ตอนที่ 80-2 ไม่ต้องการแต่งงานด้วย

หลี่เสี่ยวหรันคิดว่าภรรยาหลวงกําลังจะต่อว่าเขาที่ไม่บอกนางล่วงหน้าเกี่ยวกับเรื่องของหยุนจี่ความรู้สึกกังวลใจจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ฮูหยินใหญ่รู้จักหลี่เสี่ยวหรันเป็นอย่างดี แต่ในขณะนี้ใบหน้าของนางนั้นไร้ความรู้สึก ขณะที่ดวงตาของนางเก็บซ่อนความเจ้าเล่ห์ที่ไม่สามารถสัมผัสได้

“นายท่าน ข้ามีเรื่องสําคัญที่อยากจะกล่าวกับท่าน”

ใบหน้าของหลี่เสี่ยวหันผ่อนคลายและโบกมือเพื่อขอให้คนอื่นถอยห่างออกไปทันที

เมื่อคิดถึงการกําจัดหลี่เว่ยหยาง ฮูหยินใหญ่ก็รู้สึกว่ามีเลือดไหลเวียนที่บริเวณลําคอทําให้กลืน น้ําลายลงคอได้อย่างยากลําบาก

นางเดินไปหาเขาและเงยหน้าขึ้น ขณะที่ใบหน้าของนางเผยให้เห็นถึงความวิตกกังวลในใจ

“สถานการณ์นี้เป็นความรับผิดชอบของข้าเช่นกัน สิ่งนี้ทําให้ข้ารู้สึกผิดมาก แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ข้าจึงจําเป็นต้องบอกความจริงกับท่าน”

เสียงของนางแผ่วเบา โดยแต่ละคํากล่าวมีความเยือกเย็นราวกับน้ําแข็ง

หลี่เสี่ยวหรันขมวดคิ้ว

“อย่าอ้อมค้อม รีบกล่าวมา!”

ฮูหยินใหญ่รู้สึกมีความสุขจนแทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ แต่ใบหน้าของนางกลับแสดงความลังเล ใจที่จะกล่าวออกมา

“เมื่อวานพวกเราไปที่พระตําหนักขององค์หญิงหญิงหนิงเพื่อร่วมงานเลี้ยง

แต่ทันใดนั้นก็มีคนมาแจ้งว่ามีแขกมารอพบท่านแม่ ท่านจึงรีบกลับทันที บังเอิญว่าตอนนั้นข้าก็รู้สึกไม่ค่อยสบายจึงกลับมาพร้อมกัน

เนื่องจากเราทุกคนต้องกลับมาและเป็นการยากที่จะชี้แจงเรื่องนี้กับองค์หญิง เราจึงปล่อยให้หลี่เว่ยหยางและหมินเพื่ออยู่ร่วมงานเลี้ยงต่อ

ในความเป็นจริงท่านแม่คิดว่าเว่ยหยางกับหมินเต๊อคงจะกลับมาเองได้ ดังนั้นท่านจึงมิได้ใส่ใจมากนัก…หลังจากนั้น?”

หลี่เสี่ยวหรันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขระที่ฮูหยินใหญ่แสดงสีหน้าที่รู้สึกผิด

“หลังจากกลับมาแล้วข้าก็รู้สึกปวดหัวมากจึงนอนพักผ่อน ซึ่งข้าคิดว่าหลี่เว่ยหยางและหมินเต๋อคงจะกลับมาด้วยตัวเองได้

ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้มีคนมาแจ้งข้าว่า มีคนพบรถม้าของตระกูลหลี่เราอยู่บนถนน จากนี้ยังมีทหารผู้คุมของเราอยู่ด้านข้างและคนเหล่านี้ทั้งหมดก็ตายไปแล้ว ส่วนที่แย่ไปกว่านั้นคือหลี่เว่ยหยางและหมินเต๋อหายตัวไป…”

คนในรถม้าถูกทําร้าย!

หลี่เสี่ยวหรันรู้สึกได้ถึงสาย น้ําแข็งที่เจาะเข้าไปในสมองของตนเองและรูขุมขนทั้งหมดก็กระชับขึ้น

ร่างกายของเขาไม่เคลื่อน ไหว ขณะที่ริมฝีปากนั้นแข็งเหมือท่อนไม้และไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ได้ เป็นเพราะเขากลัวมากที่สุดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวและยังกังวลว่าเรื่องนี้ จะมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น!

“ผู้ใดกันที่มันกล้าทําเช่นนี้?!”

หลังจากนั้นเขาก็โกรธมากเหมือนหมาปาที่โหดเหี้ยมขณะที่จ้องมองฮูหยินใหญ่ เขาขบฟันและความโกรธยังคงปรากฏออกมาโดยบีบคํากล่าวสองสามคําผ่านฟันออกมา

“ผู้ใดกล้าแตะต้องรถม้าของครอบครัวเรา?”

ฮูหยินใหญ่ไม่เคยเห็นท่าทางที่กล้าแสดงออกเช่นนี้จากหลี่เสี่ยวหรันมาก่อนเลย จึงรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า

“ใช่! คนเหล่านี้ช่างกล้าหาญมาก ไม่เพียงแต่จะทําร้ายทหารที่อารักขารถม้าเท่านั้น แต่พวกเขายังจับหลี่เว่ยหยางและหมิ่นเต่อไปด้วย! สิ่งที่เรากลัวตอนนี้”

“เจ้าหมายถึงอะไร!”

หลี่เสี่ยวหรันคํารามจนดวงตาของเขาแทบจะพ่นเปลวไฟออกมาได้

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนกล้าแตะต้องรถม้าของตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวงและยังลักพาตัวบุตรสาวของเขาไปอีก

แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อหลี่เว่ยหยาง แต่เขารู้สึกว่าสิ่งนี้มันละเมิดอํานาจและศักดิ์ศรีของตนเอง

“ส่งคนออกไปตามหาพวกเขา รีบส่งคนไปพาเว่ยหยางและ

หมินเพื่อกลับมาเดี๋ยวนี้!”

ฮูหยินสามอําลาจากโลกนี้ไปได้ไม่นาน และตอนนี้พวกเขากําลังจะสูญเสียบุตรบุญธรรมของนางไปอีกคน หากผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้ผู้คนทั้งหลายอาจคิดว่าเขามีความโลภในทรัพย์สินของครอบครัวน้องสาม! ดังนั้นพวกเขาต้องหาตัวหมินเพื่อให้พบ!

“ท่านพี่ สิ่งที่สําคัญที่สุดมิใช่สิ่งนี้ ตอนนี้พวกเขาหายไปหนึ่งคืนแล้ว!”

ฮูหยินใหญ่เผชิญหน้ากับการจ้องมองของเขาอย่างไม่เกรงกลัว ขณะที่แสงเหมือนเข็มโผล่ออกมาจากดวงตาของนาง

“ข้ากลัวว่าหลี่เว่ยหยางจะเสียพรหมจรรย์ของนางไปแล้ว!”

หลี่เสี่ยวหวั่นถูกแทงด้วยดวงตาที่เหมือนเข็มเหล่านั้น ซึ่งทําให้เขารู้สึกตกใจมาก ครู่หนึ่งเขาแค่ยืนนิ่งกล้ามโดยกล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มขยับอย่างรุนแรงราวกับว่ามันถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น

ฮูหยินใหญ่สังเกตเห็นว่าเส้นเลือดสีน้ําเงินบนใบหน้าของ หลี่เสี่ยวหรันกําลังจะระเบิดและดิ้นรนเหมือนไส้เดือนถูกขี้เถ้า

จากนั้นความโกรธที่มหึมาก็ค่อย ๆ ฉายออกมาจากดวงตาของเขา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขาโกรธมากเพียงใด ขณะที่ใบหน้าของภรรยาหลวงผู้นี้ดูไม่สบายใจมากขึ้น

“ท่านพี่ หากเรานําตัวเว่ยหยางกลับมา ชื่อเสียงและเกียรติยศของตระกูลหลี่จะต้องมลายหายไปจนหมดสิ้น!”

บุตรสาวของขุนนางใหญ่ผู้หนึ่งหายตัวไปในชั่วข้ามคืน หลี่เสี่ยวหรันอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าตระกูลหลี่จะต้องอับอายขายหน้ามากสักเพียงใด และเพื่อนร่วมงานของเขาจะคิดอย่างไรกับ ตน เอง อีกทั้งจักรพรรดิจะคิดอย่างไรกับเขา!

ทันใดนั้นเขาก็สงบลง ขณะที่ใบหน้าของเขาดูเหมือนว่าจะถูกปกคลุมด้วยชั้นของหน้ากากที่มีเลือดเข้ม

“คํากล่าวของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ประโยคนี้สัมผัสความคิดที่เป็นความลับที่สุดของฮูหยินใหญ่ทันที โดยปกติแล้วนางจะรับบทเป็นมารดาที่จิตใจดีและรอจนกว่านายท่านจะคิดถึงผลที่ตามมาของเหตุการณ์นั้นด้วยตนเอง

จากนั้นนางจึงคิดได้ว่าจะต้องทําตัวเป็นคนดีและส่งหลี่เว่ยหยางไปที่วัดเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นั่น

วิธีนี้จะไม่ทําให้หลี่เสี่ยวหรันสงสัยในความตั้งใจของตนเอง และยังสามารถรักษาภา พลักษณ์ของนางต่อหน้าทุกคนได้อีกด้วย

แต่คราวนี้นางกลับไม่ได้นิ่งเฉยและเอ่ยขึ้นก่อน เป็นเพราะนางต้องการคว้าโอกาสนี้เพื่อประหารหลี่เว่ยหยาง!

แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะคิดถึงเรื่องนี้ แต่ยังคงกลัวว่าหลี่เสี่ยวหนจะรู้สึกสงสัย ทําให้มีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่ในใจของนาง

ดังนั้นจึงพยายามปรับอารมณ์ของตนเองทันที โดยสีหน้านางได้เปลี่ยนไปเป็นโศกเศร้าทันที

“ท่านพี่ ข้ารู้สึกเป็นห่วงเว่ยหยางอย่างแท้จริง นางเป็นเด็กสาวที่ดีมากและยังมิได้หมั้นหมายกับผู้ใด ในอนาคตหากผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้คงมิมีผู้ใดต้องการแต่งงานกับนาง”