บทที่ 265 ต้องรอคอยอย่างมีความอดทน

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 265 ต้องรอคอยอย่างมีความอดทน

เจียงหยุนเอ๋อขยับริมฝีปากเล็กน้อย ในใจพรั่งพรูความปรารถนาที่อยากจะเรียกให้ลี่จุนถิงตื่นเดี๋ยวนี้เลย ให้เขามองตัวเองแล้วก็จะได้ถามให้ชัดเจน

แต่สุดท้าย เจียงหยุนเอ๋อก็ต้องหักห้ามใจกับความปรารถนานี้ เธอรู้ว่าตัวเองไม่ควรทำแบบนี้ ตอนนี้เธอไม่ควรอยู่ตรงหน้าลี่จุนถิงด้วยซ้ำ

บางที นี่อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาก็ได้

เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลง นิ้วมือกุมเข้าด้วยกันอย่างไม่รู้ตัว

แค่คิดว่าหลังจากที่พาถวนจื่อออกไปได้แล้ว เธอก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกับผู้ชายคนตรงหน้านี้อีกเลย ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

เธอต้องทำใจมากแค่ไหนถึงจะยอมให้ตัวเองปล่อยลี่จุนถิงไปได้!

ผ่านไปได้สักพัก ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ก้มตัวลงหวังจะเอาถวนจื่อออกมาจากอ้อมกอดของลี่จุนถิงเงียบๆ แต่มือของเธอเพิ่งจะแตะโดนตัวถวนจื่อ ลี่จุนถิงก็พลิกตัวอย่างฉับพลัน ทำให้เจียงหยุนเอ๋อถึงกับสะดุ้งตกใจรีบดึงมือของตัวเองกลับมา

เจียงหยุนเอ๋อยังคิดจะลองอีกครั้ง แต่ถวนจื่อกลับมุดเข้าไปในอ้อมกอดของลี่จุนถิงด้วยซะงั้น ทำให้เจียงหยุนเอ๋อไม่สามารถลงมือได้

และที่สำคัญ เมื่อกี้ตอนที่ลี่จุนถิงพลิกตัวก็กอดถวนจื่อแน่นกว่าเดิมด้วย

เจียงหยุนเอ๋อที่เมื่อกี้อีกนิดเดียวก็จะทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้าเมื่อกี้ตัวเองลงมือเร็วกว่านี้ก็ดี

เจียงหยุนเอ๋อจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงๆแล้วทั้งหมดนี้คือแผนการของลี่จุนถิง ถ้าเขาไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อพาถวนจื่อไป เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่มีทางทำได้

ลองคิดๆดูแล้ว เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าตัวเองตั้งใจมาขนาดนี้ กว่าจะแอบเข้ามาได้ก็ไม่ง่ายเลย ถ้าจากไปทั้งแบบนี้ ยังไงก็รู้สึกยอมไม่ได้อยู่ดี

ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อจึงตัดสินใจรออยู่ข้างๆ ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล มันต้องมีช่วงที่ลี่จุนถิงพลิกตัวสิ พอถึงเวลานั้นไม่แน่ตัวเองยังมีโอกาสพาถวนจื่อไปได้

แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อยังรอได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากชั้นล่าง น่าจะเป็นของแม่บ้านวิลล่านี้

ได้ยินเสียงนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ตื่นตัวขึ้นมา ตาจ้องลี่จุนถิงที่กำลังนอนอยู่ตอนนี้อย่างไม่ละสายตา กลัวว่าเขาจู่ๆจะลืมตาขึ้นเพราะได้ยินเสียงรบกวน

หลังจากที่พินิจพิเคราะห์ในใจดูแล้ว เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าตัวเองอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าลี่จุนถิงตื่นขึ้นมากลางดึกก็คงอธิบายยากกว่าเดิมจริงไหม?

คืนนี้คงต้องยอมแพ้ก่อนสินะ

คิดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ตัดสินใจว่าจะจากไปชั่วคราวก่อน ครั้งต่อไปค่อยหาโอกาสที่ดีกว่านี้พาถวนจื่อออกไป

เจียงพยุนเอ๋อเพิ่งออกไปจากห้อง ลี่จุนถิงที่อยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมาทันที นัยน์ตาฉายแววแปลกๆออกมา

มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ยายผู้หญิงคนนี้เหมือนลูกหนูจริงๆ

อาจจะเป็นเพราะได้เจอลี่จุนถิงกับถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อจึงไม่ได้รู้สึกหดหู่ขนาดนั้นแล้ว ถึงขนาดที่เริ่มมองในด้านบวกมากขึ้น

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้เธอก็มีสิ่งที่ให้เธอเฝ้ารออย่างมีความหวังแล้ว

เห็นถวนจื่อปลอดภัยดี เจียงหยุนเอ๋อก็วางใจได้แล้ว ถึงแม้จะไม่รู้ว่าแต่ก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับถวนจื่อ แต่อย่างน้อยตอนนี้ปลอดภัยอยู่ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนเรื่องอื่นๆ รอให้พาถวนจื่อกลับมาได้แล้วค่อยถามถวนจื่อแล้วกัน

จากท่าทีของลี่จุนถิงในตอนนี้ก็น่าจะดูแลถวนจื่อได้ดีเหมือนกัน ถึงแม้……จะไม่รู้ว่าเขาดูแลด้วยความรู้สึกอย่างไรก็ตาม

ถ้าตัวเองไม่ปรากฏตัวออกมาเลย หลังจากที่ลี่จุนถิงแต่งงานกับส้งหวั่นหวั่นแล้ว เขาจะปฏิบัติกับถวนจื่อยังไงนะ?

