ตอนที่ 445 งานล่าวิญญาณ (1) / ตอนที่ 446 งานล่าวิญญาณ (2)
ตอนที่ 445 งานล่าวิญญาณ (1)
หนิงซินและอิ่นเหยียนนั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกัน เมื่อล้อหมุน หนิงซินก็เหลือบมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างแล้วกล่าวว่า “เจ้าแน่ใจหรือว่าจวินเสียมาแล้ว”
อิ่นเหยียนกล่าวว่า “แน่ใจ ข้าให้คนสังเกตการเคลื่อนไหวของฟ่านจิ่นเป็นพิเศษ แม้ว่าจวินเสียคนนั้นจะมาช้า แต่เขากับฟ่านจิ่นก็ขึ้นรถม้าคันสุดท้ายด้วยกัน”
“โอ้” หนิงซินหันศีรษะกลับมาด้วยความสนใจ บนใบหน้าที่สวยงามของนางมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา “เขาก็กล้ามาจริงๆ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้เจ้าจะทำได้ดีมากที่สามารถทำให้เขาออกมาได้สำเร็จ”
อิ่นเหยียนยิ้มแต่ไม่พูดอะไร แม้ในใจของเขาจะร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธ
เขาไม่สามารถลืมคำพูดที่ศิษย์เหล่านั้นนำกลับมาเล่าให้เขาฟังในวันนั้น
จวินอู๋เสียเรียกเขาว่าสุนัข
มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขากำแน่น และดวงตาของอิ่นเหยียนก็แสดงความโหดเหี้ยมออกมา
ปล่อยให้เขาสบายใจอีกสักสองสามวัน และเมื่อเขาเข้าไปในป่าประลองวิญญาณ เขาจะเข้าใจว่าชีวิตเขาจะไม่สามารถออกจากที่ฝังศพนั้นได้อีก
“แม้ว่าจะมีจวินเสียเป็นตัวถ่วง แต่ความสามารถของฟ่านจิ่นก็ยังคงเห็นได้ชัด ส่งคนไปทดสอบก่อน” หนิงซินพูดอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นนางก็หยุดแล้วกล่าวต่อว่า “ครั้งนี้หลี่จื่อมู่เจ้าคนไร้ประโยชน์นั่นก็มาด้วย ก่อนหน้านี้เขาภูมิใจมาก ครั้งนี้ปล่อยให้เขาไปที่ไปทดสอบก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะไร้ประโยชน์ แต่วงแหวนภูติวิญญาณของเขาถือว่าไม่เลว วงแหวนภูติวิญญาณระดับห้า…หึ มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่อยู่บนตัวเจ้าคนไร้ประโยชน์แบบนั้น”
“ได้ ข้าจะไปบอกเขา ช่วงนี้ศิษย์พี่หนิงไม่ได้พบเขาเจ้าเด็กคนนั้นจึงเริ่มประหม่าขึ้นมานิดหน่อยแล้ว” อิ่นเหยียนแอบซ่อนรอยยิ้มในดวงตาของตัวเอง เขาไม่ชอบเจ้าเด็กคนนั้นมานานแล้ว อยู่ในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณมาตั้งนาน เขาก็ยังไม่เข้าใจพื้นฐานของทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณเลย ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ
คนไร้ประโยชน์แบบนี้ถูกหนิงซินทิ้งไปนานแล้ว
หนิงซินยิ้มเยาะเย้ยแล้วกล่าวว่า “ก็แค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ยังต้องการพบข้าหรือ”
“ใช่แล้ว ในระหว่างทางที่ไปป่าประลองวิญญาณอย่าลืมให้พวกเขาไปทักทายจวินเสียด้วย ดีที่สุดคือทำให้ฟ่านจิ่นออกหน้าปกป้องเขา แบบนี้จึงจะทำให้ชื่อเสียงของเขาตกต่ำขึ้นไปอีก” หนิงซินกำชับอย่างชั่วร้าย
“ขอรับ”
…
ขบวนรถม้าของสำนักศึกษาเฟิงหัวเดินทางมาหนึ่งวันและหยุดในเวลาพลบค่ำ ระยะทางสู่ป่าประลองวิญญาณ พวกเขาเพิ่งมาถึงได้เพียงครึ่งทาง อย่างน้อยก็ต้องเดินทางอีกหนึ่งวันจึงจะถึงป่าประลองวิญญาณ
ทุกคนลงมาจากรถม้า เดินทางมาทั้งวันแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย
กองไฟถูกจุดขึ้น และทุกคนที่เหนื่อยล้ากำลังนั่งอยู่ข้างกองไฟ ทานอาหารร้อนๆ ดื่มน้ำร้อน และพูดคุยกันเป็นกลุ่มๆ
แต่ทันทีที่รถม้าคันสุดท้ายถึงจุดที่พัก และร่างทั้งสองก้าวออกลงมาจากรถม้า ศิษย์ที่อยู่ใกล้ก็ต่างเงยหน้าขึ้นมา สายตาที่แหลมคมต่างมองไปที่ร่างเล็ก
“ถุย คนแบบนี้ยังกล้าอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวได้อีก ข้าไม่ได้เจอเขามานานแล้วเลยคิดว่าเขาน่าจะออกไปแล้ว” ชายหนุ่มสบถด่าเบาๆ
“เขามาทำอะไร เขาไม่รู้หรือว่างานล่าวิญญาณนั้นอันตรายเพียงใด”
“อันตราย นั่นมันสำหรับผู้อื่น ไม่ใช่เขา เจ้าไม่เห็นหรือว่าเขาลงจากรถม้าพร้อมกับใคร นั่นคือ ฟ่านจิ่น อันดับสี่ของศึกประลองภูติวิญญาณ พาเจ้าคนไร้ประโยชน์คนนี้อยู่ในป่าประลองวิญญาณไม่กี่วันก็เหมือนมาเดินเล่นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือหากสามารถล่าสัตว์วิญญาณได้ก็จะได้รับหินวิญญาณ มีฟ่านจิ่นอยู่ เจ้าเด็กคนนี้ก็แค่เดินตามหลังแล้วคอยเก็บหินวิญญาณก็พอ เขาจะไม่มาได้อย่างไร”
“เพราะเหตุใดศิษย์พี่ฟ่านจึงถูกชะตาเจ้าเด็กคนนั้นเยี่ยงนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ไร้ยางอายแต่ศิษย์พี่ฟ่านก็ยังปกป้องเขาอยู่อย่างนั้น”
ตอนที่ 446 งานล่าวิญญาณ (2)
“ใครจะไปรู้” แม้ว่าศิษย์สองสามคนจะพูดดูถูกเหยียดหยาม แต่ในใจของพวกเขากลับอิจฉาจวินอู๋เสียที่มีฟ่านจิ่นคอยปกป้องเป็นอย่างมาก
หลังจากลงจากรถม้า สายตาที่จ้องมองมาไม่มีสายตาคู่ใดเลยที่มีเจตนาดี แต่จวินอู๋เสียก็ไม่ได้สนใจ นางเดินตามฟ่านจิ่นไปที่ข้างกองไฟแล้วนั่งลง
ศิษย์สองสามคนที่นั่งอยู่ข้างกองไฟแสดงสีหน้าไม่พอใจและดูถูกขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นจวินอู๋เสีย
ฟ่านจิ่นพยายามระงับความโกรธอย่างสุดความสามารถที่จะไม่พุ่งเข้าไปซัดคนเหล่านั้น
“เดินทางมาทั้งวันแล้ว เจ้าทานอะไรก่อนเถิด” ฟ่านจิ่นยื่นถุงเนื้อแห้งให้จวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียทานอย่างเงียบๆ และมีเสียงเข้ามาในหูนางไม่หยุด
เมี้ยว~
คนพวกนี้ช่างน่ารำคาญจริงๆ
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร นางทานเอย่างเงียบๆ จนเสร็จ ดื่มน้ำสองอึกแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปพักผ่อนที่รถม้า
เมื่อเห็นจวินอู๋เสียเดินไปแล้ว เสียงพูดคุยก็ยิ่งดังมากขึ้นไปอีก
สีหน้าของฟ่านจิ่นไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องซุบซิบเหล่านั้นแม้แต่เขาก็ไม่สามารถทนฟังได้ เขาไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียทนไปได้อย่างไร เขาก็ไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้อีกจึงทานอย่างรวดเร็วแล้วเดินกลับไปที่รถม้าอีกคน
