ตอนที่ 80-4 โชคดีมาก
ทันใดนั้นหลี่เว่ยหยางก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีออกมาทําให้ฮูหยินใหญ่รู้สึกว่าเสียงหัวเราะของเด็กสาวเหมือนน้ําเย็นไหลเข้าสู่หัวใจของตนเองอย่างกะทันหัน
ผู้เป็นบิดาไม่ต้องการได้ยินฮูหยินใหญ่กล่าวคําเหล่านั้นซ้ําแล้วซ้ําเล่า และต้องการรู้รายละเอียดของเรื่องนี้เพื่อที่เขาจะได้เตรียมการที่เหมาะสมที่สุด!
เป็นไปไม่ได้ที่โจรลักพาตัวจะปล่อยตัวนางกลับมาเอง หลี่เสี่ยวหรันจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เว่ยหยาง เจ้ามิเป็นไรจริง ๆ หรือ? แล้วเจ้ากลับมาได้อย่างไร?”
หลี่เว่ยหยางเข้าใจถึงความหมายของหลี่เสี่ยวหนดี แต่นางไม่ได้ตอบกลับในทันที หญิงสาวทําเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและทําราวกับว่านางกําลังคิดอะไรบางอย่าง
“โอ้! ใช่แล้วท่านพ่อ! วันนี้ท่านอย่าลืมเตรียมของขวัญเอาไว้ด้วยเพื่อขอบคุณองค์ชายเจ็ดและองค์หญิงหย่งหนึ่งในนามของเว่ยหยาง เพราะหากมิได้รับความช่วยเหลือจากทั้งสองพระองค์ เว่ยหยางก็คงมิสามารถูกลับมาได้!”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วการแสดงออกของฮูหยินใหญ่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่หลี่เสี่ยวหรันลุกขึ้นทันทีด้วยใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความประหลาดใจ
“เจ้ากล่าวอะไร?”
หลี่เว่ยหยางเลิกคิ้วและกล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า
“ท่านพ่อห้ามลืมเป็นอันขาด!ไอ้หยาดูสิ! ข้ามัวแต่คุยกับท่านแม่จนลืมเรื่องสําคัญไปเสียสนิท เมื่อวานนี้เราม ทราบว่าคนกลุ่มนี้ที่มาปล้นรถม้าของเรามาจากที่ใด
ทหารองครักษ์พยายามปกป้องหมิ่นเต่อและข้าอย่างหมดหวังเพราะพวกเขามีจํานวนมากกว่า
แต่ทันใดนั้นเองค์ชายเจ็ดได้ผ่านมาพบโดยบังเอิญและยื่นมือเข้ามาช่วยเรา เขาเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง!
หลังจากขับไล่ให้คนร้ายล่าถอยไปแล้ว องค์ชายเจ็ดเห็นว่าหมินเต๋อได้รับบาดเจ็บเขาจึงส่งเรากลับไปที่พระตําหนักขององค์หญิงหย่งหนึ่งเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
โดยองค์หญิงทรงอนุญาตให้เราพักค้างคืนและส่งหมอหลวงมารักษาอาการบาดเจ็บของหมิ่นเต่อ
ข้าโชคดีที่ได้พบผู้ที่มีน้ําพระทัยเมตตาเหมือนดั่งเช่นทั้งสองพระองค์ หากมิใช่เพราะความช่วยเหลือนี้เว่ยหยางก็คงจะมิสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลี่เสี่ยวหวั่นก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“องค์ชายเจ็ดช่วยเจ้าเอาไว้หรือ?”
หลเว่ยหยางพยักหน้า
“และองค์หญิงหญิงหนิงพาเจ้าเข้าไปพักในตําหนักหรือ?”
หลี่เว่ยหยางยังคงพยักหน้า
“ทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือ?”
หลี่เว่ยหยางยิ้มกว้างและกล่าวว่า
“ท่านพ่อสามารถตรวจสอบได้ว่าข้ากลับบ้านมาโดยนั่งรถม้าของหญิงหญิงหนิง!” เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้วนางก็ยิ้มอย่างอ่อนหวานให้ฮูหยินใหญ่
“โชคดีที่ข้ารอดมาได้ หากข้าถูกโจรจับจริง ๆ เว่ยหยางจะกล้ากลับมาได้อย่างไร?
ข้าคงจะต้องจบชีวิตลงเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตนเอง ท่านแม่ข้ากลับมาบ้านแล้วและปลอดภัยดีเหตุใดท่านจึงดูมิมีความสุขเลย”
“ไม่! เป็นไปมิได้! เจ้าต้องโกหกแน่! จะเป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าหายไปทั้งคืนแต่ไม่มีอันใดเกิดขึ้น!”
ฮูหยินใหญ่กล่าวว่าอย่างเสียอาการ
ผู้คนมักกล่าวว่ายิ่งมีความหวังมากเท่าไหร่ความผิดหวังก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ตอนแรกฮูหยินใหญ่คิดว่านางสามารถใช้โอกาสนี้ในการกําจัดหลเว่ยหยางได้อย่างสมบูรณ์
แต่นางไม่คิดว่าหญิงสาวจะยังคงสามารถกลับได้โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ นางช่างโชคดีเสียเหลือเกินซึ่งคนธรรมดาทั่วไปคงจะยอมรับมันได้ยาก!
ใบหน้าของหลี่เสี่ยวหรันเปลี่ยนสีทันที
“เจ้ากําลังกล่าวอันใด! หุบปาก!”
ฮูหยินใหญ่ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ขณะที่สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด และตระหนักว่าตนเองได้สูญเสียภาพพจน์ที่พยายามรักษามานานไปเสียแล้ว
ตอนแรกหลี่เสี่ยวหรันรู้สึกกังวลใจจึงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธเคือง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว
องค์ชายเจ็ดช่วยชีวิตหลี่เว่ยหยางและยังได้พักค้างคืนอยู่ในพระตําหนักขององค์หญิง ซึ่งผลกระทบของข่าวทั้งสองนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าข่าวการหายตัวไปของหลี่เว่ยหยางมากนัก
แต่เขายังคงมีข้อสงสัยเพราะทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ทําให้คนอื่นไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือไม่?
หลเว่ยหยางดูเหมือนจะรู้ว่าเขากําลังคิดอันใดอยู่จึงกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า
“อ้อ! องค์หญิงกล่าวว่า เป็นเพราะงานเลี้ยง ข้าจึงต้องพบกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ พระนางจึงมอบปิ่นปักผมสีเงินนี้เพื่อปลอบใจข้าโดยเฉพาะ
เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้วนางก็ชี้นิ้วไปที่ปิ่นปักผมสีเงินอันทรงคุณค่านั้น
และครั้งนี้หลี่เสี่ยวหรันถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องจริง…มันน่าประหลาดใจมาก! หลังจากนั้นเขาก็จ้องไปที่ฮูหยินใหญ่
ฮูหยินใหญ่รู้สึกประหลาดใจและความขุ่นเคืองในแววตาได้จางหายไปขณะที่ยิ้มอย่างสดใส
“เว่ยหยางเจ้าโชคดีจริง ๆ .. โชคดีมาก”
หลี่เสี่ยวหรันยังคงยิ้มและกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า
“เว่ยหยาง เห็นหรือไม่ว่าท่านแม่ของเจ้ามีความสุขมาก”
ฮูหยินใหญ่ต้องผิดหวังมากที่ครั้งนี้ไม่ได้เห็นความอัปยศและความสูญเสียของเว่ยหยาง หัวใจของนางมีพิษเหมือนร้ายนางร้ายกาจมาก!
“ใช่แล้วเว่ยหยาง! แม่มีความสุขมากเกินไปจนทําอะไรไม่ถูก ยกโทษให้ข้าด้วย
ราวกับว่าฝ่ายถูกยัดเข้าไปในคอของฮูหยินใหญ่เพราะคํากล่าวของนางดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องตื่นตระหนกจนมากเกินไป นี่เป็นโชคดีที่สวรรค์ทรงประทานให้กับข้าจึงมีผู้ใดสามารถทําร้ายข้าได้”
แม้ว่าหลี่เว่ยหยางจะกล่าวอย่างสุภาพ แต่คํากล่าวของนางก็ยังมีการประชดประชันแฝงอยู่อย่างไรก็ตามหลี่เว่ยหยางยิ้มกว้าง คิดหรือว่าคนอย่างเว่ยหยางจะรู้ไม่ทัน!
ดวงตาของหลี่เว่ยหยางมืดมนราวกับน้ําในบ่อขณะที่มองไปยังฮูหยินใหญ่มันเหมือนกับดวงวิญญาณผีร้ายของหุบเขามรณะที่คอยตามหลอกหลอนด้วยเปลวไฟสีน้ําเงิน
หลี่เว่ยหยางกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“แน่นอนว่าครั้งนี้ข้าโชคดีที่มีชีวิตรอดกลับมา หากเมื่อคืนนี้องค์ชายเจ็ดมิผ่านมา…ข้ากลัวว่าตนเองจะต้องตายในป่าและกลายเป็นอาหารของสุนัขไป”