ตอนที่ 273 ซื้อตัว?

เมื่อ ฟูหลี่หยวน ได้ยินดังนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นทันที” เช่นนั้นทําตามแผนที่ท่านว่าเลย!”

“เข้าใจแล้ว!”

หลี่ซานอี้ ไม่ได้พูดอะไรมาก เขารีบลงไปจัดการเรื่องนี้

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลี่ซานอี้ ก็ใช้เส้นทางลับเดินเข้าไปยังเมืองผิงกวง

หลังจากมีดแล้วเขาก็ตรงไปที่บ้านพักของถั่วเจีย

“คุณชาย มีคนมาขอเข้าพบท่านเขาบอกว่าเป็นสหายของท่าน”

สาวใช้ได้มารายงาน ถั่วเจีย

กั่วเจีย ได้นอนอยู่บนเตียงเวลานี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดมันไม่ได้เสแสร้งแต่เป็นความเจ็บปวดจริง ๆ

เนื่องเพราะต้องการทําให้สมจริงมากที่สุด เขาให้ เหลียนป๋อ ปิดผนึกต้นเทียนของตนเองจนไม่สามารถใช้พลังปราณในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้

อย่างไรก็ตาม พอเขาได้ยินคําพูดของสาวใช้ เขาก็รู้สึกดีใจมากเช่นเดียวกัน เขาไม่มีสหายในเมืองผิงกวง ตอนนี้ อีกฝ่ายอ้างตัวว่าเป็นสหายของเขา คนผู้นี้จะต้องมาจากอาณาจักรหงเปาอย่างแน่นอน

เขาพูดทันที่”ให้เขาเข้ามา”

“เจ้าค่ะ!”

ไม่นาน สาวใช้ก็พา หลี่ซานอี้ เข้ามา

เมื่อเห็นการแสดงออกด้วยท่าที เจ็บปวดของ ถั่วเจีย หลี่ซานอี้ ก็พยักหน้าอย่างลับ ๆ เรื่องที่อีกฝ่ายถูกปิดผนึกตันเทียนและถูกโบยด้วยไม้ดูเหมือนจะเป็นความจริง

กั่วเจียมองไปที่ หลี่ซานอี้ และ ไล่สาวใช้ไปก่อนที่จะกล่าวถามเจ้าเป็นใคร?”

หลี่ซานอี้ ได้ยิ้มออกมา” คุณชายกั่วทําไมท่านไม่ลองเดาดูเล่า!”

กั่วเจีย ได้แค้นเสียงออกมาอย่างเย็นชา”เจ้าเป็นคนของอาณาจักรหงเปา? กล้ามากที่เข้ามาในเมืองผิงกวงแห่งนี้ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะไปรายงานเหลียนปอให้มาจับกุมเจ้า?”

“ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่ทําอย่างนั้น” หลี่ซาน ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ร่องรอยของความขุ่นเคืองได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของ ถั่วเจีย” เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใด?”

เขาได้ยิ้มและตอบกลับ” ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้วคุณชายกั่ว แม่ทัพของข้า รู้สึกสนใจท่าน ข้าคิดว่าท่านคงไม่เหมาะที่จะอยู่ที่อาณาจักรหนานหยานต่อ เป็นไงมาเข้าร่วมอาณาจักรหงเปาของข้าดีหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเงินอํานาจหรือผู้หญิง ท่านล้วนได้รับมันทั้งหมด!”

“เจ้าเป็นคนตรงดี!”กั่วเจีย ได้ตอบกลับ

“แน่นอน!”

หลี่ซานอี้ ได้ยิ้มและตอบกลับ” คุณชายกั่ว เป็นคนเปิดเผย ดังนั้นข้าจึงไม่จําเป็นจะต้องพูดอ้อมค้อมใด ๆ ทั้งสิ้น”

กั่วเจียมองไปที่ หลี้ซานอี้ และตอบกลับ”เจ้าคิดว่าข้าจะยอมทรยศต่ออาณาจักรหนานหยานและสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรหงเปาของเจ้า เจ้าคิดว่า ข้ากั่วเจียเป็นใคร?”

หลี่ซานอี้ ไม่ได้ตื่นตระหนกเขาได้ยิ้มเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าคุณชายกั่วต้องการแก้แค้นเหลียนปอ?เหลียนปอ แม่ทัพเฒ่าคนนี้ทําให้ท่านเสียหน้า หรือว่าท่านไม่สนใจเรื่องนี้?”

“ดูจากตําแหน่งที่ท่านถือครองอยู่สถานะย่อมสูงส่งในกองทัพ แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลงท่านคิดว่าตําแหน่งนี้จะยังคงอยู่หรือไม่?”

“ด้วยนิสัยของท่านที่เป็นคนรักสนุกแล้ว ในยามที่ศัตรูโจมตีเมือง ท่านกลับเที่ยวหอนางโลม ถ้าเรื่องนี้ เหลียนป๋อ ไปกราบทูลจักรพรรดิอู่เฟิง ท่านคิดว่า จักรพรรดิอู่เพิ่ง จะปล่อยท่านไป?”

เมื่อ กั่วเจีย ได้ยินดังนั้น เขาก็แสร้งทําเป็นตื่นตระหนกทันที

หลี่ชานอี้ รีบฟาดเหล็กขณะที่มันกําลังร้อน”ถึงเวลานั้นแม้แต่ชีวิตท่านก็อาจจะไม่รอด สู้ท่านมาช่วยทําลายเมืองผิงกวงดีกว่า ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของอาณาจักรหงเปา ดีกว่ากลับไปอยู่ อาณาจักรหนานหยาน ที่ไม่รู้บั้นปลายชีวิตของตนเองว่าจะเป็นอย่างไร”

กั่วเจีย ได้ครุ่นคิดและสูดลมหายใจเข้าลึก” ข้อเสนอของเจ้าน่าดึงดูดมาก แต่ข้าต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“ไม่มีปัญหา ท่านต้องการเวลาเท่าใด?”

“เจ็ดวัน!”

กั่วเจีย มองไปที่ หลี่ซานอี้ และ ตอบกลับ” อีกเจ็ดวันข้าจะให้คําตอบแก่เจ้า!”

“เข้าใจแล้ว!” หลี่ซานอี้ ได้ยิ้มออกมา”เจ็ดวันต่อจากนี้หวังว่าจะได้รับข่าวดีจากคุณชายกั่วเช่นนั้นข้าขอตัว!”

“เชิญ!”

ไม่นาน หลังจากที่ หลี่ซานอี้ จากไปแล้ว เหลียนปอ ก็เดินเข้ามาจากข้างนอกมองไปที่ ถั่วเจียด้วยความสับสน”เฟิงเชียว ทําไมเจ้าถึงต้องรอให้คําตอบเจ็ดวัน ทําไมเจ้าถึงไม่ให้คําตอบไปในตอนนี้?”

กั่วเจีย ได้ยิ้มและสั่นศีรษะ” ถ้าข้าทําอย่างนั้น หลี่ซานอี้ จะต้องคิดว่า ข้ามีแผนการอื่น ๆ อยู่ในใจเป็นแน่ เขาเพียงแค่คาดเดาตัวตนและพฤติกรรมของข้า ยังไม่ได้ปักใจเชื่อโดยสมบูรณ์ ดังนั้นการยืดเวลาออกไปจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าข้ากําลังมองหาโอกาสอยู่จริง ๆ”

ทันใดนั้น เหลียนปอ ก็เข้าใจและถอนหายใจออกมา”เฟิงเซียว เรื่องก่อนหน้านี้ ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย”

ก่อนหน้านี้ เหลียนปอ รู้ว่าเป็นการแสดงแต่เขาก็ลงมือหนักไปจริง ๆ

กั่วเจีย ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”ตราบใดที่สามารถเอาชนะกองทัพของอาณาจักรหงเปาได้เจ็บแค่นี้จะเป็นอะไรไป?”

“เช่นนั้นมาให้ข้ารักษาเจ้าก่อนเถอะ!”

“อย่าเพิ่ง,สายของอาณาจักรหงเป่า น่าจะอยู่รอบ ๆ คฤหาสน์ของข้า หากอาการบาดเจ็บของข้าดีขึ้นอย่างกระทันหัน มันจะทําให้ หลีซานอี้ สงสัย!”

