ตอนที่ 148 หารือ
ณ ห้องโถงนภาของสํานักดาบราชัน
ขณะนี้ที่นี่คึกคักอย่างมาก นอกจากปรมาจารย์จากยอดเขาผู้ใช้ยันต์ปรมาจารย์จากหกยอดเขาหลักทั้งหมดของสํานักดาบราชันก็ได้มาที่นี่
เทียบอันดับสวรรค์จะเริ่มอีกหนึ่งเดือนจากนี้และมันเป็นวันสําคัญของสํานักดาบราชัน เพราะมันโชคชะตาของสํานักดาบราชันขึ้นอยู่กับมัน
หากมีใครสักคนในสํานักดาบราชันสามารถขึ้นไปสู่อันดับหนึ่งได้เช่นนั้นสํานักดาบราชันจะมีศิษย์เพิ่มมากขึ้นเงินไหลเวียนดีขึ้น มันจะแตกต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงที่มีศิษย์ไม่ถึงหนึ่งหมื่นคน
เวลานี้ผู้ที่จะเข้าร่วมประลองเป็นประเด็นหารือกันในหมู่ผู้อาวุโสและปรมาจารย์จากแต่ละยอดเขา
เหตุใดพวกเขาต้องหารือกัน?เพราะพวกเขามีศิษย์เกินสิบคนเข้าร่วมการประลองเทียบอันดับสวรรค์!
“ในหมู่ศิษย์นอกของสํานักมีร้อยยี่สิบคนที่อยู่ต่ํากว่าขั้นปราณราชันและอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีในหมู่พวกเขามีสิบหกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าร่วมและมีเพียงสามคนในทั้งหมดที่มีโอกาสได้อันดับทั้งสามนั้นคือมู่หรงเหยาฉินเฟิงและศิษย์ของผู้อาวุโสในอู่หยางเหยินแม้แต่ผู้อาวุโสนอกบางคนยังไม่อาจเทียบได้กับทั้งสามคนนั้น ดังนั้นพวกเขาต้องเข้าร่วมเทียบอันดับสวรรค์ครั้งนี้”ผู้อาวุโสในกล่าวอย่างช้า ๆ
ผู้อาวุโสบัญชาการดาบ อวหลินยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนและผู้อื่นได้ยืนล้อมรอบเขาอยู่มีอัจฉริยะที่เหนือจินตนาการมากมายในเทียบอันดับสวรรค์แต่มีสามคนของสํานักดาบราชันที่สามารถเข้าไปได้ หากพวกเขามุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงเหตุการณ์จะต้องเลวร้ายแน่นอน!
“หากไม่ใช่เพราะสํานักภูตผีส่งคนเข้ามาสังหารอัจฉริยะของสํานักดาบราชันในวันนั้น สํานักดาบราชันคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ข้าไม่หวังอะไรมากนอกจากเข้าไปในสํานักภูตผีแล้วชักดาบเข่นฆ่าศิษย์ของพวกมันทิ้งเสีย!”ชีหัวสบกด่าอยู่ด้านข้าง
ท่าทีของพวกเขาดําดิ่งทันทีที่ได้ยินเรื่องของสํานักภูตผีถึงแม้สํานักดาบราชันจะไม่อาจทัดเทียมได้กับโรงเรียนปราชญ์และสองราชวังเมื่อหลายปีก่อน มันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสํานักภูตผีและสํานักจันทราเหตุผลที่สํานักดาบราชันตกไปอยู่อันดับล่างสุดเพราะสํานักภูตผีพวกเขาส่งยอดฝีมือมากําจัดอัจฉริยะของสํานักดาบราชัน!
เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่มีอัจฉริยะจากสํานักดาบราชันสามารถเข้าไปยังเทียบอันดับสวรรค์ได้เพราะไม่มีใครสามารถเข้าไปได้สํานักดาบราชันจึงไม่ได้ครอบครองหนึ่งในเกมณฑลอย่าว่าแต่มณฑล แม้แต่เมืองใหญ่สักเมืองยังไม่ได้ครองเมื่อเป็นเช่นนั้นศิษย์ของสํานักดาบราชันจึงลดลงเรื่อย ๆ
มันกล่าวได้ว่าสํานักภูตผีเป็นเหตุผลหลักที่ทําให้สํานักดาบราชันตกไปอยู่อันดับล่างสุด!
“วางปัญหานั้นทิ้งไปก่อน!”อวหลินกล่าวเสียงต่ํา”ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีสักคนในสํานักดาบราชันเข้าไปยังอันดับสูง มิเช่นนั้นเพียงแค่หัวเมืองเล็ก ๆใกล้กับสํานักพวกเราจะต้องกลายเป็นสํานักทางเลือกที่สองแน่นอนในปีหน้าเมื่อเป็นเช่นนั้นมันจะเป็นตราบาปของพวกเราและยังจะอับอายต่อบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว!”
