ตอนที่ 131.2 เจ้ามันหล่อเลิศสุดๆ แล้ว (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ความจริงแล้ว ลักษณะธรรมดาของหลี่ฉางโซ่วนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการปลอมตัวเพียงครึ่งเดียว

ส่วนลักษณะปกติของฉีหยวนนั้นมาจากภายใน…

ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วโค้งคารวะและกล่าวว่า “ได้โปรด ท่านอาจารย์”

ในขณะที่นักพรตเต๋าชราฉีหยวนนั้น ไม่นะ…เขาเป็นนักพรตเต๋าฉีหยวนแล้ว!

ในขณะนั้น นักพรตเต๋าฉีหยวนพลันฝืนยิ้มและขับเคลื่อนเมฆตรงไปทางประตูสำนักเพื่อไปจัดการกับปัญหาเล็กๆ ที่เจ้าศิษย์ตัวดีของเขามอบให้เขา

บัดนี้ ในใจของเขา เขากำลังนึกถึงสิ่งที่หลี่ฉางโซ่วพูดเมื่อครู่นี้…

“ท่านอาจารย์ ก่อนหน้านี้ ข้าได้ใช้รูปลักษณ์ของท่านและกำจัดปีศาจภายนอกสำนักกับท่านอาจารย์ลุงจิ่วอู นั่นอาจก่อให้เกิดอันตรายบางอย่างที่ซ่อนอยู่ได้ ดังนั้น ท่านอาจารย์ ท่านไม่อาจเผยใบหน้าที่แท้จริง และลักษณะปกติของท่านเมื่อออกไปได้ ท่านอาจารย์ จะดีกว่าที่ท่านจะกลับไปเป็นวัยกลางคนแล้วพกถุงเครื่องหอมที่ปกปิดกลิ่นอายลมปราณไปด้วยขอรับ ด้วยวิธีนี้ท่านย่อมจะปลอดภัยไร้กังวล”

ฉีหยวนไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ เขาเพียงทำตามคำแนะนำของศิษย์ของเขาและขับเคลื่อนเมฆออกจากสำนักก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดคือ เมืองหลินไห่…

ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบาๆ ในหัวใจของเขา

แน่นอนว่าเขาไม่อาจทำเช่นนี้ในสำนักได้ ไม่เช่นนั้น ย่อมก่อให้เกิดปัญหาเดือดร้อนได้ง่าย

ไม่นานหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ส่งเสียงไปหาหลิงเอ๋อร์ก่อน เพื่อบอกให้นางจัดการรับมือหากมีผู้มาเยือน

จากนั้นเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับใต้ดินในหอโอสถ และจิตใจของเขาก็กระจัดกระจายไปอยู่ที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสาม

ในขณะที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวหนึ่งได้พากองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ติดตามอาจารย์ของเขาไปในใต้ดิน

ในเมื่ออาจารย์ของเขาไม่อยู่แล้ว เขาจึงต้องคอยดูแลป้องกันต่อไป

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์จ้องไปที่ผู้อาวุโสว่านหลินหยุน หลี่ฉางโซ่วรู้สึกว่าผู้อาวุโสว่านหลินหยุนอาจประสบกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ และแน่นอนว่า มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกตัวซ่อนอยู่ในถุงในแขนเสื้อของอาจารย์ของเขา บัดนี้ เขากำลังถือโอสถสองเม็ดและรอเวลาปรากฏตัวขึ้น

อาจารย์กำลังขับขี่เมฆ…

เขาไปช้ามาก

สามวันต่อมา นักพรตเต๋าฉีหยวนก็ค่อยๆ ร่อนลงไปที่ประตูด้านเหนือของเมืองหลินไห่ และเข้าแถวเพื่อเข้าไปในเมือง

กลุ่มของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หยุดอยู่นอกค่ายกลเบญจธาตุ ในขณะนั้น อาจารย์ของเขายังคงมีตุ๊กตากระดาษจำลอง ‘มนุษย์’ อยู่กับเขา ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์จะคอยให้การสนับสนุนเขาเช่นกัน

ทันทีที่อาจารย์ของเขาเข้าไปในเมือง หลี่ฉางโซ่วก็เริ่มค้นหาผู้ที่สามารถ ‘ให้กำลังใจ’ อาจารย์ของเขาอย่างลับๆ เขาไม่อยากยั่วยุให้อาจารย์ของเขาแต่งงาน เขาแค่อยากให้อาจารย์ของเขารู้เรื่องนี้…

‘ท่านยังคงมีเสน่ห์มากและยังง่ายที่จะได้รับความชื่นชอบจากผู้บำเพ็ญสตรี’

และในไม่ช้า หลี่ฉางโซ่วก็ตระหนักว่าโอสถต้านการสำรวจถูกกระตุ้นขึ้นมา และเขาก็พบจุดที่มีหมอกวิญญาณอยู่ในทันที

เหตุใดถึงเป็นนักพรตเต๋าชราผู้หนึ่ง

หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะและปล่อยให้หมอกวิญญาณกระจายออกไป จากนั้นเขาก็ยังคงติดตามอาจารย์ต่อไปโดยใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์

ผลของโอสถยังมีจำกัด และไม่อาจปล่อยให้สูญเปล่าได้ง่าย

นักพรตเต๋าฉีหยวนไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นเขาก็ตรงไปยังถนนที่มีแผงขายสมุนไพรและสมุนไพรวิญญาณตั้งอยู่

หลังจากที่อาจารย์ของเขาเดินทางไปได้ครอบคลุมระยะทางราวสามสิบจั้งแล้ว ในที่สุด หลี่ฉางโซ่วก็พบ เซียนหยวนสตรีคนแรกที่ใช้พลังสัมผัสเซียนรับรู้ของนางเพื่อตรวจสอบอาจารย์ของเขา ดูเหมือนว่า เซียนหยวนสตรีผู้นี้ยังเยาว์วัยโดยมีอายุราวยี่สิบสี่หรือยี่สิบห้าปี

เป็นท่าน พี่หญิงใหญ่

ในถุงนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใช้มือบางๆ ของมันเพื่อขจัดกฎห้ามของโอสถเพลิงหัวใจ

จากนั้น นักพรตเต๋าฉีหยวนเดินไปได้เพียงสิบห้าก้าว…“สหายเต๋าผู้นี้…ท่านรออยู่ที่นี่ได้หรือไม่”

“หือ?”

นักพรตเต๋าฉีหยวนหันกลับมาแล้วขมวดคิ้วไปที่เซียนหยวนสตรีผู้ที่กำลังตะโกนเรียกเขา ทันใดนั้นเขาจึงประสานมือคารวะแล้วถามว่า “สหายเต๋า ข้าพอจะช่วยอะไรเจ้าได้หรือไม่”

“ท่าน” เซียนหยวนสตรีผู้นั้นหน้าแดง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าพลางกล่าวเบาๆ ว่า “เราไปหาที่สงบเงียบพูดคุยกันได้หรือไม่ ข้ามีบางอย่างจะพูดกับท่าน”

ฉีหยวนตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็เริ่มระแวดระวังอยู่ในใจ “ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า สหายเต๋า”

หลังจากนั้นเขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“สหายเต๋า…”

เซียนหยวนสตรียังคงไล่ตามเขาไปสองก้าวขณะงุนงงอยู่ในใจ แต่ก็จัดการควบคุมตัวเองในสถานการณ์เวลานี้ได้

นางคิดว่ามันแปลกเมื่อเห็นภาพเหล่านั้นในหัวใจของนาง จากนั้นจึงรีบปิดหน้าและจากไป

ในตอนนี้ หลี่ฉางโซ่วเพิ่งเปิดเผยโอสถเพลิงหัวใจออกมาชั่วขณะหนึ่งแล้วรีบผนึกมันอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น ฉีหยวนเพิ่งก้าวเดินไปไม่กี่ก้าวเมื่อได้ยินคำทักทายอ่อนโยนและนุ่มนวลจากด้านข้าง

“สหายเต๋า…”

ทันใดนั้น ฉีหยวนจึงหันไปมอง และเห็นผู้บำเพ็ญสตรีที่กล้าหาญซึ่งถือกระบี่แล้วประสานมือโค้งคารวะให้เขา

คนผู้นั้นกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านช่วยพาข้าไปโรงน้ำชาที่อยู่ใกล้ๆ หน่อยได้หรือไม่”

“ข้ายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ศิษย์ของข้าบาดเจ็บสาหัสและต้องการสมุนไพร ต้องขออภัยแม่นางด้วย ขออภัยด้วยจริงๆ”

ฉีหยวนโค้งคำนับและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในเวลานั้น เขาก็เริ่มสงสัยบางอย่างขึ้นในใจของเขา

ในเวลานี้ ด้วยรูปลักษณ์ของข้า และท่าทีสลดหดหู่เช่นนี้…ข้าจะเป็นที่ชื่นชอบมากเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

แต่การที่เขาปฏิเสธผู้บำเพ็ญสตรีสองคนนั้นไปทั้งสองครั้งก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้น ก็มีสตรีโฉมงามอีกหลายคนเข้ามาจากทั้งด้านข้าง ด้านหน้า และด้านหลังของถนนสายสั้นๆ นี้ทีละคน “นักพรตเต๋า ท่านมาจากที่ใดหรือ ท่านกำลังจะไปที่ใดหรือ”

“สหายเต๋า โปรดรอข้าด้วย” “สหายเต๋า เหตุใดท่านไม่มองมาข้าบ้างเลย”

นักพรตเต๋าฉีหยวนตะลึงงันอย่างสิ้นเชิง เขาทำได้เพียงปฏิเสธพวกนางอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็ปกปิดใบหน้าเอาไว้ขณะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับก้มศีรษะลง

เมืองนี้ต้องมีอะไรผิดปกติ

ข้าไม่ได้ออกมาเดินเล่นในบรรยากาศสว่างไสวเช่นนี้เป็นเวลานานแล้ว และตั้งแต่เมื่อใดกันที่ผู้คนในดินแดนเทวะบูรพามีใจกว้างกันเช่นนี้

ในที่ลับแห่งหนึ่ง ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่หลี่ฉางโซ่วไว้ใจมอบหมายงานให้ ได้เช็ด ‘เหงื่อ’ ของมันเช่นกัน

“เฮ้ สหายเต๋า!”

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินคำทักทายด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง แล้วจู่ๆ ร่างหอคอยเหล็กร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉีหยวน

ฉีหยวนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่ามีสตรีร่างสูงสิบฉื่ออยู่ข้างหน้าเขา ดูเหมือนว่านางจะเป็นผู้บำเพ็ญที่ฝึกฝนมาอย่างหนัก ลำแขนของนางหนากว่าเอวของเขา และในขณะนั้น นางก็จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาขนาดใหญ่ราวกับระฆังทองสัมฤทธิ์

“ข้าจะไม่อ้อมค้อม ข้าพอใจท่าน ท่านกลับไปที่เคหาสน์ถ้ำของข้าเพื่อเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของข้าเถิด!”

ฉีหยวนขมวดคิ้วและรีบกล่าวออกไปว่า “สหายเต๋า ท่านทักทายคนผิดแล้วหรือไม่”

หลี่ฉางโซ่วพลันขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ ‘เผา’ นักพรตเต๋าสตรีคนนั้นด้วย…

หือ?

ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วเพ่งพุงความสนใจไปตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่อยู่ในถุงขณะกระตุกมุมปากขึ้นในทันใด เขาเห็นว่าโอสถเพลิงหัวใจในมือของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์กำลังลุกไหม้ ในชั่วขณะนั้น…มันกำลังแตกกระจายออกมา!

เกิดอันใดขึ้น เมื่อครู่นี้ มันยังไม่บุบสลาย!

หรือเป็นเพราะข้าได้เปิดใช้กฎห้ามหลายครั้งเกินไป และคุณสมบัติทางยาของโอสถก็ยังไม่เสถียร พวกมันจึงแตกเป็นเสี่ยงๆ เช่นนี้

จะเกิดอันใดขึ้นหลังจากที่โอสถเม็ดนี้แตกสลายไป

โดยทั่วไปดูเหมือนว่ามันจะมีคุณสมบัติทางยาเล็กน้อย…ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็แผ่พุ่งพลังสัมผัสเซียนรับรู้ ออกไปก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปในทันใด แล้วกล่าวว่า “เร็วเข้า ท่านอาจารย์รีบไปเถิด รีบเก็บถุงและเก็บอาวุธเวทเดี๋ยวนี้ขอรับ!”

ฉีหยวนผงะงันชั่วขณะ จากนั้นจึงรีบเก็บถุงกลับเข้าไปในคลังเวทจัดที่เก็บในแขนเสื้อของเขาอย่างรวดเร็ว

แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงหวานดังมาจากภายในรัศมีหนึ่งร้อยจั้ง แล้วร่างของคนหลายสิบคนต่างก็มองไปที่ฉีหยวนพร้อมกัน

“นักพรตเต๋า…”

“สหายเต๋า…”

“สหายเต๋า!”

ตรงหัวมุมถนน บัดนี้มีนักพรตเต๋าชราที่มีท่าทีชอบธรรมหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของเขา “สหายเต๋า เจ้าจะรังเกียจหรือไม่ หากข้าขอเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของเจ้า แบบที่ฝึกฝนเฉพาะกับเจ้าเท่านั้น”

ฉับพลันนั้น ฉีหยวนขาสั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน…“พวกเจ้าอย่าเข้ามา อย่าเข้ามานะ!” ตูม! ตูม!

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังกึกกักไม่ชัดเจนดังขึ้นมาจากพื้นดิน

แล้วชั่วขณะนั้น ก็มีคนร้องตะโกนว่า “สหายเต๋า ระวัง! สัตว์วิญญาณบนถนนสัตว์วิญญาณกำลังอยู่ในความโกลาหล!”