บทที่ 284 ลับมีดเพื่อรอเชือดหมูกับแพะ

ฮวาเซียงเซียงเปิดผ้าม่านออก พลางคิดว่าหมู่บ้านตระกูลเฉินจะมีเชลยเพิ่มอีกสองคนแล้ว ทว่าเมื่อออกมาก็เห็นชายที่นั่งอยู่บนหลังม้าถูกเผยยวนลากไปแล้ว

ฮวาเซียงเซียง “???”

ข้าเพิ่งจะวางมาดของเถ้าแก่เนี้ยไปเอง เหตุใดถึงไม่อยู่แล้วเล่า

เวลาอยู่ในตำบลฉาซู่ ฮวาเซียงเซียงยังคงเรียกเผยยวนว่าสามีฮวนฮวนอยู่

นางคว้าตัวเสี่ยวเอ้อแล้วเอ่ยถามขึ้นมา “สามีฮวนฮวนมาถึงตั้งแต่เมื่อใดกัน?”

“เมื่อครู่นี้เองขอรับ เจ้าคนที่ชอบโอ้อวดนั่นเพิ่งจะวางท่าเสร็จ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกสามีแม่นางจี้ลากเข้าไปในตรอกแล้วขอรับ เถ้าแก่เนี้ย พวกเราต้องสนใจหรือไม่ขอรับ?”

ฮวาเซียงเซียงเอ่ยขึ้นมาอย่างดูแคลน “สนใจกับผีน่ะสิ ต้องให้พวกเขาได้รู้ซะบ้างว่าคำว่าเมืองหลวงสำหรับพวกเราแล้วใช้ไม่ได้ผล”

ในตรอก

เอี๋ยนเฉายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเตะเข้าไปในตะกร้าใส่ผักเต็มเปา

เขาตะเกียกตะกายขึ้นมา ก็เห็นเผยยวนที่สวมเสื้อคลุมสีดำยืนอยู่ตรงหน้าเขา เยี่ยมจริง ๆ ไม่ได้เห็นเขามาพักใหญ่ ดูท่าทางแข็งแรงกว่าเดิมเสียอีก

เอี๋ยนเฉาฝืนฉีกยิ้มออกมา “ท่านโหว ช่างบังเอิญจริง ๆ นะขอรับ”

เผยยวนก้มลงมองเขา “เดือนนี้มาส่งเงินเองหรือ?”

เขาไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงดี ทว่าเมื่อพูดขึ้นมาเอี๋ยนเฉาก็อยากจะร้องไห้

ตั้งแต่ลงนามในเงื่อนไขจ่ายเงินเดือนละสองแสนตำลึง ในครอบครัวก็ทะเลาะกันใหญ่โต จะหาเงินมากมายเพียงนั้นมาจากที่ใดกัน ขายร้านค้า ขายที่นา ผลประโยชน์ที่เดิมฉวยมาจากตระกูลเผย กางออกมาทั้งหมดแล้วก็ยังไม่พอ มิหนำซ้ำยังต้องหามาเพิ่มอีกด้วย

“ท่านโหว ท่านอย่ามารีดเลือดกับปูอย่างข้าเลยขอรับ เลือดข้าจะหมดตัวอยู่แล้ว ท่านผ่อนผันให้ข้าอีกสักหน่อยไม่ได้หรือขอรับ ข้าแทบจะอยู่ที่บ้านต่อไปไม่ได้อยู่แล้ว พ่อข้าไล่ข้าออกมา ภรรยาข้าก็หนีกลับบ้านแม่ไปแล้ว”

เผยยวนมองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

เอี๋ยนเฉาอยากจะบีบน้ำตาสักหยดสองหยด แต่ดูท่าทีของเผยยวนแล้วก็ร้องไม่ออก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว สู้แตกหักกันไปเลยดีกว่า

“ท่านฆ่าข้าเถอะ ต่อให้ฆ่าข้าก็ไม่สามารถหามาให้ได้มากกว่านี้ได้แล้ว ท่านทำเช่นนี้ไม่เท่ากับรังแกกันหรือ เหตุใดถึงขูดรีดแค่ข้าคนเดียวเล่า คนอื่นไม่เห็นท่านจะสนใจเลย”

เผยยวนไม่ได้ลืมคนอื่น เพียงแต่เขายุ่งมาก มีเรื่องปะเดประดังเข้ามาไม่หยุด เขามีเวลาว่างไปตามทวงหนี้ที่ใดกัน

“เช่นนั้นเจ้าก็ไปจัดการให้ข้าทีก็แล้วกัน ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปอีก”

เอี๋ยนเฉาคิดว่าเผยยวนจะพูดว่า ‘ข้าจะตามเจ้าคนเดียว’ จึงกำลังจะตะโกนสักประโยคสองประโยค ทว่าเมื่อได้ยินดังนั้นคำที่เตรียมจะตะโกนก็ติดอยู่ในลำคอทันที

“ฮะ?”

“ทำไม? ฟังไม่เข้าใจหรือ? ดูท่างานนี้เจ้าคงไม่อยากทำ”

เอี๋ยนเฉาได้สติขึ้นมา จึงรีบพยักหน้ารับอย่างร้อนรนทันที “ข้าทำขอรับ ข้าจะทำ เจ้าพวกนั้นเมื่อก่อนนับญาติกับข้า! แต่ตอนนี้พอข้ายืมเงินพวกเขามาหมุนนิดหน่อย แต่ละคนกลับทำเป็นแกล้งตายกันไปหมด”

เผยยวนเลิกคิ้วขึ้น “ทำได้อย่างนั้นหรือ?”

“ท่านวางใจได้ ข้าจะถลกหนังของพวกเขาเอง แต่ท่านโหว ท่านมีหลักฐานของครอบครัวเรา แล้วของครอบครัวเจ้าพวกนั้น ท่านบอกข้อมูลให้ข้ารู้บ้างสิขอรับ ไม่อย่างนั้นข้าก็ไปตามลำบากนะขอรับ” เอี๋ยนเฉาเอ่ยถามเป็นนัย ๆ

เจ้าเด็กนี่นับว่าฉลาดไม่เบา รู้ว่าการไม่รู้จุดอ่อนของคนไม่สามารถทำอะไรได้

“เจ้าบอกข้ามาก่อนว่าเจ้ามาตำบลฉาซู่เพราะเหตุใดกัน”

เอี๋ยนเฉาคอตกทันที “ก็เพราะถูกคนที่บ้านไล่ออกมาน่ะสิขอรับ และได้ยินว่าอาหารของตำบลฉาซู่รสชาติไม่เลว ก็เลยจะมาลองชิมของใหม่ ท่านก็รู้ว่าเรือนพักตากอากาศของข้าเดิมก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ว่าแต่เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

เผยยวนไม่ได้ตอบอะไร

เอี๋ยนเฉาจึงเข้าใจได้ทันที “ข้าได้ยินมาว่าท่านสังหารสี่ขุนศึก เป็นเรื่องจริงหรือขอรับ?”

“เจ้าคิดว่าอย่างไร?” เผยยวนมองหน้าเขาคล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

เอี๋ยนเฉาย่นคอลงทันที เขาคิดว่าทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่บ้าระห่ำไปหน่อยก็เท่านั้นเอง เขาไม่กลัวฮ่องเต้จะพิโรธเลยหรืออย่างไร?

เอี๋ยนเฉาลูบคอไปมา เผยยวนอยู่ที่นี่ เช่นนั้นไม่ใช่ว่าไท่ซ่างหวงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอกกระมัง

ดังนั้นเขารู้แล้วว่าควรจะไปรีดไถเงินเช่นไร

ครั้งนี้เขาจะไม่ใช่คนเดียวที่ซวยที่สุดอีกต่อไป! อย่างน้อยก็ต้องให้คนอื่นเป็นเหมือนกับเขาด้วย ถูกถลกหนังด้วยกันถึงจะยุติธรรม!

เมื่อเผยยวนออกมาจากตรอก จี้จือฮวนก็รอเขาอยู่ก่อนแล้ว

เอี๋ยนเฉาชำเลืองมองจี้จือฮวนเล็กน้อย ก่อนดวงตาจะเบิกโพลงขึ้นมา “แม่นางน้อยผู้นี้ช่างดูคุ้นหน้ายิ่งนัก เหมือนเคยพบที่ใดมาก่อน”

เผยยวนมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “เจ้าเคยพบฮูหยินข้าที่ใดกัน?”

เรื่องที่เผยยวนแต่งงานกับจี้จือฮวน เขาก็เพิ่งจะรู้เมื่อครึ่งเดือนก่อน

เดิมทีคิดว่าเป็นสตรีที่น่าเกลียดที่สุด แต่ใครจะไปคิดว่าจะงดงามเพียงนี้ ใครกันที่บอกว่าสตรีที่น่าเกลียดที่สุดในเมืองหลวงคือจี้จือฮวน?

คนที่พูดบ้านไม่มีกระจกหรืออย่างไรกัน?!

เอี๋ยนเฉาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดี หลังจากที่เผยยวนเอ่ยประโยคนี้ออกมา เขาก็ลดสายตาลงทันที

สาวงามแม้ว่าจะงดงาม แต่ว่าชีวิตสำคัญกว่า

“คารวะฮูหยิน ข้าคือเอี๋ยนเฉา…คนที่ติดค้างเงินบ้านพวกท่านคนนั้นน่ะขอรับ”

วิธีการแนะนำตัวที่แยบยลนี้ ทำให้จี้จือฮวนจำเขาได้ในทันที

ติดค้างเงินจำนวนไม่น้อยจริง ๆ แต่ผ่านมาสองเดือนแล้ว เขายังมีเวลามาโอ้อวดที่นี่ได้อีก แสดงว่ายังไม่ได้ยากจน ยังสามารถขูดรีดเงินออกมาได้อีก

