บทที่ 209 ดื่มชาพูดคุย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 209 ดื่มชาพูดคุย

บทที่ 209 ดื่มชาพูดคุย

เดิมทีกู้เสี่ยวหวานคิดจะเข้าไปพูดกับกู้ซินเถา เมื่อเห็นเช่นนั้นนางก็ทำได้เพียงปล่อยมันไป ชายผู้นั้นดูเหมือนว่าคุ้นเคยกับร้านน้ำชานี้ดี พอเห็นท่าทางหลงใหลในตัวกู้ซินเถา กู้เสี่ยวหวานก็เดาว่าทั้งสองคนน่าจะรู้จักกัน

อีกทั้งคนผู้นั้นยังมีบ่าวรับใช้คอยติดตามอยู่ด้วย หากตอนนี้นางเข้าไปคุยกับกู้ซินเถาเกรงว่าคนที่แย่จะกลายเป็นนางเสียเอง ด้วยความจนใจกู้เสี่ยวหวานจึงทำได้เพียงอดกลั้นความโกรธเอาไว้ในใจ สายตาจ้องเขม็งอย่างดุร้ายก่อนจะจากมา

นี่เป็นครั้งแรกที่กู้ซินเถามาที่ร้านน้ำชา อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่นางมาร้านน้ำชาตามลำพังกับผู้ชายที่เป็นคนเชิญนางมา

ในใจของกู้ซินเถารู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ หลังจากนั้นก็เดินตามเจียงหย่วนเข้ามาในร้านน้ำชา

พอลูกจ้างในร้านน้ำชามองเห็นเจียงหย่วนเดินเข้ามาแล้ว ก็รีบยกยิ้มตาปิดวิ่งเข้ามาหา “นายน้อยเจียง ท่านมาแล้ว!”

เจียงหย่วนแค่นเสียงขึ้นจมูกหนึ่งเสียง พูดอย่างหยิ่งยโสว่า “พาข้าไปเถอะ”

ลูกจ้างในร้านคนนั้นยิ้มและตอบรับหนึ่งเสียง แล้วค้อมตัวเดินนำทางไป

เจียงหยวนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของที่ร้านแห่งนี้ เขามาที่แห่งนี้เป็นประจำ เถ้าแก่ของที่นี่กับลูกจ้างในร้านรู้จักพวกเขาทุกคน เมื่อลูกจ้างในร้านเห็นเจียงหย่วนก็จะก้มตัวแสดงความเคารพแล้วเรียกว่า นายน้อยเจียง

เจียงหย่วนเพียงตอบรับว่าอืมเบา ๆ ไพล่มือไว้ข้างหลัง ไม่แม้แต่จะปรายตามองพวกเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเชิดหน้าก้าวเดินตลอดทาง คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าทำให้เขารำคาญจึงก้มตัวให้ทุกครั้ง จนกระทั่งเจียงหย่วนเดินจากไปไกลแล้วจึงค่อยยืดตัวขึ้น และแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง

กู้ซินเถาเดินอยู่ข้างหลังเจียงหย่วนตลอด ยิ่งเจียงหย่วนได้รับความเคารพเช่นนั้นจากคนอื่น กู้ซินเถาก็ยิ่งพอใจมากขึ้น นางที่เดินตามหลังเขาก็ถูกคนก้มหัวทำความเคารพไปด้วย ความรู้สึกเช่นนั้นมันช่างวิเศษจริง ๆ

กู้ซินเถาเดินตามเจียงหย่วนเข้ามาในห้องรับรอง หลังจากลูกจ้างในร้านพาเข้ามาแล้วก็ยังไม่ได้เดินจากไป แต่ยกยิ้มตาปิดพูดว่า “นายน้อยเจียง วันนี้ไม่ทราบว่าท่านจะดื่มชาอะไรหรือขอรับ? รับชาหลงจิ่งหรือชาปิหลอชุน”

เจียงหย่วนไม่ได้ตอบกลับ แต่หันมาทางกู้ซินเถา และถามว่า “แม่นางกู้ชอบดื่มชาอะไรหรือ”

ไฉนเลยกู้ซินเถาจะรู้เรื่องชา แม้บิดาของกู้ซินเถาจะดื่มชาเป็นบางครั้ง แต่กู้ซินรู้สึกว่ามันขมมาก นางไม่ชอบดื่มมันเลยสักนิด ทว่าตอนนี้เจียงหย่วนถามตน กู้ซินเถาไม่รู้เรื่องสักอย่าง จึงทำได้เพียงตอบอย่างนุ่มนวล “คุณชายเจียงดื่มอันใดข้าก็จะดื่มตามนั้นเจ้าค่ะ!”

พอเจียงหย่วนได้ยินก็อุทานเสียงหนึ่งคล้ายกับไม่ค่อยเห็นด้วย “เช่นนั้นได้อย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเชิญแม่นางกู้ดื่มชา ข้าจะทำส่ง ๆ ได้อย่างไร” เว้นช่วงสักพัก เขาก็มองไปที่ลูกจ้างในร้านด้านข้าง “นำชาแดงจากภูเขาหวู่ยี่ที่ดีที่สุดในร้านของเจ้ามาให้ข้ากาหนึ่ง! และนำขนมที่ดีที่สุดของพวกเจ้าเอามาอย่างละหนึ่ง”

พอลูกจ้างในร้านคนนั้นเห็นคุณชายเจียงใจป้ำเช่นนั้น คงเป็นเพราะต้องการโอ้อวดสตรีนางนี้เป็นแน่ ลูกจ้างในร้านได้ยินแล้วก็ยิ้มตาหยีเห็นฟันในทันที “โอ้ ได้เลยขอรับ นายน้อยเจียง แม่นางกู้ พวกท่านรอประเดี๋ยวเดียว ข้าจะนำมาให้ท่านเดี๋ยวนี้”

พูดจบก็ยิ้มตาหยีแล้วเดินออกไป

ระหว่างรอชา กู้ซินเถาก้มหน้าตลอดเวลา มือวางไว้ใต้โต๊ะ ใบหน้าของนางขึ้นสีแดงระเรื่อ เจียงหย่วนที่อยู่ตรงข้ามมองแล้วใจสั่นระริก จิตใจเตลิดไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

กู้ซินเถาช้อนสายตาขึ้นมองก็เห็นเจียงหย่วนส่งสายตาให้ตัวเองอยู่ นางรู้สึกยินดีในใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเจียงหย่วนผู้นี้จะชอบตัวเองเข้าแล้วจริง ๆ

นางคาดเดาไม่ผิดตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก เจียงหย่วนก็ตัดสินใจคิดจะเชิญกู้ซินเถาออกไปดื่มชา

ในตอนแรกที่เอ่ยปาก ซุนซื่อยังคงไม่ยินยอมให้กู้ซินเถาไป

“สตรีก็ควรสงวนกิริยาอย่างสตรี ถ้าเขาอยากให้เจ้าออกไปจริง เขาไม่สนหรอกว่านี่จะเป็นครั้งที่หนึ่งหรือสอง” ซุนซื่ออธิบาย ดังนั้นในครั้งแรกเจียงหย่วนจนเชิญนางมาไม่สำเร็จ ซุนซื่อบอกว่ากู้ซินเถาร่างกายไม่ค่อยสบายดีนัก แล้วพานางกลับไป

ในเมื่อครั้งที่แล้วร่างกายของกู้ซินเถาไม่ค่อยสบาย ดังนั้นเจียงหย่วนจะยอมเสียโอกาสครั้งนี้ไปได้อย่างไร เขาจึงคิดที่จะไปกู้เยี่ยมกู้ซินเถาที่บ้าน

ซุนซื่อไม่คิดว่าเจียงหย่วนจะเดินทางมาทันทีที่ได้ยินว่าร่างกายของกู้ซินเถาไม่ปกติ ซุนซื่อรู้สึกทั้งตกใจทั้งชื่นชอบ

ที่นางตกใจเป็นเพราะกลัวว่าเจียงหย่วนจะจับได้ว่ากู้ซินเถาไม่ได้ป่วยจริง แล้วเอาผิดกับพวกนางได้ และชื่นชอบเพราะนี่หมายถึงเจียงหย่วนชอบกู้ซินเถาของตัวเองแล้วจริง ๆ