เหลียนปอ ได้ยินดังนั้น เขาก็ไม่พูดอะไรอีก

อีกด้านนึงหลังจากที่ หลี่ซานอี้ ออกจากเมืองผิงกวง เขาก็กลับไปที่ค่ายของแม่ทัพใหญ่อาณาจักรหงเป่า

“หลี่ซานอี้ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”ฟูหลี่หยวน ได้กล่าวถามอย่างรีบร้อน

“ติดเบ็ดแล้ว!” หลี่ซานอี้ ได้ยิ้มออกมา

“รีบบอกข้าเร็วเข้า!”

หลี่ซานอี้ ไม่ได้ซ่อนมัน เขาได้บอกมันถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

หลังจากที่ฟังสิ่งนี้ ฟูหลี่หยวน ก็ขมวดคิ้วและกล่าวถามเล็กน้อย” ทําไมถึงต้องรอเจ็ดวัน?”ลง

หลี่ซานอี้ ได้ตอบกลับ”ถ้าเกิด ถั่วเจีย ผู้นี้ ตอบตกลงทันที ข้าคงสงสัยว่ามันเป็นแผนการอะไร บางอย่าง แต่ตอนนี้ เขาบอกจะให้คําตอบกับข้าในเจ็ดวัน ข้าก็เชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์”

“ทําไม?”

หลี่ซานอี้ ได้สั่นศีรษะและไม่ได้ตอบกลับ

เมื่อ ฟูหลี่หยวน เห็นสิ่งนี้ เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงมีความคิดในใจ ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรมากของ

ณ สถานที่แห่งนึ่ง ใกล้ ๆ กับภูเขาติงกิ้ง

ในเวลานี้ มีคนเจ็ดคนยืนอยู่บนต้นไม้

ผู้นําพวกเขาคือ ฉางหลิน หัวหน้าผู้พิทักษ์นิกายดาบวิญญาณ

คนทั้งห้าคนข้างหลังเขามาจากหน่วยพิทักษ์นิกายดาบวิญญาณเช่นเดียวกัน และ มีอีกคนนึ่งสวมชุดคลุมสีดําและแต่งกายด้วยท่าทีที่แตกต่าง

คนผู้นี้คือยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ของอาณาจักรอู่เซียง

เขามองไปที่ ฉางหลิน และ กล่าวถาม” เจ้าต้องการให้เราทําอะไรที่นี่?”

ฉางหลิน ได้ยิ้มออกมาและตอบกลับ” ฆ่า!”

“ฆ่าใคร?”

“ลู่เพิ่ง!”

“หม,ลู่เฟิง ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในค่ายบนภูเขาติงจิ้ง จะฆ่าเขาได้ยังไง?”ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ของอาณาจักรอู่เซียง ได้ส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา

“เขาจะต้องออกมาอย่างแน่นอน!” ฉางหลิน ได้ยิ้มออกมา

“ยังไง?”

“เป็นเพราะคนผู้นั้น!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉางหลิน ก็ได้ชี้ไปที่ถนนข้างต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีชายคนหนึ่งกําลังขี่ม้าศึกวิ่งไปที่บนภูเขาติงจิ้ง อย่างรวดเร็ว

บนตัวของเขามีลูกศรขนาดใหญ่ปักเอาไว้อยู่

ยอดฝีมืออาณาจักรอู่เชียงมองดูและขมวดคิ้วแน่น” คนผู้นี้เป็นใคร?”

“ทูตจากมณฑลเฮยเสียน ที่ดูแลสามมณฑลทางตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยาน!” ฉางหลิน ได้ตอบกลับ

“ทูตมณฑลเฮยเสียน?” ชายคนนั้นได้ขมวดคิ้ว” ทําไมทูตแห่งมณฑลเฮยเสียน ถึงมาปรากฏตัวที่นี่?”

“เพราะ…”

ฉางหลิน ได้เงยหน้ามองไปยังทิศทางของสามมณฑลทางตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยานและบ่นพึมพัมออกมา” เพราะพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือยกทัพมาโจมตี!”