ตอนที่ 81-1 มารดาผู้อบอุ่น
เมื่อได้ยินคําบอกเล่าของหลี่เว่ยหยางแล้วหลี่เสี่ยวหรันก็รู้สึกว่านี่คือความจริง
บอกตามตรงว่าเดิมที่เขารู้สึกว่าการตายของหลี่เว่ยหยางจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลและรู้สึกว่านางโชคร้ายแต่ตอนนี้นับว่านางโชคดีมากที่สามารถรอดชีวิตมาได้
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ หลี่เว่ยหยางสังเกตเห็น
หลี่เสี่ยวหรันไม่ลืมที่จะเอ่ยถามว่า
“ท่านย่าของเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง?”
“ท่านพ่ออย่าได้กังวลใจ เว่ยหยางจะไปรายงานให้ท่านย่าทราบทันที” หลี่เสี่ยวหรันจึงพยักหน้าขณะที่เขาเฝ้าดูหลี่เว่ยหยางจากไป
หลังจากนั้นเขาก็หันร่างของตนเองเพื่อจ้องมองไปยังภรรยาหลวงที่แสนดี และไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะกลายเป็นคนที่ขี้โวยวายและเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่านางเป็นท่านแม่ใหญ่ที่ต้องดูแลความทุกข์และความสุขของผู้คนในบ้านหลังนี้ แต่นางก็พยายามหาวิธีทําให้ลูก ๆ ของนางสนมของเขาเดือดร้อนอยู่เสมอ
หลี่เสี่ยวหรันไม่ได้เรียกร้องให้นางปฏิบัติต่อลูกคนอื่น ๆ ของเขาราวกับว่านางเป็นมารดาที่แท้จริงของเด็กเหล่านั้นแต่อย่างน้อยก็ควรเก็บความอิจฉาริษยาเอาไว้ภายในบ้าง
ซึ่งการได้เห็นนางแสดงความไม่พอใจทําให้เขารู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง
ไม่ว่าหลี่เว่ยหยางจะเป็นอย่างไร เด็กสาวคนนี้ก็ยังคงเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ดี ขณะที่ฮูหยินใหญ่มีความหวังว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง และพยายามใช้โอกาสนี้กําจัดนางซึ่งสิ่งนี้ทําให้เขารู้สึกผิดหวังอย่าง มาก
เขาทําหน้าบูดบึงอย่างเย็นชาและโดยไม่รอให้ฮูหยินใหญ่ อธิบาย ขณะที่กระพือแขนเสื้อและจากไปทันที!
แต่เมื่อเดินไปถึงประตูทันใดนั้นเขาก็หยุด
“อย่าลืมเตรียมของขวัญด้วย!”
ฮูหยินใหญ่ตกตะลึงขณะที่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ก็กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า
“รับทราบ
หลังจากกลับออกมาแล้วหลี่เหว่ยหยางก็รีบไปที่ตําหนักของท่านย่าใหญ่ก่อน เพื่อแสดงความเคารพและเล่าให้ผู้อาวุโสฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นนางก็กลับไปที่ตําหนักของตนเองซึ่งทําให้ไปจ่อรู้สึกผ่อนคลายได้ ในที่สุด
“คุณหนู โชคดีที่ท่านฉลาดจึงตัดสินใจไปหาองค์ชายเจ็ดก่อน เพื่อขอความช่วยเหลือจากเขาเพื่อจัดการทุกอย่าง”
“ฮูหยินใหญ่จะต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอนดังนั้นข้าจะปล่อยให้นางเหยียบย่ําข้าซ้ําได้อย่างไร?”
ตอนนี้หลี่เว่ยหยางได้ยืนยันแล้วว่าการช่วยเหลือหัวเป่าหยก่อนหน้านี้เป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง
หญิงสาวแน่ใจว่า ชายผู้นี้เป็นผู้หนึ่งที่จะตอบแทนผู้ที่ช่วยเหลือเขา ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้
ก่อนกลับมานางอาบน้ําแต่งตัวและเตรียมการอย่างรอบคอบจึงยากที่จะสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติได้
“โดยพื้นฐานแล้ว ฮูหยินใหญ่พยายามที่จะกระทืบซ้ําเมื่อข้าล้มลง…”
“นางเป็นคนเช่นนี้เสมอ…”
ในเวลานี้โม่งูได้รายงานว่า
“คุณหนู, ชิหยินเหนียงมาแล้ว!”
หลเว่ยหยางตะลึง
“ท่านแม่..
“เว่ยหยาง..” ชิหยินเหนียงรีบเข้าไปสวมกอดหลี่เหว่ยหยางแน่นและน้ําตาไหล
หลี่เหว่ยหยางไม่สามารถร้องไห้หรือหัวเราะขณะที่เฝ้าดูมาร ดาที่อ่อนแอ ขณะที่ไม่ทราบว่าจะทําอย่างไรดี
ด้านข้างจึงรีบวิ่งเข้ามาประคองชีหยินเหนียงและกล่าวอย่างระมัดระวังว่า
“หยินเหนียงมิต้องกังวล คุณหนูกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว?”
ดวงตาของชิหยินเหนียงบวมแดงซึ่งเผยให้เห็นว่านางรู้สึกกังวลใจมากเพียงใด และเมื่อได้ยินเรื่องนี้จึงรีบมาหาบุตรสาวทันที
หลี่เหว่ยหยางอธิบายให้นางฟังอย่างอ่อนโยนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและเรื่องราวทั้งหมดที่นางเล่าก็เหมือนกับสิ่งที่นางเล่าให้หลี่เสี่ยวหรันเนื่องจากหญิงสาวไม่ต้องการให้มารดาของนางต้องกังวลใจ
“ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น”
เมื่อได้ยินว่าบุตรสาวไปพักค้างคืนที่ตําหนักขององค์หญิงชิหยินเหนียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เดิมที่นางคิดว่าหลี่เว่ยหยางคงจะกําลังทุกข์ทรมานจากความคับแค้นใจเสียอีก…
ไปจ่อยิ้มและกล่าวว่า
“เดิมที่คุณหนูตั้งใจจะกลับ..”
“แต่เป็นการยากที่จะปฏิเสธความเอื้ออาทรจากองค์หญิง” โม่ฉกล่าวเสริม
หลี่เว่ยหยางเพียงแต่หัวเราะและกล่าวว่า
“อันที่จริงแล้วมันมิมีอันใดมาก แค่องค์หญิงรู้สึกว่าเป็นเพราะการไปร่วมงานเลี้ยงของนางทําให้ข้าต้องเจอ กับประสบการณ์ที่ชอกช้ํานางจึงรู้สึกสงสาร…
เดิมที่เว่ยหยางต้องการส่งคนที่วิ่งมารายงานเรื่องนี้แต่ตอนนั้นมันดึกมากแล้วข้าจึงกลัวว่ามันจะทําให้ท่านย่าและคนอื่น ๆ ตกใจ…”
หลเว่ยหยางกล่าวขณะที่เฝ้าดูความเศร้าที่ยังคงอยู่บนใบหน้าของชิหยินเหนียงขณะที่รู้สึกผิดเล็กน้อย
“มันเป็นความผิดของข้าเองที่ทําให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วง
ชิหยินเหนียงมีน้ําตาในดวงตาของนางพร้อมกับพยักหน้าและยิ้มจากนั้นจึงถอนหายใจออกมาหลังจากแสดงความดีใจ
เมื่อเห็นดวงตาของหลี่เว่ยหยางแดง
มารดาจึงรู้สึกไม่สบายใจ
“เป็นเพราะแม่ไร้สามารถจึงมิสามารถปกป้องเจ้าได้”
คํากล่าวนี้ทําให้ความรู้สึกอบอุ่นไหลผ่านเข้าไปในหัวใจของหลี่เว่ยหยาง
กล่าวตามตรงนางมักจะมีความรู้สึกแปลกแยกต่อใหยินเหนียงแม้ว่านางจะเป็นมารดาผู้ให้กําเนิด แต่นางก็เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้วในชีวิตที่แล้ว
และหญิงสาวไม่ได้รับการเลี้ยงดูมาโดยนาง ดังนั้นความรักระหว่างพวกนางจึงไม่ลึกซึ้ง
ในชาตินี้ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบกับนางอย่างไรดีเพราะไม่รู้ว่านางคิดอย่างไรกับตนเองบ้าง
แต่วันนี้เมื่อเห็นว่ามารดาร้องไห้เพราะตนเองอย่างจริงใจหลี่เว่ยหยางจึงรู้สึกละอายใจกับความแปลกแยกที่มีต่อมารดา
การแสดงออกของมารดาช่างอบอุ่นเหมือนหยกแต่ก็มีความสว่างไสวเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า
“ท่านแม่ ข้าบอกกับท่านแล้วว่า จากนี้ไปข้าจะปกป้องท่านเอง”
เมื่อชิหยินเหนียงได้ยินคํากล่าวของบุตรสาว อารมณ์ของนางจึงมีความรุนแรงขึ้น
“เว่ยหยางอย่าไปต่อต้านฮูหยินใหญ่ นางจะทําร้ายเจ้า”
ตันชิเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและตอนนี้นางไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่เพื่อให้บุตรสาวของตนเองปลอดภัยและแต่งงานได้กับครอบครัวที่ดีจึงพยายามอดทน
ฮูหยินใหญ่เป็นผู้ที่ไร้ความปรานีและมารดาผู้นี้ไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเว่ยหยาง
“ท่านแม่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตเราจะต้องพบกับความพลิกผันอีกนับไม่ถ้วน และมิมีผู้ใดรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
ข้าเลือกเส้นทางนี้แล้ว ไม่ว่าจะต้องพบกับความยากลําบากหรือแม้กระทั่งอันตราย ข้าก็จะมิมีวันถอยกลับเนื่องจากข้าได้เตรียมการเอาไว้อย่างรอบคอบแล้วดังนั้นท่านมิต้องกังวล
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าข้าอยากจะถอย แต่คนอื่นก็ไม่ยอมให้ข้าถอย! ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยและจริงใจมิมีอันใดที่ต้องกลัว…”