บทที่ 249 หลี่ฉางหมิงกลับมา

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 249 หลี่ฉางหมิงกลับมา

บทที่ 249 หลี่ฉางหมิงกลับมา

หลังจากห่างบ้านไปหลายเดือน เด็ก ๆ บ้านซูก็กลับมาหงซินอย่างมีความสุข พวกเขาตื่นเต้นมาก แต่พอเห็นว่าที่บ้านเถาฮวาเกิดเสียงโหวกเหวกโวยวายก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณป้า ข้างหน้าเกิดเรื่องอะไรกัน?” เสี่ยวเถียนเห็นหญิงวัยกลางคนที่รู้จักจึงรีบเข้าไปถาม

“เสี่ยวเถียนหรือเนี่ย! กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

พอหญิงคนนั้นเห็นซูเสี่ยวเถียน บรรยากาศพลันเป็นมิตรมากขึ้น

ตอนนี้บ้านหลักตระกูลซูมีความเปล่งปลั่งมาก ที่บ้านมีนักศึกษาหลายคน ทั่วทั้งอำเภอก็มีบ้านนี้บ้านเดียว

นอกจากนี้ เสี่ยวเถียนที่เป็นหน้าตาของบ้านซูก็มีค่าด้วยเช่นกัน

“หนูเพิ่งกลับมาค่ะป้า ยังไม่ทันถึงบ้านก็เห็นตรงนี้มีเรื่องกันอยู่ หนูก็เลยว่าจะมาดูสักหน่อย!” เสี่ยวเถียนกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนเรื่องจึงรีบพูดขึ้น

“มันไม่ได้มีเรื่องหรอก นักบัญชีหลี่อยู่ข้างหน้านู่น โอ๊ะ ไม่สิ หลี่ฉางหมิงกลับมาแล้ว กำลังสร้างเรื่องเลย!”

หญิงวัยกลางคนมองไปที่กลุ่มคนที่ประตูบ้านของเถาฮวา มุมประกระตุกเล็กน้อย

เสี่ยวเถียนผงะ หลี่ฉางหมิงกลับมาแล้ว?

เขากลับมาจากเหมืองตั้งแต่เมื่อไรกัน?

แทนที่กลับมาจะกลับไปอยู่บ้านดี ๆ จะไปสร้างปัญหาที่บ้านป้าเถาฮวาทำไม?

เสี่ยวเถียนไม่มีเวลาให้ได้ตึกตรอก และรีบพุ่งตัวไปที่ประตูบ้านผู้เป็นป้าทันที

ถึงจะรู้ว่าป้าของตนจะไม่ใช่คนที่จะยอมเสียบเปรียบใครง่าย ๆ แต่พี่เสี่ยวเหมยอยู่บ้าน ในสถานการณ์แบบนี้เธอจะต้องเสียใจแน่

บ้านของเถาฮวาห้อมล้อมไปด้วยผู้คนจำนวนไม่น้อย เพราะเป็นช่วงเวลาเข้างาน บริเวณนี้จึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

ท่ามกลางฝูงชน เสี่ยวเถียนได้ยินเสียงตะโกน และเสียงร้องไห้เบา ๆ จากข้างใน

เสี่ยวซื่อกับเสี่ยวอู่เห็นน้องเล็กวิ่งเข้าไปในกลุ่มความคึกคักเหล่านั้นก็รีบไล่ตามไปด้วย

ยังไม่ทันเข้าใกล้ พวกเขาก็ได้ยินเสียงยโสโอหังของหลี่ฉางหมิง

“ซูเถาฮวา เธอมันเป็นพวกหญิงรองเท้าขาด หนีตามผู้ชายแล้วยังโดนทิ้งอีก ตอนนี้ฉันยังต้องการแกอยู่นะ งั้นก็ยิ้มซะสิ! จะมาพูดจาอาฆาตแค้นไปทำไมกัน?”

คำพูดของหลี่ฉางหมิงนั้นรุนแรง เสี่ยวเถียนจินตนาการใบหน้าที่ชั่วร้ายของอีกฝ่ายได้ทันที

“หลี่ฉางหมิง เราหย่ากันแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว และนี่มันคือบ้านของฉัน!”

น้ำเสียงของเถาฮวาสะอึกเล็กน้อย แต่มันหนักแน่นมาก

“ถุย! ผู้หญิงโทรม ๆ แบบแกติดหนึบอยู่กับไอ้คนคอกวัว แล้วยังคิดอยากไปเป็นคนเมืองอีกหรือ? ไม่คิดสักหน่อยหรือว่าตัวเองคู่ควรไหมน่ะ? พวกผู้หญิงที่มาจากเมืองเป็นยังไงแกไม่เคยเห็นหรือ?”

หลี่ฉางหมิงมันไม่สนใจหรอกว่าเถาฮวาจะพูดอะไร ขอให้แค่ตนได้ด่าออกไปเท่านั้นก็พอ

เสี่ยวเถียนได้ฟังเช่นนั้นก็ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

ไอ้หลี่ฉางหมิงคนนี้ ตอนนั้นสร้างเรื่องเอาไว้ แล้วนี่ยังมีหน้ามาด่าคนอื่นเพื่อแสดงอำนาจบาตรใหญ่อะไรอีก?

เสี่ยวเถียนใช้ประโยชน์จากรูปร่างตัวเล็กเบียดเข้าไปในฝูงชน

ผ่านเข้ามาได้ก็เห็นหลี่ฉางหมิงสวมเสื้อผ้ามอมแมมมันเยิ้มที่ไม่รู้ว่าไม่ได้ซักมานานแค่ไหน เขายืนตรงข้ามกับซูเถาฮวา พลางชี้หน้าด่าอีกฝ่าย

“หลี่ฉางหมิง แกมาที่นี่เพื่อดูถูกฉันหรือ? มันมีประโยชน์อะไรกับแกหรือไง?” ซูเถาฮวาเสียใจมาก แต่ก็ยังบังคับให้ตัวเองนิ่งสงบ

เสิ่นจื่อเจินหายไปนานหลายเดือนแล้ว แถมยังไม่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้อีก หัวใจของเธอรู้สึกขมขื่นจริง ๆ

เรื่องซุบซิบนินทาในชุมชน เธอล้วนรับรู้ทั้งหมด แต่แค่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเท่านั้น

“ซูเถาฮวา ฉันจะบอกแกให้นะ วันนี้จะต้องเข้าบ้านแกให้ได้!”

“บ้านหลังนี้กับแกไม่เกี่ยวกันอีกแล้ว!” ซูเถาฮวาขวางประตูไว้ แล้วพูดน้ำเสียงหนักแน่น

ด้านหลังเธอมีซูเสี่ยวเหมยยืนอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจ

“แกเป็นเมียของฉัน และไอ้เด็กที่ยืนอยู่หลังแกก็เป็นลูกของฉัน ไม่ว่าจะไปไหน ฉันก็จะพูดแบบนี้!” หลี่ฉางหมิงพูดด้วยท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม

ซูเสี่ยวเถียนงุนงง ตามสามัญสำนึกแล้ว หลี่ฉางหมิงเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านมา หลังจากหย่าแล้วก็จะไม่มาบ้านพ่อตาให้ขายหน้า

แต่หลี่ฉางหมิงกลับมาทำไมกัน?

เมื่อสังเกตท่าทางที่กำลังยากลำบากของหลี่ฉางหมิง เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าเหมือนจะเดาบางอย่างได้

ถึงเขาจะกลับมาจากเหมืองแล้ว แต่ตัวเองกลับไม่มีที่ไป เพราะฉะนั้นแล้วถึงโผล่มาที่นี่

และที่เอาแต่พูดว่าจะเข้าไปในบ้านให้ได้คงเพราะกลัวว่าจะไม่มีที่ซุกหัวนอน

เสี่ยวเถียนหันไปมองเสี่ยวกัง

เด็กชายมองพ่อแท้ ๆ ด้วยความขุ่นเคือง สองมือกำมัดแน่น เสี่ยวเถียนรีบขยิบตาให้พี่ชายทั้งสองให้เข้าไปปลอบ

จากนั้นเธอก็พุ่งไปข้างหน้า

“หลี่ฉางหมิง คุณละอายใจบ้างไหม!” น้ำเสียงที่ดังฟังชัดของซูเสี่ยวเถียนดังไปถึงหูของทุกคนอย่างชัดเจน

“แกเป็นใคร? กล้ามายุ่งอะไรกับเรื่องของฉัน?”

เพราะผ่านไปหลายปีแล้ว หลี่ฉางหมิงจึงจำเสี่ยวเถียนไม่ได้ในแวบแรก

“คุณไม่ต้องใส่ใจหรอกว่าหนูเป็นใคร แต่ถ้าคุณยังสร้างปัญหาในหงซินของเรา ก็อย่าโทษที่พวกเราหยาบคายกับคุณเลย!”

การพูดของซูเสี่ยวเถียนค่อนข้างมีกลวิธี จุดประสงค์คือเพื่อเตือนให้ทุกคนตรงนี้รู้ว่านี่คือหงซินแล้ว ไม่สามารถให้คนนอกเข้ามาระรานได้

“ป้าเถาฮวาเป็นสมาชิกของชุมชนการผลิตหงซิน ส่วนคุณเป็นคนนอกที่กำลังข่มเหงป้าเถาฮวา คนไม่เห็นหัวคนในหงซินเลยหรือไง?”

ซูเสี่ยวเถียนกลัวว่าจะกระตุ้นความโกรธของทุกคนไม่พอ เลยพูดต่อไปให้หนักขึ้นอีก

แน่นอนหลังจากนั้น พวกผู้ชายในหงซินสีหน้าดูไม่ได้เลย

ใช่แล้ว พวกเขาลืมสิ้นไปหมดว่าสองคนนี้หย่ากันมาตั้งนานแล้ว

ถ้าหลี่ฉางหมิงมาสร้างปัญหาแบบนี้และพวกเขาไม่ช่วย ชุมชนการผลิตหงซินจะโดนทุกคนดูถูกในภายภาคหน้า

พวกหงซินที่เดินอยู่เหมือนโดนกล่าวหา

พวกเขาไม่เคยออกมาช่วยเหลือใครอื่นมาก่อน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องครอบครัวของซูเถาฮวาและหลี่ฉางหมิง

พอโดนเสี่ยวเถียนเตือน ก็นึกถึงความสัมพันธ์ขึ้นมาได้

สิ่งที่หลี่ฉางหมิงทำในตอนนั้นยังเป็นที่จดจำของทุกคน

และพวกเขายังจำได้อีกว่า แม้จะไม่มีข่าวคราวหลังจากอาจารย์เสิ่นจากไปเลย แต่เถาฮวาก็ยังเป็นภรรยาของเสิ่นจื่อเจินอยู่

และหลี่ฉางหมิงก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเถาฮวาแล้ว

“หลี่ฉางหมิง แกถ่อมาถึงหงซินเพื่อตัวทำไร้เหตุผลเองนะ งั้นก็อย่าโทษที่พวกเราไร้มารยาทเลย!”

“ไอ้คนฉลาด รีบไสหัวออกไปเลยนะ กลับชุมชนของแกไปเลย!”

“ตัวเองทำอะไรไว้ในตอนแรกจำไม่ได้หรือไง? จะต้องรอให้เราเตือนความจำก่อน?”

ไม่ทันให้พวกคนเฒ่าคนแกเอ่ย พวกผู้หญิงก็เอ่ยก่อนแล้ว

หลี่ฉางหมิงอวดเบ่งมาได้ตั้งนาน ยิ่งเห็นคนหงซินไม่ได้ให้ท้ายเถาฮวา เขาก็ยิ่งแกร่งกล้ามาขึ้น และคิดว่าถ้าคว้าโอกาสนี้ได้จะยึดบ้านหลังนี้มาเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว

ส่วนเถาฮวา แม่คนใจง่าย มันจะไปนอนกับใครเขาไม่สนใจหรอก รอเขายึดบ้านมาได้ก็จะโยนมันออกไป

แต่ทันทีที่นังเด็กนี่มันปรากฏตัวออกมา ทุกคนก็หันเหความสนใจมาที่เขาทั้งหมด

“ไอ้เด็กนี่ แกกล้าดียังไงมาทำลายความดีของฉัน!” หลี่ฉางหมิงโกรธจัดรีบเข้าไปคว้าตัวเสี่ยวเถียนแล้วต่อยทันที

แต่เสี่ยวเถียนคือใครล่ะ คนที่ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ แม้แต่เฉินจื่ออันยังบอกว่าเสี่ยวเถียนเป็นต้นกล้าชั้นดีและมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้

เสี่ยวเถียนโน้มตัวหลบกรงเล็บสกปรกของหลี่ฉางหมิงได้แล้ว

“ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนมีเกียรติ ต้องผ่านมานานขนาดไหนถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้เนี่ย?” เสี่ยวเถียนเหมือนจะกระตุ้นไม่พอ จึงพูดไปด้วยหลบไปด้วย

หลี่ฉางหมิงเคยเป็นนักบัญชีของหงซิน และเป็นคนที่อยู่ในระดับผู้นำด้วย จึงนับว่าเป็นผู้มีเกียรติ

แต่เนื่องด้วยปัญหาชีวิตเลยต้องไปเหมืองเป็นเวลาสองปี น้ำเสียงที่อาฆาตแค้นในตอนนี้จึงแตกต่างไปจากตอนแรก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกลับมาบ้านที่เคยอยู่ มันไม่มีที่ว่างสำหรับเขาอีกแล้ว พี่ชายกับน้องชายไม่มีที่ให้สำหรับเขาแล้ว

ส่วนพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ก็เอาแต่ขว้างจานชามใส่ นินทาทั้งลับหลังและต่อหน้า

ด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจ หลี่ฉางหมิงจึงตัดสินใจกลับมาที่หงซินเพื่อตามหาเถาฮวา แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายแต่งงานใหม่แล้ว แต่ก็ยังมาหาถึงบ้านเพราะไม่มีที่ไป

“ให้หนูเดานะ คุณไม่มีที่ไปใช่ไหมล่ะ เพราะอย่างนั้นก็เลยกลับมาที่หงซินสินะ?” ซูเสี่ยวเถียนรู้สึกว่ามันยังไม่พอ เลยเปิดโปงความจริงที่หลี่ฉางหมิงพยายามปิดบังไว้

หลี่ฉางหมิงรู้สึกหงุดหงิดมาก และปรี่เข้าไปหาซูเสี่ยวเถียน

“นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ยุ่งเรื่องของฉันอยู่ได้ วันนี้จะตีแกให้ตายเลยคอยดู!” หลี่ฉางหมิงพุ่งเข้าหาเด็กหญิงอย่างเดือดดาล

ซูเสี่ยวเถียนเบี่ยงตัวหลบแล้วใช้เท้ายันเข่าอีกฝ่าย