ฟู้เจียนปอเบิกตากว้าง “ฟู่สีเกอ คุณกล้า?!”
“ทำไมผมจะไม่กล้า?!” ฟู่สีเกอพูดอยู่ปลีกตัวเดินไปทางประตูรถ เห็นฟู้เจียนปอกำหมัดขึ้นมาต่อยเขา เขาหันสวนกลับไปหนึ่งหมัด
ทั้งสองต่างถอยหลังไปหลายก้าว ฟู่สีเกอใช้จังหวะนั้นเปิดประตูรถนั่งเข้าไป พูดกับฟู้เจียนปอที่อยู่ด้านนอก “ฟู้เจียนปอคุณค่อยดู หลังจากนี้เธอเป็นของผม เป็นการเอาคืนที่ดีที่สุดที่ตอนนั้นคุณนอกใจ!”
ฟู้เจียนปออยากจะพูดอะไรต่อ ฟู่สีเกอก็ขับไปหน้าประตูกดแตรให้ยามสองครั้งแล้ว
และยามหลายคนต่างจำได้ แล้วขวางฟู้เจียนปอไว้ บอกว่า “คุณครับ เชิญออกไป ไม่อยากงั้นพวกผมจะแจ้งความ!”
หน้าอกของฟู้เจียนปอกระเพื่อมอยากรุนแรง ตื่นตระหนกตกใจกลัวจะเสียเฉียวโยวโยวไป เพราะความโกรธหลังจากทะเลาะกับฟู่สีเกอ และยังอายที่ตอนนี้ถูกรั้งอยู่ข้างนอก ทำให้เขาทรมานเหมือนถูกไฟเผาไปทั้งตัว
แต่ตรงนี้เขาบุกเข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองฟู่สีเกอสตาร์ทรถ แล้วขับเข้าไป
มันว่า ตอนนี้มันไปหาเฉียวโยวโยว
มันยังบอก ตอนนี้เป็นช่วงที่เฉียวโยวโยวเสียใจอยู่ แทรกเข้าไปง่าย…
ฟู้เจียนปอถูกรั้งอยู่ข้างนอก หัวใจที่นิ่งถึงตอนสุดท้ายที่สับสนวุ่นวาย ไม่เคยนึกเสียใจภายหลังแบบในตอนนี้มาก่อนในชีวิต
ถ้าหากคืนนั้นเขาไม่ได้…
ถ้าหากตอนนั้นเขาหยุดความต้องการไว้ได้ อย่างนั้นตอนนี้เขากับเฉียวโยวโยวกำลังตื่นเต้นกับของขวัญแต่งงานในอีกสองวันให้หลังใช่ไหม?
ฟู้เจียนปอนั่งข้างถนนด้วยความหดหู่ หยิบมือถือออกมา ส่งข้อความให้เฉียวโยวโยว
ตอนนี้ในคฤหาสน์ เฉียวโยวโยวฟังเรื่องที่หลานเสี่ยวถางพูด ตบโต๊ะทันที “เสี่ยวถาง เธอว่ายายแก่นั้นทำไมถึงเลวขนาดนี้? หล่อนทำร้ายพวกเธอยังไม่พอ คิดไม่ถึงว่าหลานชายตัวเองยังทำร้าย! ทำไมหล่อนไม่ตกนรกไปเสีย?!”
“โยวโยว เธอพูดเสียงเบาลงหน่อย ถ้าหากมูเฉินได้ยินจะไม่ดี ” หลานเสี่ยวถางพูด “อย่างไรนั่นก็คือแม่ของเขา แม้ปากเขาจะพูดว่าเขากับแม่เขาจากนี้ไม่เกี่ยวข้องกันอีก แต่หากได้ยิน ยังไงก็คงไม่สบายใจ”
“เสี่ยวถาง ฉันเข้าใจเธอ แต่เรื่องนี้ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้!” เฉียวโยวโยวโกรธจนเดินไปมาในห้อง “พวกเธอไม่กล้าทำก็ไม่เป็นไร ฉันเพิ่งอกหักพอดี อารมณ์ไม่ค่อยดี พรุ่งนี้ฉันไปหายายแก่เฮงซวยนั่น!”
“โยวโยว เธอจะทำอะไร?” หลานเสี่ยวถางกดคลึงขมับ พูดว่า “เธออย่าไปนะ หล่อนแม้จะแก่แล้ว แต่มีอุบายมากมาย ฉันกลัวเธอเสียเปรียบ!”
