ตอนที่ 75-1 วัดกันที่ระยะทาง

ผู้ที่กล่าวคําเหล่านั้นคือเด็กชายผู้หนึ่ง

หากมีผู้กล่าวว่าองค์ชายเจ็ดคือบุรุษรูปงามซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับภาพวาดที่เต็มเปี่ยมไป ด้วยความสามารถ เด็กชายผู้นี้ก็ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบงันโดยมิได้ใส่ใจผู้ใด แต่เมื่อเขากล่าวขึ้นมา ผู้อื่นก็อดมิได้ ที่จะหันมาสนใจเขา

แม้ว่าจะมิได้ยิ้ม เด็กชายผู้นี้ก็มีความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขายิ้มอย่างชัดเจน ทําให้ผู้อื่นรับรู้ว่า บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่งดงามอยู่อีกหนึ่งอย่าง

เมื่อปรากฏว่านี่คือบุตรชายของฮูหยินสามที่อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลหลี่

หลี่หมิ่นเต๋อยิ้มกว้างขณะที่ความเฉลียวฉลาดสะท้อนให้เห็นในแววตาของเขา และยังคงมีชีวิตชีวาอย่างชัดเจน:

“องค์หญิง จริงหรือไม่ที่ผู้ที่ส่งลูกศรไปไกลที่สุดจะเป็นผู้ชนะ? คํากล่าวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่?”

คุณหนูซานผู้ซึ่งนั่งถัดจากคุณหนูหยานบ่นพึมพําว่า

“นั่นคือบุตรชายบุญธรรมของฮูหยินสามแห่งบ้านตระกูลหลี่มิใช่หรือ? ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนดีและหล่อเหลาเสียด้วย!”

“ข้าได้ยินมาว่า เขามิใช่สายเลือดของตระกูลหลี่! แล้วเด็กชายที่หน้าตาดีเช่นนี้เขาอยู่ตระกูลใด?”

“มาดูกันดีกว่าว่าเขาจะกล่าวอันใด?”

องค์หญิงทอดพระเนตรเด็กในวัยเยาว์ที่อยู่ตรงหน้าและหัวเราะขณะที่กล่าวว่า

“ถูกต้อง”

“โอ้ว”

ประกายเจิดจ้าแวบไปทั่วดวงตาของหลีหมิ่นเต๋อทันที

“หมินเต๋ออยากลองดูบ้าง!”

ในขณะที่เขากล่าวจบ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากทุกทิศทาง

จะเป็นไปได้อย่างไร?

หลี่หมิ่นเต๋อยังเด็กอยู่และอาจจะมิสามารถวาดคันธนูด้วยซ้ํา องค์หญิงหย่งหนิงก็คิดเช่นเดียวกันกับผู้อื่นและกล่าวเบาๆ ว่า:

“เจ้าสามารถวาดคันธนูได้หรือ?”

หลี่หมิ่นเต๋อยิ้มด้วยความมีชีวิตชีวาในดวงตาของเขา

“ทูลองค์หญิง หากเป็นอย่างที่พระองค์ตรัส ผู้ที่ส่งลูกศรไปได้ไกลที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หมิ่นเต๋อก็สามารถทําได้อย่างแน่นอน”

“เขาเสียสติไปแล้วหรือ?”

คุณหนูหยานโพล่งออกมาอีกว่า

“เขาจะทําได้อย่างไร?”

“ถูกแล้ว องค์ชายห้ายิงลูกศรของพระองค์ไปไกลมาก แล้วเด็กน้อยอย่างเขาจะมีพละกําลังที่จะยิงธนูได้ไกลกว่านี้ได้อย่างไร”

“เป็นไปมิได้”

หลี่เว่ยหยางมองไปยังหลี่หมิ่นเต๋อ โดยมิรู้ว่าเหตุใดเขาจึงทําเช่นนี้?

“หนุ่มน้อย เจ้าปรารถนาที่จะลองจริงๆ หรือ?

หากทํามิได้ก็อย่ามาร้องไห้ที่หลังเด็ดขาด”

ทั่วเป่าเจิ้นกล่าวจบและเหลือบมองไปยังหลี่เว่ยหยางเพื่อเป็นการเตือนว่าอย่ายุ่งกับลูกศร

ทั่วเป่าหยูสายหัว

“มิมีทาง เจ้ามิสามารถทําได้!”

องค์ชายเจ็ดกล่าวขณะที่มีความคิดอยู่ภายในใจว่า หากเขาได้รับโอกาสให้ยิงอีกครั้ง บางทีเขา อาจจะยิงได้ไกลกว่านี้ แต่เด็กผู้นี้คงมิมีแรงพอที่จะทําเช่นนั้นได้

“ข้าจะแสดงให้ทุกคนเห็น คอยชม…”

รอยยิ้มของหลี่หมินเต๋อ

กว้างขึ้นขณะที่เขากล่าวว่า

“เมื่อเป็นเช่นนั้นรางวัลจะต้องเป็นของหมิ่นเต๋อ”

องค์ชายห้า,ทั่วเป่ารุ่ยขมวดคิ้วและกล่าวว่า:

“คุณชายสามมั่นใจถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”

เขากวาดสายตามองดู

หมินเต๋อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงยิ้มแต่แฝงไปด้วยความสงสัย และในที่สุดก็กระแอมอย่างสุขุมหนึ่งครั้ง

“อย่าเสียใจในภายหลังเมื่อเจ้าทํามิได้”

หลี่หมินเต๋อมิสนใจคํากล่าวของทั่วเป่ารุ่ยและลุกขึ้นยืน

เขาเดินไปที่กลางเวทีเพื่อรับคันธนูและลูกศรที่มอบให้เขา ทุกคนมองอย่างสงสัยว่า เขาจะสามารถวาดคันธนูได้อย่างไร ก่อนที่จะรับคันธนู เขาเงยหน้าขึ้นและเอ่ยถามว่า

“มันเป็นการแข่งขันเรื่องระยะทางเท่านั้นใช่หรือไม่?”

องค์หญิงพยักหน้า

“ถูกต้อง ลูกศรที่ไกลที่สุดจะชนะ”

“มีเงื่อนไขอื่นๆ อีกหรือไม่?”

หลี่เว่ยหยางเริ่มมีท่าทางแปลกๆ แต่ดวงตาของนางก็สว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุด องค์หญิงก็พยักหน้า

“มิมีสิ่งใดเพิ่มเติม นั่นคือกติกาทั้งหมด!”

“ตกลง”

ทุกคนเห็นหลี่หมิ่นเต๋อเดินเข้าไปใกล้กรงนกที่แขวนอยู่บนต้นไม้บริเวณใกล้เคียงโดยมีขันที่ตงชิงอยู่ด้านข้าง

หลังจากนั้นเขาได้ผูกลูกธนูเข้ากับตัวของมันและตบปีกนกตัวนั้นอย่างแผ่วเบา และโยนมันขึ้นไปบนฟ้าด้วยความรวดเร็วโดยมิคาดคิด

ส่งผลให้นกตัวนั้นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และหลังจากนั้นมินานมันก็มิอยู่ในสายตาของผู้คนอีกต่อไป

หลี่หมินเต๋อหันกลับมาและยังคงยืนอยู่ตรงกลางเวที ขณะที่การจ้องมองของเขาสดใสราวกับ ว่ากําลังรับพลังจากโลก สิ่งนี้สามารถกระตุ้นหัวใจของผู้อื่นให้ยิ้มอย่างสดใส:

“ข้าทําสําเร็จแล้ว”

เด็กชายผู้นี้มิได้พึ่งพาความแข็งแกร่งของตนเองหรือแผนการที่ชาญฉลาดใดๆ ทั้งสิ้น เขาทําเพียงแค่ปล่อยนกเพียงตัวเดียวและลูกศรก็อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันไมล์ มันเป็นวิธีง่ายๆ

แต่ในขณะนั้นทุกคนตกตะลึง และทันใดนั้นองค์หญิงหย่งหนิงก็หัวเราะออกมาดังๆ ขณะที่องค์ชายห้ารู้สึกโกรธเคืองมากะ

“นี่เป็นกลยุทธ์แบบใดกัน! เจ้ามิได้ใช้คันธนูด้วยซ้ํา!”

หลี่หมิ่นเต๋อจ้องมองไปที่องค์ชายห้าและยิ้มกว้างอย่างน่าเอ็นดู

ทันใดนั้นทั่วเป่ารุ่ยก็ตระหนักได้ว่า กติกาที่องค์หญิงตั้งเอาไว้คือ พระนางต้องการดูว่าลูกศรจะไปได้ไกลเพียงใด แต่มิได้กล่าวว่าจะต้องใช้คันธนู

กลยุทธ์แรกที่ควรคํานึงถึงคือการใช้ธนูเพื่อยิงลูกศร ซึ่งทุกคนลืมไปแล้วว่าสิ่งนี้ยังสามารถทําได้แม้มิมีคันธนู เด็กชายผู้นี้ค่อนข้างเฉลียวฉลาด!

หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างชัดเจน เด็กผู้นี้นางมิได้คาดหวังว่าเขาจะใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเช่น เดียวกับตนเอง

การจ้องมองขององค์หญิงหย่งหนิงอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด

“เอาล่ะ วิธีนี้ของเจ้านั้นแม้ว่าจะดูมิค่อยเข้าใจนักแต่ก็ยังอยู่ในกฏ ดังนั้นต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น กระจกนี้เป็นของเจ้าแล้ว”

หลี่หมิ่นเต๋อรับกระจกพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุขใจ ขณะที่สายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องอยู่ที่เด็กชายผู้นี้

ก่อนหน้านี้เขาเป็นแขกที่มีมีผู้ใดรู้จัก แต่ตอนนี้ทุกคนรู้จักชื่อของเขาแล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าวิธีการของเด็กผู้นี้จะมียุติธรรม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเยาวชนผู้นี้น่าสนใจกว่าเด็กชายทั่วไป

ความสามารถในการยิงธนูมิสําคัญเท่ากับการเข้าใจความคิดขององค์หญิง และสิ่งนี้ทําให้พระนางมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด

องค์หญิงเก้ามิได้ตื่นตระหนกอีกต่อไป และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าใบหน้าของเด็กหญิงแดงขึ้นโดยมิทราบสาเหตุ

หลี่หมินเต๋อดูเหมือนว่า นี่จะเป็นผู้ที่