ซุนซื่อปรึกษากับกู้ฉวนโซ่ว อย่างไรก็ไม่อาจให้พบได้

ในครั้งแรกจะให้เห็นห้องนอนของลูกสาวตัวเอง เห็นทีจะไม่ได้อย่างแน่นอน

กู้ฉวนโซ่วกับซุนซื่อกระซิบกระซาบกันอยู่ในห้อง ต่อมาก็ให้กู้ซินเถาเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองส่งให้เจียงหย่วนหนึ่งฉบับ กู้ซินเถาเขียนในจดหมายอธิบายว่าตัวเองไม่ระวัง ไปโดนลมหนาวเข้าจนเป็นหวัด จึงเกรงว่าถ้าไปพบกันจะทำให้เจียงหยวนติดหวัดไปด้วย และขอเชิญเจียงหย่วนอีกครั้งเมื่อหายป่วยแล้ว พอเห็นจดหมายของกู้ซินเถา เจียงหย่วนจึงยอมรามือ และให้คนไปซื้อยาบำรุงราคาแพงมามอบให้กู้ซินเถา ซุนซื่อก็ปลื้มจนตัวลอยแล้ว

ยังดีที่ในจดหมายเขียนว่าพบกันหลังจากนี้อีกสิบวัน ซุนซื่อนับวันรอแม้แต่เสื้อผ้าหลังจากสิบวันให้หลังก็เป็นซุนซื่อที่ปักเย็บ รวมทั้งวัดสัดส่วนของกู้ซินเถาเองอีกด้วย เมื่อถึงวันนัดพบ ซุนซื่อก็แต่งหน้าให้กู้ซินเถาอย่างงดงามแล้วจึงให้นางมาตามนัด

กลับมาที่หมู่บ้านอู๋ซี ดวงอาทิตย์ยังไม่ได้ตกดิน เมื่อกู้เสี่ยวหวานกลับมาถึงบ้าน กู้หนิงผิงก็กำลังพากู้เสี่ยวอี้ไปเล่นพอดี ครั้นเห็นพี่สาวกลับมาก็โผเข้าหา กู้เสี่ยวหวานหอมแก้มของกู้เสี่ยวอี้ พูดสองสามคำถามว่ากู้เสี่ยวอี้วันนี้เป็นเด็กดีหรือไม่ แล้วเดินจูงมือเข้าบ้าน

กู้หนิงผิงรินน้ำถ้วยหนึ่ง กู้เสี่ยวหวานที่กำลังกระหายน้ำดื่มน้ำจนหมด แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่หอหนังสืออวี้ และพูดเรื่องที่ของก็ยังไม่ได้ขายด้วยเช่นกัน ต้องรอวันที่กู้หนิงอันหยุด แล้วจึงจะนำไปขายอีกเมือง

พวกกู้หนิงผิงทั้งสองคนในตอนแรกพอได้ยินว่าของนั้นขายไม่ออกก็รู้สึกผิดหวัง เพราะเห็ดตี้มู่นั้นพวกเขาเก็บมันอย่างยากเย็นกลับมา แต่พอได้ยินว่าต้องไปขายในเมืองก็ใจชื่นขึ้นมา

“ท่านพี่ ข้าได้ยินว่าอีกเมืองเจริญยิ่งกว่าเมืองหลิวเจียเสียอีก!” กู้หนิงผิงเมื่อได้ยินว่าต้องไปขายของในเมือง ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น เขาไม่เคยไปเมืองอื่นมาก่อนเลย

“เจ้าจะรู้ได้อย่างไร!” ครั้นเห็นกู้หนิงผิงดูตื่นเต้นมาก ๆ กู้เสี่ยวหวานก็พูดถามอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าเคยไปหรือ”

พอกู้หนิงผิงได้ยินพี่สาวของตนพูดเช่นนี้ก็ส่ายหน้าอย่างเขิน ๆ คิดว่าพี่สาวไม่เชื่อคำตัวเองจึงรีบอธิบายว่า “ข้าจะเคยไปได้อย่างไรเล่า ก็ข้าเคยได้ยินมาจากคนในหมู่บ้านเขาพูดกัน พวกเขาบอกว่าที่นั่นเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเมืองหลิวเจียหลายเท่า!”

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่เคยเข้าไป แต่ก็รู้ว่ากู้หนิงผิงไม่ได้พูดผิดเลยเช่นกัน