ตอนที่ 254 ความคิดตอนเมา

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​ใน​เดือน​แปด​เป็น​เดือน​ฤดูใบไม้ร่วง​อากาศ​สดชื่น​ ​แต่​สำหรับ​ผู้คน​มากมาย​ใน​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​มัน​ช่าง​มืดมน​เหลือเกิน​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กับ​นายท่า​นร​อง​เจียง​และ​ภรรยา

​บุตรชาย​ของ​ตน​มีโอกาส​คว้า​ตำแหน่งจ​วี่​เห​ริน​มา​ได้​ ​แต่​มัน​กลับ​บิน​ล่องลอย​ไป​อย่าง​น่า​ขมขื่น​ใจ​ ​เขา​ต้องการ​ที่จะ​สร้างสถานการณ์​เพื่อให้​บุตรชาย​มีชื่อเสียง​ขึ้น​บ้าง​เล็กน้อย​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​ถูก​เจี่ย​หยวน​คน​ใหม่​ตบหน้า​อย่าง​ไม่​เกรงอกเกรงใจ​ทำเอา​เสีย​จน​หน้า​ชา​เช่นนี้

​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เซียว​ซื่อ​กล่าว​ต่อนาย​ท่าน​รอง​เจียง​อย่าง​ตำหนิ​ว่า​ ​“​หาก​รู้​เช่นนี้​ ​ไม่​ควร​ที่จะ​เผยแพร่​คำตอบ​ของ​ชัง​เอ๋อร​์​ออก​ไป​เลย​ ​ก็​คงจะ​ไม่​ทำให้​ชัง​เอ๋อร​์​ต้อง​ได้รับบาดเจ็บ​ทางจิตใจ​เช่นนี้​…​”

​“​เจ้า​จะ​ไปรู​้​เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​ ​มัน​เป็น​เพียงแค่​อุบัติเหตุ​เท่านั้น​!​”​ ​เดิมที​นายท่า​นร​อง​เจียง​ก็​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เซียว​ซื่อ​กล่าว​เช่นนี้​ก็​ยิ่ง​โมโห​ขึ้นไป​อีก

​เขา​ไม่​คิด​ว่า​ตน​ผิด​อะไร​ที่​ช่วย​สร้างชื่อเสียง​ให้​กับ​ลูกชาย​เช่นนี้​ ​เพียงแต่ว่า​โชค​ไม่​เข้าข้าง​ ​เฮ้อ​ ​ช่าง​โชคร้าย​เอา​เหลือเกิน

​ใคร​จะ​คิดถึง​เล่า​ว่า​ใน​งานเลี้ยง​ลู่​หมิง[1] ​จะ​มีพ​วก​ที่​กิน​อิ่ม​แล้ว​ปาก​ว่าง​ ​นำ​ชัง​เอ๋อร​์​ไป​เปรียบเทียบ​เหยียบย่ำ​เจี่ย​หยวน​คน​ใหม่​?​ ​แล้ว​ใคร​จะ​คิดถึง​กัน​เล่า​ว่า​เจี่ย​หยวน​คน​ใหม่​ไม่​อาจ​อดทน​ได้​แม้แต่​ประโยค​เสียดสี​เช่นนี้​ ​เขา​จึง​ได้​ทำการ​เขียน​คำตอบ​ของ​ตน​ออกมา​ ณ​ ​บัดนั้น​ ​ก่อน​จะ​ฟาด​ไป​บน​หน้า​ของ​พวก​กลุ่มคน​ที่​ยั่วยุ​ตน​ ​อีกทั้ง​เป็นการ​ตบหน้า​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วอ​ย่าง​แรง

​เมื่อ​นายท่า​นร​อง​เจียง​คิดถึง​เรื่อง​เหล่านี้​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​เป็น​คร่ำ​เครียด​ ​แต่ก่อน​หน้า​นี้​ไม่นาน​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ดูเหมือน​จะ​ปกป้อง​เจิน​ซื่อ​เฉิง​อย่าง​เงียบๆ​ ​เขา​จึง​ทำได้​เพียง​อดทน​กับ​ความน้อย​เนื้อ​ต่ำ​ใจ​นี้​ไว้​อย่าง​เงียบๆ​ ​เช่นกัน

