“​ผู้ใด​!​”​ ​ชาย​ผู้​มี​หนวดเครา​ครึ้ม​ตะโกน​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ ​จากนั้น​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่สอง​พี่น้อง​หลบ​ฝน​อยู่

เจียง​อีสี​หน้าซีด​เผือด​ ​นาง​จับมือ​เจียง​ซื่อ​เอาไว้​แน่น

ชาย​ผู้​สวม​ชุด​ยาว​มอง​ไป​ทาง​ชาย​ที่​มี​หนวด​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​มี​คน​หรือ​”

ชาย​เครา​ครึ้ม​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​ก่อน​จะ​เดิน​ตรง​ไป​ที่​ต้นไม้​ใหญ่​ซึ่ง​สอง​พี่น้อง​หลบ​อยู่​ด้านหลัง

ร่างกาย​ของ​เจียง​อีสั​่น​สะท้าน​อย่างรุนแรง​ ​นาง​รีบ​ผลัก​เจียง​ซื่อ​ไป​ไว้​ข้างหลัง​โดยสัญชาตญาณ

ลม​พัด​แรง​มากขึ้น​ ​จน​ทำให้​กิ่งไม้​สั่น​ไหว​ ​ขณะที่​ชาย​เครา​ครึ้ม​กำลัง​เดิน​เข้าไป​ใกล้​ก็​มี​กิ่งไม้​กิ่ง​หนึ่ง​ถูก​ลม​พัด​หัก​ตกลง​มาก​ระ​เด็น​อยู่​ตรงหน้า​เขา

ชาย​เครา​ครึ้ม​เหยียบ​ข้าม​กิ่งไม้​นั้น​ไป​ ​ก่อน​จะ​ขยี้​มัน​ด้วย​ปลายเท้า​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ​จะ​หยุด​อยู่​เพียง​ที่​ตรงนั้น

เจียง​อี​เอา​มือ​ปิดปาก​ของ​ตนเอง​ไว้​แน่น​ ​นาง​พยายาม​ควบคุม​ตนเอง​ไม่​ให้​กรีดร้อง​ออกมา

บัดนี้​นาง​รู้สึก​หวาดกลัว​จริงๆ​

บุรุษ​ที่​มี​ลักษณะ​เช่นนี้​ ​แม้​จะ​บังเอิญ​เจอ​เพราะ​หลบ​ฝน​ ​แต่​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กระวนกระวายใจ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เมื่อ​ครู่​นาง​ได้ยิน​ประโยค​อัน​น่า​ตกใจ​ด้วย

ทำ​อย่างไร​ดี​ ​หากว่า​คน​เหล่านี้​พบ​เข้ากับ​น้อง​สี่​ ​จะ​ฆ่าปิดปาก​นาง​หรือไม่

ไม่ได้​การละ​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​จะ​ปล่อย​ให้​น้อง​สี่​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ไม่ได้

เสียง​ฝีเท้า​ที่​ใกล้​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ​ดัง​ขึ้น​ก้อง​อยู่​ใน​หู​ของ​เจียง​อี​ ​ท่ามกลาง​ความสิ้นหวัง​ ​นาง​ก็​เกิด​ความกล้าหาญ​ขึ้น​มา

เจียง​อี​ยื่นมือ​ของ​นาง​ออก​ไป​ผลัก​ให้​เจียง​ซื่อ​หนี​ ​แต่กลับ​พบ​ว่า​ข้างหลัง​ว่างเปล่า​ ​ไม่รู้​ว่า​เจียง​ซื่อ​ไป​ยืน​อยู่​ข้างหน้า​นาง​ตั้งแต่​เมื่อไหร่

“​น้อง​สี่​!​”​ ​เสียง​ที่จะ​ตะโกน​ออก​ไป​ถูก​กักเก็บ​ไว้​ใน​ลำคอ​ ​บัดนี้​เจียง​อี​ดุจ​เช่น​ใบไม้​ร่วง​ท่ามกลาง​พายุ​ ​นาง​สิ้นหวัง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก

แต่​หญิงสาว​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​นาง​ดู​ค่อนข้าง​สงบนิ่ง​อย่าง​น่าแปลก​ประหลาดใจ

บัดนี้​เจียง​ซื่อ​เห็น​รองเท้า​สีดำ​คู่​หนึ่ง​ ​ปรากฏ​ขึ้น​จาก​ข้างต้น​ไม้​ ​นาง​ปล่อย​หิ่งห้อย​มายา​ให้​ลอย​ออก​ไป​ทันที

หาก​ใช้​ตาเปล่า​คง​มองไม่เห็น​ว่า​หิ่งห้อย​มายา​ได้​บิน​เข้าไป​ใน​หู​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ ​แล้ว​บิน​ออกมา​จาก​หู​อีก​ข้าง​หนึ่ง

นัยน์ตา​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ต่อหน้า​พี่น้อง​ทั้งสอง​คนดู​ว่างเปล่า

เห็นได้ชัด​ว่า​ชาย​เครา​ครึ้ม​ผู้​นี้​เป็น​ผู้ฝึก​วิทยา​ยุทธ์​ ​บุคคล​ประเภท​นี้​มักจะ​มี​จิตใจ​แน่วแน่​ ​ประกอบกับ​บัดนี้​ไม่มี​การ​เอ่ย​ชวน​ด้วย​วาจา​ที่​เหมาะสม​ ​จึง​เป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​ทำให้​หิ่งห้อย​มายา​สร้างภาพ​ลวงตา​ให้​เขา​เห็น

เจียง​ซื่อ​รู้​ถึง​เรื่อง​นี้​ดี​ ​เดิมที​นาง​ก็​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​ให้​เขา​คน​นี้​มี​อาการ​เกิด​ภาพลวงตา​ขึ้น​ ​เพียงแค่​ต้องการ​ให้​เขา​สติ​หลุดลอย​ไป​ชั่วครู่​เท่านั้น

ขณะเดียวกัน​ที่​ชาย​เครา​ครึ้ม​รู้สึก​มึนงง​ ​เจียง​ซื่อ​ก็ได้​ดีด​หนาม​แหลม​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​นาง​ออก​ไป​ถูก​แขน​ของ​ชาย​ผู้​นั้น

หนวดเครา​ของ​เขา​สั่นสะท้าน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ตน​ขยับ​ไม่ได้​ ​ในขณะที่​เขามอง​เห็น​สถานการณ์​ตรงหน้า​ได้​ชัดเจน​ ​ก็​พบ​ว่า​มี​ผง​สีขาว​ลอย​เข้าไป​ใน​ดวงตา

ความรู้สึก​แสบ​ร้อน​ ​ทำให้​ใบหน้า​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ดู​บิดเบี้ยว​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​อาจ​ส่งเสียง​ออกมา​ได้​ ​อาการ​ชา​ที่มา​จาก​แขน​ครอบคลุม​ไป​ทุก​ส่วน​ของ​ร่างกาย​ ​แม้แต่​จะ​ส่งเสียง​ออกมา​ก็​ยัง​ทำไม​่​ได้

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​ชายหนุ่ม​ชุด​ยาว​อีก​คน​รู้สึก​ประหลาดใจ​ที่​เห็น​เพื่อน​อีก​คน​หนึ่ง​ยืน​นิ่ง​อยู่​ข้างต้น​ไม้​ไม่​ขยับเขยื้อน

ชาย​เครา​ครึ้ม​ถูก​ผง​แป้ง​สีขาว​ไร้​นาม​บดบัง​ดวงตา​ ​และ​รู้สึก​เจ็บปวด​จน​น้ำตา​ของ​เขา​ไหล​ออกมา​เป็น​ทาง

ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​จึง​ได้​เอ่ย​ถาม​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​อีกครั้ง​ว่า​ ​“​พบ​อะไร​งั้น​รึ​ ​ทำไม​จึง​เงียบ​ไป​”

แต่​คำตอบ​ที่​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ได้รับ​นั้น​มี​เพียงแค่​เสียง​ลม​และ​ฝน

“​เจ้า​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​แน่​!​”​ ​ในที่สุด​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เดิน​ตรง​ไปหา​ชาย​เครา​ครึ้ม

บัดนี้​ดวงตา​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​เจ็บปวด​จน​ไม่​อาจ​ลืม​ขึ้น​มา​ได้​ ​แต่​ทักษะ​การ​ได้ยิน​ของ​เขา​กลับ​โดดเด่น​มากกว่า​เดิม​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ของ​สหาย​เดิน​ตรง​เข้ามา​ใกล้​ ​เขา​ก็​เป็นกังวล​มาก​ ​แต่​บัดนี้​อาการ​ชา​แผ่ซ่าน​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​ ​ลำคอ​ของ​เขา​ไม่​อาจ​เปล่งเสียง​ใดๆ​ ​ออกมา​ได้​เลย

จาก​ศาลา​มาถึง​ข้างต้น​ไม้​ ​ระยะห่าง​เพียง​ไม่​กี่​ก้าว​ ​ในที่สุด​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ก็​เดิน​ตรง​เข้ามา​ใกล้​อย่างรวดเร็ว

ไม้​ท่อน​หนึ่ง​ฟาด​ลงมา​ที่​ศีรษะ​ของ​เขา​ตรงหน้า​ผาก​พอดี​!

ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​เป็นลม​ล้ม​ไป​ต่อหน้าต่อตา​และ​ไป​ทับ​ร่าง​ของ​ชาย​มี​เครา​จังหวะ​เหมาะเจาะ​พอดี​ ​ทั้งสอง​คน​จึง​ล้ม​ลง​ไป​กอง​อยู่​ที่​พื้น

เหตุการณ์​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป​ตรงหน้า​ ​ทำให้​เจียง​อี​รู้สึก​ตกตะลึง​ยิ่ง

ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​และ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ล้ม​ลง​ไป​สู่​พื้นเสีย​งดัง​ ​ตุ้บ​!

เจียง​ซื่อ​ไม่​ลังเล​ที่จะ​ทุบ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ลง​ไป​อีกครั้ง​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​โยน​ไม้​อัน​แข็งแกร่ง​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​ตน​ทิ้ง​ไป​ ​ก่อน​จะ​หันมา​คว้า​ข้อมือ​เจียง​อี​วิ่งหนี

บัดนี้​ถูก​รายล้อม​ไป​ด้วย​ม่าน​ฝน​ ​แต่​แม้​ทั้งสอง​จะ​ถูก​ฝน​ล้อม​เอาไว้​ ​ทว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​ไป​มัว​สนใจ​สิ่ง​ต่างๆ​ ​มากมาย​ไม่ได้​ ​นาง​ดึง​เจียง​อี​แล้ว​วิ่ง​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

ฝนตก​ลงมา​หนัก​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ถนน​กลายเป็น​โคลน​และ​ทำให้​ทั้งสอง​คน​ต้อง​เหยียบย่ำ​อยู่​ใน​โคลน​นั้น

“​น้อง​สี่​!​”​ ​เจียง​อี​อ้า​ปาก​ขึ้น​ทำให้​น้ำฝน​ไหล​เข้าไป

เจียง​ซื่อ​จับมือ​ของ​เจียง​อี​เอาไว้​แน่น​ ​ฝีเท้า​ของ​นาง​ไม่​หยุด​ลง​แม้แต่​ก้าว​เดียว

ความแน่วแน่​ของ​เจียง​ซื่อ​ทำให้​เจียง​อี​ทิ้ง​ความสงสัย​และ​ความ​ตื่นตระหนก​ทุกอย่าง​ไว้​เบื้องหลัง​ ​ก่อน​จะ​เร่งฝีเท้า​ไป​ตาม​นาง

เดิมที​นาง​ตั้งใจ​ที่จะ​ปกป้อง​น้องสาว​ ​แต่​บัดนี้​นาง​กลับ​กำลัง​หนี​ตาย​และ​พึ่งพา​น้องสาว​ ​หากว่า​นาง​เป็นตัว​ถ่วง​ให้​กับ​น้องสาว​อีก​ล่ะ​ก็​ ​ไม่รู้​จะ​ลงโทษ​ตนเอง​อย่างไร​ดี

สอง​พี่น้อง​พยุง​กัน​วิ่ง​ไป​ไม่รู้​นาน​เท่าใด​ ​ในที่สุด​พวกเขา​ก็​เห็น​ร่ม​สีเขียว​ดุจดั่ง​ใบบัว​บาน​รอ​อยู่​ท่ามกลาง​สายฝน​บริเวณ​ไกล​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เข้าใกล้​พวก​นาง​ขึ้น​เรื่อยๆ​

“​อาหมาน​!​”​ ​เจียง​ซื่อ​ตะโกน​ขึ้น​อย่างมั่นใจ

นาง​กลัว​เหลือเกิน​ว่า​จะ​คลาด​กัน​กับ​อาหมาน

หากว่า​อาหมาน​ไป​ยัง​ศาลา​นั้นแล​้ว​พบ​เข้ากับ​ชาย​สอง​คน​เข้า​ก็​คงจะ​แย่​แน่

เจียง​ซื่อ​ไม่แน่ใจ​เท่าไร​นัก​ว่า​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​จะ​หมดสติ​ไป​นาน​เท่าไหร่​ ​แต่​ชาย​เครา​ครึ้ม​ที่​ร่างกาย​มี​อาการ​ชา​ ​ไม่เท่าไหร่​ก็​คงจะ​หาย​ไป​ ​ไม้​กระบอง​ที่นาง​ฟาด​ไป​ยัง​ศีรษะ​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​คน​นั้น​คง​ไม่​ถึงแก่ชีวิต​ ​ผู้​ที่​ฝึก​วิทยา​ยุทธ์​มาคาด​ว่า​คง​ไม่นาน​สภาพร่างกาย​ก็​คงจะ​ฟื้น​ขึ้น

หนาม​แหลม​ที่​เจียง​ซื่อ​ดีด​ให้​พุ่ง​ไป​ยัง​ชาย​เครา​ครึ้ม​ลึก​เพียง​ไม่​กี่​นิ้ว​ ​ส่วน​ปลาย​ของ​หนาม​นั้น​มีพิษ​กู่​ที่นาง​เลี้ยง​เอาไว้​ ​พิษ​นี้​เพียงแค่​ทะลุ​เข้าไป​ใน​ผิวหนัง​ของ​มนุษย์​ ​ก็​ทำให้​ร่างกาย​ของ​คนเรา​กลายเป็น​อัมพาต​ได้​ใน​ชั่วคราว​ ​แต่​น่าเสียดาย​เหลือเกิน​ที่​พิษ​อยู่​ได้​ไม่นาน​ ​ทว่า​คงจะ​เพียงพอ​ให้​พ้น​ช่วง​วิกฤต

สำหรับ​แท่ง​ไม้​ที่​ฟาด​ลง​ไป​ยัง​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ ​เจียง​ซื่อ​ดึง​มัน​ออกมา​จาก​เอว​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ ​นับว่า​ใช้​ของ​รอบกาย​ได้​คุ้ม​จริงๆ​

เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​จะ​ให้​เล่า​คง​ใช้เวลา​ยืดยาว​ ​แต่​แท้จริง​แล้ว​เหตุการณ์​เกิดขึ้น​เพียง​เสี้ยว​วินาที​ ​จนถึง​บัดนี้​เจียง​อี​ยังคง​ตกอยู่ในภวังค์​ราวกับ​ความฝัน​ ​เมื่อ​เห็น​อาหมาน​และ​อา​หยา​เดิน​ตรง​เข้ามา​ ​นาง​ก็​พูด​อะไร​ไม่​ออก​สัก​คำ

อาหมาน​เห็น​ว่า​คุณหนู​ทั้งสอง​ร่างกาย​เปียกปอน​ก็​ตกตะลึง​และ​รีบ​เปิด​ร่ม​กาง​ออก​เพื่อ​บัง​ฝน​ให้​แก่​เจียง​ซื่อ​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​อย่าง​รีบร้อน​ว่า​ ​“​คุณหนู​เจ้า​คะ​ ​ไหน​ว่า​จะ​รอ​พวกเรา​และ​หลบ​ฝน​อยู่​ที่​ศาลา​นั่น​”

อา​หยา​เอง​ก็​รีบ​กางร่ม​ให้​เจียง​อี​และ​เข้าไป​พยุง​เจียง​อี​ซึ่ง​บัดนี้​ร่างกาย​อ่อนล้า

เจียง​ซื่อ​สงบนิ่ง​เป็นพิเศษ​ ​นาง​พูด​ออกมา​อย่างเด็ดขาด​ว่า​ ​“​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​รับรอง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

ร่ม​ที่​กาง​ออก​ถูก​ลม​พัด​ไหว​ไปมา​ ​ไม่​อาจ​บดบัง​เม็ดฝน​ที่​พัด​เข้ามา​ได้​ ​เมื่อ​นาย​บ่าว​ทั้ง​สี่​กลับ​เข้ามา​ถึง​ห้อง​รับรอง​ ​อาหมาน​และ​อา​หยา​ที่​ถือ​ร่ม​อยู่​นั้น​ก็​ร่างกาย​เปียกปอน​ไป​กว่า​ครึ่ง​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เจียง​ซื่อ​และ​เจียง​อี

หยดน้ำ​ฝน​ไหล​ลงมา​ตาม​ปลาย​ผม​และ​เสื้อผ้า​ ​เกิด​เป็น​แอ่งน้ำ​นอง​บน​พื้น

อาหมา​นวาง​ร่ม​แล้ว​กระทืบเท้า​ ​“​คุณหนู​เจ้า​คะ​ ​บ่าว​จะเข้า​ไป​เอา​น้ำร้อน​มา​ให้​ล้าง​ตัว​”

เจียง​ซื่อ​เงยหน้า​มอง​ไป​ทาง​ด้านนอก​ ​หยาดฝน​ไหล​เป็น​ม่าน​ ​หล่น​ลงมา​ตาม​ชายคา​ระหว่างทาง​เดิน​ ​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​หยุด​เลย​ ​บางครั้ง​ก็​มองเห็น​เงา​ของ​คนที​่​เดินผ่าน​ประตู​จันทรา​ไปมา

ฝน​ที่​ตกลง​มา​อย่างกะทันหัน​เช่นนี้​ทำให้​ผู้คน​จำนวนมาก​ติด​อยู่​ที่นี่

เจียง​ซื่อ​เหลือบ​ไป​มองดู​เจียง​อี​ที่​ร่างกาย​เปียกโชก​ ​หน้าซีด​เผือด​ ​นาง​จึง​พยักหน้า​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ไป​เถอะ​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​อาหมาน​ไป​ตัก​น้ำร้อน​ ​อา​หยา​เอง​ก็​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ประเดี๋ยว​บ่าว​จะ​ไป​ตัก​น้ำ​กับ​พี่​อาหมาน​”

เจียง​อี​พยักหน้า​ช้าๆ​

แต่​เจียง​ซื่อ​กลับ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​อยู่​ก่อน​!​”