทนที่ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า สถานการณ์ปัจจุบันอาจดูดีแต่คงอยู่ไม่ได้ตลอดไป

จำนวนที่เรามีน้อย ผมไม่สามารถส่งพวกเขาไปรบได้ แม้ว่าพวกเขาจะฟื้นฟูเวทมนตร์และอาการบาดเจ็บได้ก็ตาม แต่สุขภาพจิตนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันคือสิ่งที่ต้องการพักผ่อน และผมไม่สามารถทำอะไรได้ถ้ามันนานไป สุขภาพจิตของสมาชิกทั้งหมดของผมก็จะมีแต่ทรุดลงเรื่อยๆ

‘ดูเหมือนถึงเวลาที่ต้องดำลงทะเลซะแล้ว’

ด้วยความคิดเช่นนี้ผมจึงออกจากห้องและมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ต้องการ

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต