ตอนที่ 242 แม่นางผู้โชคร้ายในสายตาจิ่งหมิงฮ่องเต้

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เมื่อ​คำ​ว่า​อีกแล้ว​ออกมา​จาก​ปาก​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ละอาย​อยู่​ครู่หนึ่ง

การก​ล่าว​เช่นนี้​ดูเหมือน​จะ​เปิดเผย​บางสิ่ง​ออกมา

ซื่อ​หลาง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​ได้ยิน​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เรียกว่า​เจ้า​เจ็ด​ออกมา​ก็​รู้สึก​มึนงง​ในทันที

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ที่​เพิ่ง​เสด็จ​กลับมา​จาก​ทาง​ตอน​ใต้​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​สิ่ง​นี้​ทำให้​คนใน​วัง​พากัน​จับตามอง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​และ​หลาย​คน​คาดเดา​เกี่ยวกับ​ทัศนคติ​ที่​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​มีต​่อ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​น่าเสียดาย​ก็​คือ​เยี​่​ยน​อ๋อง​มัก​ไม่​ปรากฏตัว​ที่ใด​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​ทำพิธี​ขึ้น​สถาปนา​อย่างเป็นทางการ​ ​ผู้​ที่​เคย​พบเห็น​มี​เพียง​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น

เจ้าหน้าที่​คน​นี้​ก็​คือ​เยี​่​ยน​อ๋อง​อย่าง​งั้น​หรือ

สายตา​ของ​ซื่อ​หลาง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​หันไป​มอง​ทาง​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ด้วย​ความดุร้าย

เจ้า​เจิน​ซื่อ​เฉิง​จงใจ​ทำ​เช่นนี้​กับ​พวกเขา​หรือ​!

“​เสด็จ​พ่อ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ลูก​ไม่ได้​ทะเลาะเบาะแว้ง​กับ​ผู้อื่น​ ​ลูก​เพียงแค่​ช่วย​คน​”​ ​อวี​้​จิ​่​นก​ล่า​วอ​อก​มา​อย่างใจ​เย็น

ใน​ตอนนั้น​สายตา​ของ​ทุกคน​มอง​เขา​เป็น​เพียงแค่​เจ้าหน้าที่​ธรรมดา​ผู้​ต่ำต้อย​ ​ไม่ว่า​เขา​จะ​กล่าว​อย่างใด​ก็​ไม่มีใคร​สนใจ​ ​แต่​บัดนี้​ใน​ฐานะ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ที่​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​ ​จึง​ทำให้​เสนาบดี​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​ประหม่า​ขึ้น​มา​ใน​ทันใด

อวี​้​จิ​่น​เล่า​ขึ้น​อย่าง​ไม่​เร่งรีบ​ ​“​ลูก​กำลัง​เดินทาง​ผ่าน​ไป​ที่​ตรงนั้น​ ​แต่กลับ​พบ​ว่า​บุตรชาย​ของ​ท่านเ​เม​่​ทัพ​ชุย​ ​บุตรชาย​ของ​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​บุตรชาย​ของ​ไท่​ผิงปั​๋​วกำ​ลัง​สั่ง​ให้​บ่าว​รับใช้​เข้า​โจมตี​รถม้า​ของ​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​ ​ทำให้​แม่นาง​ที่นั่ง​อยู่​บน​รถม้า​ตกอกตกใจ​เสีย​จน​หน้าซีด​เสียว​ ​กลางวันแสกๆ​ ​ท่ามกลาง​ใต้​หล้า​ฟ้า​เขียว​ซึ่ง​ปกป้อง​ดูแล​โดย​ฮ่องเต้​เช่นนี้​ ​บริเวณ​ที่​ไม่​ไกล​ออก​ไป​จาก​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​กลับ​มี​คน​กล้า​ดี​เข้ามา​รังแก​หญิงสาว​อย่างโจ่งแจ้ง​ ​เสด็จ​พ่อ​ขอรับ​ ​จะ​ให้​ลูก​เพิกเฉย​ต่อ​สถานการณ์​เช่นนี้​โดย​ไม่​ทำ​อะไร​เลย​หรือ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​พยักหน้า​รับรู้​ช้าๆ​ ​หาก​นี่​คือ​เรื่องจริง​ ​แน่นอน​ว่า​จะ​นิ่งดูดาย​ไม่ได้

ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​เห็น​สีหน้า​แววตา​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ดังนั้น​ก็​รู้​ได้​ว่า​ชีวิต​กำลังจะ​หาไม่​ ​แต่​ในเวลานี้​ต่อให้​พวกเขา​ต้องการ​จะ​ถอย​หนี​ก็​คง​ไม่ได้​ ​หากว่า​รับรู้​ถึง​ตำแหน่ง​ตัวตน​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​แล้ว​กลับ​ทำท่า​ทาง​หวาดกลัว​ละ​ก็​ ​คงจะ​ทำให้​ฮ่องเต้​รู้สึก​ว่า​ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ชอบ​รังแก​ผู้คน​ที่​อ่อน​กว่า

ใน​ยุคสมัย​นั้น​ใน​วัง​ขุนนาง​สามารถ​โต้เถียง​กับ​ฮ่องเต้​ได้​ ​หากว่า​ขุนนาง​รู้สึก​ว่า​ตน​มีเหตุผล​เพียงพอ​ก็​สามารถ​เอ่ย​เหตุผล​ออกมา​กับ​ฮ่องเต้​ได้​เช่นกัน

บัดนี้​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​ได้​ส่งสัญญาณ​ขยิบตา​ให้​แก่​ไท่​ผิงปั​๋ว​ ​ไท่​ผิงปั​๋ว​เอง​ก็​นับว่า​เป็น​ดุจ​ญาติ​ ​เนื่องจาก​ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​กลับ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​เรื่องราว​ใน​วันนี้​เรียก​ได้​ว่า​เป็นเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ ​ดังนั้น​หากว่า​ซื่อ​หลาง​กรม​พิธีการ​เป็น​คน​เอ่ยปาก​ขึ้น​มา​เอง​น่าจะ​สะดวก​กว่า

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ใน​ครานั้น​บุตรชาย​ของ​ข้ามิ​ได้​เข้าไป​รังแก​จู่โจม​แม่นาง​ผู้​นั้น​เลย​ ​เพียงแต่​พบ​ว่า​คุณชาย​ชุย​อี้​ ​บุตร​ของ​องค์​หญิง​หรง​หยาง​ถูก​ม้า​ที่​กำลัง​ตื่นตระหนก​โจมตี​อยู่​ ​จึง​ได้​เรียก​ให้​บ่าว​รับใช้​เข้าไป​ช่วยเหลือ​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ได้​เล่า​ว่า​กลับ​ถูก​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทำร้าย​ทุบตี​เช่นนี้​ ​ขอ​ทรงโปรด​ให้ความเป็นธรรม​กับ​พวกเรา​ด้วย​”

“​ม้า​ที่​ตื่นตระหนก​อยู่​งั้น​หรือ​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เอ่ย​คำ​นั้น​ย้ำ​ออกมา​อีกครั้ง

เจิน​ซื่อ​เฉิง​จึง​ได้​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​ม้า​ตัว​นั้น​กระหม่อม​ก็ได้​นำมา​ด้วย​ ​บัดนี้​ผูก​เอาไว้​กับ​ต้น​หลิว​ด้านนอก​พระราชวัง​ ​หากว่า​ทรง​ต้องการ​จะ​ให้​ไป​นำมา​…​”

“​ไม่จำเป็น​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​กระตุก​ริมฝีปาก​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ม้า​ตัว​นั้น​ตื่นตระหนก​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​ ​ใต้เท้า​เจิน​พามั​นมา​ที่นี่​ได้​มัน​ไม่​ทำร้าย​ผู้ใด​หรือ​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​เอา​มือขึ้น​ไป​สัมผัส​เครา​ยาว​ของ​ตน​อย่าง​ไม่รู้​ตัว​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​มัน​เป็น​เพียง​ม้า​แก่ตัว​หนึ่ง​ ​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​จู่ๆ​ ​จึง​ได้​เกิด​บ้าคลั่ง​เช่นนั้น​ ​แต่​ตอนที่​กระหม่อม​เห็น​มัน​ ​เจ้า​ม้า​แก่ตัว​นั้น​ช่าง​อ่อนโยน​มาก​เหลือเกิน​ ​ดูเหมือนว่า​มัน​จะ​หลั่ง​น้ำตา​ออกมา​ด้วย​ความตกใจ​เสียด​้วย​ซ้ำ​เนื่องจาก​มี​ผู้คน​มากมาย​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จินตนาการ​ถึง​ภาพ​ม้า​แก่​ที่​มีน​้ำ​ตา​ไหลริน​ ​ก็ได้​พยายาม​เกร็ง​ริมฝีปาก​เอาไว้​ไม่​ให้​หัวเราะ

อวี​้​จิ​่​นก​ล่าว​ขึ้น​ขัดจังหวะ​ว่า​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​การ​ที่​ม้า​แก่ตัว​นี้​ได้รับ​ความ​ตกอกตกใจ​เสีย​จน​ทำร้าย​ผู้คน​ให้​บาดเจ็บ​ได้​นั้น​ ​ก็​คง​หมายความว่า​ชุย​อี้​และ​คนอื่นๆ​ ​ก้าวร้าว​ยิ่ง​ ​ด้วย​สถานการณ์​เช่นนั้น​ ​การ​ที่​ลูก​ยื่นมือ​เข้าไป​ช่วยชีวิต​แม่นาง​คน​นั้น​เอาไว้​ ​เป็นเรื่อง​ที่​สมควร​มิใช่​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​แม้ว่า​ใน​ตอนนั้น​เยี​่​ยน​อ๋อง​อาจจะ​เข้าใจ​สถานการณ์​ผิด​ไป​ ​แต่​ก็​ไม่​ควรจะ​ทำให้​บุตรชาย​ของ​เรา​ทั้งหลาย​ต้อง​บาดเจ็บ​ถึง​เพียงนี้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​ชี้​ไป​ยัง​บุตรชาย​ของ​ตน​ที่​จมูก​บวม​ช้ำ​ ​ก่อน​จะ​กล่าว​ออกมา​อย่าง​ปวดร้าว​ว่า​ ​“​ราชวงศ์​ต้า​โจว​ของ​เรา​นั้น​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​มารยาท​เป็น​ที่สุด​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ ​หาก​ใช้กำลัง​ใน​การ​ตัดสิน​จะ​ไม่​กลายเป็น​เรื่องตลก​หรือ​ ​ควรจะ​ถาม​ให้​ชัดเจน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ลงมือ​จัดการ​จึง​จะ​ถูก​”

ไท่​ผิงปั​๋​วก​็​กล่าว​ขึ้น​เช่นกัน​ว่า​ ​“​นั่นสิ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​บุตรชาย​ของ​พวกเรา​นั้น​ได้รับบาดเจ็บ​เพียง​เล็กน้อย​ ​แต่​บุตรชาย​ของ​แม่ทัพ​ชุย​ถึงกับ​ขา​หัก​ ​เขา​ยัง​อายุ​น้อย​นิด​ ​หากว่า​ในอนาคต​พิการ​ขึ้น​มา​ละ​ก็​ ​อีกทั้ง​หาก​รอ​ให้​องค์​หญิง​หรง​หยาง​เดินทาง​กลับมา​…​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ไม่มี​ความสุข​ขึ้น​มาทัน​ใด

บุตรชาย​ของ​ทุกคน​เป็น​เช่น​สมบัติ​ที่​ต้อง​ทะนุถนอม​ ​แล้ว​บุตรชาย​ของ​เขา​เกิด​มาจาก​ลม​หรือ​ไร​!

ใน​ตอนแรก​ ​ไท​เฮา​เป็น​ผู้นำ​เรื่องราว​วุ่นวาย​เหล่านี้​มาแจ้ง​ ​จากนั้น​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋​วก​็​เดินทาง​มา​พากัน​ใส่ร้าย​ตำหนิ​บุตรชาย​เขา​ ​แม้กระทั่ง​บัดนี้​ยัง​หยิบยก​หรง​หยาง​มา​ข่มขู่​อีก​ ​เฮ้อ​ ​เป็น​เพราะ​ทะเลาะเบาะแว้ง​กัน​แล้ว​บุตรชาย​ของ​เขา​ไม่​แพ้​ ​จึง​กลายเป็น​ความผิด​ของ​บุตรชาย​เขา​งั้น​หรือ​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​เป็น​เพราะ​บุตรชาย​ของ​คน​พวก​นั้น​ไร้ความสามารถ​ต่างหาก

เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​รู้สึก​ภาคภูมิใจ​ขึ้น​มา

แต่​การ​เป็น​ฮ่องเต้​จะ​ต้อง​มี​ความสามารถ​ใน​การอด​ทน​ ​ไม่ว่า​ใน​ใจ​จะ​คิด​อย่างไร​อยู่​ ​แต่​จะ​แสดง​สีหน้าท่าทาง​ออกมา​ว่า​โกรธ​เกลียด​เศร้าโศก​หรือ​ยินดี​ไม่ได้

ดังนั้น​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋​วจึง​ไม่​อาจ​คาดเดา​ความคิด​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้​ ​ทั้งสอง​คน​พากั​นอื​อออ​ ​ต้องการ​ให้​เยี​่​ยน​อ๋อง​ได้รับ​บทเรียน

เมื่อ​อวี​้​จิ​่น​ได้ยิน​ทั้งสอง​คน​กล่าว​ออกมา​อย่างกระฉับกระเฉง​เช่นนั้น​ ​ก็​ไม่ได้​โต้เถียง​สิ่งใด​ ​ทำได้​เพียง​ก้มหน้า​นิ่งเงียบ​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เหล่​ตาม​อง​ดู​อวี​้​จิ​่น​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​รู้สึก​ไม่พอใจ​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​เป็น​ที่สุด​ ​พวกเขา​กำลัง​เล่นงาน​เจ้า​เจ็ด​เพราะ​คิด​ว่า​บุตรชาย​ของ​ตน​ไม่มีใคร​คอย​สนับสนุน​อยู่​เบื้องหลัง​งั้น​หรือ​ ​กำลัง​คอย​ดู​ว่า​เขา​เป็น​ถึง​ฮ่องเต้​ ​ควรจะ​ต้อง​ใช้​ความยุติธรรม​ใน​การ​ตัดสิน​ระหว่าง​เชื้อพระวงศ์​และ​ข้าราชบริพาร​หรือ​ ​แล้ว​ผู้ใด​จะ​คอย​สนับสนุน​บุตรชาย​เขา​เล่า​!

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยิ่ง​คิด​ยิ่ง​ไม่พอใจ​ ​ท่ามกลาง​ความกดดัน​และ​เก็บ​กลั้น​เช่นนี้​ ​ท้ายที่สุด​แล้ว​เขา​จึง​ได้​กระแอม​ออกมา

ทำให้​ชั่ว​วินาที​นั้น​เงียบ​ลง​ทันใด

“​บ้านเมือง​มี​กฎ​มี​เกณฑ์​ ​เรื่อง​นี้​ในเมื่อ​ใต้เท้า​เจิน​เป็น​คนรับ​เรื่อง​มา​ ​ก็​จง​ไป​จัดการ​ต่อ​เถิด​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​ใต้เท้า​เจิน​จะ​สามารถ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​อย่างเป็นกลาง​”

ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​และ​ไท่​ผิงปั​๋ว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ไม่​พึงพอใจ

ท่าทาง​และ​ทัศนคติ​ของ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เป็น​อย่างไร​ช่าง​ชัดเจน​เหลือเกิน​ ​หาก​ส่ง​ให้​เขา​จัดการ​ต่อ​ ​บุตรชาย​ของ​ตน​คงจะ​ถูก​ทำร้าย​โดย​เปล่าประโยชน์​เป็นแน่​!

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​มอง​ไป​ทาง​ไท่​ผิงปั​๋​วอ​ย่าง​ไร้ค​วาม​อดทน​ ​และ​เอ่ย​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​จัดการ​ตามนั้น​ ​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​เด็ก​ๆ​ ​จะ​ต้อง​ส่ง​ให้​แก่​สำนัก​กฎหมาย​จัดการ​หรือ​ ​แม้​ท่านปั​๋ว​ไม่​กลัว​จะ​อับอายขายหน้า​ ​แต่​ข้า​กลัว​จะ​ขายหน้า​ยิ่งนัก​”

เมื่อ​ประโยค​นี้​ถูก​กล่าว​ออกมา​ ​ไท่​ผิงปั​๋ว​และ​ซื่อ​หลาง​แห่ง​กรม​พิธีการ​ก็​ตกตะลึง

การ​ที่​ฮ่องเต้​กล่าวว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทำให้​เขา​อับอายขายหน้า​ ​หาก​มอง​จาก​อีก​มุม​หนึ่ง​แล้ว​นั้น​ก็​คือ​ฮ่องเต้​เป็นห่วง​เป็น​ใย​ ​ให้ความสำคัญ​กับ​องค์​ชาย​คน​นี้​มาก

