นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 90 เยี่ยม
“โอ้ว สองแม่ลูกนี่ดีจัง!”

“ใครให้เขาสอนลูกเป็น บ้านข้านะยัยเด็กพวกนั้นเห็นข้าอย่างกับเห็นศัตรู!”

ระหว่างทางมีผู้หญิงสองคนเดินผ่านมา เห็นภาพนี้เข้าเลยยิ้มล้อ

ยังมีป้าคนหนึ่งมองมาและตะโกนล้อเหล่าไท่ไท่ด้วยว่า “เหมยฮวา เจ้าทำอะไรกับลูกสาวเจ้าน่ะ”

เหล่าไท่ไท่เลยจะทนไม่ได้ ดันโจวกุ้ยหลานออกสองมือเท้าเอวตะโกนใส่คนที่กำลังล้อ “ข้าใกล้ชิดกับลูกสาวข้าไม่ได้เหรอ เจ้าคิดแบบนี้ก็กลับไปกอดลูกสาวของพวกเจ้าไป!”

พวกป้าๆ หัวเราะเสียงลั่นและล้ออีกสองประโยคก่อนจะแยกย้ายกันไป

เหล่าไท่ไท่รู้สึกอาย นางก้าวเท้าเดินไปบ่นพึมพำไป “ยัยเด็กนี่บ้าไปแล้วเหรอ มาทำให้คนอื่นเห็นแล้วขำกันซะได้!”

หลายปีแล้วที่ไม่ได้เห็นสาวน้อยนี่มากอดนาง อยู่ดีๆ ตอนนี้ก็มากอดอย่างดีอกดีใจ

โจวกุ้ยหลานแค่คิดว่ามันตลก แล้วรีบเดินตามหลังเหล่าไท่ไท่ไป

คนในยุคนี้ขี้อายเรื่องความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัว แม้ว่าคนพวกนี้จะรักลูกแค่ไหนก็จะไม่พูดออกมา แม้แต่คนที่ร้ายกาจอย่างเหล่าไท่ไท่ที่บ่นนางทุกวี่ทุกวันก็ยังไม่พูดอะไรดีๆ

แต่ไม่เป็นไร นางเข้าใจเองก็ได้!

ทั้งสองเดินเข้าบ้านโจวต้าซานและเข้าไปในลานบ้าน แล้วเหล่าไท่ไท่ก็ตะโกนเข้าไป “พี่ชายใหญ่อยู่บ้านไหม”

“อยู่”

ในบ้านมีเสียงดังออกมา หลังจากเสียงตอบ เหล่าไท่ไท่จึงพาโจวกุ้ยหลานเดินเข้าไป

เมื่อเข้าไปในบ้าน โจวต้าซานก็เดินออกมา โจวกุ้ยหลานจึงส่งเสียงถาม “ลุงใหญ่ ชิวเซียงกับป้าใหญ่สบายดีไหม”

“ดีขึ้นมากแล้ว ต้องขอบคุณฉางหลิน ไม่อย่างนั้นคงแย่” โจวต้าซานสีหน้าเหนื่อยล้า

โจวกุ้ยหลานยื่นตะกร้าในมือให้โจวต้าชาน “ลุงใหญ่ให้พี่สะใภ้หยู่ชุนเอาไปทำของบำรุงร่างกายให้ป้าใหญ่กับชิวเซียงนะ”

โจวต้าชานเหลือบมองโจวกุ้ยหลานอย่างตำหนิ “ยัยเด็กคนนี้ มาก็มาสิ จะต้องเอาของมาด้วยทำไม รีบเอากลับไปเลย ครอบครัวนางบำรุงร่างกายกันเองก็ได้”

“พี่ใหญ่ พวกเขาสุขภาพแข็งแรงดีไม่ต้องบำรุงอะไรเลย นี้เป็นความใจดีกุ้ยหลาน พี่ใหญ่รับไว้เถอะนะ”

