มุมมองบุคคลที่สาม :
2 ปีที่แล้ว
หุบเขาพิษที่ถูกทิ้งร้าง
‘ที่นี่มัน ไม่น่ามายุ่งเลย’
ออสตินซึ่งออกจากบ้านมาแล้วดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและมั่นใจมากขึ้น ความเจ็บปวดของการมีปฏิสัมพันธ์ในอดีตถูกชะล้างออกไป เนื่องจากการเดินทางช่วยให้เขากลายเป็นคนโหดเหี้ยมและโหดร้ายมากขึ้น และทำให้เขาได้รู้ว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมาเป็นขุนนาง โดยเฉพาะในครอบครัวที่รักของไลออนฮาร์ท
“เซเลสทีเนียอยู่ในนั้นงั้นเหรอ?”
ออสตินเหมือนพูดลอยๆ ในอากาศ แต่มีเสียงตอบกลับมาว่า
“เธออยู่ที่นั่นแหละ ตอนนี้เธอได้รับบาดเจ็บและกำลังต่อสู้อยู่ ในไม่ช้าพลังของเธอจะถูกล็อคโดยเทพมังกร”
เสียงอันไพเราะและแต่งแต้มไปด้วยความรักที่มีต่อออสตินดังตอบกลับมา แต่เขาก็กลับถูกดึงกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มด้วยความรักในขณะที่เขาเตรียมการ
“ผมคงทำเรื่องนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ…วีน่า”
ออสตินพูดขึ้นมา
“เพื่อเธอแล้วให้ฉันทำอะไรก็ได้สามี~~”
คำตอบของวีน่าดังก้องเข้ามาในหูออสตินอีกครั้ง ในไม่ช้าเขาก็มุ่งความสนใจไปที่งานตรงหน้า แผนการของเขาสำหรับเซเลสทีเนียกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว การต่อสู้เพื่อเธอคงจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน แต่ต้องขอบคุณที่มีวีน่าอยู่เคียงข้าง
เขาวางแผนสำหรับเซเลสทีเนียเอาไว้แล้ว ด้วยความช่วยเหลือของวีน่าเขาจึงล่อเซเลสทีเนียให้เข้าไปในสถานที่ให้พรสมบัติที่ซ่อนอยู่แห่งหนึ่งของเทพเจ้ามังกร
และเช่นเดียวกับที่เขาหวังไว้ ผู้ศรัทธาเทพเจ้ามังกรได้ติดกับเข้าไปเต็มกำลังโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังกระโดดเข้าไปติดกับดัก แผนทั้งหมดได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องลงมือแล้ว
‘ฉันมาแล้ว…’
ในขณะเดียวกันภายในโลกย่อยที่ถูกสร้างขึ้นอันกว้างใหญ่ เซเลสทีเนียยังคงต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าเธอ ซึ่งเป็นร่างเลียนแบบของเทพมังกรในอดีต มันมีพลังก่อนที่เทพเจ้ามังกรจะก้าวขึ้นสู่ระดับแห่งความเป็นพระเจ้า
เซเลสทีเนียผู้ศรัทธาบุคคลนั้นและปรารถนาที่จะเข้าถึงระดับพลังของเขาได้มาที่นี่เพื่อให้ได้รับการยอมรับ
แต่ความภาคภูมิใจที่ปกคลุมไปด้วยหมอกของเธอได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเธอ ร่างเลียนแบบที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นเกินระดับของเธอไปมาก!
ตู้มมมม!
แรงระเบิดขนาดมหึมาที่เข้าใส่เซเลสทีเนียทำให้เธอกระเด็นออกไป ในวินาทีสุดท้ายนั้นเธอได้สร้างบาเรียเพื่อลดผลกระทบจากแรงระเบิดเอาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้ชุดสีขาวของเธอนั้นเต็มไปด้วยคราบเปื้อน
เซเลสทีเนียในปัจจุบันดูไม่แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีเพียงบางส่วนของร่างกายของเธอเท่านั้นที่ดูพัฒนาน้อยลง ในขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างไร้ขีดจำกัด
แตกต่างจากเวอร์ชันผู้ใหญ่ในอนาคต ในปัจจุบันเธอหยิ่งทะนงมากกว่า สายตาที่มองว่าไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับตัวเองนั้นกระจายไปทั่วดวงตาของเธอ
“ไม่เลว….”