เผยยวนจึงเอ่ยอย่างหมดความอดทน “พูดจบแล้วก็ไสหัวไปซะ”

เขาไม่มีเวลาว่างมาคุยเล่นเป็นเพื่อนเจ้าคนผู้นี้ที่นี่

แน่นอนว่าเอี๋ยนเฉาก็อยากจะไปจากที่นี่เต็มที ดังนั้นจึงถอยออกมาอย่างเงียบ ๆ “ข้าขอซื้อของกินก่อนแล้วค่อยไปได้หรือไม่ขอรับ ไหน ๆ ก็มาแล้ว”

“ได้อยู่แล้ว ข้าจะให้คนห่อให้เจ้า”

จี้จือฮวนคิดว่าบางครั้งก็ควรอ่อนข้อให้กับเชลยบ้าง เช่นนั้นเงินจึงจะไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ยังเป็นคนเก็บเงินเองอีกด้วย

เอี๋ยนเฉาได้ยินเช่นนั้น กำลังคิดจะถามว่าฮูหยินมีเส้นสายมาจากที่ใดกัน ได้ยินว่าร้านนี้เข้าหายาก ก็เห็นเผยยวนจ้องเขม็งมาที่ตนราวกับเป็นยมบาล

ไม่ว่าเอี๋ยนเฉาจะมีความอยากรู้อยากเห็นมากเพียงใด ก็ต้องกลืนคำพูดกลับลงไป ก่อนจะหยิบขนมที่จี้จือฮวนมอบให้ และจ่ายเงินเป็นสองเท่าของราคาตลาด เอี๋ยนเฉาออกจากตำบลฉาซู่อย่างสิ้นหวัง แต่เพียงแค่คิดว่าจะไปรีดไถเงินที่เมืองหลวง เขาก็รีบลับมีดเพื่อรอเชือดหมูกับแพะแล้ว

“อาฉือกับสหายยังกินขนมกันอยู่ในร้าน เจ้าจัดการวางกำลังป้องกันกลับมาแล้วหรือ?” จี้จือฮวนปัดฝุ่นที่ติดบนเสื้อผ้าของเขาออก

ดวงตาของเผยยวนอ่อนโยนลง ก่อนจะจับมือนางและพูดขึ้น “จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าเห็นว่าวันนี้ในร้านค้าคึกคักไม่น้อยเลย”

“มีของออกใหม่น่ะ มีแต่คนข้างนอกมาต่อแถวทั้งนั้น เจ้าไปนั่งรอในร้านก่อน อาฉือกับสหายก็อยู่ด้วย เด็กที่ร่าเริงกว่าใครคนนั้น”

“เจ้าจะไปทำอะไรหรือ?” เผยยวนเห็นท่าทางของนางคล้ายมีธุระ

“จางต้าเปียวมีสั่งซื้อเนื้อตุ๋นเพิ่มเข้ามา ครอบครัวท่านป้าหยางตอนนี้ทำเนื้อตุ๋นเป็นแล้ว ข้าเลยจะรับรายการและเอากลับไปให้พวกเขา”

“เช่นนั้นข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

เผยยวนไม่ได้ขี่ม้าไป เขาให้จ้านอิ่งไปที่สวนด้านหลังของเค่ออวิ๋นไหลเอง จากนั้นจึงเดินเคียงข้างจี้จือฮวนไปตามถนน

ตำบลฉาซู่ไม่ใหญ่มากนัก เดิมมีร้านค้าดี ๆ อยู่แค่ไม่กี่ร้าน แต่ตอนนี้เค่ออวิ๋นไหลมีชื่อเสียงแพร่กระจายไปทั่ว จึงมีคนมาจากทั่วทุกสารทิศ ค่อย ๆ ดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากเข้ามาด้วย ทำให้คึกคักกว่าเมื่อก่อนมาก

ทุกคนบนถนนต่างรู้จักจี้จือฮวนและเผยยวนดี มีคนเอ่ยทักทายทุก ๆ สองก้าวที่เดิน

“แม่นางจี้ มาซื้อของอีกแล้วหรือ ร้านข้ามีของดีสดใหม่เข้ามาด้วยนะ”

“ได้ เจ้าเก็บของสดใหม่นั่นไว้ให้ข้า เดี๋ยวข้ากลับมาเลือก”

จี้จือฮวนใจกว้าง เวลาซื้อของขอเพียงเป็นของดี นางจะไม่แสร้งทำว่าไม่อยากจ่ายเงินเด็ดขาด และจะไม่หาเรื่องด้วย แถมยังซื้อจำนวนมากอีกด้วย ใครจะไม่ชอบทำการค้ากับนางกัน อีกอย่างสามีของนางก็หน้าตาหล่อเหลา คมคาย ลูกก็เอาถ่านได้เรียนในสำนักศึกษาชิงอวิ๋นอีกด้วย วาสนากำลังรอนางอยู่ในภายภาคหน้า!

.

.

.