บทที่ 280 เพิ่มค่าประสบการณ์

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 280 เพิ่มค่าประสบการณ์

การมีส่วนร่วมของทีมกู้ภัยขององค์การอนามัยโลกทำให้แผนการของไป๋เยี่ยมีความคืบหน้ามาก

ยิ่งไปกว่านั้น คนกลุ่มนี้ยังมีความเป็นมืออาชีพทั้งในด้านการดูแลผู้ป่วยการรวบรวมเคสเพื่อทำวิจัย

ทุกๆ วันจะมีการส่งข้อมูลจำนวนมากไปให้ไป๋เยี่ย ซึ่งปกติแล้วไป๋เยี่ยจะวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นในตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันเขาจะเข้าผ่าตัด

งานทั้งสองส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ผลการวิเคราะห์จำนวนมากจะถูกตีกลับมาให้ไป๋เยี่ยวิเคราะห์ผลลัพธ์งานวิจัยออกมา หลังจากที่ผ่านการประมวลผลโดยไป๋เยี่ยแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ก็จะกลายถูกนำไปใช้ในภาคปฏิบัติต่อไป

เวชศาสตร์ฉุกเฉินเป็นสาขาวิชาที่กว้างมากสาขาหนึ่ง ซึ่งไป๋เยี่ยหวังว่าเขาจะใช้ประเทศเมียนมาเป็นเวทีในการพัฒนาองค์ความรู้เวชศาสตร์ฉุกเฉินให้สมบูรณ์ก่อนที่จะเดินทางกลับ

การทำวิจัยและการลงมือปฏิบัติล้วนเป็นกระบวนการที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ตัวอย่างก็เช่นภารกิจที่ไป๋เยี่ยกำลังมีส่วนร่วมอยู่ตอนนี้

เวชศาสตร์ฉุกเฉินนั้นครอบคลุมองค์ความรู้จากหลากหลายแขนง เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนคนเดียวจะวิเคราะห์รายละเอียดปลีกย่อยออกมาได้

จึงมีการแบ่งเป็นสาขาวิชาย่อยออกมาหลายแขนง เช่น สาขาศัลยกรรมฉุกเฉิน สาขาโรคหัวใจฉุกเฉิน สาขาผ่าตัดสมองฉุกเฉินและการกู้ภัย…นอกจากนี้ยังมีสาขาศัลยกรรมกระดูกฉุกเฉินที่ทีมของอาคามอสกำลังวิจัยอยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้ไป๋เยี่ยรู้สึกว่าศักยภาพของเขาเองก็มีจำกัด เขาคิดว่าถ้าเขายังดันทุรังใช้วิธีการผ่าตัดเดิมๆ ต่อไป ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ

หมายความว่าอย่างไร

ก็เหมือนกับการอ่านหนังสือ ครั้งแรกที่คุณอ่านหนังสือเล่มนั้นจะได้รับค่าประสบการณ์หนึ่งร้อยแต้ม เมื่อหยิบมันขึ้นมาอ่านครั้งที่สองก็จะได้แค่เก้าสิบแต้ม ครั้งที่สามก็อาจจะแค่ห้าสิบแต้ม…แล้วก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับทักษะภาคปฏิบัติ ไป๋เยี่ยสัมผัสได้ว่าเขาผ่าตัดแบบเดิมๆ มากเกินไป พอถึงจุดหนึ่งค่าประสบการณ์ที่ได้รับกลับน้อยลงเรื่อยๆ

ทำให้ค่าประสบการณ์ทักษะการแพทย์ฉุกเฉินของไป๋เยี่ยยังคาอยู่ที่เลเวลหก 60915/100000

ยังขาดค่าประสบการณ์อีกประมาณ 40000 แต้มถึงจะอัปขึ้นเลเวลเจ็ดได้ ทำให้ไป๋เยี่ยเริ่มมีความคาดหวังมากขึ้นไปอีก เลเวลห้าคือระดับอาจารย์ พอขึ้นเลเวลหกก็จะเป็นระดับปรมาจารย์ และเลเวลเจ็ดก็จะเป็นระดับดาวเคราะห์นั่นเอง

หากอิงตามคำแนะนำของระบบแล้ว

[เลเวล 5 ระดับอาจารย์ แตกฉานในศาสตร์ที่กำลังศึกษาจนสามารถสร้างแนวคิดของตนเองได้]

[เลเวล 6 ระดับปรมาจารย์ สามารถสร้างแนวคิดที่มีอิทธิพลกว้างขวาง]

[เลเวล 7 ระดับดาวเคราะห์ ส่งเสริมกระแสการพัฒนาของโลกจนสามารถสร้างยุคสมัยและตำนานบทใหม่ขึ้น]

ดังนั้นหากวิเคราะห์จากสถานการณ์ปัจจุบันโดยละเอียดแล้ว ทักษะเลเวลห้าจะเทียบเท่ากับแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ระดับประเทศ ในขณะที่ทักษะเลเวลหกจะเทียบเท่ากับแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ระดับโลก ส่วนทักษะเลเวลเจ็ดนั้นจะเป็นแนวทางที่ช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและสถานภาพของสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินในปัจจุบัน

อาจกล่าวได้ว่าแนวทางดังกล่าวจะมีอิทธิพลกว้างขวางและมีความสำคัญมาก

เพราะฉะนั้นการจะไปถึงเลเวลเจ็ดได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่ยาก

แม้ว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยจะมีค่าประสบการณ์เลเวลหกอยู่ที่หกหมื่นแต้มแล้ว แต่ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับกลับลดลงเรื่อยๆ ค่าประสบการณ์ที่มาจากองค์ความรู้เก่าๆ ก็เริ่มมีค่าน้อยลง ทำให้ไป๋เยี่ยเริ่มรู้สึกว่าหลังจากที่เขาได้รับค่าประสบการณ์ถึงเจ็ดหมื่นแต้ม อีกสามหมื่นแต้มที่เหลืออยู่ก็คงจะพึ่งพาความรู้ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันไม่ได้แล้ว

หากต้องการความก้าวหน้าก็ต้องทำการทดลอง ศึกษาความรู้และระบบใหม่ๆ ให้มากขึ้นจึงจะไปถึงเลเวลเจ็ด

ระหว่างที่ไป๋เยี่ยกำลังกังวลเรื่องวิธีพัฒนาตนเองอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ค้นพบเรื่องดีๆ เรื่องหนึ่ง!

นั่นคือหลังจากที่เขามอบหมายงานให้กับกลุ่มต่างๆ และได้รับการรายงานผลการวิจัยและการเปรียบเทียบแล้ว ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการวิเคราะห์ผลลัพธ์เหล่านั้นก็พุ่งกระฉูด

สิ่งนี้ทำให้ไป๋เยี่ยรู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที!

หมายความว่าต่อไปก็แค่แบ่งงานให้กลุ่มต่างๆ แล้วก็ไม่ต้องลงมือทำอะไรอีกเลยเหรอ แค่นั่งรอให้ค่าประสบการณ์ลอยมาก็พอแล้วสินะ!

ทว่าเช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยกลับค้นพบปัญหาบางอย่าง นั่นคือไม่ใช่ทุกกลุ่มที่จะเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ไป๋เยี่ยได้

มีเพียงผลการวิจัยที่มาจากกลุ่มที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเท่านั้นที่จะเพิ่มค่าประสบการณ์ให้เขา

นั่นหมายความว่าอย่างไร

หมายความว่ามีเพียงไป๋เยี่ยเท่านั้นที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ๆ ให้กับผู้คนเหล่านั้น หลังจากที่พวกเขาได้ทำการวิจัยและทดลองจากนั้นก็นำผลลัพธ์ที่ได้ไปประมวลผลแล้ว ไป๋เยี่ยก็จะได้รับค่าประสบการณ์จำนวนค่อนข้างมากจากการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว

สิ่งนี้ทำให้ไป๋เยี่ยเริ่มหันมาสนใจการฝึกอบรมสมาชิกในฐานรักษาพยาบาลแห่งนี้ เขานำวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ที่ได้จากทักษะการแพทย์ฉุกเฉินเลเวลหกมาสรุปรายละเอียดต่างๆ จากนั้นก็นำไปสอนทีมกู้ภัยแต่ละกลุ่ม รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมาด้วย

ด้วยเหตุนี้ ไป๋เยี่ยจึงได้เปิดตัวกิจกรรมพิเศษ ซึ่งก็คือการอบรมนั่นเอง

ไป๋เยี่ยจะบรรยายเนื้อหาอย่างเข้มข้นตามสถานการณ์ของแต่ละกลุ่ม และพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นด้านนวัตกรรมต่างๆ

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีๆ ทีมกู้ภัยอย่างยิ่ง ต้องรู้ว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยคือคนที่มีความรู้เชิงลึกด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินมากที่สุดในบรรดาผู้คนที่นี่

การบรรยายของไป๋เยี่ยจึงช่วยเปิดโลกและทำให้ทุกคนตื่นรู้

ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนต่างตั้งตารอมากที่สุดในทุกวันก็คือการบรรยายของไป๋เยี่ย เพราะฉะนั้นช่วงนี้ไป๋เยี่ยจึงไม่ค่อยรับผิดชอบในส่วนการผ่าตัดเท่าไหร่ กลับกัน เขาก็ได้ให้โอกาสบรรดาผู้คนที่มีความสามารถเข้ามาทำการผ่าตัดเพื่อที่จะได้ปรับปรุงตนเองให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

ยกตัวอย่างเช่นหลิวเสี่ยวกัง ปัจจุบันทักษะด้านการศัลยกรรมกระดูกของเขาจะยกระดับขึ้นมาอีกขั้นแล้ว หากนับเป็นเลเวล ไป๋เยี่ยก็คิดว่าถึงแม้ทักษะของหลิวเสี่ยวกังจะยังไม่ถึงเลเวลสี่ แต่ก็ยังขาดค่าประสบการณ์อีกไม่เยอะนัก

ตอนนี้หลิวเสี่ยวกังลงมือผ่าตัดได้ด้วยตนเอง อีกทั้งทักษะกายภาพบำบัดของเขายังพัฒนาขึ้นมากด้วยคำแนะนำจากไป๋เยี่ย

ช้าเร็วนี้เขาจะต้องกลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ในวงการศัลยกรรมกระดูกแน่นอน

เช่นเดียวกับซ่งเจี๋ย ถึงแม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญการผ่าตัดบริเวณทวารหนักแต่ระหว่างการกู้ภัยครั้งนี้เขาก็รับผิดชอบในส่วนของการเย็บและการล้างแผลเป็นส่วนใหญ่

ตอนที่ไป๋เยี่ยไปฝึกงานในแผนกทวารหนัก ซ่งเจี๋ยก็คือคนที่มีฝีมือการล้างแผลอันดับต้นๆ ทว่าในตอนนี้เขาก็เริ่มมีความคิดเห็นและองค์ความรู้เป็นของตนเองผ่านการศึกษาหัตถการประเภทต่างๆ

ซ่งเจี๋ยมักจะเข้ามาพูดคุยกับไป๋เยี่ยอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองคนจึงได้รับข้อมูลเชิงลึกในแง่ต่างๆ ซึ่งส่งเสริมแนวคิดของกันและกันได้

ไม่ใช่แค่สองคนนี้เท่านั้น แต่คนอื่นๆ ก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก ทุกคนใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการทำงานหนักและศึกษาหาความรู้จนเหนื่อยล้า

บางทีเมื่อพวกเขากลับประเทศไป พวกเขาก็อาจจะกลายเป็นกระดูกสันหลังและคลังบุคลากรของแวดวงการแพทย์หลังจากที่ได้ผ่านการตกตะกอนและทำความเข้าใจกับองค์ความรู้ต่างๆ มาเป็นระยะเวลาหนึ่งอย่างแน่นอน

ไป๋เยี่ยยังคอยส่งเสริมและชี้แนะให้พวกเขาเผชิญกับความก้าวหน้าอยู่เสมอ

ในทำนองเดียวกัน ความก้าวหน้าของทุกคนก็เป็นเรื่องดีสำหรับไป๋เยี่ยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยี แนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ของทุกคนนั้นช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์จำนวนมากให้กับไป๋เยี่ย

อย่างไรคนยิ่งเยอะก็ยิ่งมีพลัง แต่ท้ายที่สุดแล้วความสามารถของคนเราก็ยังมีข้อจำกัด!