ตอนที่ 248 ทางด้านหวังหรง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 248 ทางด้านหวังหรง

หลังจากฟางจั๋วเยวี่ยทำการสอนอย่างจริงจังมาหลายวัน ในที่สุดหลี่หมิงเฉิงก็ขับรถแทรกเตอร์เองได้

การไปซื้อข้าวโพดรอบพรุ่งนี้หลินม่ายจึงมอบหมายให้หลี่หมิงเฉิงเป็นคนขับโดยมีเธอนั่งไปด้วยกัน

ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางจะได้เปลี่ยนให้เธอช่วยขับแทนได้

หลายคนดูไม่มีปัญหาอะไรระหว่างเรียนขับรถ แต่ตอนออกถนนจริงก็เกิดกลัวขึ้นมา

ทั้งคู่ออกเดินทางไปด้วยกันตั้งแต่หกโมงเช้า

เช้า ๆ แบบนี้บนถนนมีผู้คนและรถคันอื่น ๆ ไม่มาก หลี่หมิงเฉิงเลยสามารถขับรถได้อย่างราบรื่น

แต่หลังออกมาจากเจียงเฉิง ทั้งคู่พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กอยู่โบกมือให้พวกเขาอยู่ข้างทาง

ผู้หญิงคนนั้นร้องเรียกเสียงดัง “ลูกฉันกำลังป่วย ขอติดรถไปโรงพยาบาลได้ไหม ขอร้องล่ะค่ะ”

พอเห็นแบบนั้นหลี่หมิงเฉิงก็ทำท่าจะหยุดรถเพื่อช่วยหล่อน

หลินม่ายกลับสั่งด้วยท่าทางจริงจัง “ขับต่อไป เร่งความเร็วด้วย”

หลี่หมิงเฉิงมีท่าทางลังเล “แต่ ผู้หญิงคนนั้น…”

หญิงสาวพูดซ้ำด้วยความโกรธ “บอกให้เร่งความเร็วไง ไม่งั้นก็ลงไปเลย”

ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามที่เธอสั่ง เหยียบคันเร่งให้รถพุ่งตัวไปข้างหน้า

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าไม่เป็นไรก็ลอบถอนหายออกมา

คนขับรถกระบะคนหนึ่งผ่านมาเห็นก็รู้สึกสงสารเช่นกัน เขาจอดรถเพื่อช่วยผู้หญิงคนนั้น

แต่ไม่ได้คาดคิดว่าเมื่อหยุดรถ ก็มีชายเจ็ดแปดคนวิ่งออกมาจากข้างทาง ล้อมรอบรถของเขาไว้ เห็นแบบนั้นก็ไม่ต้องเดาเลยว่าถูกปล้นเข้าแล้ว

หลี่หมิงเฉิงนึกกลัวหลินม่ายขึ้นมาในใจ “เธอรู้ได้ไงว่ามันมีอะไรผิดปกติ”

หลินม่ายเหลือบมองเพื่อนของตัวเอง “ฉันไม่ได้หยั่งรู้อนาคตอะไรหรอก แต่เพราะไม่รู้อะไรนี่แหละเลยต้องระวังตัวตอนเจอเรื่องแบบนี้”

หลินม่ายรู้สึกผิดหวังในตัวหลี่หมิงเฉิงขึ้นมา

เพื่อนคนนี้สามารถทำงานตามหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี แต่เขาไม่น่าจะเป็นผู้นำใครได้เพราะหัวอ่อนเกินไป ถูกหลอกได้ง่าย

พอมาถึงชนบท เจ้าของร้านสาวก็สอนให้เพื่อนเลือกซื้อข้าวโพด เรื่องนี้ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เขาจะเรียนรู้ได้ และยังทำได้ดีมาก

ทั้งสองซื้อข้าวโพดแล้วก็ขับรถกลับเมือง ชายหนุ่มสามารถบังคับรถได้อย่างราบรื่นเหมือนขามา นั่นทำให้หลินม่ายรู้สึกพอใจมาก

ทันทีที่กลับถึงร้าน โจวฉายอวิ๋นก็บอกทั้งคู่อย่างตื่นเต้นว่า เพียงไม่นานร้านของป้าหูก็ต้องปิดตัวลงแล้ว มีประกาศให้เช่ามาติดที่หน้าประตู

หลินม่ายหยิบชามต้มถั่วเขียวเย็นมาเสิร์ฟแล้วจงใจออกไปดูที่ด้านหน้า

ตามที่ได้ยินมา มีประกาศให้เช่าติดอยู่ที่ประตูบ้านข้าง ๆ

เมื่อเห็นหน้าหลินม่าย ป้าหูก็กำลังจะอ้าปากด่าออกมา

แต่ลูกสะใภ้ก็เข้ามาขึ้นเสียงใส่หล่อนเสียก่อน “แม่อยู่เฉย ๆ แล้วหยุดสร้างเรื่องก่อนได้ไหม ฉันกับลูกชายแม่เพิ่งจะต้องเสียเงินค่ารักษาตับอักเสบให้ลูกค้าพวกนั้น นี่ยังจะหาเรื่องอะไรให้เราอีกงั้นเหรอ หรือต้องเสียบ้านนี้ไปก่อนถึงจะพอใจ?”

ป้าหูปิดปากเงียบ จ้องมองหลินม่ายอย่างขมขื่น

หลินม่ายส่งสายตาเหยียดหยามกลับไป

ส่วนหวังหรงในตอนนี้กำลังตกยาก

หล่อนคิดว่าฟางจั๋วหรานเพียงแค่ทำให้พ่อแม่ของตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำเท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกย้ายไปอยู่ในหน่วยสำรวจมิเตอร์ไฟฟ้าและเดินเก็บเงินค่าไฟตามบ้าน

แม้ว่านี่จะเป็นงานที่ได้เงินสูงกว่าลูกจ้างรัฐวิสาหกิจทั่วไปอยู่เท่าหนึ่ง แต่ก็น้อยสุดในการไฟฟ้า แถมยังเป็นงานหนักอีกต่างหาก

ตั้งแต่ถูกสั่งย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่รายได้น้อยแต่ทำงานหนัก หล่อนก็ต้องทนกับคำเยาะเย้ยของคนอื่น

ถ้าเป็นคนอื่น ๆ มาเยาะเย้ยยังพอทนได้ แต่เมื่อเป็นกลุ่มเพื่อนสาวของตัวเองมันทำให้รู้สึกคับแค้นใจยิ่งกว่า

ราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนตอนไปซื้อของด้วยกัน เธอมักจะเลี้ยงของว่าง เครื่องดื่ม และยังมีอาหารมื้อใหญ่ในบางโอกาส

ตอนนี้หล่อนกำลังมีปัญหา แต่พวกเพื่อน ๆ กลับไม่ได้สนใจ

ระหว่างที่กำลังจะเลิกงาน ลี่ฉินและเพื่อน ๆ ที่เคยประจบเอาใจหล่อนมาก่อนก็มาพูดจาเยาะเย้ยว่าหล่อนช่างไร้ยางอายที่เอาแต่โอ้อวดว่ามีความสัมพันธ์กับลูกพี่ลูกน้องทั้งที่ไม่เป็นความจริง

หวังหรงต้องอับอายต่อหน้าคู่แข่งอย่างย่าย่า ซ้ำยังถูกด่าว่าเป็นแค่ไก่ที่พยายามจะทำตัวเป็นหงส์ แล้วตอนนี้ก็ถูกเปิดเผยธาตุแท้ออกมาทั้งหมดแล้ว

หวังหรงไม่กล้าทะเลาะกับย่าย่า เลยไปเอาเรื่องกับลี่ฉินและเพื่อนเก่าของตัวเอง

ต่อว่าพวกหล่อนว่าไม่รู้จักบุญคุณกันเสียเลย เมื่อก่อนเคยใช้เงินหล่อนทั้งกินทั้งดื่ม ยังจะมาทำแบบนี้กับหล่อนได้อีก

ลี่ฉินและคนอื่น ๆ ก็โต้กลับว่าหวังหรงเองก็ไม่เคยทำกับตนอย่างที่คนเป็นเพื่อนเขาทำกันจริง ๆ สักครั้ง พวกหล่อนก็เป็นเหมือนตัวประกอบที่หวังหรงแค่จ่ายเงินให้เดินตามตัวเองจะได้ดูโดดเด่น

หวังหรงไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้ในเมื่อตัวเองตอนนี้กำลังหัวเดียวกระเทียมลีบ ทำได้แค่ร้องไห้ออกมา คนที่มองอยู่ต่างเยาะเย้ยด้วยความสะใจ

หลังเลิกงาน หญิงสาวเก็บกระเป๋าหนังขึ้นมาแล้วก็ออกจากที่ทำงาน

แต่เมื่อพบว่ากระเป๋าหนังวัวที่ซื้อมาราคาห้าสิบหกสิบหยวนถูกกรีดก็ถึงกับโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