“ไม่เป็นไร เธอสบายใจได้ ฉันไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอะไร” เฉียวโยวโยวหรี่ตา พูดว่า “ฉันก็แค่ทำให้หล่อนรู้สึกแย่! แม้ว่าแบบนี้เหมือนจะไม่ระคาย แต่ไม่ทำความเกลียดในใจก็หายยาก”
กำลังพูดอยู่ มือถือของเฉียวโยวโยวก็ดังขึ้นครู่หนึ่ง เธอหยิบขึ้นมาดูชื่อ วางลงข้างๆไปเลย
หลานเสี่ยวถางว่า “ฟู้เจียนปอส่งมา?”
เฉียวโยวโยวพยักหน้า
“โยวโยว ครั้งนี้ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด!” หลานเสี่ยวถางบอก “อันที่จริง ก่อนหน้านี้พวกเราใจดีกับเขามากเกินไป หลังจากนี้ฉันเจอเขา ก็จะทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า!”
หลังจากมือถือดังขึ้นหนึ่งครั้ง ก็ดังต่อเนื่องหลายครั้ง เฉียวโยวโยวหงุดหงิดจนทนไม่ไหว และไม่ได้ดูข้อความแต่บล็อกไปเลย
ฟู้เจียนปอเห็นแจ้งเตือนส่งข้อความไม่สำเร็จ เลยส่งข้อความให้หลานเสี่ยวถาง
หลานเสี่ยวถางมองมือถือครู่หนึ่ง สีหน้าเข้มขึ้น “โยวโยว เขาว่าเขาจะรออยู่ที่หน้าประตูหมู่บ้านไม่ไปไหน เธอห้ามออกไปเด็ดขาด!”
“อืม ฉันรู้ ช่วงนี้ฉันก็ดองอยู่แต่ในบ้าน!” เฉียวโยวโยวบอก“ส่วนงานแต่งงานเฮงซวยนั่น ให้เขาเคลียร์เอง!”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “โชคดีที่พวกเธอยังไม่ได้จดทะเบียน วางแผนว่าแต่งงานเสร็จค่อยจด ไม่อย่างงั้น…”
กำลังพูดอยู่ ด้านนอกก็มีลมแรง ผ่านไปไม่นานฟ้าแลบลงมา ฝนตกกระทบหน้าต่างอย่างบ้าคลั่ง เห็นชัดว่าพายุฝนมาแล้ว
หลานเสี่ยวถางหันไปมองเฉียวโยวโยว “ไม่รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนั้นไหม?”
เฉียวโยวโยวส่ายหน้า “ไม่สน หลังจากนี้เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก วันนี้ฉันบอกเขาชัดเจนแล้ว”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “อืม คิดได้ก็ดีแล้ว พวกเราไปอาบน้ำ คืนนี้เข้านอนเร็วๆ!”
“อืม” เฉียวโยวโยวลุกขึ้น มองพายุฝนข้างนอก พูดว่า “อันที่จริงวันนี้ตอนฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง จู่ ๆก็ปล่อยวางได้ และตอนนี้ฉันรู้สึกโล่งมาก หลังจากที่รู้ว่าเขานอกใจ ก็ไม่เคยโล่งแบบนี้มาก่อน”
“งั้นฉันก็สบายใจแล้ว!”หลานเสี่ยวถางกะพริบตา “รอทำใจได้แล้ว ฉันให้มูเฉินแนะนำแฟนหนุ่มที่ดีพร้อมให้เธอ!”
อาบน้ำเสร็จกลับมาที่ห้องนอน สือมูเฉินเปิดประตู เดินไปนั่งลงข้างหลานเสี่ยวถาง “เสี่ยวถาง งานแต่งของพวกเราเลื่อนเร็วขึ้นไหม?”
หลานเสี่ยวถางแปลกใจ “เลื่อนเร็วขึ้น?”
สือมูเฉินพยักหน้า “อืม ผมคิดดูแล้ว อีกสองเดือนท้องของคุณจะนูนจนมองออก ผมกลัวคุณสวมชุดเจ้าสาวแล้วรู้สึกไม่สวย ดังนั้น ผมสอบถามสถานที่จัดแล้ว บอกว่าสามารถจัดล่วงหน้าหนึ่งเดือน และก็คือจัดงานแต่งวันที่ 27 เดือนหน้า คุณคิดว่าไง?”
หลานเสี่ยวถางได้ยิน อดหันหน้าไปไม่ได้“ ดีมากเลยที่จัดล่วงหน้าได้ ฉันเพิ่งคุยกับโยวโยว ถึงเวลานั้นฉันอ้วนถ่ายรู้ออกมาไม่ค่อยสวย!”
“งั้นพวกเราก็ตกลงตามนี้” สือมูเฉินพูด“เรื่องบัตรเชิญกับงานเลี้ยงคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการให้เรียบร้อย วันนั้นคุณแค่ต้องแต่งชุดเจ้าสาว เป็นเจ้าสาวของผมก็พอ พิธีการใช้เวลาแค่สองชั่วโมง ไม่เหนื่อยมาก”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “ค่ะ ขอบคุณมูเฉิน”
“เกรงใจผมทำไม?”สือมูเฉินยักคิ้ว คว้าเอวของหลานเสี่ยวถาง ก้มหน้าจูบเธอ
ริมฝีปากเขาบดอยู่บนริมฝีปากเธอ พูดอย่างไม่ค่อยพอใจ “คุณหมอบอกว่า ก่อนสามเดือนห้ามแนบชิด อยากให้เวลานี้ผ่านไปเร็วๆ…”
หลานเสี่ยวถางอดถลึงตาให้เขาไม่ได้ “วันๆเอาแต่คิดเรื่องแบบนี้!”
สือมูเฉินจนใจ “ก่อนหน้านี้สามารถทำได้เกือบทุกวัน ตอนนี้…” เขาคลึงคิ้ว ลุกขึ้น “ผมไปอาบน้ำ”
ซูสือจิ่นยังเด็ก แม้ว่าตกใจแต่ภายใต้การปลอบของหยานชิงเจ๋อ ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว
หยานชิงเจ๋อเห็นเธอไม่เป็นไรแล้ว ก็กลับบ้านไป เพราะเรื่องงาน เขาต้องออกไปทำงานนอกสถานที่พอดี เลยจัดกระเป๋าออกจากบ้านไป
ตั้งแต่วันนั้นทะเลาะและแยกจากเจียงซีหยู่ ภายหลังเขาโทรหาเธอหลายสาย เธอก็ไม่รับเลย
แต่โพสต์สเตตัสตลอด ดังนั้นเขาเลยรู้ว่าเธอสบายดี เลยไม่ได้คิดมาก
ไปทำงานนอกสถานที่สามวันกลับมา เป็นวันที่เจียงซีหยู่กลับมาพอดี หยานชิงเจ๋อกลับมาถึงบ้าน โทรหาเธอ ในที่สุดครั้งนี้ก็รับสาย
เจียงซีหยู่พูดว่า “ชิงเจ๋อ ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านคุณ”
หยานชิงเจ๋ออึ้งไป “บ้านผม?”
เจียงซีหยู่พูดว่า “คุณลืมแล้วเหรอ ก่อนหน้านี้พวกเราคุยกันมาพอพ่อแม่คุณวันนี้…” ริมฝีปากเธอยิ้มหยันตัวเอง “คิดไม่ผิด มีแค่ฉันคนเดียวที่จำได้”
หยานชิงเจ๋อตอนนี้ถึงเพิ่งนึกออก ก่อนหน้านี้บอกว่าเธอกลับมาวันนี้ ก็พาเธอกลับบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน
ดังนั้น เขาเลยพูดอย่างรู้สึกผิด “ซีหยู่ ขอโทษ หลายวันมานี้ผมมีเรื่องมากมายจนลืมไป ผมไปรับคุณที่หน้าประตูเดี๋ยวนี้ วันนี้พ่อแม่ผมอยู่บ้านพอดี ทุกคนจะได้เจอกัน”
ระหว่างที่พูด หยานชิงเจ๋อไปที่หน้าประตู รับของขวัญที่เจียงซีหยู่ถืออยู่ ดึงเธอเข้าห้องรับแขกด้วยกัน
พ่อหยานเห็นเจียงซีหยู่ อึ้งไปครู่หนึ่งและพูดด้วยรอยยิ้ม “ชิงเจ๋อ เพื่อนลูกเหรอ?”
หยานชิงเจ๋อพาเจียงซีหยู่ยืนตรงหน้าผู้สูงอายุทั้งสอง พูดว่า “พ่อแม่ เจียงซีหยู่แฟนผมเอง ก่อนหน้านี้เคยพูดกับพ่อแม่แล้ว”
เจียงซีหยู่ยิ้มให้ทั้งสอง พูดด้วยความสุภาพ “คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ”
พ่อหยานพยักหน้า “อืม เสี่ยวเจียงนั่งได้ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ”
แม่หยานประเมินเจียงซีหยู่อยู่พักหนึ่ง พูดพร้อมรอยยิ้ม “ที่ชิงเจ๋อเคยพูดถึงนี่เอง ฉันยังนึกว่าเขาพูดเล่น เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง เสี่ยวเจียงนั่งเถอะ อย่าเกรงใจ”
เจียงซีหยู่นั่งลง หยานชิงเจ๋อกลัวว่าเธอจะรู้สึกเกร็ง ดังนั้นเลยนั่งลงข้างๆและเปิดปากพูด “ผมรู้จักกับซีหยู่ที่ต่างประเทศมาสักพักหนึ่งแล้ว วันนี้เธอเพิ่งแสดงกลับมา เอาของฝากมา…”
“อ้อ อันที่จริงพวกเราชอบกินของท้องถิ่นมากกว่า” แม่หยานยิ้มอย่างอบอุ่น “เสี่ยวเจียงเธออย่าคิดมากนะ พวกเราแค่ค่อนข้างอนุรักษนิยม ไม่ชอบของต่างประเทศพวกนั้น”
เจียงซีหยู่ยิ้มอ่อนหวาน “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้า เป็นฉันเองที่ไม่รู้ความชอบของคุณ ได้รู้แล้วหลังจากนี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว”
“อืม หลังจากนี้ยินดีต้อนรับเธอมาเป็นแขก”แม่หยานพูด“ในเมื่อเป็นเพื่อนของชิงเจ๋อ ก็ไม่ต้องเกรงใจ วันหลังไม่ต้องเอาของขวัญมา”
เจียงซีหยู่ได้ยินคำพูดของเธอ อดอึดอัดใจไม่ได้
เมื่อกี้หยานชิงเจ๋อแนะนำไปแล้ว บอกว่าเธอเป็นแฟนเขา และตอนนี้ เห็นชัดว่าแม่เขาเห็นเธอเป็นคนนอก ไม่แค่ใช้คำว่า “แขก” ยังบอกว่าเป็นเพื่อนของชิงเจ๋อ
คำว่าเพื่อน ไม่ได้บวกคำว่า“สาว”ลงไป ความหมายของมันห่างไกลกันราวฟ้ากับเหว
เธอสูดหายใจลึกๆ ยิ้มแสดงว่ารับรู้
และในเวลานี้ มีคนใช้มาบอกว่า “คุณนาย คุณซูสือจิ่นมาถึงหน้าบ้านแล้ว”
แม่หยานเห็นหยานชิงเจ๋อไม่ลุกขึ้น ขมวดคิ้วแล้วบอก “ชิงเจ๋อ เสี่ยวจิ่นมาแล้วทำไมลูกยังนั่งอยู่ตรงนี้?” พูดอยู่เธอก็ลุกขึ้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
เวลานี้ ซูสือจิ่นเปลี่ยนรองเท้า มาถึงห้องรับแขกแล้ว เห็นเจียงซีหยู่อยู่ ท่าทางเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็รีบเดินไปตรงหน้าแม่หยาน พูดด้วยความกระตือรือร้น “สวัสดีค่ะคุณป้า”
“เสี่ยวจิ่น ทำไมไม่ให้ชิงเจ๋อไปรับเธอ?”แม่หยานพูดอยู่ รับของในมือของซูสือจิ่นมา “หนักขนาดนี้ ข้างในเป็นอะไร?”
ซูสือจิ่นบอก “เมื่อไม่กี่วันก่อนพ่อหนูซื้อโรงกลั่นไวน์เวอร์นอน ประเทศฝรั่งเศสมา รู้ว่าคุณลุงชอบก็เลยเอามา”
พูดอยู่ เธอก็เปิดอีกถุงหนึ่ง “ยังมีของคุณป้า คุณป้าไม่ได้ชอบช็อกโกแลตทำเองของที่นั่นเหรอ? หนูโทรบอกพ่อให้ไปเมืองเล็กนั่นโดยเฉพาะ ซื้อมาหลายห่อ”
“เสี่ยวจิ่นเป็นเด็กดีจังเลย รู้ว่าฉันชอบกินช็อกโกแลตทำเองร้านนั้นที่สุด” แม่หยานรับของมาด้วยความดีใจ ถอนหายใจบอกว่า “ฉันห้ามปากตัวเองไม่อยู่ กลัวจะอ้วนจริงๆ”
ซูสือจิ่นยิ้ม พูดว่า “คุณป้าไม่อ้วนเลยสักนิด รูปร่างยังดีอยู่เลย”
“เสี่ยวจิ่นของเราช่างปากหวาน” แม่หยานดึงซูสือจิ่นไปทางโซฟา
เจียงซีหยู่ได้ยินทั้งสองคุยกัน มือที่อยู่ข้างตัวจับเสื้อผ้าไว้แน่นอย่างช่วยไม่ได้
เป็นของที่มาจากต่างประเทศเหมือนกัน ตอนเธอให้ แม่หยานไม่ชอบของนอก แต่ตอนซูสือจิ่นให้ ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความพอใจ
เกรงว่าไม่ใช้ของที่ไม่ชอบ แต่เป็นคนที่ให้ขัดใจเธอมั้ง?!