เสียงเหนื่อยล้าออกจากปากของเซเลสทีเนีย แม้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอจะไม่สามารถมองเห็นได้จากผลของผ้าคลุมหน้าที่เธอสวมไว้ ซึ่งเป็นสมบัติที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือทำลายได้เว้นแต่ว่าเธอต้องการทำมัน ผ้าคลุมหน้าจะซ่อนใบหน้าของเธอและแสดงให้คนที่เธอเห็นว่าคู่ควรเท่านั้น
“เจ้าหยิ่งทะนงเกินไป”
เสียงของร่างเลียนแบบดังขึ้นขณะที่มันสั่นศีรษะด้วยความรู้สึกสมเพชในแววตาทำให้ความภาคภูมิใจของเซเลสทีเนียปะทุขึ้น
“เราจะได้เห็นกันว่าใครกันแน่ที่หยิ่งผยองในตอนที่ฉันจัดการแก”
เซเลสติเนียพูดโดยพยายามจะยั่วโมโหไอดอลของตัวเอง แต่เธอคิดผิดในเรื่องนี้ ร่างที่อยู่ตรงหน้าเธอถูกซ่อนอยู่ ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เลย
“ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นความหยิ่งทะนงของข้าเอง”
ร่างเลียนแบบของเทพมังกรพูดพร้อมกับปล่อยแรงกดดันมหาศาลไปทางเซเลสทีเนียจนทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น มานาที่มักจะเคลื่อนไปตามความประสงค์ของเธอไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเธออีกต่อไป เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถูกบดขยี้จนหมดสิ้น เธอไม่รู้สึกถึงพรแห่งมานาอีกต่อไป ความรู้สึกของการถูกเปลื้องผ้าเปลือยอยู่เต็มตัวเธอ
“บางทีนี่อาจจะทำให้ความหยิ่งทะนงของเจ้าลดลงได้เล็กน้อย”
หลังจากที่เทพมังกรพูดจบก็มีสัญลักษณ์แม่กุญแจส่องอยู่บนหน้าผากของเซเลสทีเนีย ก่อนที่มันจะบินเข้าไปในร่างของเธอ และนำของขวัญที่อยู่กับเธอมาตลอดชีวิตไป
“หืม?”
ทันใดนั้นเสียงสับสนของเทพมังกรก็ดังขึ้นมา ราวกับว่ามันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ขณะที่ดวงตาของมันเพ่งไปที่เซเลสทีเนีย
“บางทีนี่อาจช่วยให้เจ้าดีขึ้น”
ทันทีที่พูดจบมันก็โบกมือขว้างเซเลสทีเนียซึ่งความหยิ่งยโสถูกทำลายออกไป ความรู้สึกสูญเสียเข้ามาเติมเต็มเธอ และวินาทีต่อมาเธอก็ลืมตาขึ้นอยู่ในป่า เท้าของเธอแตะพื้นแต่เธอสูญเสียพลังสำคัญที่ติดตัวเธอไป
เธอไม่สามารถรู้สึกถึงมานาได้เลย!
พละกำลังทั้งหมดของเธอหายไป สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงร่างกายมังกรที่แข็งแกร่งของเธอซึ่งไม่รู้สึกแข็งแกร่งเท่าที่ควร
“กร๊ออออ….กร๊อออ..…”
เสียงคำรามดังขึ้นมาก้องหูของเซเลสทีเนียทำให้ดวงตาของเธอแข็งขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเห็นหมาป่าขนสีเทาอย่างน้อย 5 ตัวที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง แต่ละตัวนั้นมีพลังอยู่ที่ระดับต้นกำเนิดขั้น 4
แต่ก่อนแค่การเหลือบมองจากเธอก็เพียงพอที่จะขับไล่พวกมันออกไปได้แล้ว แต่ตอนนี้เธอนั้นไร้พลัง เธอมีความเย่อหยิ่งในตัวเองที่จะไม่ยอมขอความช่วยเหลือ, ใช้อาวุธหรืออุปกรณ์การรักษาใดๆ
ตอนนี้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอถูกเนิร์ฟ(จำกัดพลัง) พรทุกประการที่เกิดมาพร้อมเธอนั้นถูกริบไปจากเธอจนหมด แต่เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำเมื่อหมาป่าตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาหาเธอ
ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองตามปกติทำให้เซเลสทีเนียยกมือขึ้นมากันไว้จนทำให้หมาป่ากัดมัน เนื่องจากการป้องกันของเธอ มันไม่ได้ตัดผ่าน แต่ความเจ็บปวดจากการถูกกัดก็ยังคงส่งมาถึงเธออยู่ดี
เช่นเดียวกับการโจมตีครั้งแรก เมื่อเห็นว่าเพื่อนของพวกมันไม่สามารถกัดเซเลสทีเนียเข้า หมาป่าตัวที่เหลือจึงกระโดดเข้าไปช่วย ตัวหนึ่งกัดขาของเธอ ในขณะที่ตัวอื่นๆ กัดเข้าไปที่ไหล่ของเธอ ความเจ็บปวดจากการถูกกัดทุกแห่งถูกส่งตรงไปยังเซเลสทีเนียในทันที
‘ไอ้พวกสัตว์พันทางพวกนี้กล้าดียังไง!’
การแสดงออกที่ชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ พลังทั้งหมดของเธอถูกล็อคเอาไว้อยู่ และสัตว์ร้ายเหล่านี้พยายามจะกินเธอ
กลิ่นเหม็นของพวกมันลอยเข้ามาเต็มจมูกของเธอ ในขณะที่น้ำหนักของพวกมันกดทับจนทำให้เธอล้มลง
เซเลสทีเนียค่อยๆ พ่ายแพ้อย่างช้าๆ แพ้ให้กับสัตว์ประหลาดที่เคยวิ่งหนีจากออร่าของเธอ!
ฉวั๊ะ!
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของเลือดที่สาดกระจายก็ดังขึ้นมาพร้อมกับหมาป่าตัวหนึ่งที่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นตัวแรกขณะที่มันปล่อยแขนของเซเลสติเนีย
ในไม่ช้าก็มีเสียงดาบโบกสะบัดดังขึ้นก่อนที่พวกหมาป่าจะร้องเสียงดังก้องออกมา พร้อมกับที่แต่ละตัวต่างปล่อยการกัดของตัวเองก่อนจะหายใจเป็นเฮือกสุดท้าย
‘เกิดอะไรขึ้นกัน?’
เซเลสทีเนียที่ถูกสัตว์ร้ายทับอยู่นั้นรู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้ยินเสียงที่หยาบกระด้างซึ่งถูกปลอมมาอย่างชัดเจน
“เธอไม่เป็นอะไรนะ?”
ไม่นานในสายตาของเธอก็เห็นคนสวมเสื้อคลุมปรากฏตัวขึ้น
ร่างในเสื้อคลุมที่มีความสูงน้อยกว่าเธอยื่นมือให้เธอ
เซเลสทีเนียสับสนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะฟื้นคืนสติ
“ฉันไม่เป็นอะไร”
เธอพูดขณะยืนขึ้นโดยไม่ได้จับแขนที่ยื่นมาให้ด้วยความภาคภูมิใจที่เจ็บปวดและไม่เต็มใจที่จะรับความช่วยเหลือจากคนที่เธอรู้ว่าอ่อนแอกว่าตัวเอง
ขณะที่ผู้ถูกปฏิเสธความช่วยเหลือไม่ได้พูดอะไรขณะยักไหล่และชักมือกลับ
“นายชื่ออะไร?”
เซเลสทีเนียถามอย่างชัดเจนโดยพยายามใส่ความข่มขู่ลงในน้ำเสียง
“มันเป็นเรื่องพื้นฐานไม่ใช่หรือที่ควรจะบอกชื่อของตัวเองก่อนที่จะถามชื่อของคนอื่น?”
คนในเสื้อคลุมถามกลับอย่างชัดเจนโดยไม่ถอยทำให้เซเลสทีเนียขมวดคิ้ว เธอรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองนั้นไม่ค่อยดีนัก
“ฉันชื่อเซเลสทีเนีย”
เธอพูดขึ้นมา
“ฉันชื่อโรบิ้น”
ร่างที่สวมเสื้อคลุมตอบกลับ จึงเกิดความเงียบระหว่างนั้น
“นั่นคือชื่อจริงของนายเหรอ?”
เซเลสติเนียถาม ซึ่งร่างที่สวมเสื้อคลุมก็มองมาที่เธอ โดยที่เธอไม่สามารถมองผ่านความมืดที่ล้อมรอบใบหน้าของเขาได้
“มันไม่ได้มีผลอะไรกับเธออยู่แล้วหนิและเห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้วิธีทำดีกับคนที่ช่วยชีวิตตัวเองไว้”
“ฉันไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายซักหน่อย”
เธอตอบอย่างเต็มใจ
“คงงั้น…..”
ร่างที่สวมเสื้อคลุมตอบขณะที่เขาเริ่มเดินจากไป
ฝากเพจเฟสบุ๊กหน่อยครับ : Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต