ตอนที่ 234 ผลตอบแทนจากการลงทุน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 234 ผลตอบแทนจากการลงทุน

“นายเขียนบทได้ด้วย?”

หลินเซวียนพี่สาวมองหลินเยวียนด้วยความรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภาพยนตร์ของหลินเยวียนโด่งดัง ครอบครัวของเขาย่อมรู้เรื่องนี้

เพราะตอนนี้ครอบครัวสกุลหลินพักอาศักอยู่ในวิลล่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ตกแต่งบ้านจึงตั้งใจสร้างโฮมเธียเตอร์ไว้ด้วย ดังนั้นพี่สาว น้องสาว และแม่จึงมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกัน

“โชคเข้าข้างน่ะ”

หลินเยวียนตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ

ตอนนี้ก็เข้าสู่สัปดาห์ที่สามหลังจากการเปิดตัวเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ

ตั้งแต่เริ่มต้นสัปดาห์ที่สาม ยอดเข้าชมเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศก็ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ เว็บไซต์สำหรับสตรีมภาพยนตร์ทั้งสองเว็บไซต์ ในช่วงนี้จึงเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ

ตัวอย่างเช่นส่วนลดแบบจำกัดเวลา หรืออีเวนต์ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เป็นต้น…

แน่นอนว่าเว็บไซต์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

ถึงอย่างไรทั้งสองเว็บไซต์นี้ก็กอบโกยรายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปไม่น้อย ลงทุนดำเนินการกิจกรรมเหล่านี้เล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องปกติมาก

ข้อดีของการทำเช่นนี้ก็คือสามารถทำให้ยอดเข้าชมของภาพยนตร์เรื่องนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีก

ผลลัพธ์ทันตาเห็น

หลังจากที่ทั้งสองเว็บไซต์ดันโดยใช้โปรโมชันรูปแบบต่างๆ ยอดรับชมของถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ก็ถูกกระตุ้นให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว…

เมื่อสัปดาห์ที่สี่จบลง เดือนกรกฎาคมก็จบลงเช่นกัน

ยอดรับชมของภาพยนตร์ออนไลน์ซึ่งสร้างปาฏิหารย์เรื่องนี้ ก็แตะถึง 40 ล้านครั้งแล้ว!

จากแนวโน้มนี้คาดว่ายอดรับชมสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้จะสูงเกิน 50 ล้านอย่างแน่นอน!

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุน

ผลตอบแทนในการลงทุนของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ คาดการณ์คร่าวๆ ว่าจะมีถึงสิบเท่า

นี่เป็นสถิติสูงสุดของภาพยนตร์ออนไลน์!

ต่อให้ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ผลตอบแทนเช่นนี้ ก็จัดอยู่ในระดับสุดยอดเช่นกัน!

เพื่อกระตุ้นยอดรับชมเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศให้สูงขึ้นอีกขั้น ทางเมาฉ่างและเพนกวินวิดีโอจึงส่งคำเชิญสัมภาษณ์เซี่ยนอวี๋โดยมิได้นัดหมาย

หลินเยวียนปฏิเสธ

เปิดเผยใบหน้าจะทำให้ความลับถูกเปิดเผยได้ง่าย

เมาฉ่างและเพนกวินวิดีโอก็ไม่ได้ดื้อดึงตามตอแย เชิญหลินเยวียนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องปกติที่คนเบื้องหลังฉากจะไม่ชอบออกหน้า

โปรโมตภาพยนตร์ใช่ไหมล่ะ พวกเขาก็สามารถเชิญนักแสดงนำจากภาพยนตร์มาแทนได้ แถมยังมีผู้กำกับและโปรดิวเซอร์อีก

ไม่ต้องเอ่ยถึงฝั่งแพล็ตฟอร์มวิดีโอ

ในสัปดาห์ที่ห้าหลังจากภาพยนตร์เข้าฉายออนไลน์ หลินเยวียนก็มาถึงชั้นเก้าของบริษัทสตาร์ไลท์ นี่เป็นเขตแดนของตัวแทนหลิน

“ตัวแทนหลินพรสวรรค์เป็นเลิศ!

“หนังที่ตัวแทนหลินสร้างสนุกมากจริงๆ ค่ะ!”

“หนังที่ตัวแทนหลินถ่ายสนุกมากครับ!”

“แผนกเราสนับสนุนหนังของตัวแทนหลินนะ!”

“…”

เมื่อเข้าไปในแผนกประพันธ์เพลง

นักประพันธ์เพลงในความดูแลย่อมพากันชื่นชมเขา

หลินเยวียนซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้คลี่ยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน

หลังจากเข้าไป

หลินเยวียนก็พบว่าบนโต๊ะทำงานของเขามีของขวัญวางอยู่มากมาย จนไม่มีที่ว่าง ของขวัญชิ้นน้อยใหญ่ห่อด้วยกระดาษสีสันสวยงามวางอยู่เต็มไปหมด

“ทีมงานกองถ่ายส่งมาให้ค่ะ”

ในฐานะผู้ช่วยของหลินเยวียน กู้ตงปรากฏตัวในทันที

เธอตอบข้อสงสัยของหลินเยวียน “ของขวัญบนโต๊ะตรงนี้ส่วนมากโปรดิวเซอร์เสิ่นกับผู้กำกับอี้ส่งมาค่ะ แล้วก็ที่พื้น ทางซ้ายเฮ่อเซิ่งส่งมา ทางขวาตรงนั้นอวี๋ซีลู่ส่งมาค่ะ..แล้วก็ตรงนี้…ฉันลิสต์รายการให้คุณแล้วค่ะ”

“ครับ”

หลินเยวียนเหลือบมองรายชื่อของขวัญ

การทำงานของกู้ตงฉับไวไว้ใจได้ ใครส่งของขวัญอะไรมา เธอล้วนจดเป็นรายการ หลินเยวียนมองปราดเดียวก็เข้าใจแล้ว

และขณะที่หลินเยวียนกำลังอ่านรายการของขวัญอยู่นั้น กู้ตงก็มองหลินเยวียน แววตาเป็นประกายระคนความชื่นชม

ตั้งแต่รู้จักกับตัวแทนหลินมา ดูเหมือนว่าตัวแทนหลินจะประสบความสำเร็จกับทุกสิ่งที่เขาทำ?

และเมื่อถึงวันนี้ ตัวแทนหลินถึงกับข้ามวงการมาสร้างภาพยนตร์ และประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น!

กู้ตงถึงกับอดคิดไม่ได้…

ว่าบนโลกนี้มีเรื่องอะไรที่ตัวแทนหลินทำไม่ได้บ้าง

แน่นอนว่าความคิดนี้ออกจะเกินจริงอยู่บ้าง

แต่ในเมื่อคลุกคลีกับหลินเยวียนมานาน กู้ตงก็เกิดความรู้สึกใกล้เคียงกับคำว่าเหลือเชื่อจริงๆ

เรื่องนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากแก่กู้ตง

ถ้าบอกว่าในตอนแรกเธอสามารถช่วยจัดการงานตัวแทนหลินได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นในตอนนี้ งานที่กู้ตงทำให้ตัวแทนหลิน ก็เริ่มทำให้เธอรู้สึกราวกับเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางเฉียบ

เพราะตัวแทนหลินเก่งกาจเกินไป!

ดังนั้น เมื่อยิ่งเข้าใจความเป็นเลิศของตัวแทนหลินมากเท่าไหร่ กู้ตงก็ยิ่งรู้สึกว่าหนทางของผู้ช่วยตัวน้อยคนนี้ยังอีกยาวไกล

แน่นอน

เมื่อกู้ตงสัมผัสได้ถึงความกดดัน ก็เกิดแรงผลักดันมากขึ้นเช่นกัน

การเป็นผู้ช่วยของตัวแทนหลินไม่เพียงเป็นเกียรติของเธอ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นโอกาสอันล้ำค่าในชีวิตของตนด้วย

เธอจะไม่ยอมให้ตนเองทำผิดพลาด หลังจากนี้จะต้องทำงานในฐานะผู้ช่วยของตัวแทนหลินให้สำเร็จอย่างงดงามที่สุด!

และแน่นอนว่าหลินเยวียนไม่ได้ล่วงรู้ถึงความคิดของผู้ช่วยตัวน้อยคนนี้

เมื่อตรวจสอบรายการของขวัญ และพอจะจำได้ว่าใครส่งอะไรมาให้บ้าง หลินเยวียนจึงเงยหน้าขึ้น เอ่ยว่า “คุณช่วยผมสักเรื่องไหมครับ”

“ตัวแทนหลินว่ามาได้เลยค่ะ”

กู้ตงตอบทันควัน

หลินเยวียนนึกอยู่สักพัก “รบกวนช่วยผมเลือกนักแต่งเพลงสักคนจากแผนกเรา ทางที่ดีขอเป็นคนที่อายุน้อยหน่อย มีศักยภาพสูงสักหน่อย ผมว่าจะรับลูกศิษย์ สอนแต่งเพลงน่ะครับ”

หลินเยวียนอยากทำภารกิจรับลูกศิษย์ต่อ

เพราะช่วงนี้ระบบเตือนหลินเยวียน ว่ายังเหลือเวลาทำภารกิจรับลูกศิษย์อีกไม่ถึงครึ่งปี!

ถ้าหากหลินเยวียนไม่สามารถบ่มเพาะลูกศิษย์สามคนออกมาได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนด การ์ดตัวละครของหยางจงหมิงก็จะหายไป

ขอบอกตามตรง เวลากระชั้นเหลือเกิน

หลินเยวียนไม่อยากเสียการ์ดตัวละครหยางจงหมิงไป ฉะนั้นเขาจะต้องเร่งมือทำภารกิจนี้แล้ว ต่อให้จะต้องเลือกใช้วิธีการพิเศษสักหน่อยก็สามารถยอมรับได้

“ได้ค่ะ!”

กู้ตงพยักหน้าหงึกๆ

ความสำเร็จของเซวียเหลียง ได้พิสูจน์ว่าตัวแทนหลินเชี่ยวชาญการบ่มเพาะลูกศิษย์

กู้ตงสงสัยเช่นเดียวกับที่โลกภายนอกสงสัยกัน ว่าตัวแทนหลินจะบ่มเพาะเซวียเหลียงคนที่สองออกมาได้หรือไม่

หลังจากกู้ตงออกไป

โทรศัพท์ของหลินเยวียนก็ดังขึ้น

เมื่อเขากดรับสาย ปลายสายก็มีเสียงตื่นเต้นของหยางเฟิงดังมา “ยินดีด้วยครับอาจารย์ฉู่ขวง คุณได้รับรางวัลมหาเทพที่ทางสมาคมวรรณศิลป์ประกาศออกมาเป็นกลุ่มแรก ตอนนี้รายชื่อได้รับการประกาศสู่สาธารณะแล้ว บนอินเทอร์เน็ตมีคนพูดถึงเรื่องนี้กันเยอะมากเลยล่ะครับ!”

“อ้อ”

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของหลินเยวียน มีเรื่องคนขุดสุสานคอยหนุนหลัง ถ้าไม่ได้รางวัลนี้สิถึงจะน่าแปลก

หยางเฟิงกล่าวกลั้วหัวเราะ “บางทีทางนั้นอาจกลัวว่าจะเกิดเป็นประเด็น เลยประกาศแค่รายชื่อ แต่ไม่ได้ประกาศอันดับน่ะครับ…”

“ครับ”

สำหรับหลินเยวียน ได้รับรางวัลมหาเทพก็เพียงพอแล้ว

หยางเฟิงไม่ได้ใส่ใจน้ำเสียงเรียบเฉยของหลินเยวียน นี่เป็นความสามารถในการปรับตัวอันยอดเยี่ยมของมนุษย์ “อาจารย์ฉู่ขวงจะไปเข้าร่วมพิธีรับมอบรางวัลไหมครับ”

หลินเยวียนขมวดคิ้ว “จำเป็นต้องไปเหรอครับ”

หยางเฟิงรีบตอบทันที “ไม่หรอกครับ จะปฏิเสธไม่เข้าร่วมก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ถ้าคุณโอเคล่ะก็ ทางคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจะส่งคนไปรับรางวัลแทนคุณ หรือไม่คุณจะส่งคนไปรับรางวัลก็ได้ ถ้าให้ดีจะส่งผู้จัดการของคุณไปก็ได้นะครับ…”

“งั้นรบกวนทางคุณช่วยรับ แล้วส่งมาให้ผมก็แล้วกันครับ”

ไม่รู้ว่าถ้วยรางวัลมหาเทพนี่มูลค่าสูงหรือเปล่า

หลังจากสนทนาต่ออีกไม่กี่ประโยค รวมถึงพูดคุยเรื่องที่คนขุดสุสานเล่มที่สองวางขายเรียบร้อย หลินเยวียนก็วางสาย

สัมภาษณ์ก็ดี…รับรางวัลก็ดี…

เหมือนว่าจะมีหลายงานในช่วงนี้ที่อยากให้ตนเปิดเผยใบหน้าแฮะ

แต่ก็มีคำพูดหนึ่งของหยางเฟิงที่เตือนสติหลินเยวียน

บางทีตนอาจหาผู้ช่วยสักคน มาช่วยจัดการและรับมือกับงานเหล่านี้ได้

…………………………………………….