เฉินฮวนฮวนรู้สึกตกใจเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาอันแสนร้อนแรงของเฟิงหานชวน เธอไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่เฟิงหานชวนพูดเลย
เธอเม้มริมฝีปากแน่นและจ้องไปยังดวงตาอันลึกล้ำของเฟิงหานชวน ราวกับว่าเธอถูกไฟฟ้าช็อต เธอหันตัวกลับไปที่เตียงทันที
จากนั้นก็ขึ้นไปบนเตียงทันทีและห่อตัวเองด้วยผ้าห่มอย่างหนาแน่น ทำให้เห็นแค่เพียงดวงตาของเธอเท่านั้น
เฉินฮวนฮวนที่มีท่าทางที่ดูต่อต้านเขา ทำให้เฟิงหานชวนรู้สึกพ่ายแพ้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะยอมแพ้อยู่ดี
“ดูเหมือนคุณจะลืมอะไรไปนะ”เฟิงหานชวนเอ่ยเบาๆและมองไปที่เฉินฮวนฮวนที่ตอนนี้เห็นแค่เพียงสองตาของเธอเท่านั้น
“ลืมอะไร?”เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนและเครียดมากขึ้นกว่าเดิม เธอกลัวว่าเฟิงหานชวนจะสารภาพผิด
ถ้าเขาอยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองจริงๆ ที่นี่คือบ้านตระกูลเฟิงและคือพื้นที่ของเฟิงหานชวน ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องใดๆได้
“เรื่องถุงมือที่ใช้แล้วทิ้ง”เฟิงหานชวนไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน เรื่องนี้สามารถเข้าใจได้แต่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
เฉินฮวนฮวนเข้าใจในทันที แก้มของเธอที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง
เขา เขา เขา…เขาคงไม่ได้อยากให้เธอทายาให้เขาใช่ไหม?
แม้ว่าเมื่อก่อนเธอเคยคิดที่จะทายาให้เขา แต่พอเมื่อเธอได้เรียนรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่โหดร้าย เธอจึงไม่กล้าที่จะทายาให้เขาจริงๆ
ใครจะไปรู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ?
“ฉัน ฉัน ฉัน…พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้า คุณทาเองได้ไหม?”เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากแน่นและเอ่ยเสียงเบา
สีหน้าของเขามืดมนลงในทันใด เฟิงหานชวนรู้ว่าเฉินฮวนฮวนจะต้องรู้สึกเห็นใจ เฉินฮวนฮวนเห็นท่าทางของเขาในตอนนี้ราวกับพายุที่กำลังพัดโหมกระหน่ำใส่
ตอนนี้เธอรู้ตัวตนที่แท้จริงของเฟิงหานชวนแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าทำให้เขารู้สึกขุ่นเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธออยู่ลึกเข้าไปในถ้ำหมาป่าแล้ว
“ฉัน……ก็ได้”หัวใจดวงน้อยของเฉินฮวนฮวนเต้นอย่างบ้าคลั่ง
เดิมที่เฟิงหานชวนตั้งใจจะลืมเรื่องนี้ และไม่ได้คิดจะบังคับเฉินฮวนฮวนเลย แต่เขาก็ไม่คิดว่าเฉินฮวนฮวนจะตอบตกลง
“ถุงมืออยู่ในลิ้นชักของอ่างล้างมือ ยาก็อยู่ตรงนั้นเหมือนกัน”เฟิงหานชวนวางแผนที่จะปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้จัดการทุกอย่างเอง
เฉินฮวนฮวนเข้าใจทันทีเธอจึงพยักหน้า เธอเลิกผ้าห่มขึ้นและลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
เธอยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าและมองตัวเองในกระจก ผิวของเธอมีสีอมชมพูระเรื่อๆ เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังประหม่าหรือกำลังกลัว หรือว่ากำลังรู้สึกอะไรกันแน่
เธอสะบัดหัวและพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ก้มลงหยิบถุงมือและยาออกมาจากลิ้นชัก
เฉินฮวนฮวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพึมพำกับตัวเอง: “ต้องรีบคิดต้องรีบทำ แค่คิดว่ามันก็เหมือนกับการนวดแป้งก็ได้”
ขณะที่พูดเธอก็สวมถุงมือและหยิบยาเดินออกมาจากห้องน้ำ
เธอคิดในใจอย่างเงียบๆว่านี่เป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะอยู่กับเฟิงหานชวนเพียงลำพัง เธอต้องสงบสติอารมณ์ ห้ามให้เฟิงหานชวนเห็นจุดอ่อนของเธอ และห้ามทำให้เฟิงหานชวนรู้สึกไม่พอใจเด็ดขาด
เธอไม่สามารถจินตนาการถึงผลที่ตามมาได้เลย
เฉินฮวนฮวนพยายามควบคุมมือที่สั่นเทาของเธอ เธอเดินไปหาเฟิงหานชวนซึ่งกำลังเอนหลังพิงอยู่บนเตียง ท่าทางสบายๆของเขามองดูแล้วดูเหมือนจะมีความสุขมาก
เขาถอดชุดนอนออกจนเผยให้เห็นกางเกงบ็อกเซอร์และขาที่แข็งแรงของเขา ดวงตาของเฉินฮวนฮวนพร่ามัว
เธอไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เธอคุกเข่าลงตรงข้างเตียง บีบยาลงบนฝ่ามือของเธอและหลับตาแน่น
เฉินฮวนฮวนหายใจเข้าลึก ๆ และหลังจากที่บีบยาลงบนมือแล้ว เธอก็ยื่นมือไปจับขอบกางเกงบ็อกเซอร์ของเฟิงหานชวน
เพียงเพราะเธอหลับตา เธอเลยจับไม่โดนขอบกางเกง แต่ดันจับไปโดนบางอย่างที่กลมๆแทน
“อื้ม”
เสียงครางอู้อี้ของผู้ชายดังก้องอยู่ในห้องที่เงียบสงบ
เฉินฮวนฮวนตกใจและลืมตาขึ้นทันที เธอพบว่าตัวเอง… เธอรีบชักมือออกทันที ใบหน้าของเธอแดงก่ำยิ่งกว่าลูกพลับสีแดงเสียอีก
“ขอโทษๆ เมื่อกี้ฉันมองไม่เห็น ฉันแค่อยากช่วยดึงกางเกงของคุณ”เฉินฮวนฮวนขอโทษซ้ำๆ มันคงจะดีกว่าถ้าเธอลืมตาดึงขอบกางเกงของเขา
หลังจากจับขอบกางเกงได้แล้ว เฉินฮวนฮวนก็หลับตาลงอีกครั้ง เฟิงหานชวนพยายามความคุมอารมณ์ของตัวเองและเธอคงจะไม่เห็นการแสดงออกของเขาตอนนี้แน่ๆ
เธอหลับตาแน่น เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนมีอารการเช่นนั้น เฟิงหานชวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตลก
อย่างไรก็ตามเขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงพยายามกลั้นยิ้มและรอดูว่าเฉินฮวนฮวนจะทำอย่างไรต่อไป
เฉินฮวนฮวนแน่ใจแล้วว่าเธอได้ดึงกางเกงลงแล้ว อีกมือหนึ่งของเธอมียาที่บีบเตรียมไว้อยู่แล้ว เธอค่อยๆยื่นมือออกไปและสัมผัสมันอย่างรวดเร็วด้วยมือของเธอเพื่อให้แน่ใจว่ายานั้นได้ถูกทาลงไปแล้ว
เพราะเธอหลับตาแน่นทำให้ในใจของเธอรู้สึกมืดมนไปหมด เธอคิดเพียงแค่ว่าต้องรีบทายาที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในนาทีต่อมาอุณหภูมิของฝ่ามือของเธอเปลี่ยนจากอุ่นๆจนกลายเป็นร้อน เมื่อเห็นว่าทายาเกือบจะเสร็จแล้ว เฉินฮวนฮวนก็สะบัดมือออกไปด้วยความตกใจ
“โอเคๆ ทาเสร็จแล้ว!”เธอยังคงหลับตาและไม่กล้าลืมตา เธอพูดตะกุกตะกักว่า: “คุณสวมกางเกงเองนะ”
เฟิงหานชวนไม่พูดราวกับเป็นใบ้ การทายาเมื่อสักครู่นี้เป็นการทรมานเขาอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นว่าเฟิงหานชวนไม่ตอบ เฉินฮวนฮวนก็เตรียมตัวที่จะหันหลังกลับและเดินออกไป แต่เมื่อเธอกำลังจะหันหลังกลับไป ข้อมือของเธอก็ถูกฝ่ามือใหญ่จับไว้เสียก่อน
เฟิงหานชวนถอดถุงมือของเธอออกทันที
เนื่องจากเมื่อสักครู่เธอรู้สึกตื่นเต้นเกินไป จึงทำให้มือทั้งสองข้างในถุงมือเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เมื่อถอดถุงมือออกมาเหงื่อบนฝ่ามือก็ระเหยและเกิดความหนาวเย็นขึ้นที่มือทันที
เธอไม่รู้ว่าเฟิงหานชวนใจดีช่วยเธอถอดถุงมือหรือเปล่า เธอกางมือของเธอออกและเอ่ยเสียงเบาๆว่า: “คุณเอาถุงมือมาใส่ไว้บนมือฉันสิ ฉันจะเอาไปทิ้ง”
เธอยังคงหลับตาแน่น ไม่กล้าลืมตาเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเธอเต้นรัวมากและแก้มของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าว
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่พูดเกินจริงที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมาในชีวิต
เธอทำได้เพียงแค่ปลอบใจตัวเอง มันก็แค่เหมือนกับการนวดแป้งเท่านั้น นวดแป้ง นวดแป้ง…
แม้ว่าเธอจะไม่อยากทำอย่างนั้นจริงๆ แต่เธอก็รู้ว่าเฟิงหานชวนคือปีศาจร้าย ใครจะไปรู้ว่าเขาจะทำอะไรถ้าหากเธอไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา?
ดังนั้นถ้าทำเพื่อความอยู่รอดแล้ว การนวดแป้งเฉยๆก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรสักหน่อย
เมื่อเธอเลิกคิด เธอก็พบว่าเฟิงหานชวนยังไม่ได้วางถุงมือใส่ในมือของเธอ เธอขมวดคิ้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และถามว่า: “เฟิงหานชวน คุณเอาถุงมือมาให้ฉันสิ”
เฟิงหานชวนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหักห้ามใจตัวเอง แต่เสียงที่นุ่มนวลของผู้หญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง และด้ายในใจของเขาดูเหมือนจะขาดออกจากกันทันที
เขาจับมือเธอแล้ววาง…
อุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ฝ่ามือของเฉินฮวนฮวนเหงื่อออกอีกครั้ง และคราวนี้มันถูกสัมผัสโดยที่เธอไม่ได้สวมถุงมืออีกด้วย
“เด็กดี เรียกว่าอาหานสิ”เสียงของชายผู้นี้ดังก้องอยู่ในหูของเธอ