​หาก​จะ​เทียบ​กัน​เรื่อง​ตำแหน่ง​ทางราชการ​ ​ตัว​เขา​มีตำ​แหน่ง​ไม่​สูง​เท่า​ ​หาก​จะ​เทียบ​กัน​ใน​เรื่อง​ของ​ความสามารถ​ทาง​ด้าน​ตำรา​คัมภีร์​ต่างๆ​ ​เขา​ก็​สู้​ไม่ได้​เช่นกัน​ ​หาก​ไม่​อดทน​กับ​ความคับ​ข้องใจ​นี้​เอาไว้​ ​จะ​ให้​ถลก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​เดิน​เข้าไป​คิดบัญชี​หรือ​อย่างไร​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​เรื่อง​นี้​จะ​ให้​ไป​คิดบัญชี​อย่างไร​กัน​ ​ยิ่ง​สร้าง​ความวุ่นวาย​ขึ้น​ก็​จะ​มี​แต่​ทำให้​คนอื่น​หัวเราะเยาะ​ ​บัดนี้​เขา​ทำได้​เพียง​รอคอย​ให้​เรื่อง​เงียบสงบ​ไป​อย่างรวดเร็ว

​เซียว​ซื่อ​สีหน้า​หม่นหมอง​ดุจดั่ง​มี​เมฆหมอก​ปกคลุม​ ​“​นายท่าน​ ​หาก​ชัง​เอ๋อร​์​รับรู้​ถึง​เรื่องราว​ภายนอก​เขา​จะ​เป็น​เช่นไร​”

​บัดนี้​สุขภาพ​ร่างกาย​ของ​ชัง​เอ๋อร​์​ฟื้นฟู​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​ ​แต่​สภาพ​ทางจิตใจ​กลับ​ถูก​ทำร้าย​อย่างหนัก​ ​หลาย​วัน​มานี​้​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ไม่มี​ความสุข​เลย​ ​และ​แทบจะ​ไม่​ก้าว​ขาออก​ไป​จาก​เรือน​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​ด้วยเหตุนี้​จึง​ไม่​รับรู้​ข่าวลือ​เรื่อง​ที่ว่า​ตัว​เขา​มี​ความสามารถ​ที่จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​เจี่ย​หยวน​ ​แน่นอน​ว่า​เรื่อง​ที่​ถูก​เจี่ย​หยวน​คน​ใหม่​ตบหน้า​เข้า​อย่าง​จัง​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่​รับรู้

​เซียว​ซื่อ​ไม่กล้า​จินตนาการ​เอา​เสีย​เลย​ว่า​หาก​บุตรชาย​รู้​แล้ว​เข้า​จะ​รู้สึก​เช่นไร

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โทษ​และ​โกรธเคือง​นายท่า​นร​อง​เจียง​ที่​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​วุ่นวาย​นี้​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​แล้วก็​ไม่กล้า​ที่จะ​กล่าว​ขึ้น​มา​อีก

​“​ให้​เวลา​ผ่าน​ไป​สักพัก​ค่อย​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ชัง​เอ๋อร​์​”​ ​เมื่อ​นายท่า​นร​อง​เจียง​นึกถึง​บุตรชายคนโต​ ​เขา​ก็​ทำได้​เพียง​ถอนหายใจ​ออกมา

​เห็นได้ชัด​ว่า​ใน​สอบ​ระดับ​ท้องถิ่น​ใน​ครั้งนี้​ ​เขา​ถูก​กำหนด​มา​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​ได้รับ​คัดเลือก​ ​แต่กลับ​กลายเป็น​เช่นนี้​ได้​เพราะ​โชคไม่ดี​ ​และ​เมื่อ​นึกถึง​ก่อน​สอบ​ชิว​เหวย​ ​บรรดา​มิตรสหาย​อีกทั้ง​เพื่อ​ร่วมงาน​มากมาย​ได้มา​เอ่ย​แสดงความยินดี​กับ​เขา​ล่วงหน้า​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ก็​อยาก​จะ​เอาหน้า​มุด​ดิน​เหลือเกิน

​บัดนี้​สีหน้า​ของ​เซียว​ซื่อ​ดู​ย่ำแย่​กว่านาย​ท่าน​รอง​เจียง​เสียอีก​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​ยัง​หัวเราะเยาะ​เย้ย​เจียง​จั้น​ว่า​เป็น​คน​ไม่เอาไหน​ ​แต่​ท้ายที่สุด​แล้ว​กลับกลาย​ว่า​เจียง​จั้น​ได้​เป็น​องครักษ์​จิน​อู๋​ ​ส่วน​บุตรชายคนโต​ของ​นาง​ที่​ฝาก​ความหวัง​เอาไว้​กลับ​ออกจาก​สนาม​สอบ​กลางคัน

​“​นายท่าน​ ​ข้าว​่า​ข้า​ควร​หา​เวลา​ไป​กราบไหว้​พระ​ที่​วัด​ไป๋​อวิ​๋น​สักหน่อย​ดี​หรือไม่​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​ช่วงนี้​เรื่องราว​ไม่​ราบรื่น​เอา​เสีย​เลย​”

​วัด​ไป๋​อวิ​๋​นคื​อวัด​ที่​มีชื่อเสียง​แห่งหนึ​่ง​ใน​เมืองหลวง​ซึ่ง​ตั้งอยู่​นอกเมือง​ ​มี​ผู้​แสวงบุญ​เดินทาง​ไป​นมัสการ​ธูปเทียน​มากมาย

​นายท่า​นร​อง​เฉียง​เป็น​ผู้​ศึกษา​ตำรา​คัมภีร์​ ​เขา​ไม่​ค่อย​จะ​เชื่อ​เรื่อง​พระ​เรื่อง​เจ้า​เท่าไร​นัก​ ​แต่​ใน​หลาย​ๆ​ ​ครั้ง​เขา​ก็​เลือก​ที่จะ​เชื่อ​ว่า​มีอยู่​จริง​แทนที่จะ​ลบหลู่​ ​ด้วยเหตุนี้​การ​ที่​เซียว​ซื่อ​อยาก​จะ​เดินทาง​ไป​นมัสการ​ธูปเทียน​แก่​พระพุทธเจ้า​ ​เขา​จึง​ไม่ได้​ขัด​แต่กลับ​กล่าวว่า​ ​“​ไป​เถิด​ ​ถวาย​ธูปเทียน​และ​ตะเกียง​น้ำมัน​ให้​มาก​หน่อย​”

​หลังจากที่​สอง​สามีภรรยา​สนทนา​กัน​ถึง​เรื่องราว​จิปาถะ​อยู่​สักพัก​ ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​นายท่าน​ ฮู​หยิน​ ​นายท่าน​ใหญ่​ให้​คน​มารา​ยงา​นว​่า​ได้รับ​จดหมาย​ขอ​เข้าพบ​ของ​ตระกูล​เจิน​ขอรับ​”

​“​ตระกูล​เจิน​อย่าง​งั้น​หรือ​”​ ​เซียว​ซื่อ​ชะงัก​และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​มอง​นายท่า​นร​อง​เจียง

​นายท่า​นร​อง​เจียง​มี​ปฏิกิริยา​ตอบกลับ​ไป​ทันควัน​ ​เขา​เอ่ย​ถาม​บ่าว​รับใช้​ว่า​ ​“​ผู้ตรวจการ​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​หรือ​”

​บ่าว​รับใช้​ตอบกลับ​ว่า​ ​“​นายท่าน​ใหญ่​ไม่ได้​กำชับ​ขอรับ​ ​บอก​เพียง​ว่า​ใต้เท้า​เจิน​จะ​พา​คุณชาย​เจิน​มาด​้วย​ ​ให้​บ่าว​มาถาม​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​แล้ว​ท่าน​ว่าง​หรือไม่​”

​“​เอาล่ะ​ ​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​บอก​แก่​บ่าว​รับใช้

​“​ท่าน​พี่​ ​เจียง​อัน​เฉิง​จะ​พาบุ​ตร​ชาย​ของ​เขา​มาหา​เรา​เพื่อ​สิ่งใด​”

​นายท่า​นร​อง​เจียง​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ได้รับ​ความรู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​เพราะ​เจียง​อัน​เฉิง​ใน​ตอนนั้น​ ​ครั้งนี้​เขา​ตั้งใจ​เดินทาง​เข้ามา​พบ​ด้วย​ตนเอง​ ​จึง​ได้คิด​ขึ้น​มา​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​บางที​อาจจะ​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ที่​งานเลี้ยง​ลู่​หมิง​”

​สีหน้า​ของ​เซียว​ซื่อ​เปลี่ยนไป​เป็น​ตกตะลึง​ ​นาง​โมโห​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เขา​จะ​ตาม​รังควาน​มาถึง​ที่​จวน​เรา​เลย​หรือ​”

​นายท่า​นร​อง​เจียง​เบิกตา​กว้าง​จ้องมอง​เซียว​ซื่อ​ ​“​สิ่งใด​ที่​เจ้า​เรียกว่า​ตาม​รังควาน​?​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ขุนนาง​ขั้น​เอก​ระดับ​สาม​เช่น​เขา​ ​จะ​มี​เวลาว่าง​เช่นเดียวกับ​สตรี​อย่าง​เจ้า​หรือ​”

​“​แต่​ปกติ​แล้ว​นายท่าน​ไม่เคย​ติดต่อ​กับ​พวกเรา​ ​ในเวลานี้​เขา​กลับ​พาบุ​ตร​ชาย​มาที​่​จวน​เพื่อ​สิ่งใด​”

​นายท่า​นร​อง​เจียง​รู้สึก​ใจสั่น​ขึ้น​มา

​บางที​นี่​อาจ​เป็น​โอกาสดี​ที่​ตน​จะ​สาน​ความสัมพันธ์​กับ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่​บุตรชาย​ของ​ตน​ถูก​ตบหน้า​โดย​บุตรชาย​ของ​เขา​นั้น​ ​ถึงอย่างไร​เรื่อง​เหล่านี้​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​เด็ก​ๆ​ ​จะ​มีความสำคัญ​เท่ากับ​ความสัมพันธ์​ของ​ขุนนาง​ได้​อย่างไร

​“​ไป​เตรียม​เสื้อผ้า​สำหรับ​พบ​แขก​ให้​แก่​ข้า​”​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ตั้งตารอ​คอย​การ​เดินทาง​มาถึง​ของ​สอง​พ่อ​ลูก​ตระกูล​เจิน

​หลังจากที่​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ส่งจดหมาย​ขอ​เข้าพบ​ไป​ได้​ไม่นาน​ก็ได้​รับ​จดหมาย​ตอบกลับ​มา​ ​ด้วยเหตุนี้​เขา​จึง​พา​เจิน​เหิ​งมุ​่ง​หน้า​ไป​ที่​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วอ​ย่าง​รวดเร็ว

​เจิน​เหิง​ที่​ได้​ก้าว​เข้าไป​สู่​ทาง​ที่​ปูด​้วย​หิน​ของ​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วอี​กค​รั้ง​รู้สึก​ตื่นเต้น​ยิ่งนัก

​ไม่รู้​ว่า​จะ​ได้​พบ​นาง​หรือไม่

​แต่​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ต่อให้​เขา​จะ​เป็น​ถึง​เจี่ย​หยวน​ ​แต่​ก็​ทำได้​เพียง​ฝาก​ความหวัง​ที่จะ​ได้​พบ​กับ​นางใน​ดวงใจ​ไว้​ที่​บิดา

​ดวงใจ​ของ​ชายหนุ่ม​เริ่ม​เป็นกังวล​ขึ้น​มา

​หาก​แผนการ​ของ​เขา​ล้มเหลว​แล้ว​เล่า​ ​ก่อนหน้านี้​เขา​เอาแต่​ตื่นเต้น​ดีใจ​ ​จน​ลืม​เอ่ย​ถาม​บิดา​ไป​ว่า​ทำ​เช่นไร​ถึง​จะ​ได้​พบ​นาง

​เมื่อ​ได้ยิน​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เอ่ย​ทักทาย​กับ​เจียง​อัน​เฉิง​ ​เจิน​เหิง​ยัง​รู้สึก​เหมือน​ตกอยู่ในภวังค์​ ​กระทั่ง​บทสนทนา​โยกย้าย​มา​เรื่อง​เขา

​“​ท่าน​เจียง​ ​เจียง​เส้า​ชิง​ ​นี่​คือ​บุตรชาย​ของ​ข้า​เอง​ ​ใน​วันนี้​ข้า​พา​เขา​เดินทาง​มา​เอ่ย​ขอขมา​ลา​โทษ​ ​บุตรชาย​ของ​ข้า​อายุ​น้อย​ไม่รู้​จัก​กาลเทศะ​ ​หลังจากที่​ดื่ม​สุรา​เข้าไป​มากมาย​จึง​เอ่ย​วาจา​โดย​ไม่​ยั้งคิด​ ​ทำให้​จวนปั​๋ว​ของ​ท่าน​ต้อง​พบ​กับ​ความวุ่นวาย​…​”

​นายท่า​นร​อง​เจียง​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใต้เท้า​เจิน​ ​คำพูด​ของ​ท่าน​นี้​ทำให้​ข้า​รู้สึก​ละอายใจ​ยิ่งนัก​ ​บุตรชาย​ข้า​กับ​คุณชาย​เจิน​ ​เดิมที​ก็​ไม่​อาจจะ​เปรียบเทียบ​กันได​้​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​เล่า​ว่า​คนภายนอก​จะ​นำ​ไป​กล่าว​ไร้สาระ​เพียงนั้น​”

​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เหลือบมอง​ไป​ทาง​เจิน​เหิ​งอย​่าง​รวดเร็ว

​เจิน​เหิง​รีบ​ก้าว​ไป​ด้านหน้า​ ​โค้ง​คารวะ​แก่นาย​ท่าน​รอง​เจียง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ผู้น้อย​ช่าง​โง่เง่า​ ​ไม่รู้​สัมมาคารวะ​ ​ขอ​ท่าน​ได้​โปรด​อย่า​ตำหนิ​ผู้น้อย​เลย​”

​นายท่า​นร​อง​เจียง​รีบ​พยุง​เจิน​เหิง​ให้​ลุกขึ้น​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เจี่ย​หยวน​จึง​จะ​เป็น​ผู้​มี​ความสามารถ​อย่างแท้จริง​ ​สีเขียว​คราม​เกิด​จาก​สีน้ำเงิน​ ​แต่กลับ​เด่น​กว่า​สีน้ำเงิน[2]”

​ผู้คน​มัก​กล่าว​กัน​เช่นนี้​ ​ใน​ความคิด​ของ​นายท่า​นร​อง​เจียง​เขา​รู้สึก​ว่าการ​ชื่นชม​ยกย่อง​บุตรชาย​ที่​มี​ความสามารถ​นั้น​ถูกต้อง​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ได้ยิน​ดังนั้น​กลับกลอก​ตาม​อง​อย่าง​เงียบๆ​

​คนที​่​จัดการ​คดี​ด้วย​ความจริงจัง​เช่น​เขา​ ​ไม่​ชอบ​การ​เอ่ย​ชม​ที่​เกิน​ความจริง​เช่นนี้

​อะไร​คือ​การ​ที่​เรียกว่า​สีเขียว​คราม​เกิด​จาก​สีฟ้า​แต่​โดดเด่น​กว่า​ ​ใน​สมัย​ที่​เขา​ศึกษา​เล่าเรียน​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​จุด​ตะเกียง​น้ำมัน​ตอนกลางคืน​ ​เขา​ตัว​คนเดียว​บุกเบิก​เข้ามา​ใน​ราชสำนัก​ ​กระทั่ง​มีตำ​แหน่ง​ใน​ปัจจุบันนี้​ ​ส่วน​บุตรชาย​ของ​เขา​สภาพแวดล้อม​ทุกอย่าง​ล้วน​อำนวย​ดีกว่า​เขา​มาก​นัก​ ​หาก​สอบ​ได้​ไม่ดี​ควรจะ​ถูก​เขา​ลาก​ไป​จัดการ​เสียด​้วย​ซ้ำ

​นายท่า​นร​อง​เจียง​ไม่รู้​ตัว​หรอก​ว่าการ​เอ่ย​ชม​เช่นนั้น​จะ​ทำให้​อีก​ฝ่าย​ขุ่นเคือง​ ​เขา​จึง​ได้​ยกย่อง​เจิน​เหิ​งอ​อก​ไป​อย่าง​ไม่​ลังเล​ใดๆ​

​ด้าน​ของ​เจิน​เหิ​งก​็​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ยิ่งนัก​ ​“​ท่าน​เอ่ย​ชม​ข้า​น้อย​เกินไป​แล้ว​ขอรับ​ ​ผู้น้อย​ยัง​มีข้อบกพร่อง​อีก​มากมาย​เหลือเกิน​ที่​ต้อง​แก้ไข​ ​ใน​วันนี้​ที่​ผู้น้อย​เดินทาง​ติดตาม​ท่าน​พ่อ​มา​ ​เพื่อ​ต้องการ​จะ​ขอโทษ​คุณชาย​ใหญ่​ตระกูล​เจียง​ ​ไม่ทราบ​ว่า​สะดวก​หรือไม่​”

​“​เอ่อ​ ​บุตรชาย​ของ​ข้า​เกิด​ป่วย​ขึ้น​ใน​วันที่​สอบ​ ​บัดนี้​ยัง​พักฟื้น​อยู่​ ​เจี่ย​หยวน​ไม่ต้อง​รู้สึก​เสียใจ​หรือ​ขอโทษ​บุตรชาย​ข้า​หรอก​ ​เรื่องเล็ก​น้อย​เท่านี้​เอง​อย่า​ได้​นำ​ไป​ใส่ใจ​เลย​”​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ปฏิเสธ​อย่าง​อ้อมค้อม

​หาก​เป็นเวลา​ปกติ​แล้ว​ ​บุตรชายคนโต​ของ​เขา​มีโอกาส​จะ​ผูก​สัมพันธ์​กับ​เจิน​เหิง​ผู้​ที่อยู่​ใน​รุ่นราวคราวเดียวกัน​และ​มี​ความสามารถ​เช่นนี้​ ​แน่นอน​ว่านาย​ท่าน​รอง​เจียง​คง​เห็นดีเห็นงาม​ด้วย​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​แต่​บัดนี้​เขา​คง​ทำได้​เพียง​ปฏิเสธ

​จะ​ทำ​อย่างไร​ได้​เล่า​ ​บุตรชายคนโต​ถูก​ทำร้าย​จิตใจ​มาก​พอแล้ว​ ​หาก​เขา​ถูก​กระตุ้น​จาก​เจี่ย​หยวน​คน​ใหม่​อีก​คาด​ว่า​คงจะ​ทรุด​ลงมา​กก​ว่า​เดิม​ ​นี่​คือ​การ​สูญเสีย​ที่​ไม่​อาจ​ชดเชย​ได้

​เจิน​เหิง​จึง​โค้ง​คำนับ​นายท่า​นร​อง​เจียง​อีกครั้ง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​ผู้น้อย​คง​ต้อง​รบกวน​นายท่าน​ช่วย​กล่าว​ต่อ​เจตนา​นี้​แก่​เขา​แทน​ผู้น้อย​ด้วย​”

​เจียง​อัน​เฉิง​ที่นั่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​มอง​ไป​ทาง​เจิน​เหิ​งอย​่าง​เงียบๆ​ ​เขา​คิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่านี​่​คือ​บุตรชาย​ที่​ใน​ตอนนั้น​พี่​เจิน​ต้องการ​จะ​ให้​ตน​ยก​ลูกสาว​ให้​หรือ​ ​ท่าทาง​หน้าตา​ดูดี​ทีเดียว​…

​ ​—————————–

[1] ​งานเลี้ยง​ลู่​หมิง ​งานเลี้ยง​หลัง​การ​จัด​สอบ​เคอจ​วี่

[2] ​สีเขียว​คราม​เกิด​จาก​สีน้ำเงิน​ ​แต่กลับ​เด่น​กว่า​สีน้ำเงิน ​แปล​ว่า​ ​ศิษย์​ได้รับ​การอบรม​รม​สั่งสอน​จาก​อาจารย์​ ​แต่​เก่ง​กว่า​อาจารย์​อีก​ ​เป็น​สำนวน​ที่​อาจารย์​มัก​ใช้​ชม​ลูกศิษย์​ ​ในที่นี้​ ​เจียง​เส้า​ชิง​ต้องการ​บอกว่า​เจิน​เหิง​โดดเด่น​กว่า​เจิน​อัน​เฉิง