ตอนที่ 80-3 ปีศาจร้าย

เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว นางก็เอาผ้าเช็ดหน้าปิดตาราวกับจะแสดงให้เห็นว่าตนเองกําลังกล่าวด้วยความจริงใจ

หลี่เสี่ยวหรันหัวเราะเยาะเย้ยแต่ไม่ได้ยิ้ม โดยปากของเขาอ้าออกบางส่วน แม้ว่าเขาจะคิดว่าฮูหยินใหญ่เสแสร้ง แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่นางกล่าวมานั้นถูกต้อง! เขาจ้องมองนางอย่างขมขึ้นและกล่าวทันทีว่า

“แล้วเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี?”

ฮูหยินใหญ่แสร้งทําเป็นประหลาดใจและกล่าวว่า

“ใช่..ข้าก็รู้สึกกังวลเรื่องนี้มากเช่นกัน ส่งคนไปพาตัวนางกลับมาแล้วเราจะเราจะทําอย่างไรต่อ! ข้าแค่ต้องการให้ท่านพี่เตรียมพร้อม!”

หลี่เสี่ยวหวั่นเกิดอาการตกใจขณะที่ความรู้สึกเย็นเยียบปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาขณะที่โบกมือและกล่าวเสียงดังว่า

“พ่อบ้านรีบสั่งการลงไป!”

เสียงฝีเท้าดังขึ้นทันทีและพวกเขาได้จากไปอย่างรวดเร็ว

หลี่เสี่ยวหรันนั่งลงและดื่มชา ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจและถอนหายใจ

“หากนางไม่รอดชีวิตกลับบ้านมาคงเป็นปัญหาใหญ่!”

ฮูหยินใหญ่ยิ้มเล็กน้อยแล้วรีบซ่อนรอยยิ้มของตนเองเอาไว้และเดินมาเพื่อกล่าวว่า

” ท่านพี่มิต้องกังวล หลี่เว่ยหยางอาจกลับมาบ้านได้!”

หลี่เสี่ยวหนไม่รู้จะกล่าวอะไรในขณะที่เขานั่งเหม่ออยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อกําลังครุ่นคิดถึงมาตรการรับมือก็มีคนเข้ามารายงาน

“คุณหนูสามกลับมาแล้ว!”

หลี่เสี่ยวหรันเฝ้าดูหลี่เว่ยหยางที่ก้างเดินเข้ามาหาอย่างเชื่องช้าด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

ก่อนที่หลี่เว่ยหยางจะเข้ามานางแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและใช้ดอกชบาที่เก็บมาจากสวนสอดของตนเอง

หญิงสาวใช้ดินสอเขียนคิ้วเพื่อวาดคิ้วของนางเบา ๆ ด้วยสีที่อ่อนและเข้ากับสีผิวมากจนยากที่จะมองเห็น นอกจากนี้ยังมีแป้งบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวพร้อมด้วยสีแดงที่กระจายอยู่ทั่วแก้มและริมฝีปากของนาง

เห็นได้ชัดว่านางแต่งหน้า แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่งมันทําให้ดูแล้วรู้สึกสดชื่นและเป็นธรรมชาติ

เพราะหากวันนี้นางไม่แต่งหน้ามันก็จะไม่สามารถปกปิดร่องรอยของความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการอดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืนได้

อย่างไรก็ตามในสายตาของคนอื่น ๆ ต่างก็รู้ดีว่าหลี่เว่ยหยางไม่เคยแต่งหน้า เพราะใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ที่มีชีวิตชีวา

และทั่วร่างกายของนางไม่มีจุดหนึ่งจุดใดที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งมันเป็นเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในตอนเช้าทําให้มีชีวิตชีวาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

หลี่เสี่ยวหวั่นสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าหลี่เว่ยหยางมีปุ่นสีเงินปักอยู่ที่ผมของนาง

โดยปกติเขาจะไม่สังเกตเห็น แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดวันนี้เขาจึงสังเกตเห็นมัน สิ่งนี้ทําจากเงินที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยตรงกลางของปืนถูกตัดให้กลวงทําให้มีรูปร่างเหมือนดอกไม้ที่เป็นของจริง

บนนั้นเป็นดอกไม้สีเงินและดอกตูมที่เป็นรูปหัวใจของดอกไม้ถูกประดับด้วยอัญมณีหลากสีที่เปล่งแสงเจ็ดสีเมื่อถูกส่องกระทบโดยแสงแดด

เมื่อปักอยู่บนศีรษะทําให้รู้สึกราวกับว่ามันกําลังลุกเป็นไฟและเพิ่มความงดงามให้กับหลี่เว่ยหยาง

“เว่ยหยางเจ้ากลับมาแล้วหรือ?!”