ถึงอย่างนั้นก็ออกจากที่ทำงานด้วยท่าทางสดใส ผู้ชายหลายคนเข็นจักรยานเข้ามาทักทายและอยากจะไปส่งเธอที่บ้าน

ยังโชคดีที่มีรูปเป็นทรัพย์ ทั้งยังสาวและยังโสด เป็นสิ่งที่ยังไม่ถูกพรากไปในตอนนี้

อย่างน้อยก็มีเรื่องนี้ที่ทำให้พอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

ถึงอย่างนั้นหวังหรงก็ไม่ได้คิดจะชายตาแลพวกเขา เพราะอยากจะแต่งงานกับฟางจั๋วหรานคนเดียว

ผู้ชายพวกนี้มาจากตระกูลธรรมดาหรือไม่ก็ข้าราชการเล็ก ๆ ไม่ได้คู่ควรกับความสวยของหล่อนเลยแม้แต่น้อย

ถึงพี่ใหญ่จะเกลียดหล่อนในตอนนี้ แต่นั่นก็เพราะว่าเขากำลังหลงนังจิ้งจอกหลินม่าย

ถ้าคุณย่าเริ่มจัดการตามที่ตกลงกัน หล่อนจะต้องได้เป็นภรรยาของเขา เขาจะต้องรักหล่อนคนเดียวทั้งใจ

ตัวเขา ทรัพย์สินเงินทองของเขา และทองคำแท่งนั้นก็ล้วนเป็นของหล่อน

พอถึงวันนั้นหวังหรงจะกินของแพง ๆ ดื่มเครื่องดื่มหรูหรา ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ และสวมเครื่องประดับล้ำค่า ใช้ชีวิตเป็นคุณนาย จะรอดูว่าตอนนั้นจะมีใครกล้ามาหัวเราะเยาะหล่อนอีก ในตอนนั้นคงเป็นคราวของตัวเองที่ได้หัวเราะเยาะคนพวกนั้นให้อับอายบ้าง

หวังหรงกำลังจะปฏิเสธผู้ชายเหล่านั้น แต่สายตาก็จับจ้องไปที่ตู้กวงฮุย

พ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็ก ๆ ในรัฐวิสาหกิจอีกแห่ง และดูดีที่สุดในบรรดาผู้ชายทั้งหมด

หวังหรงก็ไม่ได้สนใจเขาเช่นกัน

แต่เธอต้องการใช้เขาจัดการกับลี่ฉินและย่าย่า

ถึงครอบครัวของตู้กวงฮุยจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่เขารู้จักกับพวกอันธพาลมากมาย เป็นขาใหญ่ในหมู่หนุ่มสาวโรงงานที่ใคร ๆ ก็เกรงกลัว

ไม่เคยปรานีกับเป้าหมายคนไหน และไม่ทิ้งหลักฐานไว้ให้ถูกจับได้

ใครที่มีเรื่องกับเขาจะถูกคลุมด้วยกระสอบแล้วรุมทำร้ายก่อนจะหนีไปแบบไม่ทิ้งร่องรอยที่นอกโรงงาน

ต่อให้เหยื่อรู้ว่าเป็นเขาก็ไม่มีหลักฐานอะไรมาเอาผิดได้ ทำได้แค่เก็บความแค้นใจเอาไว้เท่านั้น

แม้ว่าจะเคยถูกแจ้งตำรวจจับก็ไม่สามารถเอาผิดเขาได้เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ

ซ้ำยังมีข่าวลืออีกว่าลุงของตู้กวงฮุยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถึงสร้างปัญหาขนาดนั้นแล้วก็ยังรอดปลอดภัยอยู่ได้

แบบนั้นยิ่งไม่มีใครในโรงงานกล้ามามีเรื่องกับเขา

คนที่เคยแจ้งความจับเขาก็ได้รับการแก้แค้นอย่างหนักยิ่งไปกว่าเดิม ทั้งขาหักและยังถูกบีบให้ออกจากงานอีก

หวังหรงทำท่าเขินอายแล้วพูดกับตู้กวงฮุย “ไปส่งฉันที่บ้านได้ไหม”

ตู้กวงฮุยปรารถนาในตัวหวังหรงมานาน แต่ไม่เคยได้โอกาสจากหล่อนเสียที เพราะหล่อนดูสูงส่งมากสำหรับเขา

วันนี้จู่ ๆ หญิงสาวที่เฝ้าหมายปองก็ยิ้มให้แล้วขอให้ไปส่งที่บ้าน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างร่าเริง

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

กรรมตามสนองแบบรวดเร็วมาก นี่แหละทำชั่วกับใครไว้ก็จะได้รับผล

ไหหม่า(海馬)