เมื่อ​ทั้งสอง​คิดได้​ดังนั้น​ ​เหงื่อ​อัน​เยือกเย็น​ก็​ไหล​ลงมา​เป็น​ทาง

พวกเขา​ประมาท​กัน​เกินไป​ ​เดิมที​ทั้งสอง​คิด​ว่า​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ผูกพัน​หรือ​ให้ความสำคัญ​กับ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​ ​อย่างไร​พ่อ​ลูก​ยังคง​เป็น​พ่อ​ลูก​ ​เมื่อ​ทั้งสอง​ตระหนัก​ได้​ถึง​ส่วน​นี้​จึง​ได้​นิ่งเงียบ​ไป​ทันที

“​เอาล่ะ​ ​พวก​เจ้า​กลับ​ไปกันได้​แล้ว​”

เมื่อ​พบ​ว่า​อวี​้​จิ​่น​ไม่​ขยับเขยื้อน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จึง​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​ดุดัน​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​ไป​หรือ​!​”

อวี​้​จิ​่น​จึง​ได้​หันมา​โค้ง​คารวะ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​“​เสด็จ​พ่อ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ลูก​ว่า​ควรจะ​ทำให้​ผู้​ตกเป็น​เหยื่อ​ใน​วันนี้​ได้รับ​การ​ปลอบโยน​อย่างแท้จริง​ ​จึง​จะ​สามารถ​แสดง​ความน่าเชื่อถือ​และ​น่าเกรงขาม​ของ​ท่าน​ออกมา​ได้​ ​ไม่เช่นนั้น​สตรี​ผู้​อยู่​ใต้​การปกครอง​ดูแล​ใต้​หล้า​นี้​จะ​กล้า​ก้าว​ขาออก​ไป​ที่​ถนน​อีก​หรือ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จึง​นึก​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ได้​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​สตรี​ผู้​นั้น​อยู่​ใน​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​หรือ​”

“​ทูล​เสด็จ​พ่อ​ ​ใน​วันนี้​ผู้​ที่​ตกเป็น​เหยื่อ​ก็​คือ​คุณหนู​สี่​แห่ง​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​ ​เมื่อคืนนี้​พี่ชาย​ของ​นาง​ตกลง​ไป​ใน​น้ำ​ ​วันนี้​จึง​ได้​ถูก​ทาง​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​เรียกตัว​เข้าไป​สอบถาม​ ​คุณหนู​สี่​แห่ง​ตระกูล​เจียง​ไม่ไว้ใจ​ ​จึง​ได้​นั่ง​รถม้า​ไปร​อรับ​พี่ชาย​ที่​หน้า​ประตู​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​พบ​เข้ากับ​เรื่อง​เช่นนี้​…​”

เมื่อ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้ยิน​ว่า​เป็นคุณ​หนู​สี่​แห่ง​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​แววตา​ก็​เป็นประกาย

อืม​ ​เขา​จำ​แม่นาง​ผู้​โชคร้าย​นี้​ได้ดี​ ​เป็น​แม่นาง​คนที​่​ถูก​ยกเลิก​สัญญา​หมั้น​หมาย​ ​เนื่องจาก​คุณชาย​สาม​แห่ง​จวน​อันกั​๋​วกง​ยืนกราน​ที่จะ​ใช้ชีวิต​ร่วมกับ​หญิงสาว​ธรรมดา​นาง​นั้น​มิใช่​หรือ

เดิมที​เขา​ต้องการ​ที่จะ​ตกรางวัล​ให้​แก่​แม่นาง​ผู้​นี้​สักหน่อย​ ​เพียงแต่​ยัง​หา​โอกาส​ที่​ดี​และ​เหมาะสม​ไม่ได้​ ​จึง​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​สนิท​ ​บัดนี้​เมื่อ​เจ้า​เจ็ด​กล่าว​ขึ้น​ ​คาด​ว่า​คงจะ​เป็นจังหวะ​ดีที​เดียว

อืม​ ​เช่นนั้น​ก็​ตกรางวัล​แม่นาง​ผู้​โชคร้าย​นี้​ด้วย​หยก​สมปรารถนา​สัก​ชิ้น​ ​ไม่แน่​ว่านับ​จากนี้​นาง​อาจจะ​โชคดี​ขึ้น