บทที่242 ผมไม่ได้โกหก
ผู้หญิงเคาน์เตอร์ทั้งสองรีบเข้าไปทันที ทักทายส้งหวั่นหวั่นอย่างเอาใจ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ส้งหวั่นหวั่นไม่ค่อยมาบริษัท แต่ตั้งแต่ที่เธอกับลี่จุนถิงลงบนหนังสือพิมพ์ และหลังจากลงข่าวเรื่องนี้ บริษัทมีใครบ้างที่ไม่รู้จักส้งหวั่นหวั่น
นั่นเป็นถึงภรรยาในอนาคตของท่านประธานพวกเขา มาแล้วก็ต้องทักทายดีๆหน่อย
ส้งหวั่นหวั่นรู้สึกแค่ว่าวันนี้เคาน์เตอร์ทั้งสองคนนี้มีพฤติกรรมแปลกไปหน่อย
ปกติตอนที่ตัวเองมา ถึงตอนที่พวกเธอจะทักทายตัวเองอย่างอบอุ่นมากเกิน แต่ก็ไม่ขนาดว่ามาต้อนรับ
เคาน์เตอร์ทั้งสองคนทักทายกับส้งหวั่นหวั่นเสร็จก็เริ่มคุยกับส้งหวั่นหวั่นเรื่องที่ถวนจื่อมาหาพ่อ
“เด็กคนนั้นบอกว่าพ่อของตัวเองคือคุณชายลี่”คนสูงๆมองถวนจื่อที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เงยหน้ามองมาทางนี้อย่างลำบากใจ
ส้งหวั่นหวั่นเห็นถวนจื่อที่เคาน์เตอร์ สีหน้าก็เปลี่ยน เธอคิดไม่ถึงเลย จู่ๆถวนจื่อจะวิ่งมาตามหาเขาได้
ไม่ใช่ว่าเขาควรจะอยู่กับเจียงหยุนเอ๋อ ถูกตระกูลลี่ขังไว้เหรอ?หรือว่าเจียงหยุนเอ๋อก็ถูกปล่อยออกมา?
ตอนนี้งานแต่งตัวเองกับลี่จุนถิงใกล้จะถึงแล้ว เธอไม่มีทางให้ใครเอาเรื่องที่เธอใฝ่ฝันถึงมาตลอดทำลายลงแน่
สายตาของส้งหวั่นหวั่นมีประกายความแค้น แต่แป๊บเดียวก็หายไป พูดด้วยรอยยิ้มหน่อยๆ ไม่สามารถรับรู้การเต้นของใจเธอได้:“ไม่มีเรื่องแบบนี้ เรื่องของคุณชายลี่พวกคุณไม่ใช่ว่าควรจะรู้ให้ดีกว่านี้เหรอ”
ผู้หญิงเคาน์เตอร์ทั้งสองพยักหน้า ในใจรู้สึกโล่งอก ยังดีที่ไม่ได้พาไปให้ลี่จุนถิงดู ไม่งั้นพวกเธอก็จะซวย
ส้งหวั่นหวั่นยังพูดต่อ:“ผู้หญิงคนนี้นี่ วิธีการนั้นฉลาดขึ้นจริงๆ เพื่อไต่เต้าสู่ตระกูลเศรษฐี แม้แต่เด็กก็ยังเรียกออกมา”
ส้งหวั่นหวั่นพูดจบก็มองถวนจื่อแวบหนึ่ง
ผู้หญิงเคาน์เตอร์ทั้งสองตกใจ ก็มีท่าทีนึกขึ้นได้ทันที
รู้สึกว่าเด็กคนนี้เป็นผู้หญิงคนอื่นใช้มาไต่เต้าท่านประธาน ผู้หญิงที่ทำอะไรก็ได้เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบนี้ช่างน่ารังเกียจ
สายตาที่ทั้งสองมองไปที่ถวนจื่อจากรักชอบก็กลายเป็นเกลียดชัง
ส้งหวั่นหวั่นรีบพูด:“เรื่องนี้โทษเด็กไม่ได้ เด็กก็ถูกแม่บังคับมาอีกที จะโทษก็ต้องโทษแม่เขา จู่ๆก็ใช้ลูกของตัวเอง พวกคุณสองคนก็พาเด็กคนนี้ไปส่งละกัน แต่ระวังหน่อย อย่าทำร้ายเด็กล่ะ”
ผู้หญิงเคาน์เตอร์ทั้งสองพยักหน้า ในใจรู้สึกดีต่อส้งหวั่นหวั่นไม่น้อย
สมแล้วที่เป็นหญิงสาวที่มาจากชนชั้นสูง ท่าทางนี้ ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปสามารถเทียบได้เลย
มีภรรยาเจ้านายที่อ่อนโยนเช่นนี้ ต่อไปทำงานที่บริษัท ก็น่าจะดีขึ้นเยอะ
ส้งหวั่นหวั่นพูดแล้วก็ออกไปเลย
ส้งหวั่นหวั่นมาตรงที่ไม่มีคน มองไปรอบๆ มั่นใจว่ารอบๆไม่มีใครแอบฟังได้ ก็โทรศัพท์
“คุณหนู มีอะไรครับ”
“เดี๋ยวจะมีเด็กผู้ชายออกมาจากบริษัท คุณเอาเด็กคนนั้นพาขึ้นรถไป ไม่ว่าอย่างไร ใช้วิธีอะไรก็ต้องเอาเขาขึ้นไป รู้ไหม?”ส้งหวั่นหวั่นที่อ่อนโยนจิตใจดีไม่มีอีกแล้ว แววตาเหลือแต่ความแค้น
“ครับ”
เห็นว่าเรื่องมอบงานได้ชัดเจนแล้ว มุมปากส้งหวั่นหวั่นก็ยกขึ้น กำโทรศัพท์แน่น
“เจียงหยุนเอ๋อ อยากเอาลูกมาดึงดูดความสนใจของจุนถิง คุณยังอ่อนเกินไป”
ในใจก็แอบโล่งใจหน่อย ยังดีที่ถวนจื่อไม่ได้เจอลี่จุนถิง ไม่งั้นจบเห่
ขณะเดียวกันที่เคาน์เตอร์ ผู้หญิงเคาน์เตอร์ทั้งสองก็ปรึกษากัน เดินไปที่ข้างๆถวนจื่อ ท่าทางไม่ดีเหมือนเมื่อครู่:“หนูน้อย คุณไปเถอะ”
ถวนจื่อฟังไม่ชัดว่าพวกเธอพูดอะไรกับส้งหวั่นหวั่นเมื่อกี๊ ถามอย่างใส่ซื่อว่า:“ทำไม?”
“พี่รู้ว่าคุณถูกแม่แนะนำให้มาที่นี่ แต่เด็กโกหกไม่ได้นะ”ผู้หญิงเตี้ยๆทนไม่ไหวที่จะทำร้ายเด็กน่ารักขนาดนี้
ถวนจื่อเบะปาก:“ผมไม่ได้โกหก พ่อของผมคือลี่จุนถิงจริงๆ”
วันๆถวนจื่อได้ยินเจียงหยุนเอ๋อเรียกลี่จุนถิง จะเป็นไปได้ไงที่ไม่รู้
“คุณชายลี่ของพวกเรายังไม่แต่งงาน จะมีลูกได้ไง?คุณอย่ามาโกหกที่นี่เลย”ผู้หญิงสูงๆทนไม่ไหวแล้ว
ถวนจื่อส่ายหัวสุดๆ:“ผมไม่ได้โกหก หม่ามี้พูดแล้ว โกหกจะโดนตีก้น”
“หนู แม่ของคุณคือผู้หญิงเลียแข้งเลียขาแบบนั้น ฉันแนะนำให้คุณอย่าฟังคำพูดแม่ จะได้ไม่เสียคนเพราะแม่”ผู้หญิงสูงๆรังเกียจเจียงหยุนเอ๋อสุดๆ เด็กผู้ชายดีๆคนหนึ่ง ถูกพาเธอเสียคนหมด
“พี่ครับ หม่ามี้ผมคือคนดี ทำไมผมต้องไม่ฟังเธอด้วย ผมอยากให้พวกพี่พาผมไปเจอพ่อผม พี่พาผมไปเจอก็จะรู้ว่าพ่อใช่ลูกของพ่อผมหรือเปล่า”ถวนจื่อไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเธอไม่ยอม
ผู้หญิงเคาน์เตอร์เห็นว่าคุยกับถวนจื่อไม่รู้เรื่อง ก็เริ่มไล่เลย
แต่เห็นว่าถวนจื่อยังเด็กมาก แล้วก็น่ารักมาก ลงมือไม่ไหว ได้แต่เรียกยาม
ยามรับสาย ก็รีบเข้ามาจากด้านนอก เห็นว่าเป็นเด็ก ก็อุ้มถวนจื่อขึ้นมา
ถวนจื่อรู้ว่าพวกเธอไม่ต้อนรับตัวเอง จะยอมให้ยามทำอะไรง่ายๆได้ไง
ถวนจื่อสะบัดตัวเองออก มือไม้อยู่ไม่สุขจนยามอุ้มเขาไม่อยู่
สุดท้ายก็มียามอีกคนมา จับมือจีบเท้าของถวนจื่อไว้
ถวนจื่อขยับตัวต่อไม่ไหวแล้ว
ถวนจื่อถูกยามทั้งสองคนพาออกไป
“หนู ไม่ต้องมาอีกแล้ว ถ้าหนูไม่เชื่อฟังล่ะก็ อย่าหาว่าพวกลุงไม่เกรงใจ”ยามคนหนึ่งถูกถวนจื่อกวนจนหอบ
“ใช่ ไม่ฟังกันละก็จะส่งหนูไปที่ลุงเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
ถวนจื่อมองยาม เห็นว่าตัวเองไม่มีโอกาสเข้าไปอีก
แต่เขาไม่ยอมแพ้ ได้แต่รออยู่นอกบริษัท เขาเชื่อว่ารอตอนที่ลี่จุนถิงเลอกงานจะต้องออกมาทางนี้แน่ ถึงตอนนั้นตัวเองก็จะเจอเขา
ถวนจื่อหาบันไดเล็กๆนั่งลงไป มองคนที่เข้าออกบริษัท
เวลานี้เอง ผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัว ยืนตรงหน้าถวนจื่อ
ถวนจื่อเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัย
“คุณชายน้อย?”
ถวนจื่อมองเขาต่อไม่พูด
“ผมคือคนขับรถของคุณชายลี่ คุณชายน้อยจำผมได้ไหม?”ชายหนุ่มคุกเข่าลง ให้สายตาของตัวเองอยู่ระนาบเดียวกับถวนจื่อ
ถวนจื่อคิดย้อนในหัว ลี่จุนถิงมีคนขับรถคนนี้หรือไม่
ชายหนุ่มเห็นถวนจื่อไม่พูด ก็พูดต่อ:“คุณชายน้อยมาหาคุณชายลี่เหรอ?วันนี้เขาไม่ทำงาน ให้ผมพาคุณไปหาเขาไหม?”
ชายหนุ่มพูดไปก็ยื่นมือทั้งสองข้างไปที่ถวนจื่อ ให้เขาเข้ามาในอ้อมแขนตัวเอง