ตอนที่ 104: แผนการเบื้องหลังที่แท้จริง

– วันถัดไป –

หลี่เชาว์นําเพื่อนร่วมทีมทั้งสี่พร้อมด้วยพนักงานจากสํานักภาษีไปยังคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดของแก๊งพยัคฆ์ขาว

“ขอโทษด้วยครับ พวกเราคือเจ้าหน้าที่ตํารวจหน่วยสองจากหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพอดีเราต้องการให้คุณร่วมมือกับเรา แล้วก็ช่วยแสดงบัญชีทรัพย์สินในปีที่ผ่านมาด้วยครับ”

ผู้จัดการของคาสิโนพลันจ้องมองไปที่หลี่เชาว์ด้วยท่าทีบูดบึง ระหว่างมองไปยังพนักงานจากสํานักภาษี เขาก็พลันพูดขึ้น “ทําไมหน่วยสืบสวนอาชญากรรมถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”

“พอดีพวกเราได้รับรายงานจากคนพื้นที่มาว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันใต้ดินแล้วก็คดีฟอกเงิน ยังไงผมต้องขอความร่วมมือด้วยครับ” หลี่เชาว์กล่าว

ผู้จัดการพลันตอบกลับด้วยน้ําเสียงหงุดหงิด “อยากตรวจสอบอะไรก็เชิญเลย แต่ก่อนอื่น ผมต้องขอดูหมายค้นจากกองบัญชาการของคุณด้วย เพราะคาสิโนของเราเองก็มีกฎและสิทธิ์ในการจัดการทางกฎหมายเหมือนกัน หากเราถูกคุกคามและพวกคุณไม่มีหมายค้น ทางคาสิโนก็จะสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนและฟ้องร้องต่อศาลได้” เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการคนนี้น่าจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาหลายร้อยครั้งแล้ว อีกทั้งเขาเองก็ไม่ยอมให้หลี่เชาว์เข้าถึงข้อมูลของคาสิโนง่าย ๆ ด้วย

หลี่เชาว์พลันหยิบหมายค้นออกมาและกล่าวคําพูด “อ่า แต่ผมไม่ได้แค่จะมาค้นคาสิโนแห่งนี้เท่านั้นนะ ผมจะทําการตรวจค้นคาสิโนทั้งห้าแห่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของแก๊งพยัคฆ์ขาวด้วย!”

หลี่เชาว์กล่าวต่อหน้าผู้จัดการว่าทีมของเขาจะทําการบุกค้นคาสิโนของแก๊งพยัคฆ์ขาวอย่างโจ่งแจ้ง

ทันทีที่ผู้จัดการเห็นเอกสาร เขาก็จ้องไปยังหลี่เชาว์และกล่าวคําพูด “เท่าที่จําได้ หน่วยคุณไม่ได้จัดการเรื่องคดีฟอกเงินนี่…”

หลี่เชาว์พลันเลิกคิ้วและตอบกลับ”แล้วมันใช่ธุระกงการอะไรของคุณไหมล่ะ? อย่าบอกนะว่าคุณมีสายอยู่ในกรมตํารวจของเรา?“ผู้จัดการพลันหัวเราะ” ฮ่าฮ่า มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ?”ช่วยพาผมไปที่สํานักงานการเงินของคุณที ผมรู้นะว่าคุณกําลังพยายามยื้อเวลาพวกเราเพื่อให้นักบัญชีเปลี่ยนแปลงข้อมูลอยู่…” หลี่เชาว์ พูดขึ้น

ผู้จัดการพลันสะดุ้ง หลังจากนั้น เขาก็โยกตัวหลบเพื่อให้หลี่เชาว์และคนอื่นเดินเข้ามา นอกจากนี้ ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลากลางวัน ลูกค้าในคาสิโนเองก็ยังมีไม่มากนัก เพราะเหตุนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจเท่าไหร่

ในเวลาเดียวกัน หรูกังก็พลันทราบข้อมูลและตําแหน่งของนักกฎหมายทั้งห้าคนแล้ว พวกเขาเริ่มติดตามอีกฝ่ายในทันที ด้วยคําแนะนําของเสี่ยวเฉิง ทีมหวี่กังจึงไม่ได้ซ่อนตัวอะไรมากนัก

– ภายในคฤหาสน์สุดหรู –

กองเอกสารที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกของทีมสองถูกวางเอาไว้บนโต๊ะไม้สีแดง

ชายวัยกลางคนที่กําลังสูบบุหรี่และนั่งขาไขว้พลันพ่นควันออกมาและหรี่ตาลง เขาพลันถามบอดี้การ์ดสองคนข้างกาย “ได้ข้อมูลมาหรือยัง? ใครคือกัปตันของหน่วยสองกันล่ะ?”

บอดี้การ์ดพลันตอบกลับ “ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลยครับท่าน มันเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ปลิดชีพปรมาจารย์หยานแห่งแก๊งเต่าดําครับ”

ชายวัยกลางคนเลิกคิ้ว “หือ?”

หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็พลันหัวเราะ “งั้นรึ? อันที่จริง ปรมาจารย์หยานเองก็ข้ามผ่านช่วงเวลาแห่ง ความรุ่งโรจน์ของตัวเองมาแล้ว ตํารวจพวกนั้นกําลังคิคทําบ้าอะไรอยู่กัน? พวกตํารวจคิดว่าส่งทีมสองมาคอยสอดส่องแล้วจะจัดการพวกเราได้เหรอ? พวกมันไม่คิดว่าเราจะสู้กลับบ้างหรือยังไงกัน?”

บอดี้การ์ดเผยยิ้ม “ท่านซินครับ ผมลองเช็คข้อมูลดูหมดทุกอย่างแล้ว ผมคิดว่าการที่ทีมสองเข้ามาดูแลคดี ฟอกเงินแทนก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนะครับ ตามแหล่งข่าวของเรา ทีมสองมีสมาชิกเพียงสิบคนเท่านั้น อีกทั้งตํารวจที่คอยจับตาดูทีมกฎหมายของเราก็มีกันแค่ห้าคนด้วย เทคนิคของพวกมันไม่ต่างอะไรกับมือใหม่ไร้ประสบการณ์เลยล่ะครับ พวกมันขุดหาข้อมูลอะไรของพวกเราไม่เจอแน่นอนครับท่าน ผมคิดว่าปล่อยให้เจ้าหน้าที่ หน่วยสองทําหน้าที่ของมันไปเถอะครับ ขนาดเจ้าหน้าที่หน่วยห้าคนเยอะกว่ายังทําอะไรพวกเราไม่ได้เลย”