เหล่าไท่ไท่รีบทำให้สถานการณ์ดีขึ้น พูดเกลี้ยกล่อมโจวต้าซาน

หวังหยู่ชุนที่อยู่ในบ้านได้ยินโจวกุ้ยหลานพูดถึงไข่ก็แทบรอไม่ไหว วิ่งออกจากบ้านมายืนพิงกรอบประตูเพื่อดูสถานการณ์ เมื่อได้ยินว่าโจวต้าซานปฏิเสธก็กัดฟันแน่น กลัวว่าโจวกุ้ยหลานจะเอากลับไปจริงๆ

เมื่อได้ยินเหล่าไท่ไท่พูดแบบนี้ก็โล่งใจขึ้นมาก รีบวิ่งออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพ่อ นี่คือสิ่งที่กุ้ยหลานตั้งใจนำมา ท่านพ่อจะปฏิเสธทำไม บ้านเราไม่มีไข่แล้ว ร่างกายท่านแม่กับชิวเซียงต้องกินไม่ใช่เหรอ เรารับไว้เถอะ”

“เจ้าไม่อยู่เฝ้าแม่เจ้าล่ะ ออกมาทำไม”

โจวต้าซานหันไปดุ

สะใภ้รองคนนี้ ใจเขาไม่ชอบเลย เพราะเป็นภรรยาของลูกชายรอง มันไม่ดีหากเขาจะพูดอะไรมากไป แต่ลูกชายรองที่ซื่อๆ ของตัวเองก็ห้ามปรามภรรยาของเขาไม่ได้เลย

ครอบครัวนี้ถูกเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“ท่านแม่มีคนดูแลอยู่ เดี๋ยวข้าจะไปทำอาหาร ข้าเอาไข่ไปเลยนะ”

หวังหยู่ชุนไม่หยุดเพราะคำพูดของโจวต้าซาน พูดพร้อมกับเดินเข้ามา จะคว้าตะกร้าจากมือโจวกุ้ยหลาน

ไข่น่ะ นางสามารถกินไข่ได้อีกเยอะๆ เลย ดีมาก!

โอ้หยา ไม่คิดว่ายัยเด็กนี่จะเอาไข่มามากมายขนาดนี้ เวลานางจะซ่อนไข่ไว้สักสิบยี่สิบฟองก็จะไม่มีใครรู้

ข้างในมีอะไรอีกเนี่ย แป้งเหรอ

ในบ้านยัยคนนี้มีแป้งด้วยงั้นเหรอ

“โอ้ว แป้งนี่ให้ชิวเซียงกินพอดีเลย มันดีต่อร่างกายของนาง! แค่น้อยเกินไป ทำไมเจ้าไม่เอามามากหน่อยล่ะ” หวังหยู่ชุนไม่ค่อยพอใจ

ดูแล้วแค่สองจินเอง นางกินคนเดียวสองมื้อยังไม่พอเลย แถมยังต้องแบ่งให้แม่และชิวเซียงกินด้วยอีก!

โจวต้าซานที่อยู่ข้างๆ โกรธมากจนเครากระตุก

น่าอายจริงๆ!

เห็นมือของนางกำลังจะแตะหูหิ้วตะกร้า นางจึงเปลี่ยนมือยื่นไปให้โจวต้าซานและพูดด้วยรอยยิ้ม “ลุงใหญ่รับไปเถอะ หรือลุงใหญ่จะรังเกียจที่ข้าเอาของมาน้อยอย่างที่พี่สะใภ้หยู่ชุนบอก”

เมื่อพูดแบบนี้ โจวต้าซานจะปฏิเสธอีกก็คงไม่ดี กลัวว่าสะใภ้รองจะพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมอีกจึงรับมา

โจวกุ้ยหลานชักมือ แล้วกลับเหลือบมองหวังหยู่ชุนที่สีหน้าไม่ดี

ทำไมนางต้องเอาของให้กับมือหวังหยู่ชุน นางรู้พฤติกรรมของคนคนนี้ดี ถ้าให้นางจริง ของที่นางเอามาอาจจะหายไปไม่น้อย ถึงตอนนั้นคนอื่นอาจจะพูดว่าทำไมเอาแต่ของแค่นี้มา

การให้ลุงใหญ่มันต่างกัน เอาแต่เอาของมาพอลุงใหญ่รู้ว่านางเอาของมาเท่าไหร่ก็ได้ ส่วนทีหลังหวังหยู่ชุนจะมาเอาไปอีกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของนาง

“ไปรินน้ำมาสองถ้วย” โจวต้าซานสั่งหวังหยู่ชุนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“ถ้าอยากดื่มก็ไปรินเองไม่ได้เหรอ ไม่ใช่แขกสักหน่อย! ข้ากำลังยุ่งอยู่ ต้องไปดูชิวเซียง” หวังหยู่ชุนตอบแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องของโจวชิวเซียง

หึ อยากดื่มน้ำที่นางรินให้งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!

ไม่เอาตะกร้าให้นาง เรื่องอะไรต้องทำให้นางล่ะ

นังเด็กสารเลวไร้ค่า!

โจวต้าซานโกรธมากจนถลึงตาเป่าเครา อยากพูดอะไรแต่จะพูดต่อหน้าน้องสะใภ้กับหลานไปก็ไม่ดี ได้แต่กล้ำกลืนความโกรธ

“พี่ใหญ่ เราเข้าไปเยี่ยมพี่สะใภ้ได้ไหม พี่ไปทำงานเถอะ กุ้ยหลานกับข้าจะไปดูเอง”

โจวเหล่าไท่ไท่ทักทายโจวต้าซานแล้วจูงโจวกุ้ยหลานไปที่บ้านด้านหลัง

โจวต้าซานถอนหายใจ ได้แต่ตอบรับสองแม่ลูกแล้วเดินตามไป คิดจะเอาตะกร้าไปที่ห้องครัว

โจวกุ้ยหลานถูกเหล่าไท่ไท่จูงเข้าไปในบ้าน ห้องนี้ยังมีเอ้อร์เฉียงนั่งอยู่ เมื่อเห็นพวกนางมาจึงรีบลุกขึ้นยืนทักทายพวกนาง แต่ละคนพยักหน้าก่อนจะนั่งลงข้างเตียงเตา

หลี่ซิ่วยิงผู้ซึ่งแข็งแรงมาโดยตลอดตอนนี้นอนอยู่บนเตียงเตา สีหน้ามีแต่ความเจ็บปวด

“เป็นยังไงบ้าง” เหล่าไท่ไท่ช่วยห่มผ้าให้และถามเอ้อร์เฉียง

“หมอบอกว่าเอวบาดเจ็บ ช่วยฝังเข็มและนวดให้ แต่ต้องนอนอยู่แต่บนเตียงเตาสามเดือนห้ามลง และต้องดูแลรักษาดีๆ”

สามเดือน…

โจวกุ้ยหลานตกใจ คิดไม่ถึงว่าหลี่ซิ่วยิงจะบาดเจ็บหนักขนาดนี้

นางมองสำรวจดู ห้องนี้อยู่ด้านหลังทางทิศใต้แสงไม่ค่อยดี น่าจะเป็นบ้านแฝด ผ้าห่มก็บางเกินไป

เตียงเตาแข็งมาก ผ้าห่มบางมาก เอวก็ปวด แถมยังต้องอยู่สามเดือน มันทรมานจริงๆ

เหล่าไท่ไท่ถอนหายใจ “พี่สะใภ้ก็แก่แล้วทำไมดื้อนัก ถ้ากลับมาเรียกพี่ชายทั้งสองไปช่วยนางก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว เฮ้อ รักยัยชิวเซียงจริงๆ เลยนะ!”

นางมาเยี่ยมเมื่อเช้า ตอนนั้นนางเป็นห่วงมาก แต่จากเรื่องที่ลูกสาวน้อยพูดเมื่อครู่ นางครุ่นคิดอยู่ในใจ ตอนนี้มาเห็นพี่สะใภ้แล้วใจนางเกิดความรู้สึกที่หลากหลาย