ในขณะที่เขากำลังจะปลอบใจจวินอู๋เสีย เขาก็พบว่าจวินอู๋เสียได้นอนพิงอยู่บนรถม้าแล้ว ฟ่านจิ่นถอนหายใจเบาๆ แล้วถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกแล้วคลุมลงบนร่างผอมบางของจวินอู๋เสีย เขานั่งตรงข้ามกับนาง เท้าคางแล้วมองไปยังเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่
พูดตามตรง หน้าตาของจวินเสียไม่ได้โดดเด่น แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดฟ่านจิ่นรู้สึกว่าใบหน้าของนางยิ่งมองยิ่งสวย จมูกโด่ง ริมฝีปากแดง และขนตางอนยาวที่อยู่บนตาที่ปิดสนิทอยู่
เมื่อมองไปนานๆ ฟ่านจิ่นก็รู้สึกร้อนเล็กน้อย เขาดื่มน้ำอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกจากรถม้าเพื่อให้ลมยามเย็นพัดความร้อนนั้นออกไป
เจ้าแมวดำนอนอยู่ด้านข้างจวินอู๋เสีย มันหรี่ตามองฟ่านจิ่นที่ลุกลี้ลุกลนออกไป
ถ้าเจ้าปีศาจร้ายนั่นรู้ว่ามีคนเริ่มสนใจเจ้านาย เขาจะไม่ฉีกฟ่านจิ่นให้เป็นชิ้นๆ หรือ
หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน ขบวนรถม้าของสำนักศึกษาเฟิงหัวก็เริ่มออกเดินทางต่อ หลังจากเดินทางติดต่อกันสองวัน ในที่สุดก็มาถึงป่าประลองวิญญาณในตอนกลางดึกของวันที่สอง
พื้นที่ของป่าประลองวิญญาณนั้นกว้างขวางมากจนมองไม่เห็นสุดขอบที่ติดกับพรมแดนของรัฐอื่น สัตว์วิญญาณที่อยู่ในนั้นดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย มีผู้คนมากมายมักจะมาล่าสัตว์วิญญาณที่นี่เพื่อรับหินวิญญาณ
หินวิญญาณที่มีคุณภาพสูงสามารถเพิ่มพลังให้วงแหวนภูติวิญญาณได้ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่หินวิญญาณที่ขุดออกมาจากสัตว์วิญญาณธรรมดาที่ตายนั้นมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าวเท่านั้น ไม่สามารถฝังลงในวงแหวนภูติวิญญาณได้ มีเพียงแต่ล่าสัตว์วิญญาณที่มีระดับสูงจึงจะได้หินวิญญาณที่สามารถนำมาใช้ได้
แม้ว่าจะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่นอกป่าประลองวิญญาณก็ยังมีแสงไฟสว่างไสวมากมาย
กระโจมขนาดใหญ่และเล็กล้อมรอบป่าประลองวิญญาณ และกลุ่มล่าวิญญาณจากทั่วทุกมุมต่างเตรียมพร้อมที่จะเข้าป่าประลองวิญญาณในเช้าวันพรุ่งนี้
เมื่อขบวนรถม้าของสำนักศึกษาเฟิงหัวมาถึงขอบป่าประลองวิญญาณ ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักล่าสัตว์วิญญาณจำนวนมาก ทุกคนรู้จักธงสีเงินขาวนั้น สำนักศึกษาเฟิงหัวหนึ่งในสามสำนักศึกษาชั้นนำ เป็นสถานที่ที่สร้างผู้แข็งแกร่งในใจของทุกคน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจมากที่สุดคือสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณที่มีในสำนักศึกษาเฟิงหัวเพียงแห่งเดียวเท่านั้น!
ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากฝ่ายไหนก็ต่างต้องการหาโอกาสดึงศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณของสำนักศึกษาเฟิงหัวมาให้ได้