อวี่เหิงที่ยืนข้างอวี่หลินยิ้มอย่างขมขึ้น “ศิษย์พี่ท่านก็ทราบดีว่าเทียบอันดับสวรรค์เป็นอย่างไรมันจะมีอัจฉริยะที่เหนือกว่าอัจฉริยะกําเนิดขึ้นถึงแม้พวกเราจะสนับสนุนมู่หรงเหยาฉินเฟิงและอู่หยางเหยินมานานการขึ้นไปยังอันดับสูงนั้นจะต้องถูกสํานักภูตผีเล็งไว้แน่นอนนอกจากนั้นตามข้อมูลที่ข้าได้รับมาชายหนุ่มจากสํานักภูตผีนามโฉวลู่ได้เข้าถึงเจตจํานงแห่งการฆ่าขณะอยู่ขั้นปราณสวรรค์ระดับแปดได้แล้ว!”
เจตจํานงแห่งการฆ่า! ท่าทีของทุกคนเปลี่ยนไปทันที!
เจตจํานงแห่งการฆ่าคืออะไร? มันเหมือนกับเจตจํานงแห่งดาบเป็นสถานะที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้เข้าถึงได้อย่างมหาศาลยกตัวอย่างเช่นเมื่อหยางเย็ใช้เจตจํานงแห่งดาบคู่ต่อสู้ของเขาจะถูกกดดัน จนหมดกําลังใจ และความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแทนภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นคู่ต่อสู้จะอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ
กล่าวโดยง่ายคือ ผู้ที่มีเจตจํานงเหล่านั้นจะสามารถเหนือกว่าผู้ที่ขั้นเดียวกันได้ทั้งหมด
ท่าที่อวหลินเปลี่ยนไปอย่างมาก “อวี่เหิง มันเป็นเรื่องจริงหรือ?”
อรี่เพิ่งพยักหน้า “ข้าเพิ่งทราบเมื่อไม่นานมานี้เขาคงจะเป็นไพ่ตายของสํานักภูตผี นอกจากมู่หรงเหยาผู้อนก็ไม่มีใครสามารถพอจะเป็นคู่ต่อสู้กับโฉวลู่ได้อีกยิ่งกว่านั้นหากเขาตั้งเป้าหมายเป็นสตรีตัวจ้อยอย่างมู่หรงเหยาเช่นนั้นมันคงจะยากมากที่นางจะสามารถเข้าอันดับสูงได้พวกท่านเองก็คงทราบว่าเขาจะต้องเล็งนางไว้แน่นอน!”
ผู้อาวุโสรอบด้านตระหนักดีถึงความขัดแย้งระหว่างสํานักภูตผีและสํานักดาบราชันจะไม่ให้โฉวลู่ตั้งเป้าไปที่มู่หรงเหยาได้ยังไง?
“สังหารไอ้หนูนั้นเสีย!” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้น
ประกายเย็นเยือปรากฏผ่านดวงตาอวหลินเช่นกัน
แต่อวี่เหิงก็ส่ายหัว “นั่นเป็นเรื่องที่ยากอย่างมากเพราะสํานักภูตผีจะต้องระวังตัวเขาอย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้นโฉวลู่ยังไม่ใช่ปัญหาหลัก ปัญหาหลักคือโรงเรียนปราชญ์และราชวังบุปผาในอดีตทั้งสองสํานักมักจะได้อันดับที่ดีอยู่แล้วอย่างไรก็ตามข้ารู้สึกว่าทั้งสองสํานักจะไปอยู่ข้างสํานักภูตผีด้วยหากพวกเขาอยู่ข้างสํานักภูตผีจริงเช่นนั้นศิษย์ของสํานักเราจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน!”
“เหตุใดโรงเรียนปราชญ์และราชวังบุปผาถึงทําเช่นนั้น?”ชีฮงรู้สึกสงสัย”ไม่มีความขัดแย้งใดระหว่างพวกเขากับสํานักดาบราชันทั้งยังแทบไม่มีประโยชน์ใดด้วยดังนั้น เหตุใดพวกเขาถึงไปอยู่ข้างสํานักภูตผีและเล็งสํานักดาบราชันได้?”
“ท่านยังไม่ลืมหยางเยู่ใช่หรือไม่?”อวี่เพิ่งกล่าวเสียงต่ํา”วันนั้นราชวังบุปผามาที่สํานักดาบราชันเพื่อขอตัวเขาแต่พวกเราก็ไม่ได้ส่งให้ข้าคาดการณ์ว่าราชวังบุปผาคงไม่พอใจตั้งแต่นั้นมาถึงแม้มันจะเป็นเพราะอาจาร ย์หลินชานแต่ใครจะทราบว่าพวกเขาจะไม่โกรธสํานักดาบราชัน? สําหรับโรงเรียนปราชญ์เจ้ายังจําเหตุการณ์ครั้งอาจารย์ลุงซุยได้หรือไม่? ข้าคิดว่าผู้อาวุโสจากโรงเรียนปราชญ์ยังไม่ลืมเรื่องที่อาจารย์ลุงซุยทําแน่นอน!”
“ใครคือหยางเย?” ปรมาจารย์คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“ชายหนุ่มที่มีเจตจํานงแห่งดาบ!” อวี่เพิ่งกล่าว”เวลานั้นอาจารย์ของเขาคือหลินชาน และเขาเคยเป็นศิษย์สํานักดาบราชัน แต่…”
“เขามีเจตจํานงแห่งดาบงั้นหรือ?”
ท่าทีของผู้อาวุโสหลายคนเปลี่ยนไป
ปรมาจารย์คนหนึ่งเอ่ยถามอย่างตกตะลึง”สํานักดาบราชันมีคนที่สามารถเข้าเจตจํานงแห่งดาบได้เมื่อไหร่กัน? อวี่เหิงอวี่หลินเหตุใดพวกเจ้าทั้งสองถึงปิดบังเรื่องนี้?”
สายตาของพวกเขามองไปที่อวหลินและอวี่เหิงอย่างไม่พอใจ
อวี่เพิ่งหัวเราะอย่างขมขื่น”เขาเคยเป็นศิษย์สํานักดาบราชันแต่ไม่ใช่อีกแล้ว!”
ปรมาจารย์ชะงักก่อนจะถาม”ทําไมกัน?”
ทันใดนั้นอวหลินส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ”มันคือความผิดของข้าเอง…”
หลังจากนั้นเขาเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น!
ผ่านไปชั่วครู่ ปรมาจารย์ส่ายหัวพร้อมกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวเล็กน้อย”ศิษย์น้องอรี่หลิน เจ้าได้ทําการตัดสินใจที่โง่อย่างมาก!เจ้าไม่ทราบหรืออย่างไรว่าคนที่มีเจตจํานงแห่งดาบนั้นสําคัญต่อสํานักดาบราชันถึงเพียงใดยิ่งกว่านั้นหากเขาเป็นศิษย์ของอาจารย์หลินชานเขาก็ต้องเป็นอาจารย์ยันต์ด้วยเช่นกันหากเจ้าไม่ตัดสินใจโง่ ๆ เช่นนั้นนอกจากสํานักดาบราชันจะมีศิษย์ที่มีเจตจํานงแห่งดาบพวกเรายังจะมีอาจารย์ยันต์อยู่ในครอบครอง!”
ปรมาจารย์อีกคนกล่าว “ศิษย์น้องอวี่เหิง ข้าทราบว่าเจ้าตัดสินใจโดยรวมในครั้งนั้น แต่เรื่องนี้… เจ้าน่าจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ลุงซุยเมื่อหลายปีก่อนเฮ้อ…”
เหตุใดพวกเขาจะไม่ทราบถึงเรื่องราวของอาจารย์ลุงซุย?ถึงแม้อาจารย์ลุงซุยจะเป็นผู้ปกป้องของสํานักดาบราชันเขาก็ไม่สนใจสํานักดาบราชันแม้แต่น้อยนอกจากสํานักดาบราชันจะตกอยู่ในอันตรายขั้นวิกฤตมิเช่นนั้นเขาจะไม่กลับมาพวกเขาทุกคนทราบดีเรื่องนี้ดีแม้เขาจะปกป้องสํานักดาบราชันแต่ก็ยังมีความเกลียดชังสํานักดาบราชันเพราะเหตุการณ์ในอดีตกับโรงเรียนปราชญ์
เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นมาหลายปี นอกจากจะทําให้สํานักดาบขาดศิษย์ยังทําให้พวกเขาเสียชื่อเสียงในยุทธภพจะมีใครกล้าเชื่อใจสํานักที่ทิ้งศิษย์ของตนเองเพียงเพราะกลัวมหาอํานาจอื่น?
และตอนนี้เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจะไม่ให้บรรดาปรมาจารย์หัวเสียได้เช่นไรกัน?
“หากข้าทราบว่าเขามีเจตจํานงแห่งดาบ เช่นนั้นข้าคงไม่ตัดสินใจแบบนั้นแน่นอนถึงแม้จะเจอกับราชวัง บุปผาก็ตาม!” อวี่หลินส่ายหัวพร้อมกล่าวอย่างขมขึ้น”ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นความผิดของข้าและข้าจะลงชื่อออกจากการเป็นผู้อาวุโสบัญชาดาบทันทีที่เจ้าสํานักออกมา”
“เจ้าหนุ่มนั้นคงมีความทับใจที่ไม่ดีต่อสํานักดาบราชันไปแล้วเช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขามาร่วมด้วยแต่พวกเราต้องลองดูเพราะไม่ว่ายังไงสํานักดาบราชันของเราก็ไม่ควรยอมสละอัจฉริยะที่มีเจตจํานงแห่งดาบได้”ปรมาจารย์จากยอดเขาหนึ่งได้กล่าว
ทุกคนรอบด้านพยักหน้าอัจฉริยะที่มีเจตจํานงแห่งดาบนั้นจําเป็นต่อสํานักดาบราชันอย่างมากหากอัจฉริยะผู้นั้นได้รับการสนับสนุนอย่างดีเขาก็อาจได้เป็นอันดับหนึ่งในสํานักได้