ตอนที่ 309 รู้แล้วว่าคิดถึง
ตอนเช้า หลังจากฝังเข็มให้ตี้อู๋เปียนเสร็จแล้ว มู่เถาเยาก็โทรไปที่หมู่บ้านเถาหยวนคุยกับหมอเทวดาหยวนและคนอื่นๆ
ปาอินกับเฉิงอันนั่วช่วยลู่จือฉินจัดการสมุนไพรที่นำกลับมาเมื่อวาน พอกินอาหารเที่ยงเสร็จก็จะไปทำยาที่หอยา
ตี้อู๋เปียนนั่งอยู่ด้านข้างมองพวกเขาทำงาน รอมู่เถาเยาคุยโทรศัพท์เสร็จก็ถามขึ้น “ซาลาเปาน้อย ช่วงสองวันนี้จะทำยาอายุยืนไหม หญ้าอายุยืนแค่ต้นเดียวทำเป็นยาออกมาได้กี่เม็ดเหรอ”
“สองวันนี้ทำยาให้พวกหมาป่าก่อน ไว้กลับมาค่อยทำยาอย่างอื่น ถ้ารวมกับสมุนไพรอื่นๆ ก็ได้ประมาณสิบห้าเม็ด ถ้าทำให้เจือจางอีกหน่อยยี่สิบเม็ดก็ยังไหว”
“ฉันอยากขอสักสองเม็ด”
“ได้สิ”
มู่เถาเยารู้ว่าเขาจะเอาไปให้ปู่กับย่า
ผู้อาวุโสสองคนของตระกูลตี้ก็ดีต่อเธอมากเช่นกัน ต่อให้ตี้อู๋เปียนไม่ขอ เธอก็จะให้อยู่แล้ว
นอกจากบรรดาผู้อาวุโส อา อาจารย์สาม และอวิ๋นไป๋แล้ว ยังมีเยี่ยนหังที่ยังมาไม่ถึงที่จะได้หนึ่งเม็ดเช่นกัน
ใครจะไปรู้ว่าวันหน้ายังจะโชคดีเจอหญ้าอายุยืนอีกหรือเปล่า
ใจมนุษย์มักลำเอียง มีของดีก็ต้องให้คนที่สำคัญที่สุดก่อน
นี่เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์
“ซาลาเปาน้อย สมุนไพรในป่าพิษหมาป่ามีเยอะหรือเปล่า”
“เยอะมาก ยิ่งเข้าไปลึกยิ่งเยอะ ลักษณะก็ดีด้วย”
พวกโซนรอบนอกไม่มีสัตว์ดุร้ายกับหมาป่า นักเก็บสมุนไพรจึงไปบ่อย แต่ด้านในแทบจะไม่มีร่องรอยของมนุษย์ สมุนไพรย่อมเยอะเป็นธรรมดา
“ป่าพิษหมาป่ากับป่าเซียนโหยวแตกต่างกันเยอะไหม”
“ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ป่าเซียนโหยวเก่าแก่กว่า พืชโบราณ พืชไม่ทราบชนิดมีเยอะมาก ส่วนป่าพิษหมาป่าเมื่อเทียบกัน สัตว์กับพืชค่อนไปทางปกติ แต่หมาป่าในป่าพิษหมาป่าเยอะกว่าหมาป่าในป่าเซียนโหยวรวมกันทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นชาวพื้นเมืองก็ว่าได้”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า
“แต่พวกเราก็ไม่มีทางเดินได้ทั่วป่า ไม่รู้ว่ายังมีความแตกต่างอะไรอีกไหม ไว้วันหน้าว่างๆ ค่อยๆ สำรวจไป”
“วันหน้าฉันไปกับเธอด้วย”
พอถึงหน้าหนาวเขาก็จะเป็นเหมือนคนปกติแล้ว ฝึกยุทธ์สักสองสามปี ปีที่สี่ที่ห้าก็น่าจะเป็นไปได้ที่จะติดตามซาลาเปาน้อยไปหลายๆ ที่
“…ได้”
ต้องให้ความหวังไว้บ้าง
ลู่จือฉิน ปาอิน เฉิงอันนั่วฟังพวกเขาคุยกันระหว่างจัดการสมุนไพร ไม่นานก็ถึงเวลากินข้าว
กินข้าวเที่ยงเสร็จพวกมู่เถาเยาก็ไม่ได้พัก ไปทำยาที่หอยาทันที
สองศิษย์อาจารย์ทำงานเข้าขากันอย่างสมบูรณ์แบบ
แค่ช่วงบ่ายก็ทำยารักษาแม่หมาป่ากับยาบำรุงร่างกายพวกลูกหมาป่าเสร็จ
วันจันทร์ ทำยาที่จะเป็นของขวัญให้ฝูงหมาป่า
นอกจากเวลากินนอนตามปกติ พวกเขาต่างหมกตัวอยู่แต่ในห้องปรุงยา แต่ก็ทำออกมาได้แค่สามร้อยกว่าเม็ด
แถมยังเป็นเพราะมู่เถาเยากับลู่จือฉินแยกกันทำ มีผู้ช่วยหลายคน มิฉะนั้นทำได้ครึ่งเดียวของจำนวนนี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว
การทำยาต้องใช้เวลา
วันอังคาร พวกเขาก็ทำยาตลอดช่วงเช้าจนได้ออกมาครบห้าร้อยเม็ด
สมุนไพรที่เก็บกลับมาก็ถูกใช้จนหมดเกลี้ยง
และก็เพราะศิษย์กับอาจารย์คู่นี้มีฝีมือ ไม่มีทำเสียเลย ถึงได้จำนวนมากขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นคงต้องตัดทิ้งร้อยสองร้อยเม็ดถึงจะเป็นจำนวนปกติ
ทุกคนจึงพอใจมาก
เพียงแต่ด้วยความที่หมาป่ามีจำนวนเยอะมาก จึงต้องเลือกให้ลูกหมาป่า หมาป่าตัวเมีย และครอบครัวราชาหมาป่ากินก่อน
กินข้าวกลางวันเสร็จสองศิษย์อาจารย์ก็เก็บของออกเดินทาง
เนื่องจากไม่ได้เอาเต็นท์กลับมา ครั้งนี้เข่งทั้งสองใบจึงเต็มไปด้วยอาหาร หิ้วน้ำอีกคนละขวด เอาไว้ใช้แปรงฟัน
เย่ว์จือเหิงขับรถไปส่งพวกเธอที่ทางขึ้นเขาด้วยตัวเอง
“บ่ายวันเสาร์พี่จะมารับนะ”
“พี่ใหญ่ให้คนขับรถมาก็ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไร วันเสาร์พี่ไม่ทำงาน”
“งั้นพี่ใหญ่ไม่ต้องรีบมานะคะ มาถึงสักห้าโมงก็ได้”
“อืม รีบขึ้นเขาเถอะ ไว้กลับมาพวกเราย่างแพะกินกัน”
“ค่ะ”
ในเผ่ามีฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้อยใหญ่ตามธรรมชาติจำนวนมาก เนื้อของพวกวัวแพะที่เลี้ยงไว้ดีมาก รสชาติกลมกล่อม ไม่ด้อยไปกว่าของหมู่บ้านเถาหยวนแม้แต่น้อยบราวนี่ออนไลน์
มู่เถาเยาชอบมาก
“รีบขึ้นเขาเถอะ อากวงน่าจะรอนานแล้ว”
“ค่ะ”
สองศิษย์อาจารย์ขึ้นเขาไปได้ครึ่งชั่วโมงถึงจะใช้วิชาตัวเบา
พวกเธอไปถึงถ้ำของราชาหมาป่าตอนที่ดวงอาทิตย์ยังไม่หายพ้นยอดไม้
เย่ว์จือกวงดีใจมาก ช่วยน้องสาวเอาเข่งลงพลางพูด “เสี่ยวเยาเยา แม่หมาป่าเงยหัวได้แล้วนะ”
“ดีค่ะ”
มู่เถาเยากับลู่จือฉินเข้าไปตรวจดูแม่หมาป่า ฟื้นตัวได้ดีตามที่คิดไว้
แต่หมาป่าน้อยสองตัวกลับฟื้นตัวไม่เร็ว ยังคงดูอ่อนแอ
สุขภาพอ่อนแอมาแต่กำเนิดแตกต่างจากบาดแผลภายนอก ต้องใช้เวลานาน
“พี่รองย้ายฟืนเข้าไปในถ้ำหมาป่า ฉันจะอุ้มแม่หมาป่าเข้าไป พักพรุ่งนี้อีกวันมันก็น่าจะลุกขึ้นมาเดินเองได้แล้วค่ะ”
“ได้เลย”
ลู่จือฉิน “เสี่ยวเยาเยา อาจารย์ไปจับปลามาย่างนะ”
เย็นนี้จะก่อไฟเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
พรุ่งนี้พวกเขาออกจากที่นี่ก็จะไม่กลับมาตรงนี้อีก
“หนูไปจับปลา อาจารย์อยู่ที่นี่ค่ะ”
วรยุทธ์เธอสูงกว่าอาจารย์ ทำได้เร็วกว่า
“ไม่เป็นไร ใช้เวลาไม่นานหรอก อาจารย์จะกลับมาก่อนฟ้ามืด”
กำลังภายในเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว วิชาตัวเบาก็ย่อมก้าวหน้าขึ้นด้วย
“งั้นอาจารย์ระวังตัวด้วยนะคะ”
“อืม”
มองส่งอาจารย์เหาะไปทางน้ำตกเสร็จมู่เถาเยาก็ใส่ยาให้แม่หมาป่าก่อน จากนั้นถึงอุ้มเข้าไปในถ้ำ
ครอบครัวราชาหมาป่าขาวล้อมหน้าล้อมหลังมู่เถาเยาด้วยความตื่นเต้น หางก็กระดิกไปมา
หมาป่าขาวตัวน้อยก็เอาแต่กระโจนขึ้นตัวมู่เถาเยา
มู่เถาเยาอดอุ้มมันขึ้นมาไม่ได้ จิ้มหน้าผากมันเบาๆ พลางพูด “เอาล่ะๆ รู้แล้วว่าคิดถึง”
เย่ว์จือกวงยิ้มพูด “เจ้าตัวแสบนี่มาหอนใส่พี่ทุกคืน คงอยากถามว่าเธอไปไหน”
มู่เถาเยาลูบหมาป่าน้อย “พรุ่งนี้พวกเราก็จะไปจากที่นี่แล้ว จะเอาไงกับเราดี”
หมาป่าน้อยเป็นว่าที่ราชาหมาป่า เธอพามันออกจากฝูงเอากลับไปด้วยไม่ได้
พอนึกถึงตรงนี้มู่เถาเยาก็วางหมาป่าขาวตัวน้อยลง ทำท่าทางประกอบคำพูดเพื่อสื่อสารกับราชาหมาป่าขาวและเมียของมัน “เจ้าขาว เจ้าเทา พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะไปจากที่นี่แล้ว ลูกชายสองตัวของพวกนายให้ไปกับพวกเราด้วยได้ไหม ไว้พวกมันแข็งแรงฉันจะส่งกลับมาอยู่พร้อมหน้าเหมือนเดิม…”
บลาๆๆ
ก็ไม่รู้ว่าหมาป่าสองตัวนี้เข้าใจหรือเปล่า แต่อย่างไรเสียพวกมันก็ส่งเสียงหอนอยู่เรื่อยๆ
เย่ว์จือกวงฟังแล้วก็เอาแต่หัวเราะ
ท่าทางของน้องสาวตอนสื่อสารกับพวกหมาป่ามันน่ารักจริงๆ!
“เจ้าขาว นี่เป็นยาบำรุง พรุ่งนี้เช้าเรียกหมาป่ามารวมตัวกันให้หมด ฉันจะให้พวกเด็กๆ กินหนึ่งเม็ด จริงสิ เอาให้ครอบครัวแกกินก่อนตัวละเม็ด”
มู่เถาเยาเอายาให้แม่หมาป่ากับลูกๆ สีเทาสองตัวกินก่อน
ยาบำรุงนี้ไม่เพียงแต่จะไม่มีฤทธิ์หักล้างยาที่พวกมันกินตอนนี้หรือยาที่ใช้รักษา ยังจะเป็นตัวช่วยเสริมอีกด้วย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยา
อดีตราชาหมาป่าขาวกับเมียของมัน ลูกๆ อีกสามตัว พวกหลานๆ ล้วนเป็นหมาป่าสีขาว ต่างแข็งแรงเหมือนราชาหมาป่า แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้ยาบำรุงนี้
ราชาหมาป่ามีความสำคัญต่อฝูงหมาป่ามาก
ราชาหมาป่าขาวกับหมาป่าขาวตัวน้อยกินไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ไม่จำเป็นต้องให้กินซ้ำ
เจ้าตัวแสบไม่ประสีประสา พอเห็นทุกคนกินก็อยากเอาบ้าง จึงนัวเนียมู่เถาเยาไม่หยุด
มู่เถาเยาจนปัญญา จำต้องให้มันกินอีกหนึ่งเม็ด
อย่างไรเสียก็ไม่มีโทษ ย่อยไม่ได้อย่างมากก็แค่สิ้นเปลือง