เจียงหยุนเอ๋อไม่ค่อยกล้าคิดต่อ แต่ว่ายังไงอีกไม่นานเธอก็จะพาถวนจื่อกลับมาแล้ว จะคิดมากขนาดนั้นทำไม?

ส่วนลี่จุนถิงที่อยู่ในห้อง หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อออกไปแล้ว ความง่วงก็หายไปเป็นปลิดทิ้งทันที

ลี่จุนถิงรู้ว่า เมื่อกี้เขาสามารถให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ต่อได้ แต่เขากลับไม่ทำแบบนั้น

เขามีความคิดของตัวเอง เพราะในใจของลี่จุนถิงรู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการจริงๆไม่ใช่ให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ข้างกายตัวเองแค่ชั่วคราว แต่เป็น——ตลอดไป

เพราะฉะนั้น ถึงแม้ในใจของเขาจะร้อนรนมากแค่ไหน แต่ก็ต้องรอคอยด้วยความอดทน

รอวันที่งานแต่งมาถึง

……

วันต่อมา ฝั่งของบริษัทสาขา ลี่หยูนห่วนที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานทรุดลงเล็กน้อย

ส่วนสาเหตุนั้นก็ง่ายมาก เมื่อคืนเขายุ่งเรื่องของบริษัทจนแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน

ตั้งแต่เช้าตรู่ ลี่หยูนห่วนกำลังจะนอนพัก ก็ถูกโทรศัพท์ของกำลังหลักเรียกให้ไปบริษัทไปจัดการเรื่องต่อจากนั้น

ลี่หยูนห่วนรู้สึกว่ากำลังวังชาของตัวเองถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้ เรื่องเละเทะพวกนี้ก็ต้องให้เขามาจัดการ

เขายังคิดจะใช้โอกาสนี้กดหัวลี่จุนถิง แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ตัวเองต้องมาเจอปัญหาหนักขนาดนี้ ทำให้เขาต้องยุ่งวุ่นวายอยู่นาน

ลี่หยูนห่วนมองเอกสารเต็มโต๊ะนี้แล้วก็ปวดหัว เวลานี้เอง ผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องทำงานพูดกับลี่หยูนห่วนว่า “เจ้านายครับ เราติดต่อผู้ดูแลหลิวได้แล้วครับ เขาบอกต้องให้ท่านโทรหาเขาด้วยตัวเอง”

ได้ยินที่พูด ลี่หยูนห่วนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “มันคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน? ถึงกับต้องให้ฉันโทรไปหาด้วยตัวเอง?”

ผู้ช่วยมองลี่หยูนห่วนอย่างระมัดระวัง ถึงแม้จะไม่พอใจกับการกระทำของฝั่งนั้นด้วยก็ตาม แต่ก็ต้องพูดโน้มน้าว “อย่างไรเสีย ตอนนี้พวกเราก็ยังต้องพึ่งพวกเขา เจ้านายครับ ท่านว่า……”

“เออๆ ฉันรู้แล้ว” ลี่หยูนห่วนสะบัดมืออย่างหงุดหงิด แต่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาผู้ดูแลหลิวคนนั้น

หลังจากที่อีกฝ่ายรับสายแล้ว ลี่หยูนห่วนก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจทันทีราวกับว่าคนที่ต่อต้านเมื่อครู่นี้ไม่ใช่ตัวเขา “สวัสดีครับประธานหลิวเรื่องนี้พวกคุณปรึกษากันได้ยังไงบ้างครับ? ว่าไงนะ? ขอให้เพิ่มผลกำไรสูงขึ้น? แต่ว่า……ผลกำไรให้พวกคุณไปสามสิบเปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ”

อีกฝ่ายไม่รู้ว่าพูดอะไร สีหน้าของลี่หยูนห่วนถึงได้อึมครึมมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาคิดไม่ถึงว่าผู้ดูแลของฝั่งนั้นจะขอให้เพิ่มผลกำไรจากสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นสี่สิบเปอร์เซ็นต์โดยตรงเลยแบบนี้

ถึงแม้ฟังแล้วจะเหมือนไม่ได้ต่างกันมาก แต่ลี่หยูนห่วนรู้ดีว่าถ้าจะคิดขึ้นมาจริงๆ เงินทุนที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วยก็เพิ่มขึ้นจากหนึ่งในสามกันเลยทีเดียว!

นั่นคือเงินจำนวนมหาศาล!

เพราะฉะนั้น ลี่หยูนห่วนจึงคิดว่าอีกฝ่ายโลภเกินไปแล้วเลยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เดือดเล็กน้อยว่า “พวกคุณหมายความว่ายังไง? ครั้งก่อนคุยกันเรียบร้อยแล้ว แต่มาเปลี่ยนใจกะทันหันแบบนี้หมายความว่ายังไง?”