บทที่ 326 ค่ายกลดาบห้าธาตุพังทลาย

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 326 ค่ายกลดาบห้าธาตุพังทลาย

บทที่ 326 ค่ายกลดาบห้าธาตุพังทลาย

ถ้าหากเป็นแบบนี้ พวกเขาอาจรอดก็ได้ ทั้งสองเผยรอยยิ้มออกมา

แต่ในช่วงเวลาความเป็นความตายนั้นเอง พลังดาบก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และตอนที่พลังดาบตกสู่พื้นนั้นงูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกพลังดาบฟันจนร่างขาดเป็นชิ้น ๆ เพียงแค่หนึ่งลมหายใจบนพื้นก็เต็มไปด้วยศพงูนอนเกลือนกราด

งูมากมายตายภายในพริบตา! ใครจะคิดว่าในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉู่เหินลอบถอนหายใจอย่างโกรธแค้น ในใจก็รู้สึกเหนื่อยล้าทว่าในตอนนี้เองเขาก็พบว่าร่างของโม่เจียว วูบลงไปคล้ายคนอาการโคม่า!

เขารีบวิ่งไปรับเธอมาไว้ในอ้อมแขน แล้วตรวจสอบร่างกายของเธอยู่สักพัก และเขาก็พบว่าเด็กสาวกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ลมปราณภายในร่างกายแตกซ่าน เลือดลมไหลย้อนกลับ เธอถูกวิชาของตัวเองกระท้อนกลับหากคิดจะฟื้นตัวให้กลับเป็นปกติต้องใช้เวลาอีกนาน!

และหากช่วยได้ไม่ทันเวลาเกรงว่าชีวิตของโม่เจียวคงต้องจบลงที่นี่เป็นแน่ ตอนนี้จิตใจฉู่เหินแตกสลาย ก่อนหน้านี้เด็กสาวยังพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างกายเขาอยู่เลย ตอนแรกเขาก็รู้สึกรำคาญอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขากลับคิดถึงมันสุดหัวใจ

ดวงตาของฉู่เหินในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบ้าคลั่ง! ชั่ววินาทีนี้เองฉู่เหินลืมสิ้นซึ่งเหตุผล เขาจะต้องให้พวกมันชดใช้ด้วยความตาย!

เขาหยิบยาฟื้นฟูออกมาจากแหวนมิติ แล้วเตรียมจะให้เด็กสาวกลืนมันลงไป ทว่าเด็กสาวกลับไม่สามารถเปิดปากได้ จึงไม่อาจกินยาลงไปได้ ฉู่เหินไม่มีทางเลือกนอกจากเอายาเข้าปากตัวเองจากนั้นก็ใช้ปากต่อปากป้อนยาให้แก่เด็กสาวผ่านซอกฟันสู่ร่างกายของเธอ

ทว่าตอนที่เขาเปิดแหวนมิติเขาก็พบยาหนึ่งเม็ด และเม็ดนี้เองที่ทำให้ดวงตาของฉู่เหินสว่างวาบ “พวกนายสองคนรีบอุ้มเธอกลับไปยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี ถอยไปไกลเท่าไรยิ่งดี! อีกสักพักฉันจะรีบตามไป”

เฉิงกู่กับหลิวจวิ้นซานเห็นนัยน์ตาของฉู่เหินเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะชักช้า พวกเขารีบอุ้มเด็กสาวไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งกลับไปทางลับใต้ดินอย่างรวดเร็ว

พอคนว่าสองคนจากไปแล้ว ฉู่เหินก็ถือยาเม็ดนั้นเอาไว้ในมือ จากนั้นก็ใช้แรงปามันออกไปด้านนอกค่ายกล ยาเม็ดนี้ก็คือยาที่ตงโกวจีหยางมอบให้เขา ยาหมอกมัว!

หลังจากยาออกไปด้านนอกค่ายกล หมอกควันสีขาวก็ถูกปล่อยออกมาจากยาเม็ดเล็ก ๆ นั้นทันที หมอกเหล่านี้แผ่กระจายเป็นวงกว้าง จนแม้แต่ยอดฝีมือขั้นราชันดาราก็ยังมองเห็นไม่ค่อยชัด

ความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ ทำให้ราชันดาราทั้งสามไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คนที่มาใหม่เมื่อกี้หมุนตัวไปมาเนื่องจากมองไม่เห็นอะไรรอบข้างเลย เขาไม่เห็นเพื่อน ไม่เห็นงูพิษและยิ่งมองไม่เห็นค่ายกล

ความหวาดกลัวที่มองไม่เห็นนี้ค่อย ๆ ครอบงำจิตใจ เขาคล่ำพื้นรอบบริเวณเพราะเขาไม่อยากจะอยู่แถวนี้แล้ว เขาเลือกทิศทางหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับเป็นความซวยของชายคนนี้ เพราะเขาดันวิ่งเข้ามาในค่ายกลพอดี! ตอนนี้ค่ายกลถูกฉู่เหินเร่งพลังจนถึงจุดสูงสุด การที่ชายคนนี้วิ่งเข้าไป ช่างเป็นการหนหาที่ตายจริง ๆ

รัศมีดาบอันบ้าคลั่งพาดผ่านร่างกายของชายคนนี้จากบนลงล่าง ตอนแรกชายคนนี้นึกว่าเป็นภาพมายา แต่เมื่อรัศมีดาบสัมผัสโดยตัวเขา เขาถึงได้รู้ว่าทั้งหมดนี้คือของจริง แต่คิดจะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว รัศมีดาบตัดผ่านทั่วร่างกายของเขาจนหมดสิ้น

จากนั้นเขาก็มีสภาพคล้ายที่เป้าปาลูกดอกอันหนึ่ง รัศมีดาบทิ่มแทงอย่างบ้าคลั่ง รัศมีดาบฟันลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหน้าและหลังไม่กี่อึดใจผิวหนังของชายคนนี้ก็ปริแตกเหวอะหวะเลือดอาบรินไหลอย่างบ้าคลั่ง!

ความเจ็บปวดแทงเข้าไปลึกถึงขั้วหัวใจ จนเขากรีดร้องอย่างน่าเวทนาก่อนจะเตรียมวิ่งหนีอีกครั้ง ทว่ารัศมีดาบมากกมายปิดช่องทางหลบหนีเอาไว้ สุดท้ายรัศมีดาบก็ฟันลงบนลำคอของเขาอย่างโหดเหี้ยม

ร่างกายยังคงวิ่งต่อไป ทว่าศีรษะกลับกลิ้งตกอยู่บนพื้น ทั้ง ๆ ที่ดวงตายังคงเบิกกว้างราวกับจะบอกว่า “เอ็งจะหนีก็เอาหัวไปด้วยสิวะ!”

ผู้แข็งแกร่งขั้นราชันดาราที่มาช่วยทั้งสามคน ต้องมาตายลงในที่แบบนี้ จะโทษก็โทษที่ความซวยของเขาแล้วกัน! เหตุการณ์นี้เหมือนจะยาวนาน ทว่ามันกลับเป็นแค่ชั่วพริบตาเดียว การโจมตีของรัศมีดาบพวกนี้ฉู่เหินไม่ได้บังคับหรือทำอะไรมันเลย! ทั้งหมดเป็นเพราะว่าค่ายกลแห่งนี้ถูกฉู่เหินเร่งพลังจนถึงขีดสุด ภายในมันถึงได้เต็มไปด้วยรัศมีดาบแบบนี้

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้มันสามารถพรากชีวิตของขั้นราชันดาราคนหนึ่งได้เลย เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาจริง ๆ ฉู่เหินโบกมืออีกทีจากนั้น ในมือของเขาก็ปรากฏเม็ดยาวิเศษหนึ่งเม็ด ยานี้นี้พิเศษกว่ายาธรรมดาทั่วไปมาก มองดูแล้วมันมีขนาดใหญ่เท่านิ้วโปง มันไม่ใช่สิ่งอื่นใดมันก็คือยาระเบิดกลายพันธุ์!

ฉู่เหินรู้ดีว่าพลังของยาระเบิดกลายพันธุ์มันรุนแรงขนาดไหน มันทรงพลังยิ่งกว่าพลังสายฟ้าหลายเท่านัก ปกติแล้วฉู่เหินไม่เอามันออกมาใช้เลยจนเขาเกือบจะลืมมันไปแล้ว แต่เมื่อกี้ตอนที่หยิบยาให้โม่เจียวเขาก็บังเอิญเจอยาเม็ดนี้เข้า ทำให้เขาตัดสินใจได้บ้างอย่าง!

ยาระเบิดกลายพันธุ์ที่อยู่ในมือฉู่เหินถูกโยนออกไปด้านนอก ฉู่เหินเชื่อว่าพลังของยาระเบิดกลายพันธุ์สามารถฆ่าพวกราชันดาราข้างนอกได้ไม่ยาก หลังจากยาระเบิดกลายพันธุ์ถูกขว้างออกไปแล้ว ฉู่เหินก็รีบวิ่งหนีออกไปไกล พลังของยาเม็ดนี้มันยิ่งใหญ่เกินไปจริง ๆ ตัวเขาเองก็ต้องรีบหนีหากยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

ตอนที่เขากำลังวิ่งหนีอยู่นั้น เขาหยิบกระดองเต๋าออกมาป้องกันแผ่นหลังของตัวเองด้วยอีกชั้นหนึ่ง แม้ว่าวรยุทธของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากแต่ก็จำเป็นต้องใช้กระดองเต๋าเพื่อเพิ่มเกราะป้องกันให้ยิ่งปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม! ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว มีเพียงแค่ทางเลือกนี้เท่านั้น

ทันทีที่ฉู่เหินโยนยาเม็ดออกไป ราชันดารามั้งสามก็ใส่พลังไปในกระจกจนเสร็จสิ้น แม้ว่าตอนนี้จะมองไม่เห็นตำแหน่งของค่ายกลเพราะยาหมอกมัว แต่พวกเขาก็ยังจดจำตำแหน่งค่ายกลได้ดีแุมพวกเขานั้นไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ พวกเขาใช้พลังของกระจกวิเศษทันที

กระจกปล่อยแสงสว่างแยงตาออกมา แสงสว่างสาดส่องก่อตัวเป็นกระสุนลำแสงแล้วโจมตีค่ายกลตรงหน้าทันทีไม่เพียงแต่ค่ายกลเท่านั้นแม้แต่ภูเขาทั้งลูกเองก็โดนมันระเบิดไปด้วยเช่นกัน

ทว่าทันทีที่ลำแสงยิงออกมา กลับมียาเม็ดเท่านิ้วโปงเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมา ยาเม็ดที่เพิ่งออกมาจากค่ายกล ก็ชนเข้ากับลำแสงพอดี เมื่อทั้งสองสิ่งปะทะกันทันใดนั้นก็คล้ายกับอากาศหยุดลงอย่างกะทันหัน

ไม่เพียงแต่อากาศเท่านั้นที่หยุดนิ่ง แม้แต่เวลาและโลกทั้งใบก็หยุดหมุนไปหนึ่งวินาที ปรากฏการณ์แปลก ๆ นี้ทำให้ราชันดาราทั้งสามที่มีสัมผัสเฉียบคมรับรู้ได้ถึงอันตรายบ้างอย่าง ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะได้วิ่งหนี จู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน

ระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก ไม่เพียงแต่คนบนเกาะซาถัว แม้แต่คนที่อยู่ในมหาสมุทรนอกเกาะซาถัวเองก็ได้รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง มันมาพร้อมกับคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้า! ราวกับว่ามหาสมุทรกำลังร้องคำราม ส่วนคนที่อยู่บนเกาะซาถัวก็โดนแรงสั่นสะเทือนเข้าไปเต็ม ๆ พร้อมกับแผ่นดินไหวที่ทำลายทุกสิ่งบนเกาะ!