ฮูหยินใหญ่ทักทายนางอย่างกระตือรือร้น แต่แววตาที่ชั่วร้ายปรากฏอยู่ในดวงตาของแม่เลี้ยงใจร้ายผู้นี้

หลี่เว่ยหยางสังเกตเห็นแต่แกล้งทําเหมือนว่ารู้สึกหวั่นไหวและรีบตอบว่า

“ท่านแม่ เว่ยหยางทําให้ท่านต้องเป็นห่วง”

“โอ้เว่ยหยาง! ไม่เพียงแต่ข้า

จะรู้สึกกังวลเท่านั้น แต่กําลังจะตายด้วยความกลัว กลัวว่าเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย!”

ปากของฮูหยินใหญ่แสดงให้เห็นร่องรอยของความเป็นห่วงและพิษสงจากดวงตาของนางก็ค่อย ๆ จางหายไป

หากหลี่เว่ยหยางมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ได้รับอันตรายก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอับอายเพราะไปค้างคืนที่อื่น

หลี่เว่ยหยางสะดุ้งและขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความฉลาดของนางจึงสัมผัสได้ถึงความหมายโดยนัยจากคํากล่าวของหญิงผู้นี้

แต่นางก็ยังคงทําท่าไร้เดียงสาและกล่าวโดยไม่มีการป้องกันใด ๆ ว่า

“ท่านแม่ดีต่อข้ามาก เว่ยหยางเองก็คิดถึงท่านมากจนรู้สึกนอนไม่หลับ!”

เดิมที่คิดว่าเด็กสาวจะตกใจ แต่คิดไม่ถึงว่านางจะไม่เปิดเผยร่องรอยใด ๆ ให้เห็นเลย! ฮูหยินใหญ่กัดฟันของตนเองและหัวเราะเยาะ

“สาวใช้กล่าวว่า ทหารองครักษ์ทุกคนที่อยู่กับเจ้าเสียชีวิตและเจ้าถูกจับตัวไป มาให้แม่ดูสิว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”

หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า

“ท่านแม่ เว่ยหยางมิได้รับบาดเจ็บ..ดูสิ!”

หลังจากที่กล่าวจบ นางก็หันกลับมาและกล่าวกับหลี่เสี่ยวหรันอย่างอารมณ์ดีว่า

” ท่านพ่อ เว่ยหยางต้องขอโทษด้วยที่ทําให้ท่านเป็นห่วง”

ฮูหยินใหญ่คิดว่าเด็กสาวแสร้งทําเป็นสงบสติอารมณ์ ดังนั้นจึงยังคงคาดคั้นนางต่อไปอย่างเย้นชา

“เว่ยหยาง หากเจ้ามีความคับข้องใจก็อย่าเก็บกดมันเอาไว้กับตัวเอง บอกแม่มา แม่จะต้องจัดการให้เจ้าอย่างแน่นอน”

ข้องใจหรือ?

หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างเย็นชา ขณะที่จ้องมองไปยังใบหน้าที่น่ารังเกียจของฮูหยินใหญ่และรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะกล่าวกับผู้หญิงที่เหมือนสัตว์ร้ายผู้นี้อีกแล้ว จึงกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า

“ความกังวลของท่านแม่มิมีมูลความจริงเลย เว่ยหยางมิได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย”

ฮูหยินใหญ่มองเข้าไปในดวงตาของลูกเลี้ยง และต้องการที่จะโจมตีต่อไป แต่นางตระหนักได้ว่าดวงตาของหญิงสาวกําลังจ้องมองมาที่ตนเองอย่างเย็นชา

มันรู้สึกเหมือนความหนาวเย็นที่มองไม่เห็น ราวกับว่าเป็นรูปปั้นที่ถูกบูชาในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทําให้คนผู้หนึ่งเกิดความรู้สึกหวาดกลัวได้